เป็นภาพยนตร์จากฝั่งอังกฤษที่เข้ามาฉายในบ้านเราแบบเงียบๆ แทบจะไม่มีการ PR ให้เห็น ซึ่งอาจจะเป็นเพราะมาจากฝั่งของ Mono Film ที่เน้นโปรโมทข้างนอกน้อยๆ และจัดเต็มในช่อง 29 ส่วนผมก็สวนกระแสวันนี้ที่หลายๆ คนแห่ไปดู Train to Busan กันซะเยอะ ทำให้ในโรงภาพยนตร์ที่ฉายเรื่องนี้มีเพียง 3 คนรวมผมแล้ว
เรื่องย่อคือ Perry (Ewan McGregor) ผู้เป็นเพียงอาจารย์มหาวิทยาลัยที่กำลังอยู่ในช่วงพักร้อนกับ Gail (Naomie Harris) ทนายผู้เป็นภรรยาและมีปัญหาค้างคากันอยู่ ทั้งสองได้ไปเที่ยว Morocco เพื่อสานสัมพันธ์กัน แต่ดูจะไม่ราบรื่น จนกระทั่งการมาปรากฎตัวของ Dima (Stellan Skarsgård) ซึ่งเข้ามาตีสนิทแบบปุปปับ ต่างฝ่ายต่างสานสัมพันธ์กันได้ดีชนิดที่ Perry ยังงงว่า ไอ้นี่มันมาไม้ไหน จนกระทั่งเบื้องหลังของการตีสนิทครั้งนี้คือการเปิดโปงการฟอกเงินของมาเฟียรัสเซียที่กำลังจะไปตั้งฐานการฟอกเงินถึง London โดย Dima เป็นผู้ที่ทำงานให้กับกลุ่มมาเฟียและต้องการถีบตัวเองออกจากวังวนอันเลวร้ายเพื่อรักษาชีวิตและครอบครัวไว้
เนื้อเรื่องดำเนินไปเนิบๆ แต่มีชั้นเชิงในแบบฉบับของภาพยนตร์อังกฤษ โทนภาพยนตร์ที่ดูครึมๆตลอดเรื่อง แต่เพราะครึมๆ นี่แหละ มันช่วยสร้างบรรยากาศกดดันได้ดี และตัวภาพยนตร์ก็แสดงได้ชัดเจนถึงความเหี้ยมของมาเฟียรัสเซียผ่านการแสดงของตัวละครในเนื้อเรื่องออกมาได้เป็นอย่างดี จนทำให้เนื้อเรื่องเร่งเร้าอารมณ์ออกมา จนบางครั้งผมก็เกร็งเพราะลุ้นว่า
จะรอดไหมวะ จะรอดไหมเนี่ย! แถมประทับใจตรงที่ว่า Ewan McGregor ต้องแสดงเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยที่ดูภายนอกเห่ยๆ แต่ข้างในกลับเป็นสุภาพบุรุษ และ Naomie Harris ที่ต้องมาร่วมหัวจมท้ายกับเรื่องนี้ แถมต้องเป็นคนที่แบกภาระชีวิตหนึ่งครอบครัวที่หลบหนีมาเฟีย โดยที่ตัวเองก็ไม่ได้มีประสบการณ์ด้านสายลับมาก่อน
ตัวเด่นของเรื่องนี่ก็ยกให้ Hector (Damian Lewis) เจ้าหน้าที่ MI6 ที่ต้องมาเชือดเฉือนกับภารกิจเพื่อให้การทลายเครือข่ายมาเฟียต้องสำเร็จ แถมเรื่องนี้มีตอนจบที่ครบทั้งเศร้าและประทับใจในเรื่องเดียวกัน จนผมยังอึ้งเลยว่า นี่ผู้หญิงกำกับใช่ไหม? (Susanna White กำกับ)
หากอยากชมภาพยนตร์อังกฤษที่สนุกและลุ้นระทึกเกือบตลอดเรื่อง Our Kind of Traitor จะตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดีครับ
คะแนน 4/5
[CR] Our Kind of Traitor เมื่อพลเรือนไปเกี่ยวข้องกับงานระทึก!
เป็นภาพยนตร์จากฝั่งอังกฤษที่เข้ามาฉายในบ้านเราแบบเงียบๆ แทบจะไม่มีการ PR ให้เห็น ซึ่งอาจจะเป็นเพราะมาจากฝั่งของ Mono Film ที่เน้นโปรโมทข้างนอกน้อยๆ และจัดเต็มในช่อง 29 ส่วนผมก็สวนกระแสวันนี้ที่หลายๆ คนแห่ไปดู Train to Busan กันซะเยอะ ทำให้ในโรงภาพยนตร์ที่ฉายเรื่องนี้มีเพียง 3 คนรวมผมแล้ว
เรื่องย่อคือ Perry (Ewan McGregor) ผู้เป็นเพียงอาจารย์มหาวิทยาลัยที่กำลังอยู่ในช่วงพักร้อนกับ Gail (Naomie Harris) ทนายผู้เป็นภรรยาและมีปัญหาค้างคากันอยู่ ทั้งสองได้ไปเที่ยว Morocco เพื่อสานสัมพันธ์กัน แต่ดูจะไม่ราบรื่น จนกระทั่งการมาปรากฎตัวของ Dima (Stellan Skarsgård) ซึ่งเข้ามาตีสนิทแบบปุปปับ ต่างฝ่ายต่างสานสัมพันธ์กันได้ดีชนิดที่ Perry ยังงงว่า ไอ้นี่มันมาไม้ไหน จนกระทั่งเบื้องหลังของการตีสนิทครั้งนี้คือการเปิดโปงการฟอกเงินของมาเฟียรัสเซียที่กำลังจะไปตั้งฐานการฟอกเงินถึง London โดย Dima เป็นผู้ที่ทำงานให้กับกลุ่มมาเฟียและต้องการถีบตัวเองออกจากวังวนอันเลวร้ายเพื่อรักษาชีวิตและครอบครัวไว้
เนื้อเรื่องดำเนินไปเนิบๆ แต่มีชั้นเชิงในแบบฉบับของภาพยนตร์อังกฤษ โทนภาพยนตร์ที่ดูครึมๆตลอดเรื่อง แต่เพราะครึมๆ นี่แหละ มันช่วยสร้างบรรยากาศกดดันได้ดี และตัวภาพยนตร์ก็แสดงได้ชัดเจนถึงความเหี้ยมของมาเฟียรัสเซียผ่านการแสดงของตัวละครในเนื้อเรื่องออกมาได้เป็นอย่างดี จนทำให้เนื้อเรื่องเร่งเร้าอารมณ์ออกมา จนบางครั้งผมก็เกร็งเพราะลุ้นว่า จะรอดไหมวะ จะรอดไหมเนี่ย! แถมประทับใจตรงที่ว่า Ewan McGregor ต้องแสดงเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยที่ดูภายนอกเห่ยๆ แต่ข้างในกลับเป็นสุภาพบุรุษ และ Naomie Harris ที่ต้องมาร่วมหัวจมท้ายกับเรื่องนี้ แถมต้องเป็นคนที่แบกภาระชีวิตหนึ่งครอบครัวที่หลบหนีมาเฟีย โดยที่ตัวเองก็ไม่ได้มีประสบการณ์ด้านสายลับมาก่อน
ตัวเด่นของเรื่องนี่ก็ยกให้ Hector (Damian Lewis) เจ้าหน้าที่ MI6 ที่ต้องมาเชือดเฉือนกับภารกิจเพื่อให้การทลายเครือข่ายมาเฟียต้องสำเร็จ แถมเรื่องนี้มีตอนจบที่ครบทั้งเศร้าและประทับใจในเรื่องเดียวกัน จนผมยังอึ้งเลยว่า นี่ผู้หญิงกำกับใช่ไหม? (Susanna White กำกับ)
หากอยากชมภาพยนตร์อังกฤษที่สนุกและลุ้นระทึกเกือบตลอดเรื่อง Our Kind of Traitor จะตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดีครับ
คะแนน 4/5