ผมเป็นคนที่ขาดความอบอุ่นมาตั้งแต่ยังเด็ก พ่อแม่เสียตั้งแต่เด็ก พี่สาวเลี้ยงมาจนโต ผมเรียนจบม.3 ดีนะยังจบมาได้ แล้วผมก็ไม่ได้เรียนต่อ จึงออกมาทำงานผมก็ใช้เรื่อยเปื่อยไปวันๆ เที่ยวบ้าง กินเหล้าบ้าง ไม่เคยมีเงินเก็บ จนผมอายุ25 ผมอยากจะมีครอบครัวที่อบอุ่นกับเขาบ้าง ผมว่าจะเลิกทำตัวไม่ดี เลิกเที่ยว เลิกติดเกมส์ ผมคบกับ ผญ. คนนึง ผมจึงตั้งหลักปักฐานกับเธอ ผมตั้งใจทำงาน เลิกทำตัวไม่ดี แต่ผมเป็นคนใจร้อนมาก แต่ผมค่อยปรับตัวให้ตัวเองใจเย็นลง เราคบกันสักพัก เธอจึงตัดสินให้ผมมาอยู่ที่ห้องเดียวกัน อยู่กินกันแบบสามีภรรยา เพราะจะได้เก็บเงินไปแต่งเธอเร็วๆ แต่มาวันนึงผมโมโหมาก ผมพลั้งมือทำร้ายเขา พอผมได้สติผมก็รีบขอโทดเธอ เธอบอกให้อภัยผม แล้วผ่านมาอีก5-6เดือน ผมโมโหให้เธอมาก เพราะเวลาทะเลาะเธอไม่ยอมลง เถียงจะเอาชนะลูกเดียว ทุกเรื่องที่เธอทำจะบอกว่าฉันไม่ผิด ทุกทีผมก็ต้องเดินหนี้ให้ใจเย็นลง แต่วันนั้นเอามือตบโต๊ะทานข้าวจนถ้วยชามกระเด็นไปที่พื้น เธอก็เงียบไป เราไม่พูดกัน จนถึงเช้าปกติจะปลุกผมไปอาบน้ำทำงานทุกวัน แต่เช้าวันนั้นเธอไม่ปลุก แต่เธอรีบแต่งตัวไปทำงานก่อนผม ปกติเราจะไปพร้อมกัน พอถึงตอนพักเที่ยง เรานั่งกินข้าวด้วยกัน แล้วอยู่ๆเธอก็ขอเลิกกับผม ผมก็ง้อเขาแล้วนะ แต่เธอจะเลิกท่าเดียว เธอบอกกลัวผมทำร้ายเธออีก ผมเคยสัญญากับเธอแล้วนะว่าผมจะไม่ทำอีก ที่ทำร้ายเธอครั้งนั้นผมเคยพลั้งมือลงไป และผมก็บอกว่าผมรักเธอที่พลั้งมือวันนั้นผมก็เสียใจและนั่งร้องไห้ ได้แต่ขอโทษเธอ พอกินข้าวเสร็จก็แยกกันเข้าแผนกใครแผนกมัน เธอไปหาพี่สาวเธอ ว่าจะเลิกกันกับผมพี่สาวเธอยุให้เลิก แล้วเธอก็บอกกับพี่สาวว่าผมร้ายเธอ พี่สาวเธอก็ยุให้เธอไปแจ้งความกับตำรวจ พี่สาวไม่ชอบขี้หน้าผมอยู่แล้ว ได้ทียุใหญ่เลย บ่ายวันนั้นเธอไม่ทำงาน เธอกลับห้องเหมารถเก็บของทุกอย่างไปหมด เหลือแค่ที่นอน5ฟุตตัวเดียว เครื่องใช้ไฟฟ้าทุกอย่างเธอขนเอาหมด แล้วเธอโทรมาบอกผมตอน4โมงเย็น ว่าย้ายของออกมาแล้วนะ ผมทำอะไรไม่ถูก พอวันหยุดพี่สาวเธอพาไปแจ้งความ ว่าผมขู่จะฆ่าเธอ และทำร้ายร่างกายเธอ ทั้งที่ผ่านมา5-6แล้วนะ และเธอบอกให้อภัยผมแล้ว ผมก็ตามง้อเธออยู่นะ เธอก็ใจอ่อน แต่ยังแยกกันอยู่ ไม่ได้กลับมาอยู่ด้วยกัน พอเธอย้ายห้องออกจากพี่สาวเธอ พี่สาวเธอมีสามีแล้ว ผมก็แอบไปหาเธอทุกวันหยุด เธอบอกไม่อยากให้พี่สาวรู้ จนผ่านเดือนเศษๆผมจับได้ว่าเธอคุยกับผู้ชายคนใหม่ พอผมจับได้ เธอก็บอกว่าเราไม่ใช่เนื้อคู่กัน (อ่อ เรื่องที่ไม่ใช่เนื้อคู่กันเนี่ย แม่กับพี่สาวเธอไปดูดวงกับ พระท่านบอกว่าเราไม่ใช่เนื้อคู่กัน แต่เขาไปดูมาตั้งแต่เราคบกันใหม่ๆโน้นแหละ) พอจับได้ผมก้อจะไปคุยกับเธอให้รู้เรื่องที่ห้องเธอ แต่วันนั้นดึกแล้วล่ะพอผมไปถึง เธอไม่ให้เข้า เธอโทรเรียกพวกๆพี่สาวเธอมา และโทรเรียกตำรวจมา พอตำรวจมาถึงผมดันพูดหยาบๆให้พวกพี่ๆเธอและตำรวจด้วย ก็ผมโมโหนิ ตำรวจจับผมตรวจฉี่หาสารเสพติด ขึ้น1ขีดครับแปลว่าม่วง อะไรว่ะผมงง และตะลึงมาก ตั้งที่ก่อนจะรู้จักกันเธอตั้ง2ปี ผมไม่เคยยุ่งไม่เคยแตะเลยสักครั้ง ผมบอกว่าไม่ได้เสพ เลิกมาจะได้3ปีแล้ว พี่สาวเธอได้ทีบอกให้ไปเอาใบที่แจ้งความไว้ว่าทำร้ายร่างกายมาให้ตำรวจดู ผมบอกเธอว่าไม่เสพ เธอบอกว่าไม่เสพแล้วมีสารได้ไง เธอไม่เชื่อผมเลย...ผมไปนอนอยู่ศูนย์บำบัด3-4วันเขาก็ปล่อยผมออกมา ผมเสียใจมาก และรักเธอมากด้วย ผมก็ไปทำงานปกติ เธอก็เช่นกัน แต่ไม่เคยเจอหน้ากันสักทีครับ เพราะผมชอบไปสาย พอผ่านไปได้ไม่กี่วัน พอไม่มีผมเธอคุยผู้ชายไม่ซ้ำหน้าเลยครับ เธอคงจะได้เสียกันกับใครต่อหลายคนแล้วแหละ เพราะเธอไปคบกับเพื่อนเธอ เพื่อนร่านมาก มีคู่หมั้นอยู่แล้วยังคุย ผช. ไม่ซ้ำหน้าอะครับ เธอก็เลยเสียคนตามเพื่อนเธอไปด้วย ของดีกลายเป็นของเสีย ผมทำยังไงได้ ผมเลยประชดชีวิตผมเอง จากที่เลิกยามานานแล้ว ตอนนี้มีเงินเท่าไรเสพยาอย่างเดียว จาก นน.65 ตอนนี้ผมเหลือแค่ 53 เอง พอผมยิ่งได้ยินว่าแม่เธอหาแฟนให้เธอ แล้วหมั้นกันเลยครับ ผมยิ่งเสียใจไปใหญ่ เพราะผมรักเขามาก ทุกวันเล่นยา งานก็หยุดบ่อย เป็นหนี้ จากที่ไม่เคยเป็นหนี้และไม่ชอบการเป็นหนี้ด้วยครับ ชีวิตผมพังทลาย ความฝันสลายลง โทรมก็โทรม ผมยาวรกรุ้งรั้ง ผมยังหาทางออกไม่ได้เลยครับ ผมรักเขามาก และผมควรต้องทำยังไงดีต่อไปครับ ใจผมมันหดหู่มากเลยครับ
พ่อแม่ไม่มีให้บอกรัก แถมแฟนยังทิ้งอีก!!!