ปกติไม่ค่อยโพสต์เท่าไหร่ แต่ครั้งนี้มันทนไม่ไหวจริงๆ
ก่อนอื่นต้องขอเกริ่นถึงเรื่องราวว่าทางผมได้ทำประกันชีวิตกับ บ.กรุงไทย AXA โดยทำกับบูทตัวแทนสำนักงานใหญ่ ที่มาเปิดบูทที่เซ็นทรัลเวิร์ล โดยจุดประสงค์หลักเพื่อต้องการนำเบี้ยประกันชีวิตมาลดหย่อนภาษี โดยในการชำระเบี้ยประกันด้วยการหักผ่านบัตรเครดิต ซึ่งในปี 2014 และ 2015 ก็ได้มีการหักบัตรเครดิตได้เป็นปกติ จนมาในปีนี้ คือ 2016 ก็มีปัญหาเกิดขึ้น คือปกติ ค่าเบี้ยประกันจะต้องชำระในเดือน 6 (มิ.ย.) ซึ่งในเดือนดังกล่าว ค่าบัตรเครดิตก็ไม่มีการเรียกเก็บ ทำให้ผมเข้าใจว่าน่าจะมีการตัดยอดในเดือน 7 หรือเปล่า แต่เมื่อสิ้นเดือน 7 ก็ไม่มีการตัดบัตรอีก แถมทางบริษัท ไม่มีการติดต่อใดๆ มาเลย ทางผมเกิดความสงสัย จึงโทรเข้าไปสอบถาม (และก็ที่รู้ๆ กัน บริการตอบรับอัตโนมัติยุ่งยาก และรอสายนานมาก กว่าจะได้คุยกับคนจริงๆ) ครั้งแรกคนรับสายบอกเป็นแค่ Call Center ขอรับเรื่องไว้ แล้วจะให้ตัวแทนติดต่อกลับ เนื่องจากวันที่ผมโทรไปเป็นวันหยุด ผมก็รอในวันจันทร์และอังคาร ก็ไม่มีใครติดต่อกลับ จึงได้โทรเข้าไปอีกครั้ง คราวนี้สายๆ มีคนติดต่อกลับมา ซึ่งเมื่อตรวจสอบ พบว่าบัตรเครดิตผม มีการเปลี่ยนวันหมดอายุ เนื่องจากทางธนาคารออกบัตรใหม่ให้ (หมายเลขเดิม แต่วันหมดอายุใหม่) ทาง AXA จึงตัดยอดไม่ได้ (คือตัดไม่ได้ทำไมไม่พยายามติดต่อผม ปล่อยมันไว้แบบนั้นเหรอ) ไม่เป็นไร ผมถือว่าเป็นความผิดพลาดทางผมด้วยที่มีการเปลี่ยนบัตรแต่ไม่คิดว่าต้องแจ้ง AXA (แต่แปลกที่ SCB ผมก็ทำประกันและตัดบัตรเหมือนกัน ทำไม SCB เขาตัดได้หว่า???) ตรงนี้ผมก็เลยถามย้ำไปว่า ในการจ่ายเบี้ยครั้งนี้ จะมีผลอะไรหรือค่าปรับในการจ่ายล่าช้าหรือไม่ เพราะกำหนดมันตั้งแต่เดือน 6 ทาง ตัวแทนบอกไม่มี (ตอนนั้นก็สบายใจละ) แต่....
วันนี้หลังจากไปเที่ยววันหยุดยาวกลับมาถึงบ้าน มีใบเสร็จจาก กรุงไทย AXA มา ตอนแรกก็ดีใจคิดว่าเรื่องเรียบร้อย แต่พอเปิดดู กลายเป็นว่า เป็นใบเสร็จชำระเบี้ย จำนวนเงิน 33,928.64 บาท เอ..... งง .... เพราะเบี้ยประกันผมปีละ 50,000 บาท พอมาดูช่องชำระประกันโดย อื่นๆ เงินกู้อัตโนมัติเพื่อชำระเบี้ยประกัน คืออะไร ใครไปกู้เงินคุณตอนไหน????? พอถึงตอนนี้ รีบเข้าเว็บบัตรเครดิต เช็คเงิน ปรากฏว่ามียอดตัดบัตรเครดิตอีก 50,247.50 เอ้ยยย นอกจากจะตัดยอด 2 ยอด ยังมีค่าธรรมเนียมแถมมาอีก 247 บาท (ไอ้นี่เสียความรู้สึก ตอนแรกบอกไม่มี) คือเสียทั้งเงิน เสียทั้งความรู้สึก โดยคนที่ตามเรื่องตั้งแต่แรก คือตัวผมเองเพราะไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้ ใครเคยเจอเคสแบบนี้บ้าง มีแนวทางทำอย่างไรได้บ้างครับ แนะนำหน่อย
กรุงไทย AXA ออกใบเสร็จค่าเบี้ยประกันด้วยเงินกู้ โดยไม่มีการแจ้งใดๆ ทั้งสิ้น
ก่อนอื่นต้องขอเกริ่นถึงเรื่องราวว่าทางผมได้ทำประกันชีวิตกับ บ.กรุงไทย AXA โดยทำกับบูทตัวแทนสำนักงานใหญ่ ที่มาเปิดบูทที่เซ็นทรัลเวิร์ล โดยจุดประสงค์หลักเพื่อต้องการนำเบี้ยประกันชีวิตมาลดหย่อนภาษี โดยในการชำระเบี้ยประกันด้วยการหักผ่านบัตรเครดิต ซึ่งในปี 2014 และ 2015 ก็ได้มีการหักบัตรเครดิตได้เป็นปกติ จนมาในปีนี้ คือ 2016 ก็มีปัญหาเกิดขึ้น คือปกติ ค่าเบี้ยประกันจะต้องชำระในเดือน 6 (มิ.ย.) ซึ่งในเดือนดังกล่าว ค่าบัตรเครดิตก็ไม่มีการเรียกเก็บ ทำให้ผมเข้าใจว่าน่าจะมีการตัดยอดในเดือน 7 หรือเปล่า แต่เมื่อสิ้นเดือน 7 ก็ไม่มีการตัดบัตรอีก แถมทางบริษัท ไม่มีการติดต่อใดๆ มาเลย ทางผมเกิดความสงสัย จึงโทรเข้าไปสอบถาม (และก็ที่รู้ๆ กัน บริการตอบรับอัตโนมัติยุ่งยาก และรอสายนานมาก กว่าจะได้คุยกับคนจริงๆ) ครั้งแรกคนรับสายบอกเป็นแค่ Call Center ขอรับเรื่องไว้ แล้วจะให้ตัวแทนติดต่อกลับ เนื่องจากวันที่ผมโทรไปเป็นวันหยุด ผมก็รอในวันจันทร์และอังคาร ก็ไม่มีใครติดต่อกลับ จึงได้โทรเข้าไปอีกครั้ง คราวนี้สายๆ มีคนติดต่อกลับมา ซึ่งเมื่อตรวจสอบ พบว่าบัตรเครดิตผม มีการเปลี่ยนวันหมดอายุ เนื่องจากทางธนาคารออกบัตรใหม่ให้ (หมายเลขเดิม แต่วันหมดอายุใหม่) ทาง AXA จึงตัดยอดไม่ได้ (คือตัดไม่ได้ทำไมไม่พยายามติดต่อผม ปล่อยมันไว้แบบนั้นเหรอ) ไม่เป็นไร ผมถือว่าเป็นความผิดพลาดทางผมด้วยที่มีการเปลี่ยนบัตรแต่ไม่คิดว่าต้องแจ้ง AXA (แต่แปลกที่ SCB ผมก็ทำประกันและตัดบัตรเหมือนกัน ทำไม SCB เขาตัดได้หว่า???) ตรงนี้ผมก็เลยถามย้ำไปว่า ในการจ่ายเบี้ยครั้งนี้ จะมีผลอะไรหรือค่าปรับในการจ่ายล่าช้าหรือไม่ เพราะกำหนดมันตั้งแต่เดือน 6 ทาง ตัวแทนบอกไม่มี (ตอนนั้นก็สบายใจละ) แต่....
วันนี้หลังจากไปเที่ยววันหยุดยาวกลับมาถึงบ้าน มีใบเสร็จจาก กรุงไทย AXA มา ตอนแรกก็ดีใจคิดว่าเรื่องเรียบร้อย แต่พอเปิดดู กลายเป็นว่า เป็นใบเสร็จชำระเบี้ย จำนวนเงิน 33,928.64 บาท เอ..... งง .... เพราะเบี้ยประกันผมปีละ 50,000 บาท พอมาดูช่องชำระประกันโดย อื่นๆ เงินกู้อัตโนมัติเพื่อชำระเบี้ยประกัน คืออะไร ใครไปกู้เงินคุณตอนไหน????? พอถึงตอนนี้ รีบเข้าเว็บบัตรเครดิต เช็คเงิน ปรากฏว่ามียอดตัดบัตรเครดิตอีก 50,247.50 เอ้ยยย นอกจากจะตัดยอด 2 ยอด ยังมีค่าธรรมเนียมแถมมาอีก 247 บาท (ไอ้นี่เสียความรู้สึก ตอนแรกบอกไม่มี) คือเสียทั้งเงิน เสียทั้งความรู้สึก โดยคนที่ตามเรื่องตั้งแต่แรก คือตัวผมเองเพราะไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้ ใครเคยเจอเคสแบบนี้บ้าง มีแนวทางทำอย่างไรได้บ้างครับ แนะนำหน่อย