รักมากเกินไป จึงต้องยอมปล่อยเขาไปใช่ไหม

สวัสดีครับ จริงๆผมก็เเค่อยากระบายความรู้สึกความรักที่มันทำร้ายเรา ไม่รู้เพื่อนๆจะให้คำเเนะนำอะไรหรืออยากด่าอะไร ได้เต็มที่เลยนะครับ

คู่ของเราเป็น ชายกับชาย

เรื่องราวของผม มันเริ่มเกิดขึ้นเมื่อสองเดือนที่เเล้ว ผมได้รู้จักคนคนนึงผ่านแอฟๆหนึ่ง "ขอเรียกเขาว่า พี่Dนะครับ" เเล้วเราก็เริ่มคุยกัน ความรู้สึกเเรกของผมเอง ตอนเเรกก็รู้สึกเเค่มีคนคนนึง เข้ามาคุยกับเรา เเต่ตอนนั้นเรายังไม่ได้คิดอะไรกับพี่D พี่Dเป็นฝ่ายที่ทักเรามาก่อน พี่Dเริ่มคุยเข้าหาเราก่อน เราคุยด้วยกันทุกๆคืน เขาเป็นคนเอาใจใส่เรามากๆ เหมือนเราเป็นคนสำคัญของเขาคนนึง จนเราเริ่มรู้สึกดีกับพี่D ขึ้น เรื่อยๆ จนวันที่เรานัดเจอกัน เรานัดกันไปดูหนัง ตอนนั้นยอมรับเลยว่า การนัดเจอใครมันเป็นอะไรที่ตื่นเต้นมาก อาจจะเป็นเพราะว่าเราไม่เคยนัดใครจากแอฟพวกนี้เลย พี่D เป็นคนเเรก เราสองคนได้ดูหนังด้วยกัน ผมจำได้ว่าครั้งเเรกที่เจอกันยอมรับนะว่า พี่D ไม่ใช่สเปกเราเลย ยังแอบคิดในใจว่าเราจะชอบเขาได้จริงๆหรือ เราจะทำยังไงต่อไปดี จะหยุดคุย หรือจะคุยต่อไปดี สุดท้ายเราก็เลือกที่จะคุยกับเขาต่อไป  ลืมบอกไป เเต่ก่อนหน้าที่พี่เขาจะมาคุยกับเราพี่เขาพึงจะเลิกกับแฟนเก่ามา 2-3 เดือน

ผมเป็นคน ตจว พี่D เป็นคนกรุงเทพ จริงพี่เขาเป็นคนใต้ เเต่ย้ายมาอยู่กับน้าที่ กรุงเทพตั้งเเต่เด็กๆ ระยะทางของเราเลยทำให้เราเจอกันได้เเค่ อาทิตย์ละหนึ่งครั้ง เพราะทุกวันศุกร์เราจะขึ้นไปเอาของที่ จตุจักร พี่D ก็จะมาหาเราที่ จตุจักร ทุกๆวันศุกร์ วันเจอกันเเค่2-3 ชม เเล้วพี่เขาก็ต้องกลับบ้าน เรานัดเจอกันทุกวันศุกร์แบบนี้ คุยกันทุกๆคืน จนครบ 1 เดือนเเรก เดือนแรกนี้เราทั้งสองคนมีความสุขมากไม่เคยมีปัญหาทะเลาะกันเลย ผมยอมรับว่าผมเริ่มจะชอบพี่เขาขึ้นเรื่อยๆเเล้ว

จนวันมีวันนึงพี่D เขาขอผมเป็นแฟน ยอมรับนะตอนนั้นเราก็สับสนว่าเราจะตอบยังไง ในใจก็อยากตอบตกลงว่าเป็นแฟน เเต่ที่พี่เขาขอเป็นแฟนเพราะ เขาอยากให้เราหมั่นใจว่าเขามีเราคนเดียว วันนั้นเราก็ยังไม่ได้ตอบเต็มๆปากว่าตกลงจะเป็นเเฟน พี่Dเขาบอกว่ารอวันที่เรามั่นใจเเล้วค่อยบอกก็ได้

หลังจากนั้นเราก็คุยกัน ปัญหาที่เราชอบงอน ชอบชวนทะเลาะก็เริ่มเกิดขึ้น เริ่มมากขึ้น อาจจะเป็นเพราะคำว่าแฟนเริ่มเข้ามามีบทบาท เริ่มทำให้เรารู้สึกหึงหวงพี่เขามากขึ้น จากที่พี่เขาชอบเรามากๆ กลับทำให้พี่เขาชอบเราน้อยลง เพราะ ไอเราดันขี้งอน ชวนทะเลาะ เเต่กับกันเราดันไปชอบพี่D เขามากขึ้นเรื่อยๆ มีวันนึงพี่เขาชวนเราไปเที่ยว เพราะเขาจะหยุดงาน วันที่ 12-14 สิงหา เขาเลยบอกว่าจะไปเที่ยว จริงๆพี่เขาอยากไปทะเล เเต่ไม่อยากไป เราอยากไปที่อื่นมากกว่า เราเลยตกลงกันว่าเราจะไปสวนผึ้ง เเล้วผมก็จองที่พักเรียบร้อย ทั้งหมดสองคืนสามวัน

เเต่ปัญหาที่เกิดขึ้นก่อนจะถึงวันที่เราไปเที่ยวกัน พี่เขาเริ่มหมดใจกับเราเเล้ว เพราะเราชวนเขาทำเลาะ งอน มาจนทำให้พี่เขาหมดใจกับเราไปก่อนที่จะถึงวันที่เราจะไปเที่ยวกัน วันศุกร์ที่ 5 สิงหา เราก็มาเจอกันที่ จตุจักร กันปกติวันนั้นพี่เขาได้มาคุยกับเราเขาบอกเราว่าเขาไม่อยากทำร้ายเราไปมากกว่านี้ เขาบอกว่าเขาหมดใจกับเราเเล้ว เป็นเพื่อนกันเถอะ วันนั้นผมรู้สึกงงว่าทำไมมันชั่งเร็วเหลือเกิน เราทำผิดอะไรร้ายเเรงขนาดนั้นเลยหรอ พี่D เขาก็บอกว่าแล้วแบบนี้ยังอยากไปสวนผึ้งกับพี่อยู่ไหม ผมก็บอกว่าอยากสิ ทำไมไม่อยากไป ผมไม่รู้ว่าผมตัดสินใจถูกไหม เเต่ผมรู้สึกว่า เรายังสามารถทำให้พี่เขากับมารักเราได้สิ วันนั้นผมยอมรับนะว่าเสียใจมาก เหมือนเราพ่ายเรือมากลางทะเลด้วยกัน อยู่ๆพีเขาก็ปล่อยให้เราอยู่บนเรือกลางทะเลคนเดียว มันไม่รู้จะเริ่มทำสิ่งไหนก่อนดี มันมึนมันงงไปหมด ยอมรับเลยนะว่าความรู้สึกแบบนี้ถ้าเราไม่รู้สึกเองก็คงจะไม่มีใครเข้าใจ ตั้งเเต่วันนั้นที่พี่เขาบอกเรา ทุกๆวันก่อนจะถึงวันที่เราไปสวนผึ้งด้วยกัน ผมก็คิดว่าจะหาวิธีไหนที่จะง้อพี่เขาดี ผมเลยเริ่มเขียนโพสอิจ ทำสมุดความทรงจำระหว่างที่เราคบกัน สั่งลูกโป่งมา เพราะคิดว่าจะเป่าเเล้วมาวางในห้องพัก เยอะๆ มีลูกโป่งตัวอักษร ชื่อย่อของเราสองคน ทุกอย่างเตรียมพร้อมหมดจนถึงวันที่ 12 สิงหา พี่เขาก็มารับเราที่บ้านสิ่งเเรกที่ผมทำคือ เข้าไปกอดพี่เขาด้วยความคิดถึง เเละอยากกอดแบบนั้นนานๆ เเต่พี่เขาก็ร้องไห้ ไม่รู้ว่าทำไม เเต่พี่เขาคงเสียใจที่เรายังรักเขาอยู่เหมือนเดิม เเล้วเราไปก็ไปสวนผึ้งกัน เราเเวะไหว้พระ ทำบุญระหว่างทาง ก่อนที่จะถึงสวนผึ้ง ยอมรับเลยว่า มันมีความสุขมากๆ มากจนอยากจะหยุดเวลาแบบนั้นเอาไว้ ไม่อยากให้เวลามันหมุนเรวไปกว่านี้อีกเเล้ว เราไปทำบุญที่วัด 2-3ที่ เเล้วเราก็ขับรถไปที่พักกัน จำได้ว่าเราถึงที่พักกันตั้งเเต่บ่าย 2 ยังไม่มีรถคนอื่นมาถึงกันสะเท่าไหร่ เราจองที่พักไว้สองคืน จากนั้นก็เอาของเข้าไปเก็บในที่พัก พี่D ก็บอกว่าของนอนพักแปปนึงนะค่อยออกไปเที่ยวไปหาไรกินกัน เรานอนพักกันประมาณ2-3 ชม. พี่เขาก็บอกจะพาเราไปกินข้าว จำได้ว่าวันนั้นทั้งวันเราทั้งคู่กินข้าวเช้ามื้อเดียวเเล้วยังไม่ได้กินไรอีกเลยนอกจากขนมๆนิดๆหน่อยๆ จน4-5โมงเยน พี่เขาเลยพาไปกินข้าว มื้อเที่ยงเเละมื้อเย็นรวมกันเลยทีเดียว เราไปกินข้าวร้านครัวม่อนไข่กัน วันนั้นเป็นวันแม่ ที่ร้านครัวม่อนไข่ประดับด้วยลูกโป่งสีฟ้า ทุกคนในร้านไม่ว่าจะเป็นพนักงานหรือ ลูกค้าทุกคนใส่เสื้อสีฟ้ากันหมด รวมทั้งเราสองคนด้วย เราสั่งปลากระพงทอดน้ำปลา ต้มเเซ่บกระดูกหมู(เมนูนี้เผ็ดจริงไรจริง) เผ็ดขนาดเราเเค่ซดน้ำซุบก็สำลักไอออกมาเลย เหมือนกินซุบพริกปนอะไรแบบนั้นเลยเเต่อร่อยนะ กับอีกเมนูพี่เข้าชอบ เป็บยำผักกูด เราทั้งสองกินข้าวด้วยกันจนเสร็จ เเล้วเราก็ไปเที่ยวที่บ้านหอมเทียนกันต่อ วันนั้นเราไปถึงบ้านหอมเทียนประมาณ 6 โมงเยน มันเป็นครั้งแรกของเราสองคนที่มาเที่ยวที่นี้ ตอนเเรกก็คิดว่าไม่มีอะไร เเต่พอเราสองคนได้เข้าไปข้างในมันดีกว่าที่คิดเอาไว้มาก ด้วยบรรยากาศที่โรแมนติกเอาสะมากๆ บวกกับฝนเม็ดเล็กๆที่โปรยลงมาเเต่ไม่หนักมาก ทำให้วันนั้นเป็นวันที่ผมร็สึกมีความสุขมาก เรากับพี่เดินขึ้นไปดูร้านนั้นร้านนี้ จริงๆต้ังเเต่เราคุยกันมาเราไม่เคยถ่ายรูปคู่ด้วยกันเลย ที่นี้เป็นที่เเรกที่เราได้ถ่ายรูปคู่ด้วยกัน เราถ่ายรูปเล่นกันหลายรูปเลย มีมุมน่ารักๆเยอะมาก ระวห่างทางเดินขึ้นไปก็มีเทียนเล็กๆว่างตามทางเดิน ให้ความรู้สึกเหมือนเราเดินเข้าพิธีเเต่งงาน อย่างไงอย่างนั้นเลย โรเเมนติคสุดๆ ^^ เราเดินเล่นถ่ายรูปกันได้สักพัก ทางบ้านหอมเทียนก็ประกาสว่าจะมีจุดเทียนถวายพระพรเนื่องในวันเเม่กัน เราเลยตกลงกันว่าจะรอจุดเทียนด้วยกัน เราจุดเทียนกันพี่เขาได้ถ่ายรูปเทียน เเล้วโพสลงเฟส เเต่ผมไม่คิดว่าสิ่งนั้นมันจะทำให้เกิดสิ่งที่เราคิดไม่ถึงเพราะรูปๆนี้รูปเดียว เพื่อนๆเขามาเม้นกัน จนมีเม้นนึงเม้นว่า "เห้ยไปกับใครอะ กูไม่ได้ไปด้วยนะเว้ย"  
ตอนนั้นเราไม่ได้คิดอะไร

จนเรากลับมาที่ห้องพัก เเล้วก็มีวายนึงโทรเข้ามาพี่Dเขาบอกว่า เป็นเพื่อนโทรมาขอออกไปคุยก่อนนะ คือตอนนั้นเราก็คิดในใจว่าถ้าเป็นเพื่อนจะออกไปคุยกันข้างนอกทำไม เราเริ่มเอะใจว่าจะเป็นแฟนใหม่หรือเก่าแฟน เเต่ช่วงที่พี่เขาบอกว่าหมดใจตอนนั้นพี่เขาเคยบอกว่า เขาไม่ได้มีใคร  พี่เขาออกไปคุยโทรศัพนานมากจนพี่เขาเข้ามาในห้องเราก็ถามตรงๆว่าเป็นใคร เขาก็ยอมรับว่าแฟนเก่าเขาโทรมา เเล้วทะเลาะกัน เขาบอกเราว่าเขาโกหกแฟนเก่าว่ามาเที่ยวกับเพื่อน จนเเฟนเก่าได้ไปเหนคอมเม้นรูปนั้นเลยทำให้เกิดปัญหานี้ขึ้นมา ตอนเเรกที่เราคิดว่าจะของ้อทำเซอร์ไพรส์ พี่D ก็เริ่มหมดหวัง เพราะเราไม่คิดว่าเขาจะกลับไปคุยกับแฟนเก่า เเต่ในเมื่อเราเตรียมทุกสิ่งทุกอย่างมันมาเเล้ว เราเลยต้องทำต่อไป ตอนที่พี่เขาอาบน้ำเราก็เริ่มเป่าลูกโป่ง ติดโพสอิจ เเต่เราก็ทำไม่ทันพี่เขาอาบน้ำเสร็จก่อน ตอนนั้นเราพูดออกไปว่า "ว่าเเล้วต้องทำไม่ทัน" เเล้วเราก็ร้องไห้พี่เขาก็เข้ามากอดจับมือเรา เขาพูดว่า "พี่ไม่คิดเลยว่าเอ็มจะเตรียมทุกอย่างมาแบบนี้" พี่เขาเสียใจ เราก็นั่งร้องไห้ พี่เขาบอกว่านี้เขากำลังทำอะไรอยู่วะ ทำไมเขาถึงทำให้คนที่รักเขามากขนาดนี้ต้องมาเสียใจขนาดนี้ พี่เขาบอกว่าเขาต้องการแฟนแบบนี้มาก คนที่รักเขามากขนาดนี้  (เขาเคยพูดระหว่างที่เราคุยกัน เขาอายุก็ 27 เเล้ว เขาไม่อยากจะมาคุยเล่นๆกับใครเเล้วอยากคบใครก็คบไปนานๆ) ;วันนั้นพี่เขาก็ได้เเต่ขอโทษ เเต่เขาก็บอกว่าเขารู้นะว่าเขาต้องเลือกสิ่งไหนทางไหนที่มันดีที่สุด เเต่เขาบอกว่า เขาไม่สามารถจะเลือกกลับมาคบกับเราได้จริงๆ ไม่รู้เพราะเหตุผลไหน เเต่ผมเองก็รู้เเหละว่าถ้าคนที่ไม่รักกันเเล้วจะเอาอะไรมายือไว้ เขาก็คงไปจากเราอยู่ดี

วันนั้นเราร้แงไห้กันจนตาบวมกันทั้งคู่ เขาบอกเราว่าเขาไม่เคยจะร้องไห้หนักขนาดนี้มาก่อน หนักสุดที่พี่เขาเคยร้องคือวันที่พ่อของพี่เขาได้เสียไป แล้วครั้งนี้ก็เป็นอีกครั้งที่เขาได้ร้องไห้หนักขนาดนี้

ตอนเเรกเราคิดว่าสิ่งที่เราทำไปมันจะสามารถทำให้พี่เขากลับมาอยู่กับเราเหมือนเดิม ทุกอย่างที่ผมทำไปทำด้วยความรัก ด้วยที่คิดว่าเขาต้องกลับมาอยู่กับ
เรา เพราะถ้าพี่เขาไปจากเราจริงๆ กลัวว่าเราจะไม่สามารถทำอะไรได้เลย ไม่มีเเรงเเม้เเต่จะยืน อยู่นิ่งๆเฉยๆ ยังเหนื่อยเลย T_T คืนนั้นพี่เขาก็บอกกับเราอีกอย่างว่า ถ้าพี่เขาจะขอให้กลับก่อน 1 วันได้ไหม นี้คืออีกสิ่งที่ทำให้เราเสียใจไปยิ่งกว่าเดิม เขาบอกเขาอยากกับไปคิดอะไร อยากอยู่คนเดียว ตอนนี้ใจพี่เขาไม่รู้จะเลือกอะไร เขาสับสนไปหมด เราก็บอกว่าเราวางแผนกันมาเเล้วนิว่าจะอยู่ด้วยกัน 2คืน พี่เขาก็บอกขอร้องจริงๆ เขาขอกลับก่อน เราก็ไม่ยอมจนสุดท้ายเราก็ต้องยอม ผมก็เเอบถามไปเพราะคนั้นใช่ไหม เขาขอให้พี่D กับใช่ไหม เขาก็บอกว่าส่วนนึง เเต่ในใจเราคิดว่ามันคงคงไม่ใช่เเค่ส่วนนึงเเต่มันคือเหตุผลทั้งหมดที่พี่เขาขอกลับก่อน เราคิดมาตลอดทำไมพี่เขาถึงไม่ดูเเลคนที่อยู่ข้างๆเขา ให้ดีกว่านี้ คืนนั้นเรานอนกันดึกมาก เรานอนจับมือกัน เพราะมันอาจจะเปนครั้งสุดท้ายที่เราจะได้อยู่กับพี่เขาเเล้ว

ตอนเช้าเราตื่นมา ผมก็ยังขอพี่เขาให้อยู่ต่ออีกคืน เเต่พี่เขาก็ขอเรากลับอยู่ดี พี่เขาบอกว่าเดียวไปเที่ยวกัน เเล้วกลับตอนเย็น เราเดินไปกินข้าวเช้าที่ทางรีสอร์ท เตรียมไว้ให้ บรรยากาศที่โต๊ะทานข้าวมันช่างสวยงามด้วยวิวธรรมชาติกลางป่าเขา มีเสียงเพลงเพาะๆบรรเลงเบาๆ มันโรเเมนติคมากๆ เเต่ทำไมสิ่งที่มันเกิดขึ้นตรงหน้าเรามันทำให้เราร้องไห้กันอีกครั้ง ผมพูดว่าทำมันมันโรเเมนติคขนาดนี้ นี้คือภาพที่ผมเคยฝันเอาไว้ว่าอยากมาสถานที่แบบนี้กับแฟนมาเสพสิ่งที่สวยงามด้วยกันแบบนี้ เเต่สิ่งที่มันเกิดขึ้นมันดันเป็นบรรยากาศที่โรเเมนติกมากๆ ในวันที่เราเสียใจที่สุด ทุกอย่างมันกลับกันไปหมด เรานั่งกินข้าวเช้าด้วยกันพร้อมน้ำตาที่ไม่มันไม่สามารถจะกลั่นเอาไว้อยู่ได้ มันโหดร้ายเอาสะมากๆ เรานั่งกินข้าวกันจนเสร็จเเล้วเราก็เก็บของเพื่อออกจากรีสอร์ท เเล้วพี่D ก็ขับรถพาเราไปเที่ยวที่ อัลปาก้า ฮิลระหว่างทาง คนนั้นก็ไลน์มาตลอด จนเรารู้สึกว่า เราอยากจะหายไปจากตรงนี้ไปให้ไกลที่สุด ทำไหมเรื่องแบบนี้มันต้องเกิดขึ้นกับเรา ทำไมคนที่เรารักมากถึงทำกับเราได้ขนาดนี้ คำถามมันเกิดขึ้นในหัวเรามากมาย

***เดียวมาต่อนะครับ พอดีต้องไปข้างนอกก่อน***
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่