จากการที่ผมดูข่าวข่าวหนึ่ง คือข่าวที่มีคนฆ่าตัวตายเพราะคอมช้า แล้วผมไปอ่านคอมเม้นหนึ่งมา ประมาณว่า เขาอาจจะเครียดสะสมกับเรื่องก่อนหน้ามาก่อนแล้ว ผสมโรงเรื่องนี้เข้าไป เลยเครียดสะสม ทำให้ผมนึกถึงกรณีของผมเลยครับ ที่ครั้งหนึ่ง ที่ผมโดนกล่าวหาว่าผมคือคนที่ไปรายงานรูปคนในกลุ่มหลายคน อธิบายเค้าก็ไม่เชื่อ แล้วโดนแบน คือเครียดมาก ตอนนั้นผมอยู่กรุงเทพ จะเดินทางกลับปากช่องโดยรถไฟพอดี เดินทางกับพ่อแม่ ผมกะจะไปขึ้นที่หัวลำโพง เพราะอยากเลือกที่นั่งได้ และจะให้วิ่งออกจากทิศจังหวัดของพวกนั้นด้วย(คือคนในกลุ่มนั้นส่วนใหญ่อยู่กรุงเทพ กับสมุทรปราการ) แต่พ่อผมบังคับให้ไปขึ้นหลักสี่ เพราะวันนั้นเป็นวันอังคาร ซึ่งในความคิดพ่อผม คิดว่าวันนี้รถไฟจะว่างแบบรถเมล์ 543ก ผมเถียงกับท่านอยู่พักหนึ่ง แต่ก็เถียงสู้ท่านไม่ได้ เลยยอมขึ้นรถไฟที่หลักสี่ คิดนะ ทำไมต้องตรงกับวันอังคาร(ว่าแล้วก็อยากจับอังคารในเรื่อง Plants on Mars มาเฉือนเนื้อเล่นๆระบายอารมณ์จริงๆ 5555 ล้อเล่น อย่าจริงจัง อย่าให้ถึงหูคุณบร๊ะบัวน้าาา เค้าล้อเล่น)
เมื่อผมขึ้นรถไฟขบวนนั้น มันไม่จริงอย่างที่พ่อผมพูดเลย คนค่อนข้างเยอะ แต่ยังพอมีที่นั่งริมทางเดิน ซึ่งวันนั้นรถไฟวิ่งเร็วมาก ซึ่งเป็นความเร็วในระดับที่ผมพอใจสุดๆ เร็วราวสาย129 ตอนผมนั่งกลับจากสำโรงมาราบ11 ทำขบวนโดยหัว Alsthom แต่ผมเหมือนไร้บุญ เพราะไม่ได้นั่งริมหน้าต่าง ได้ริมทางเดินแทน ผมเจ็บปวดหัวใจมาก เครียด น้อยใจ ทั้งที่ก่อนหน้าผมเครียดมากพอแล้ว แต่ผมพยายามเก็บอารมณ์ โพสต์เฟซระบายอารมณ์ไปเรื่อยๆ(แต่ไม่พาดพิงพ่อผมนะ) พอถึงบ้าน ผมระบายอารมณ์กับแม่ แม่บอกว่าเดี๋ยวตอนนั่งรถไฟไปโคราชเช้าก็มีอีก(แต่ในใจผมยังร้อนไม่หยุด เพราะรถไฟที่จะไปโคราชเช้าที่แม่พูดถึง มันเป็นรถไฟดีเซลรางเก่าๆ ซึ่งวิ่งช้ามากราวๆสาย107) ผมเปิดเฟซ เฟซผมโดนให้ยืนยันตัวตน ตอนนั้นผมเริ่มเครียดเพิ่มอีกขั้นแล้ว ผมเลยไปปั่นรถเล่น หวังดับอารมณ์เครียด แล้วใส่หูฟังฟังเพลงไปด้วย แต่เหมือนโดนกลั่นแกล้ง หูฟังนั้นติดข้างเดียว ตอนนั้นสติสัมปชัญยะของผมขาดผึงอย่างรุงแรง ผมกระชากหูฟังนั่นแบบไม่นึกถึงบุญคุณมัน ฉักทึ้งจนขาดเป็นเส้นฝอยเล็กๆ แล้วผมก็ขี่รถจักรยานไปตามถนน ตรงช่องว่างของรถขายของ กับจุดที่รถจอดรอรับสินค้า ผมขี่ผ่านตรงนั้นไป แล้วก็ขี่รถบนฟุตบาต ขี่ผ่านตลาด แล้วรถมาติดอีก ผมจึงโวยวายออกไป วินาทีนั้นผมไม่อายใครแล้ว ผมขี่ไปโวยวายไปตลอดทาง ไม่สนใจผู้คนแล้ว พอถึงบ้าน ผมเลยรู้สึกกลัวมาก เข้าไปหลบแต่ในห้อง กลัวเรื่องที่ผมทำเพราะขาดสติจะถึงหูแม่ กลัวท่านไม่สบายใจ ผมหลบแต่ในห้อง ค่ำๆถึงกล้าลงมา แชทในโทรศัพท์มีแต่คนทักมากัดมาด่า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง และกระเทย ตอนนั้นผมเกลียดผู้หญิง กับกระเทยเลยครับ มีแต่แม่ ป้า และน้าที่เข้าหาผมได้ ณ ช่วงนั้น ผมระบายกับเพื่อนผู้หญิง มีแต่ไม่ช่วย มีแต่คำพูดที่ไม่ช่วยอะไร เสนอทางให้แต่พอเถอะๆ แบบเหมือนรำคาญผม และก่อนหน้า ผมเชิดชูเพศที่สามมาก ถึงขั้นออกพูดหน้าเสาธงในโรงเรียน เรื่องขอให้เข้าใจเพศที่สามหลายครั้ง แต่พอมาเจออะไรแบบนี้ จากรักก็กลายเป็นเกลียดเลยครับ เคยรักมากก็เกลียดมาก แต่ทุกวันนี้ผมก็เริ่มปล่อยวางลงได้บ้าง เพราะมีแม่ ป้าคอยรับฟัง แล้วฝั่งกรุงเทพ ก็มีพี่กระเทยที่ร้านค้าใต้แฟลตคนที่เอ็นดูผม ผมเลยละความเกลียดผู้หญิง กับกระเทยลงได้
สำหรับประเด็นรถไฟ หลังจากนั้นก็ไม่มีขบวนไหนที่ทำความเร็วได้แบบนั้นเลยครับ เหมือนผมพลาดโอกาสสำคัญในชีวิตไปเลย สิ่งนั้นยังคงหลอกหลอนผมทุกวันนี้ ผมขึ้นรถไฟทีไร ผมหวังให้ได้หัวรถจักร GEA ไม้ก็ HID เพราะสองหัวนั้นเป็นหัวรถจักรใหญ่ ถึงช้าก็สง่างาม ยังดูดี แต่หัวรถจักร Alsthom เป็นหัวรถจักรเล็ก ควรทำความเร็วสูงๆ ซึ่งส่วนใหญ่ก็ได้แต่หัว Alsthom ซึ่งวิ่งช้าดุจรถจักไอน้ำเลยครับ ทำให้ผมรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจในการโดยสารรถไฟขึ้นไปอีก
ผมมาเล่าให้ฟัง เป็นอุทาหรณ์ ว่าเรื่องความเครียด มันอาจซับซ้อนกว่านั้นเยอะ บางที มันไม่ใช่แค่ข่าวนำเสนอ มันอาจมีเรื่องราวเบื้องหลังที่เราไม่รู้อีกมาก และอย่าตัดสินโดยใช้ความรู้สึกของตนเอง เพราะขีดอารมณ์ จินนาการ ความคิดของแต่ละคนนั้นต่างกัน ต้องเจอกับตัวจริงๆ ถึงจะรับรู้ได้อย่างถ่องแท้ ขอบคุณสำหรับพื้นที่ตรงนี้ สวัสดีครับ
ผมเคยผ่านจุดนี้มาแล้ว เลยเข้าใจเรื่องราวนี้ดี
เมื่อผมขึ้นรถไฟขบวนนั้น มันไม่จริงอย่างที่พ่อผมพูดเลย คนค่อนข้างเยอะ แต่ยังพอมีที่นั่งริมทางเดิน ซึ่งวันนั้นรถไฟวิ่งเร็วมาก ซึ่งเป็นความเร็วในระดับที่ผมพอใจสุดๆ เร็วราวสาย129 ตอนผมนั่งกลับจากสำโรงมาราบ11 ทำขบวนโดยหัว Alsthom แต่ผมเหมือนไร้บุญ เพราะไม่ได้นั่งริมหน้าต่าง ได้ริมทางเดินแทน ผมเจ็บปวดหัวใจมาก เครียด น้อยใจ ทั้งที่ก่อนหน้าผมเครียดมากพอแล้ว แต่ผมพยายามเก็บอารมณ์ โพสต์เฟซระบายอารมณ์ไปเรื่อยๆ(แต่ไม่พาดพิงพ่อผมนะ) พอถึงบ้าน ผมระบายอารมณ์กับแม่ แม่บอกว่าเดี๋ยวตอนนั่งรถไฟไปโคราชเช้าก็มีอีก(แต่ในใจผมยังร้อนไม่หยุด เพราะรถไฟที่จะไปโคราชเช้าที่แม่พูดถึง มันเป็นรถไฟดีเซลรางเก่าๆ ซึ่งวิ่งช้ามากราวๆสาย107) ผมเปิดเฟซ เฟซผมโดนให้ยืนยันตัวตน ตอนนั้นผมเริ่มเครียดเพิ่มอีกขั้นแล้ว ผมเลยไปปั่นรถเล่น หวังดับอารมณ์เครียด แล้วใส่หูฟังฟังเพลงไปด้วย แต่เหมือนโดนกลั่นแกล้ง หูฟังนั้นติดข้างเดียว ตอนนั้นสติสัมปชัญยะของผมขาดผึงอย่างรุงแรง ผมกระชากหูฟังนั่นแบบไม่นึกถึงบุญคุณมัน ฉักทึ้งจนขาดเป็นเส้นฝอยเล็กๆ แล้วผมก็ขี่รถจักรยานไปตามถนน ตรงช่องว่างของรถขายของ กับจุดที่รถจอดรอรับสินค้า ผมขี่ผ่านตรงนั้นไป แล้วก็ขี่รถบนฟุตบาต ขี่ผ่านตลาด แล้วรถมาติดอีก ผมจึงโวยวายออกไป วินาทีนั้นผมไม่อายใครแล้ว ผมขี่ไปโวยวายไปตลอดทาง ไม่สนใจผู้คนแล้ว พอถึงบ้าน ผมเลยรู้สึกกลัวมาก เข้าไปหลบแต่ในห้อง กลัวเรื่องที่ผมทำเพราะขาดสติจะถึงหูแม่ กลัวท่านไม่สบายใจ ผมหลบแต่ในห้อง ค่ำๆถึงกล้าลงมา แชทในโทรศัพท์มีแต่คนทักมากัดมาด่า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง และกระเทย ตอนนั้นผมเกลียดผู้หญิง กับกระเทยเลยครับ มีแต่แม่ ป้า และน้าที่เข้าหาผมได้ ณ ช่วงนั้น ผมระบายกับเพื่อนผู้หญิง มีแต่ไม่ช่วย มีแต่คำพูดที่ไม่ช่วยอะไร เสนอทางให้แต่พอเถอะๆ แบบเหมือนรำคาญผม และก่อนหน้า ผมเชิดชูเพศที่สามมาก ถึงขั้นออกพูดหน้าเสาธงในโรงเรียน เรื่องขอให้เข้าใจเพศที่สามหลายครั้ง แต่พอมาเจออะไรแบบนี้ จากรักก็กลายเป็นเกลียดเลยครับ เคยรักมากก็เกลียดมาก แต่ทุกวันนี้ผมก็เริ่มปล่อยวางลงได้บ้าง เพราะมีแม่ ป้าคอยรับฟัง แล้วฝั่งกรุงเทพ ก็มีพี่กระเทยที่ร้านค้าใต้แฟลตคนที่เอ็นดูผม ผมเลยละความเกลียดผู้หญิง กับกระเทยลงได้
สำหรับประเด็นรถไฟ หลังจากนั้นก็ไม่มีขบวนไหนที่ทำความเร็วได้แบบนั้นเลยครับ เหมือนผมพลาดโอกาสสำคัญในชีวิตไปเลย สิ่งนั้นยังคงหลอกหลอนผมทุกวันนี้ ผมขึ้นรถไฟทีไร ผมหวังให้ได้หัวรถจักร GEA ไม้ก็ HID เพราะสองหัวนั้นเป็นหัวรถจักรใหญ่ ถึงช้าก็สง่างาม ยังดูดี แต่หัวรถจักร Alsthom เป็นหัวรถจักรเล็ก ควรทำความเร็วสูงๆ ซึ่งส่วนใหญ่ก็ได้แต่หัว Alsthom ซึ่งวิ่งช้าดุจรถจักไอน้ำเลยครับ ทำให้ผมรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจในการโดยสารรถไฟขึ้นไปอีก
ผมมาเล่าให้ฟัง เป็นอุทาหรณ์ ว่าเรื่องความเครียด มันอาจซับซ้อนกว่านั้นเยอะ บางที มันไม่ใช่แค่ข่าวนำเสนอ มันอาจมีเรื่องราวเบื้องหลังที่เราไม่รู้อีกมาก และอย่าตัดสินโดยใช้ความรู้สึกของตนเอง เพราะขีดอารมณ์ จินนาการ ความคิดของแต่ละคนนั้นต่างกัน ต้องเจอกับตัวจริงๆ ถึงจะรับรู้ได้อย่างถ่องแท้ ขอบคุณสำหรับพื้นที่ตรงนี้ สวัสดีครับ