[ THE RABBITS ] ผ่าแนวคิด "ปวิณ ภิรมย์ภักดี" BGFC ทะยานสู่ Sport Entertainment เต็มรูป สร้าง Business Value มหาศาล




อมยิ้ม01อมยิ้ม02อมยิ้ม16อมยิ้ม17

สวัสดีวันแม่รอบค่ำครับ  

ไล่เรียงกระทู้ของ BGFC ในพันทิป ยังไม่เคยมีการพูดถึง "ผู้ชายหลังม่านไม้ไผ่" ที่บ่งการเบื้องหลังอย่างสุดโต่ง

ผู้ชายที่เชียร์ "ลิเวอร์พูล"  ถูกส่งตัวไปอยู่อังกฤษตั้งแต่อายุ 8 ขวบ จบไฮสกูลไปต่อปริญญาตรีที่อเมริกา ชีวิตเด็กไทยที่ผูกพันกับกีฬานานาชนิด

ความฝันว่า สักวันหนึ่ง จะได้มีโอกาสเป็น "เจ้าของทีมสโมสรฟุตบอล" ก็มาถึง อย่างค่อยเป็นค่อยไป เหมือนชีวิตทำงานของเขา

ก็ไต่เต้าตามเส้นทางของ"มนุษย์เงินเดือน" คนหนึ่ง  

โปรดอย่า "ตัดสิน" เขาจากนามสกุลดัง ที่จะเนรมิตอะไรได้ง่ายๆ  เขาถูกฝึกมา อยากได้อะไรต้อง "ขวนขวาย" และ "รู้คุณค่า"

การสร้างบางกอกกล๊าสเอฟซี จึงเริ่มจากบันได 3 ขั้น

ด้วยใจแห่งรัก Passion  ทำทีมให้สนุกเน้นเกมรุก Sport Entertainment  มันจะสร้างฐานแฟนคลับและนำไปสู่  Business Value

การตัดสินใจเลือก "โค้ชวิดมาร์" น่าจะเรียกได้ว่า  "การตัดสินใจให้รู้เรื่องไปเลย" ... บทสัมภาษณ์นี้ คัดลอกจาก

Mix Magazine Issue.102  Update.08:05:2015 ผ่านมา 1 ปี กับ 3 เดือน ...แต่ก็ยังเหมือนกับว่า พูดคุยกัน ไม่นานมานี้เอง

อ่านใจ "ปวิณ  ภิรมย์ภักดี"  ผู้บริหารสโมสรฟุตบอลไทย "กระต่ายแก้ว" ที่มีคนลุ้นอยากให้ได้แชมป์มากที่สุด แต่มักจะจบด้วยอันดับกลางๆ

ฤดูกาลนี้ ตั้งเป้าขอที่ 3   เหลือแข่งอีก 8 นัด ...ร่วมกอดคอเชียร์กระต่ายแก้วไปด้วยกัน

แต่ปีหน้า  [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้



Bangkok Glass Football Club

ปีที่แล้วถือเป็นปีแห่งความสำเร็จอันงดงามของสโมสรฟุตบอลบางกอกกล๊าส เพราะได้รางวัลชนะเลิศการแข่งขันฟุตบอลเอฟเอคัพ 2014 สโมสรฟุตบอลขวัญใจชาวไทยแห่งนี้บริหารโดยบริษัท บีจี เอฟซี สปอร์ต จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือบางกอกกล๊าส

“จริงๆ ทีมเราอยากได้แชมป์ทุกปีครับ ปีที่แล้วถ้าไม่ได้ถ้วยเอฟเอคัพท่าจะแย่ สามารถช่วยลดแรงกดดันลงไปเยอะ ไม่ว่าจะเป็นจากฝ่ายบริหาร รวมถึงผู้เล่นด้วย เรามองว่าโล่งอกเพราะเราได้มาแล้วหนึ่งถ้วย


“ในการทำสโมสรกีฬาจะต้องมีคำว่า Passion อยู่ในใจก่อน ต้องรักก่อน ทำแล้วไม่รักนี่ผมคิดว่าอยู่ไม่ยาวแน่ ผมมีความฝันว่าสักวันหนึ่งจะมีโอกาสบริหารจัดการทีมฟุตบอล แล้วก็มีโอกาสจริงๆ เรามีส่วนร่วมเข้าไปสร้างชมรมนี้ให้ใหญ่ขึ้น พอมีศักยภาพเพียงพอก็ส่งทีมไปแข่งกับบริษัทอื่นๆ ซึ่งก็ประสบความสำเร็จด้วยดี จากนั้นเราก็มีศักยภาพการบริหารจัดการทีมฟุตบอลมากขึ้น และเราก็ได้รับช่วงสิทธิ์การแข่งขันต่อจากสโมสรฟุตบอลธนาคารกรุงไทย และทำเป็นสโมสรฟุตบอลอาชีพอย่างจริงจังครับ

“ช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ ผมจะอยู่กับกีฬาเป็นหลัก ถ้าอยู่บ้านผมจะเปิดช่องกีฬาตลอด ตอนอยู่อังกฤษก็ติดตามฟุตบอล รักบี้ คริกเก็ตด้วย ตอนอยู่อเมริกาก็ดูอเมริกันฟุตบอล บาสเก็ตบอล เบสบอล ติดตามเชียร์ทีมที่เรารักอยู่ แต่ตอนนี้ก็แผ่วลงไปบ้าง โฟกัสไปที่ฟุตบอลก่อน สำหรับทีมฟุตบอลที่ชอบ ผมเชียร์ลิเวอร์พูลครับ”

“ธุรกิจกีฬาเป็นอะไรที่จะนำมาเทียบกับธุรกิจทั่วไปไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นการวางแผน หรือปัจจัยอื่นๆ ธุรกิจกีฬาเป็นอะไรที่วางแผนค่อนข้างยากมาก เป้าหมายที่เราวางไว้มันไม่ค่อยเป็นไปตามที่เราวางไว้ เรากำลังดีลกับคน 100% เราไม่ได้ดีลกับเครื่องจักร เพราะฉะนั้นจิตวิทยาเป็นอะไรที่สำคัญมาก การบริหารจัดการสำคัญมาก ซึ่งตรงนี้ก็ค่อนข้างช่วยผมในการบริหารธุรกิจอื่นๆ ในเครือได้ดีกว่าเก่าเยอะครับ ปัญหาเกิดขึ้นตลอด ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของทีม เรื่องของคน คนทำงานเท่านั้นถึงจะรู้ปัญหาที่เกิดขึ้น และต้องแก้ปัญหาให้ได้



“ต้องยอมรับว่าวงการฟุตบอลบ้านเราตอนนี้ถ้าจะทำเป็นธุรกิจที่มีมูลค่ามหาศาลต่อปีค่อนข้างลำบาก เราต้องมองในจุดที่ว่าเราสามารถใช้ประโยชน์ของสโมสรฟุตบอลได้อย่างไร จุดสำคัญคือหนึ่ง Resolution ของ Branding เราต้องการให้คนรู้จักแบรนด์ก่อน สองคือความภาคภูมิใจของพนักงานที่มีต่อทีม อีกจุดหนึ่งคือ Branding ของที่อื่น ตรงนี้มันทำให้เราเปิดกว้างมากขึ้น มันต่อยอดธุรกิจ มีเรื่องเม็ดเงินของการโฆษณาเข้ามา

“เป็นปีแรกที่เราได้สัมผัสถ้วยเอฟเอคัพ เป็นอะไรที่ค่อนข้างตื่นเต้น และสามารถวัดได้ว่าเราอยู่ระดับไหนของเอเชียแล้ว อาจจะไม่ได้ขึ้นหวือหวาเหมือน 3-4 ปีที่ผ่านมา เพราะเราเริ่มรู้ว่าควรลดต้นทุนหรือกำหนดงบประมาณไว้ค่อนข้างคงที่ แต่ในเวลาเดียวกันยังมีศักยภาพที่ต่อสู้กับทีมอื่นๆ ในลีกได้



“นอกจากทีมฟุตบอลแล้ว ตอนนี้เราก็มีทีมวอลเล่ย์บอลด้วย จุดมุ่งหมายของผมคือ Sport Entertainment Company คิดว่าคงจะต่อยอดไปเรื่อยๆ แต่ว่าทุกอย่างก็ต้องอยู่ที่ Business Value ที่จะกลับมาด้วยครับ”

“ความสำเร็จเราไม่ได้มองในเชิงของ Trophy เป็นหลัก เรามองหลายสิ่งหลายอย่างมากกว่า ทางด้าน Marketing เราค่อนข้างที่จะแข็งแรงแล้ว ก็เหลือในสนามเรายอมรับว่ายังทำได้ไม่ถึงที่สุด โดยรวมแล้วผมว่าตอนนี้เราประสบความสำเร็จจากจุดเริ่มต้นมาไกลแล้วครับ ผมคิดว่าการทำงานด้านกีฬามันไม่มีการจบสิ้น ได้หนึ่งแล้วอยากได้สองได้สาม ต้องการเพิ่มขึ้น เพราะฉะนั้นต้องไม่อยู่นิ่ง



“ผมพอใจในสิ่งที่เรากำลังทำครับ ถึงแม้มันจะเป็นการตัดสินใจที่ถูกหรือพลาดก็ตาม เพราะถ้าไม่ตัดสินใจให้เด็ดขาด ผมคงจะต้องคิดกลับไปตลอดว่าทำไมไม่ตัดสินใจให้รู้เรื่องไปเลย



“สุดท้ายผมคิดว่าสิ่งที่ทำให้เราประสบความสำเร็จได้ก็คือเรื่องบุคลากรครับ นอกจากการพัฒนาบุคคลากรที่ร่วมงานกับเราให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เรายังได้พัฒนาตัวเองควบคู่กันไปอีกด้วยครับ”

Mix Magazine Issue.102
Update.08:05:2015

เครดิตสัมภาษณ์พิเศษฉบับเต็ม ตามอ่านได้ครับ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่