สักการะพระมหาเจดีย์ที่เมืองเกินร้อย

กระทู้สนทนา
ทุกๆ ครั้งที่ผมออกไปเที่ยว สิ่งหนึ่งที่ผมจะไม่ลืมใส่เข้าไปในโปรแกรมท่องเที่ยวของผมเลยก็คือ การไปไหว้พระทำบุญครับ เพราะผมคิดว่า การได้ไปเที่ยวในสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ นั้น นอกจากจะทำให้สุขกายแล้ว การได้ไปไหว้พระทำบุญด้วยก็จะทำให้สุขใจเพิ่มขึ้นอีกด้วยครับ

การเดินทางท่องเที่ยวของผมในครั้งนี้เกิดขึ้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด บ้านเกิดของผมเองครับ ร้อยเอ็ดเป็นจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามและมีชื่อเสียงอยู่หลายที่ ซึ่งผมเองก็เคยไปเที่ยวมาหลายที่แล้วเช่นกัน แต่บางสถานที่ผมก็ยังไม่เคยไปครับ ครั้งนี้ถือเป็นความโชคดีของผมที่มีโอกาสได้มาเยือนสถานที่แห่งนี้... เจดีย์หินทราย วัดป่ากุง อำเภอศรีสมเด็จ และพระมหาเจดีย์ชัยมงคล วัดผาน้ำทิพย์ อำเภอหนองพอก จังหวัดร้อยเอ็ดครับ ตามมาเที่ยวด้วยกันเลยครับ ยิ้ม



สถานที่แรกที่ผมมาเยือนในครั้งนี้ คือ วัดประชาคมวนาราม หรือ วัดป่ากุง อำเภอศรีสมเด็จ จังหวัดร้อยเอ็ดครับ ที่วัดแห่งนี้นอกจากจะเคยเป็นสถานที่จำพรรษาของหลวงปู่ศรี  มหาวีโร พระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งภาคอีสานแล้ว ภายในวัดยังมีสถานที่ที่น่าสนใจคือ เจดีย์หินทรายขนาดใหญ่ที่ทำมาจากหินทรายธรรมชาติแห่งแรกในประเทศไทย ซึ่งก่อสร้างโดยจำลองแบบมาจากบุโรพุทโธในประเทศอินโดนีเซีย และเจดีย์อนุสรณ์หลวงปู่ศรี  มหาวีโร ที่สร้างขึ้นภายหลังจากการมรณภาพของท่าน เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2554 เพื่อเป็นที่ตั้งสรีระสังขารของหลวงปู่ครับ

สำหรับการเดินทางมาที่นี่ก็ไม่ยากครับ ขับรถออกมาจากตัวเมืองร้อยเอ็ด มุ่งหน้ามาตามเส้นทางอำเภอวาปีปทุม จะเห็นป้ายบอกทางไปยังอำเภอศรีสมเด็จ ขับรถเข้าไปประมาณ 9 กิโลเมตร ก็จะถึงวัดครับ


บริเวณด้านหน้าวัดจะมีลาดจอดรถกว้างขวาง ถ้ามาช่วงงานเทศกาลต้องจอดรถไว้ข้างนอก แต่ถ้าใครมาช่วงอื่นก็สามารถขับรถเข้าไปด้านในได้ครับ เมื่อมาถึงด้านหน้าวัด จะมีประตูทางเข้าอยู่ 2 ด้านนะครับ ถ้าจะไปชมเจดีย์หินทรายก่อนก็ให้เข้าประตูทางซ้ายมือครับ


ภายในวัดมีบรรยากาศที่เงียบสงบและร่มรื่น เหมาะแก่การเดินชมธรรมชาติครับ


เพลิดเพลินกับความร่มรื่นของธรรมชาติมาได้ไม่นาน เราก็มาถึงเจดีย์หินทรายแล้วครับ



เจดีย์หินทราย มีทั้งหมด 7 ชั้นครับ ชั้นแรกจะแสดงภาพสลักหินทรายนูนต่ำเป็นเรื่องราวเวสสันดรชาดก ซึ่งเป็นพระชาติสุดท้ายที่พระโพธิสัตว์ทรงบำเพ็ญทานบารมีก่อนจะทรงอุบัติเป็นสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า



ชั้นที่ 2 และชั้นที่ 3 ด้านนอกจะมีภาพสลักหินทรายนูนต่ำเป็นเรื่องราวพุทธประวัติ ชั้นที่ 4 แสดงภาพสลักหินทรายนูนต่ำรูปชัยมงคลคาถา ชั้นที่ 5 เป็นผนังทรงกลมฐานรององค์เจดีย์ แสดงภาพสังเวชนียสถาน 4 ตำบล แต่ละชั้นจะมีพระพุทธรูปและเจดีย์หินตั้งเรียงรายล้อมรอบทั้งเจดีย์ ซึ่งบางส่วนนำมาจากประเทศอินโดนีเซียครับ





บริเวณชั้นที่ 2 จะมีทางลงไปในเจดีย์ ซึ่งภายในจะมีอยู่ 2 ชั้น ชั้นแรกจัดแสดงภาพสลักนูนต่ำ




ส่วนชั้นที่ 2 ด้านในเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ พระอรหันตธาตุ รูปเหมือนหลวงปู่ และจิตรกรรมฝาผนังครับ




บรรยากาศด้านนอกของแต่ละชั้นครับ





ชั้นที่ 6 เป็นองค์เจดีย์ราย 8 องค์ และองค์เจดีย์ประธาน 1 องค์ ส่วนชั้นที่ 7 เป็นยอดเจดีย์ที่ทำด้วยทองคำ น้ำหนัก 101 บาท ครับ




จากนั้นผมก็เดินทางต่อไปยังเจดีย์อนุสรณ์หลวงปู่ศรี  มหาวีโร ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากเจดีย์หินทรายนัก แต่ในขณะนั้นมีการก่อสร้างอยู่ ผมเลยไม่ได้เข้าไปข้างในครับ



ถ่ายรูปได้สักพัก ผมก็เดินทางออกจากวัดป่ากุงมุ่งหน้าสู่ตัวเมืองร้อยเอ็ด แวะหาอะไรรองท้องที่ร้านสะดวกซื้อ จากนั้นผมก็มีความรู้สึกว่าอยากจะไปไหว้พระที่พระมหาเจดีย์ชัยมงคล ซึ่งตั้งอยู่ในเขตอำเภอหนองพอก ระยะทางห่างจากวัดป่ากุงประมาณ 130 กิโลเมตร ผมมองดูนาฬิกาซึ่งขณะนั้นเป็นเวลา 13.30 น. ใจหนึ่งก็อยากไป อีกใจหนึ่งก็กลัวว่าจะค่ำก่อน แต่เมื่อความอยากมันมีมากกว่าและใจมันก็ไปถึงแล้ว ร่างกายก็ต้องตามไปสิครับ

ผมออกเดินทางต่อ ไปตามเส้นทางสาย ร้อยเอ็ด - โพนทอง - หนองพอก ครับ ซึ่งในระหว่างที่ขับรถอยู่นั้น ผมนึกขึ้นได้ว่า ใกล้ๆ กับพระมหาเจดีย์ชัยมงคล มีสถานที่อีกแห่งหนึ่งที่น่าสนใจ นั่นก็คือ ผาหมอกมิวาย ซึ่งมีจุดชมวิวที่สวยงาม และอยู่ไม่ไกลจากพระมหาเจดีย์ชัยมงคล ผมจึงเลือกที่จะไปชมวิวสวยๆ ที่ผาหมอกมิวายก่อน จากนั้นค่อยกลับมาที่พระมหาเจดีย์ชัยมงคลครับ


ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง ผมก็มาถึงผาหมอกมิวาย ซึ่งพื้นที่ตรงนี้อยู่ในการดูแลของเขตห้ามล่าสัตว์ป่าผาน้ำทิพย์ครับ การเดินทางเข้ามาที่นี่จะมีค่าบริการด้วยนะครับ ชาวไทย 20 บาท ชาวต่างชาติ 200 บาท และมีค่าพาหนะด้วยครับ


นอกจากทิวทัศน์ที่สวยงามของหุบเขาและอ่างเก็บน้ำแล้ว ที่นี่ยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ลานกางเต็นท์และร้านค้าสวัสดิการไว้บริการนักท่องเที่ยวด้วยครับ แต่เนื่องจากเวลาของผมมีจำกัดจึงทำได้แค่ชมความงดงามของธรรมชาติและถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกเท่านั้นครับ




จากนั้นผมขับรถกลับตามเส้นทางเดิม ประมาณ 10 กิโลเมตร ก็มาถึงพระมหาเจดีย์ชัยมงคล ซึ่งเป็นเจดีย์ขนาดใหญ่ที่ใช้ศิลปะร่วมสมัยระหว่างภาคกลางกับภาคตะวันออกเฉียงเหนือครับ ที่นี่ดำเนินการสร้างโดยหลวงปู่ศรี  มหาวีโร แห่งวัดป่ากุง ซึ่งก่อสร้างขึ้นพร้อมๆ กันกับเจดีย์หินทรายครับ

พระมหาเจดีย์ชัยมงคล ออกแบบโดยกรมศิลปกร เป็นเจดีย์สีขาวตกแต่งด้วยลวดลายสีทอง รายรอบด้วยเจดีย์องค์เล็กทั้ง 8 ทิศ บนเนื้อที่ 101 ไร่ เป็นเจดีย์ที่มีความยิ่งใหญ่และงดงามตระการตามากเลยครับ




พระมหาเจดีย์ชัยมงคล จะมีทั้งหมด 5 ชั้นครับ ชั้นแรกจะเป็นห้องโถงขนาดใหญ่ สำหรับใช้เป็นที่ประชุมหรือบำเพ็ญบุญ ภายในชั้นนี้จะมีรูปเหมือนของหลวงปู่ศรี ให้ผู้มาเยือนได้กราบไหว้บูชาด้วยครับ


ชั้นที่ 2 เป็นห้องโถงขนาดใหญ่ ที่ผนังจะมีรูปภาพพุทธประวัติและลวดลายไทยวิจิตร ชั้นที่ 3 เป็นที่ประดิษฐานรูปเหมือนพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง 101 องค์ ชั้นที่ 4 เป็นพิพิธภัณฑ์แสดงวัดวาอาราม สถานปฏิบัติสมถะวิปัสสนากรรมฐานที่หลวงปู่ศรีเคยบำเพ็ญธรรมมา และชั้นที่ 5 เป็นบันไดเวียน 119 ชั้น ด้านบนสุดเป็นห้องโถงรูประฆัง 8 เหลี่ยมบรรจุพระบรมสารีริกธาตุครับ

แต่เนื่องจากเวลาที่มีจำกัดและใกล้ค่ำแล้ว ผมจึงไม่สามารถขึ้นไปยังชั้นอื่นๆ ได้ครับ หากมีโอกาสได้กลับมาที่นี่อีก ผมจะถ่ายภาพมาให้ชมนะครับ ปิดท้ายการเดินทางครั้งนี้ด้วยภาพบรรยากาศโดยรอบของพระมหาเจดีย์ชัยมงคลครับ





ขอบคุณที่ติดตามนะครับ สวัสดีครับ ยิ้ม
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่