1. กวิน ตำแหน่ง ผู้รักษาประตู ช่วงนี้กวินโชว์ฟอร์มเซฟอย่างต่อเนื่องให้กับต้นสังกัด ฟอร์มบางนัดอาจดร็อปไปบ้าง แต่โดยรวมแล้ว
ผู้รักษาประตูมือหนึ่งทีมชาติไทยคนนี้ ก็โชว์เซฟลูกเหนือความคาดหมายได้บ่อยๆ
สถานะ ยืนเป็นมือหนึ่งต่อไป
2. โด ตำแหน่ง แบ็คขวา ถึงนฤบดินทร์จะมีฟอร์มที่ดีในสโมสรต้นสังกัดมาหลายๆนัด จขกท.ก็ได้มีโอกาสได้ดูฟอร์มของ โด ด้วยเช่นกัน
ฟอร์มทั้งคู่รักพี่เสียดายน้องจริงๆ แต่สุดท้ายก็ต้องเป็นโด ที่..ฟอร์มดีไม่แพ้กันและเข้าขากับเพื่อนทีมชาติในสโมสร นี่คือข้อได้เปรียบของเขาล่ะ
สถานะ มีโอกาสมากว่า ต้น 60/40 แต่อาจมีบางนัดที่ซิโก้คงสลับลงมาเล่นตามแท็คติคของแต่ละเกม
3. ธีราทร ตำแหน่งแบ็คซ้าย ฟอร์มของเจ้าอุ้มคงเส้นคงวาเสมอไม่ว่าจะเกมใดๆ ถึงจะมีกระแสที่อาจทำให้เจ้าตัวอาจเสียสมาธิ ก็ไม่สามารถทำให้
เจ้าตัวฟอร์มหลุดไปได้ง่าย พร้อมด้วยเหมาะสมด้วยประการทั้งปวงที่เป็นกัปตันทีมทีมชาติไทยในตอนนี้ ทำให้ผมนึกถึงนัดในบ้านกับอิรัก ที่เจ้าอุ้ม
เป็นคนอาสายิงแทนกระบี่มือหนึ่งอย่างธีรศิลป์ ท่ามกลางความกดดันต่างๆนานา ใน ณ วินาทีนั้นกับความหวังของคนไทยทั้งประเทศ นี่แหละที่ผม
ให้เจ้าอุ้มเค้าเลย
สถานะ ตัวหลัก
4. ธนบูรณ์ ตำแหน่ง กองหลัง นึกถึงบรรดากองหลังไทยในขณะนี้แล้ว จขกท.ยังไม่เห็นใครที่จะสอดแทรกหรือเป็นจิ๊กซอว์ที่มาแทนได้อย่างลงล็อค
ธนบูรณ์เป็นผู้เล่นที่ยืนกองหลังได้ไว้ใจมากที่สุดคนหนึ่ง ถึงแม้เจ้าตัวจะถนัดในตำแหน่งกลางรับอีกตำแหน่งก็ตาม ซึ่งในยุคการทำทีมของซิโก้แล้ว
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าธนบูรณ์จะได้ยืนเป็นกองหลังเจ้าประจำของทีมชาติไทยโดยปฏิเสธไม่ได้
สถานะ เป็นตัวยืนในแผงกองหลัง แต่อาจมีการปรับตำแหน่งได้ตามแท็คติคที่ต้องการเขามายืนกลางรับ
5. กรวิทย์ ตำแหน่ง กองหลัง ปฏิเสธไม่ได้ว่านี่คือคนที่ต้องมีในแผนหลังทีมชาติไทยในปัจจุบัน แต่ฟอร์มเจ้าตัวหลังหยุดพักมานานอาจจะยังไม่เข้าที่
คงใช้เวลาเรียกความฟิตอีกสักพัก แต่ยังไงก็ตามนี่คือกองหลังตัวหลักของทีมอย่างไม่ต้องสงสัย
สถานะ ตัวหลัก
6. สารัช ตำแหน่ง กองกลาง จากการมองหลายๆเกมที่ผ่านมา นักเตะผู้นี้สามารถวางบอลยาวในเกมสวนกลับได้อย่างแม่นยำ ในเกมทีมชาติที่เราได้เห็นอยู่บ่อย ๆในเวลาที่ทีมไทยเราต้องมาตั้งรับแล้วรอสวนกลับ อีกทั้งเป็นมดงานค่อยต่อบอล เชื่อมเกม และดีเลย์เกมไม่ให้คู่ต่อสู้เล่นเกมรุกในพื้นที่อันตรายได้
แต่ส่วนในเกมบอลโลกที่จะถึงนี้ จขกท.อยากให้เจ้าตัวเป็นสวีปเปอร์ในแผงกองหลังบางจังหวะ แล้วค่อยป้อนบอลสั้นบนพื้นที่ที่ได้เปรียบหรือวางบอลยาว
ในการสวนกลับ โดยมีตัวทีเด็ดที่คู่ต่อสู้คาดไม่ถึงที่ซิโก้เก็บเป็นอาวุธลับ คอยเผด็จศึก!
สถานะ ตัวยืน
7. ชัปปุยส์ ตำแหน่ง กองกลาง ชารีลเป็นนักเตะที่เข้าใจเกมสูง และมีการเล่นเฉพาะตัวที่เป็นธรรมชาติ จขกท.เห็นว่า เหมาะด้วยประการทั้งปวงที่ซิโก้จะให้ความไว้วางใจนักเตะหน้าหล่อคนนี้อีกครั้ง
สถานะ เป็นนักเตะที่ต้องมีไว้ในสนาม
8. ชนาธิป ตำแหน่ง กองกลาง ผลงานบอกไว้อยู่แล้วทั้งในนามทีมชาติและสโมสร ถึงเวลาที่เจ้าตัวจะประกาศศักดิ์ดาในระดับเอเชียแล้วล่ะ ว่าจิ๋วแต่แจ๋ว..
สถานะ ตัวทีเด็ด
9.มงคล ตำแหน่ง ริมเส้นด้านขวา นึกถึงนักเตะสไตล์นี้แล้ว จะขอเปรียบเทียบกับทีมในยุโรปที่ก็ใช้บริการในเตะประเภทนี้เหมือนกัน เช่น แมนฯยู ที่ใช้บริการ พาร์ค ชี ซอง ในยุคป๋าอเล็กแล้วประสบความสำเร็จ หรือแม้แต่ เลสเตอร์ที่ใช้บริการ ชินจิ โอคาซากิ จนได้แชมป์ลีกในปัจจุบัน และมงคล ก็จัดว่าเป็นนักเตะประเภทนี้เหมือนกัน
สถานะ ตัวป่วนด้านพละกำลัง
10.เกริกฤทธิ์ ตำแหน่ง ริมเส้นด้านซ้าย ก้องเป็นนักเตะที่เล่นได้ตามแท็คติกไม่ว่าจะเป็นเกมรับที่คอยไล่กวาดให้อุ้ม และเป็นนักเตะที่เคลื่อนที่เพื่อให้ตัวเองไปอยู่ในตำแหน่งที่ดีในหลายๆครั้ง ความสามารถแบบนี้มันไม่ได้มีมาได้ง่ายๆถ้าขาดการอ่านเกมและสัญชาติญาณ หวังว่าจะตัวจะยิงประตูสำคัญให้ทีมชาติต่อไปอยู่เรื่อย ๆ
สถานะ ตัวหลัก
11.ธีรศิลป์ ตำแหน่ง กองหน้า ยังไว้ใจได้เสมอสำหรับกองหน้ามากประสบการณ์คนนี้ ในระดับเอเชียต้องบอกเลยว่าในทีมต้องมีไว้ใน 11 ตัวแรก และซึ่งฟอร์มการเล่นในขณะนี้กำลังเข้าฝักด้วยแล้ว มั่นใจได้เลยว่าทีมไทยเราพอจะมีอาวุธอะไรเด็ดๆไปสู้กับเขาในระดับเอเชียได้สบาย
สถานะ ตัวหลัก
ปล. นอกจากนักเตะ 11 ตัวแรกที่คิดว่าเป็นตัวหลักในแผนการเล่นแล้ว ยังมีตัวทีเด็ดอีกหลายคนในแผงเกมรุก ไม่ว่าจะเป็น ธนา, ศราวุธ, อดิศักดิ์
หรือแม้กระทั่ง ศิโรจน์ ฉัตรทอง ที่เพิ่งโดนเรียกติดทีมชาติ ไม่แน่นะว่า ซิโก้จะใช้เป็นอาวุธเด็ดในเกมคัดบอลโลกครั้งนี้ ซึ่งในเกมอุ่นกับกาต้าร์นั้น
จขกท.หวังว่า ซิโก้จะไม่ใช้บริการ ศิโรจน์ฯ มากนัก ถ้าเจ้าตัวสามารถโชว์ฟอร์มได้ดี ก็ขอให้เล่นประคองเกมไปซักช่วงเวลาหนึ่งก็พอ รวมไปจนถึง
อย่าลืมปรับเกมรับให้แน่น ดี กว่าเดิม และสุดท้ายอยากให้แฟนบอลชาวไทยอย่าไปคาดหวังเรื่องผลแพ้ชนะในเกมอุ่นเครื่องนี้มากมายนัก
ขอให้ดูรูปเกมเป็นหลัก เพราะเรายังมีเกมสำคัญที่รออยู่ เพราะ.. "มีแต้มในบอลโลก มันสำคัญยิ่งกว่าได้คะแนนฟีฟ่าในเกมอุ่นเครื่องเป็นไหนๆ"
ว่าด้วยแผนการเล่นทีมชาติไทย สำหรับผม
ผู้รักษาประตูมือหนึ่งทีมชาติไทยคนนี้ ก็โชว์เซฟลูกเหนือความคาดหมายได้บ่อยๆ
สถานะ ยืนเป็นมือหนึ่งต่อไป
2. โด ตำแหน่ง แบ็คขวา ถึงนฤบดินทร์จะมีฟอร์มที่ดีในสโมสรต้นสังกัดมาหลายๆนัด จขกท.ก็ได้มีโอกาสได้ดูฟอร์มของ โด ด้วยเช่นกัน
ฟอร์มทั้งคู่รักพี่เสียดายน้องจริงๆ แต่สุดท้ายก็ต้องเป็นโด ที่..ฟอร์มดีไม่แพ้กันและเข้าขากับเพื่อนทีมชาติในสโมสร นี่คือข้อได้เปรียบของเขาล่ะ
สถานะ มีโอกาสมากว่า ต้น 60/40 แต่อาจมีบางนัดที่ซิโก้คงสลับลงมาเล่นตามแท็คติคของแต่ละเกม
3. ธีราทร ตำแหน่งแบ็คซ้าย ฟอร์มของเจ้าอุ้มคงเส้นคงวาเสมอไม่ว่าจะเกมใดๆ ถึงจะมีกระแสที่อาจทำให้เจ้าตัวอาจเสียสมาธิ ก็ไม่สามารถทำให้
เจ้าตัวฟอร์มหลุดไปได้ง่าย พร้อมด้วยเหมาะสมด้วยประการทั้งปวงที่เป็นกัปตันทีมทีมชาติไทยในตอนนี้ ทำให้ผมนึกถึงนัดในบ้านกับอิรัก ที่เจ้าอุ้ม
เป็นคนอาสายิงแทนกระบี่มือหนึ่งอย่างธีรศิลป์ ท่ามกลางความกดดันต่างๆนานา ใน ณ วินาทีนั้นกับความหวังของคนไทยทั้งประเทศ นี่แหละที่ผม
ให้เจ้าอุ้มเค้าเลย
สถานะ ตัวหลัก
4. ธนบูรณ์ ตำแหน่ง กองหลัง นึกถึงบรรดากองหลังไทยในขณะนี้แล้ว จขกท.ยังไม่เห็นใครที่จะสอดแทรกหรือเป็นจิ๊กซอว์ที่มาแทนได้อย่างลงล็อค
ธนบูรณ์เป็นผู้เล่นที่ยืนกองหลังได้ไว้ใจมากที่สุดคนหนึ่ง ถึงแม้เจ้าตัวจะถนัดในตำแหน่งกลางรับอีกตำแหน่งก็ตาม ซึ่งในยุคการทำทีมของซิโก้แล้ว
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าธนบูรณ์จะได้ยืนเป็นกองหลังเจ้าประจำของทีมชาติไทยโดยปฏิเสธไม่ได้
สถานะ เป็นตัวยืนในแผงกองหลัง แต่อาจมีการปรับตำแหน่งได้ตามแท็คติคที่ต้องการเขามายืนกลางรับ
5. กรวิทย์ ตำแหน่ง กองหลัง ปฏิเสธไม่ได้ว่านี่คือคนที่ต้องมีในแผนหลังทีมชาติไทยในปัจจุบัน แต่ฟอร์มเจ้าตัวหลังหยุดพักมานานอาจจะยังไม่เข้าที่
คงใช้เวลาเรียกความฟิตอีกสักพัก แต่ยังไงก็ตามนี่คือกองหลังตัวหลักของทีมอย่างไม่ต้องสงสัย
สถานะ ตัวหลัก
6. สารัช ตำแหน่ง กองกลาง จากการมองหลายๆเกมที่ผ่านมา นักเตะผู้นี้สามารถวางบอลยาวในเกมสวนกลับได้อย่างแม่นยำ ในเกมทีมชาติที่เราได้เห็นอยู่บ่อย ๆในเวลาที่ทีมไทยเราต้องมาตั้งรับแล้วรอสวนกลับ อีกทั้งเป็นมดงานค่อยต่อบอล เชื่อมเกม และดีเลย์เกมไม่ให้คู่ต่อสู้เล่นเกมรุกในพื้นที่อันตรายได้
แต่ส่วนในเกมบอลโลกที่จะถึงนี้ จขกท.อยากให้เจ้าตัวเป็นสวีปเปอร์ในแผงกองหลังบางจังหวะ แล้วค่อยป้อนบอลสั้นบนพื้นที่ที่ได้เปรียบหรือวางบอลยาว
ในการสวนกลับ โดยมีตัวทีเด็ดที่คู่ต่อสู้คาดไม่ถึงที่ซิโก้เก็บเป็นอาวุธลับ คอยเผด็จศึก!
สถานะ ตัวยืน
7. ชัปปุยส์ ตำแหน่ง กองกลาง ชารีลเป็นนักเตะที่เข้าใจเกมสูง และมีการเล่นเฉพาะตัวที่เป็นธรรมชาติ จขกท.เห็นว่า เหมาะด้วยประการทั้งปวงที่ซิโก้จะให้ความไว้วางใจนักเตะหน้าหล่อคนนี้อีกครั้ง
สถานะ เป็นนักเตะที่ต้องมีไว้ในสนาม
8. ชนาธิป ตำแหน่ง กองกลาง ผลงานบอกไว้อยู่แล้วทั้งในนามทีมชาติและสโมสร ถึงเวลาที่เจ้าตัวจะประกาศศักดิ์ดาในระดับเอเชียแล้วล่ะ ว่าจิ๋วแต่แจ๋ว..
สถานะ ตัวทีเด็ด
9.มงคล ตำแหน่ง ริมเส้นด้านขวา นึกถึงนักเตะสไตล์นี้แล้ว จะขอเปรียบเทียบกับทีมในยุโรปที่ก็ใช้บริการในเตะประเภทนี้เหมือนกัน เช่น แมนฯยู ที่ใช้บริการ พาร์ค ชี ซอง ในยุคป๋าอเล็กแล้วประสบความสำเร็จ หรือแม้แต่ เลสเตอร์ที่ใช้บริการ ชินจิ โอคาซากิ จนได้แชมป์ลีกในปัจจุบัน และมงคล ก็จัดว่าเป็นนักเตะประเภทนี้เหมือนกัน
สถานะ ตัวป่วนด้านพละกำลัง
10.เกริกฤทธิ์ ตำแหน่ง ริมเส้นด้านซ้าย ก้องเป็นนักเตะที่เล่นได้ตามแท็คติกไม่ว่าจะเป็นเกมรับที่คอยไล่กวาดให้อุ้ม และเป็นนักเตะที่เคลื่อนที่เพื่อให้ตัวเองไปอยู่ในตำแหน่งที่ดีในหลายๆครั้ง ความสามารถแบบนี้มันไม่ได้มีมาได้ง่ายๆถ้าขาดการอ่านเกมและสัญชาติญาณ หวังว่าจะตัวจะยิงประตูสำคัญให้ทีมชาติต่อไปอยู่เรื่อย ๆ
สถานะ ตัวหลัก
11.ธีรศิลป์ ตำแหน่ง กองหน้า ยังไว้ใจได้เสมอสำหรับกองหน้ามากประสบการณ์คนนี้ ในระดับเอเชียต้องบอกเลยว่าในทีมต้องมีไว้ใน 11 ตัวแรก และซึ่งฟอร์มการเล่นในขณะนี้กำลังเข้าฝักด้วยแล้ว มั่นใจได้เลยว่าทีมไทยเราพอจะมีอาวุธอะไรเด็ดๆไปสู้กับเขาในระดับเอเชียได้สบาย
สถานะ ตัวหลัก
ปล. นอกจากนักเตะ 11 ตัวแรกที่คิดว่าเป็นตัวหลักในแผนการเล่นแล้ว ยังมีตัวทีเด็ดอีกหลายคนในแผงเกมรุก ไม่ว่าจะเป็น ธนา, ศราวุธ, อดิศักดิ์
หรือแม้กระทั่ง ศิโรจน์ ฉัตรทอง ที่เพิ่งโดนเรียกติดทีมชาติ ไม่แน่นะว่า ซิโก้จะใช้เป็นอาวุธเด็ดในเกมคัดบอลโลกครั้งนี้ ซึ่งในเกมอุ่นกับกาต้าร์นั้น
จขกท.หวังว่า ซิโก้จะไม่ใช้บริการ ศิโรจน์ฯ มากนัก ถ้าเจ้าตัวสามารถโชว์ฟอร์มได้ดี ก็ขอให้เล่นประคองเกมไปซักช่วงเวลาหนึ่งก็พอ รวมไปจนถึง
อย่าลืมปรับเกมรับให้แน่น ดี กว่าเดิม และสุดท้ายอยากให้แฟนบอลชาวไทยอย่าไปคาดหวังเรื่องผลแพ้ชนะในเกมอุ่นเครื่องนี้มากมายนัก
ขอให้ดูรูปเกมเป็นหลัก เพราะเรายังมีเกมสำคัญที่รออยู่ เพราะ.. "มีแต้มในบอลโลก มันสำคัญยิ่งกว่าได้คะแนนฟีฟ่าในเกมอุ่นเครื่องเป็นไหนๆ"