สวัสดีครับ นี้เป็นรีวิวกระทู้แรก ถ้าผิดพลาดตรงไหน ขออภัยล่วงหน้า
ถ้าพูดถึงเกาะกูดไม่ทราบว่าเพื่อนๆนึกถึงอะไรกันบ้าง? จขกท นึกถึง น้ำทะเล หาดทราย และความเป็นส่วนตัว แต่ก็ยังไม่เคยได้สัมผัสซักที จนในที่สุดเมื่อเร็วๆนี้ จขกท มีโอกาสเดินทางไปเกาะกูดเป็นครั้งแรก ถึงแม้จะมีฝนตกบ้าง คลื่นลมแรงบ้าง แต่ก็สวยงามมากๆ (เนื่องด้วย จขกท ไม่ชอบดำน้ำ จึงไม่ได้ซื้อแพ็กเกจใดๆ เลยต้องอยู่แต่ในโรงแรมเป็นหลัก)
ก่อนจะเริ่มรีวิว ขอเพิ่มเติมรายละเอียดสักเล็กน้อยครับ
ปกติแล้วแขกที่เข้าพัก SONEVA KIRI จะนิยมเดินทางด้วยเครื่องบิน จาก กรุงเทพ ลงที่เกาะไม้ซี้ และต่อเรือ อีกเพียง 5 นาที (ซึ่งรวดเร็วมาก)
แต่ จขกท งบน้อย จึงเลือกเดินทางด้วยวิธีที่ประหยัดที่สุด(ตั๋วโปรของ PG)
ก่อนจะอ่านรีวิวต้องบอกก่อนว่า
** รูปภาพต่างๆ จขกท ถ่ายด้วยกล้องมือถือซะเป็นส่วนใหญ่ และฝีมือน้อยนิด อาจทำให้ภาพไม่สวยงามมากมายนัก และคมชัดลดน้อยถอยลงไปบ้างขออภัยไว้ล่วงหน้าครับ
เริ่มต้นการเดินทาง
จากกรุงเทพไปยังสนามบินตราด ด้วยเที่ยวบิน PG 301 เครื่องบินเป็นแบบ ATR72-600 ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1ชั่วโมงก็ถึงสนามบินตราดแล้วครับ
เดินออกมาด้านนอกจะมีจุดให้บริการรถรับส่งระหว่างสนามบินและเกาะช้าง ส่วน จขกท จะเดินทางไปเกาะกูด จึงได้ติดต่อรถเพื่อเดินทางไปยังท่าเรือแหลมศอกไว้ก่อนหน้าแล้วโดยใช้ระยะเวลาประมาณ 60 นาที
ต่อจากนั้นเดินทางด้วยเรืออีก 1ชั่วโมง 30 นาทีโดยประมาณ ก็จะถึงเกาะกูด
เมื่อถึงเกาะแล้ว เราต้องเดินไปยังที่จุดจอดรถเพื่อที่เราจะเดินทางต่อด้วยรถไปยังโรงแรมต่างๆ(เป็นบริการของบริษัทเรือที่มายังเกาะกูดครับ ไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม) โดยใช้อีกเวลาประมาณ 30-45นาที ก็ถึงโรงแรม
สำหรับแขกที่เข้าพักที่ SONEVA KIRI และเดินทางวิธีเดียวกันนี้ จขกท แนะนำให้โทรแจ้งกับทางโรงแรมล่วงหน้าครับ เพราะจุดที่รถรับ-ส่ง คือด้านหลังของโรงแรม(ไม่เหมือนกับการเดินทางด้วยเครื่องบินหรือเรือของทางโรงแรม ซึ่งจะเป็นด้านหน้า)
SONEVA KIRI เป็น 1 ใน 4 โรงแรมในเครือของ SONEVA (ประกอบไปด้วย SONEVA FUSHI, SONEVA IN AQUA, SONEVA KIRI และที่กำลังจะเปิดเร็วๆคือ SONEVA JANI)
Concept ของโรงแรมคือ “No News, No Shoes” เพื่อให้แขกได้สัมผัสถึงพื้นทราย พื้นไม้ ความธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ และเวลาของทางโรงแรมจะเร็วกว่าเวลาปกติ 1 ชั่วโมง เหตุผลก็เพื่อต้องการให้แขกได้พักผ่อนเร็วขึ้น ในทุกๆ Villa ของที่นี้จะมี Butlers ส่วนตัวเรียกว่า Mr./Ms. Fridays
เมื่อเดินทางมาถึง MS Fridays จะมาแนะนำตัวอย่างเป็นทางการ และแนะนำสถานที่ต่างๆภายในโรงแรมเช่น สปา, Cinema Paradiso, ร้านอาหารต่างๆและสุดท้ายจะเป็นการเช็คอินที่ Villa ที่เข้าพัก (จขกท พักห้อง Bayview Pool Villa Suite)
เริ่มจากบริเวณด้านหน้าห้องพักและที่จอดรถของแต่ละ Villa (แต่ละ Villa จะมีรถส่วนตัวเพื่อใช้เดินทางภายในโรงแรมนะครับ)
เข้ามาภายในบริเวณ Villa (ห้องใหญ่มาก จน จขกท ยืนอึ้งไปพักนึง)
ภายในห้องนอนครับ
แต่ละ Villa จะได้รับ โทรศัพท์มือถือเพื่อใช้ติดต่อกับ Ms. Fridays ครับ
ระเบียงหน้าห้องนอนครับ จะเห็นวิวทะเลไกลมาก
Living Room
ที่นี้ไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำดื่มนะครับ มีให้เยอะมาก แทบจะทุกห้อง ส่วนตู้เย็นมี 2 ที่นะครับ ห้องนอน และ บริเวณ Living Room
ส่วนต่อมาซ้ายมือของห้องนอนจะเป็น อ่างน้ำกลางแจ้งและห้องแต่งตัวครับ (ขวามือเป็นห้องน้ำ ห้องแต่งตัว ส่วนห้องซ้ายมือจะเป็น อ่างล้างหน้า)
สระว่ายน้ำภายใน Villa ครับ สระที่นี้ค่อนข้างใหญ่(ใหญ่ที่สุดที่เคยพักมา)
อีกมุม
สำหรับมื้อค้ำวันนี้ จองโต๊ะไว้ที่ห้องอาหาร THE VIEW ซึ่งเป็น 1 ใน ห้องอาหารของทางโรงแรม (ห้องอาหารที่นี้ ประกอบไปด้วย THE VIEW, TREEPOD, BENZ’s และ SO SPIRITED) แต่เนื่องจากวันที่เข้าพักลมแรงมาก (โซนด้านหน้าปิดให้บริการ) จึงต้องย้ายมานั้งที่ด้านใน ฝั่ง BAR แทน แต่ก็สามารถสั่งอาหารมาทานที่นี้ได้เช่นกัน
รูปอาหารไม่ได้ลงนะครับ เพราะไม่ชัดมากๆ
หลังจากทานอาหารเรียบร้อยแล้ว กลับมาที่ห้องพักกันครับ ต้องบอกก่อนว่าระหว่างทางกลับค่อนข้างมืดมาก ต้องใช้ความระมัดระวังมากๆครับ
บรรยากาศที่ห้องยามค่ำคืน
[CR] First time "KOH KOOD 3 วัน 2 คืน กับ SONEVA KIRI และ AWAY เกาะกูด"
ถ้าพูดถึงเกาะกูดไม่ทราบว่าเพื่อนๆนึกถึงอะไรกันบ้าง? จขกท นึกถึง น้ำทะเล หาดทราย และความเป็นส่วนตัว แต่ก็ยังไม่เคยได้สัมผัสซักที จนในที่สุดเมื่อเร็วๆนี้ จขกท มีโอกาสเดินทางไปเกาะกูดเป็นครั้งแรก ถึงแม้จะมีฝนตกบ้าง คลื่นลมแรงบ้าง แต่ก็สวยงามมากๆ (เนื่องด้วย จขกท ไม่ชอบดำน้ำ จึงไม่ได้ซื้อแพ็กเกจใดๆ เลยต้องอยู่แต่ในโรงแรมเป็นหลัก)
ก่อนจะเริ่มรีวิว ขอเพิ่มเติมรายละเอียดสักเล็กน้อยครับ
ปกติแล้วแขกที่เข้าพัก SONEVA KIRI จะนิยมเดินทางด้วยเครื่องบิน จาก กรุงเทพ ลงที่เกาะไม้ซี้ และต่อเรือ อีกเพียง 5 นาที (ซึ่งรวดเร็วมาก)
แต่ จขกท งบน้อย จึงเลือกเดินทางด้วยวิธีที่ประหยัดที่สุด(ตั๋วโปรของ PG)
ก่อนจะอ่านรีวิวต้องบอกก่อนว่า
** รูปภาพต่างๆ จขกท ถ่ายด้วยกล้องมือถือซะเป็นส่วนใหญ่ และฝีมือน้อยนิด อาจทำให้ภาพไม่สวยงามมากมายนัก และคมชัดลดน้อยถอยลงไปบ้างขออภัยไว้ล่วงหน้าครับ
เริ่มต้นการเดินทาง
จากกรุงเทพไปยังสนามบินตราด ด้วยเที่ยวบิน PG 301 เครื่องบินเป็นแบบ ATR72-600 ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1ชั่วโมงก็ถึงสนามบินตราดแล้วครับ
เดินออกมาด้านนอกจะมีจุดให้บริการรถรับส่งระหว่างสนามบินและเกาะช้าง ส่วน จขกท จะเดินทางไปเกาะกูด จึงได้ติดต่อรถเพื่อเดินทางไปยังท่าเรือแหลมศอกไว้ก่อนหน้าแล้วโดยใช้ระยะเวลาประมาณ 60 นาที
ต่อจากนั้นเดินทางด้วยเรืออีก 1ชั่วโมง 30 นาทีโดยประมาณ ก็จะถึงเกาะกูด
เมื่อถึงเกาะแล้ว เราต้องเดินไปยังที่จุดจอดรถเพื่อที่เราจะเดินทางต่อด้วยรถไปยังโรงแรมต่างๆ(เป็นบริการของบริษัทเรือที่มายังเกาะกูดครับ ไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม) โดยใช้อีกเวลาประมาณ 30-45นาที ก็ถึงโรงแรม
สำหรับแขกที่เข้าพักที่ SONEVA KIRI และเดินทางวิธีเดียวกันนี้ จขกท แนะนำให้โทรแจ้งกับทางโรงแรมล่วงหน้าครับ เพราะจุดที่รถรับ-ส่ง คือด้านหลังของโรงแรม(ไม่เหมือนกับการเดินทางด้วยเครื่องบินหรือเรือของทางโรงแรม ซึ่งจะเป็นด้านหน้า)
SONEVA KIRI เป็น 1 ใน 4 โรงแรมในเครือของ SONEVA (ประกอบไปด้วย SONEVA FUSHI, SONEVA IN AQUA, SONEVA KIRI และที่กำลังจะเปิดเร็วๆคือ SONEVA JANI)
Concept ของโรงแรมคือ “No News, No Shoes” เพื่อให้แขกได้สัมผัสถึงพื้นทราย พื้นไม้ ความธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ และเวลาของทางโรงแรมจะเร็วกว่าเวลาปกติ 1 ชั่วโมง เหตุผลก็เพื่อต้องการให้แขกได้พักผ่อนเร็วขึ้น ในทุกๆ Villa ของที่นี้จะมี Butlers ส่วนตัวเรียกว่า Mr./Ms. Fridays
เมื่อเดินทางมาถึง MS Fridays จะมาแนะนำตัวอย่างเป็นทางการ และแนะนำสถานที่ต่างๆภายในโรงแรมเช่น สปา, Cinema Paradiso, ร้านอาหารต่างๆและสุดท้ายจะเป็นการเช็คอินที่ Villa ที่เข้าพัก (จขกท พักห้อง Bayview Pool Villa Suite)
เริ่มจากบริเวณด้านหน้าห้องพักและที่จอดรถของแต่ละ Villa (แต่ละ Villa จะมีรถส่วนตัวเพื่อใช้เดินทางภายในโรงแรมนะครับ)
เข้ามาภายในบริเวณ Villa (ห้องใหญ่มาก จน จขกท ยืนอึ้งไปพักนึง)
ภายในห้องนอนครับ
แต่ละ Villa จะได้รับ โทรศัพท์มือถือเพื่อใช้ติดต่อกับ Ms. Fridays ครับ
ระเบียงหน้าห้องนอนครับ จะเห็นวิวทะเลไกลมาก
Living Room
ที่นี้ไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำดื่มนะครับ มีให้เยอะมาก แทบจะทุกห้อง ส่วนตู้เย็นมี 2 ที่นะครับ ห้องนอน และ บริเวณ Living Room
ส่วนต่อมาซ้ายมือของห้องนอนจะเป็น อ่างน้ำกลางแจ้งและห้องแต่งตัวครับ (ขวามือเป็นห้องน้ำ ห้องแต่งตัว ส่วนห้องซ้ายมือจะเป็น อ่างล้างหน้า)
สระว่ายน้ำภายใน Villa ครับ สระที่นี้ค่อนข้างใหญ่(ใหญ่ที่สุดที่เคยพักมา)
อีกมุม
สำหรับมื้อค้ำวันนี้ จองโต๊ะไว้ที่ห้องอาหาร THE VIEW ซึ่งเป็น 1 ใน ห้องอาหารของทางโรงแรม (ห้องอาหารที่นี้ ประกอบไปด้วย THE VIEW, TREEPOD, BENZ’s และ SO SPIRITED) แต่เนื่องจากวันที่เข้าพักลมแรงมาก (โซนด้านหน้าปิดให้บริการ) จึงต้องย้ายมานั้งที่ด้านใน ฝั่ง BAR แทน แต่ก็สามารถสั่งอาหารมาทานที่นี้ได้เช่นกัน
รูปอาหารไม่ได้ลงนะครับ เพราะไม่ชัดมากๆ
หลังจากทานอาหารเรียบร้อยแล้ว กลับมาที่ห้องพักกันครับ ต้องบอกก่อนว่าระหว่างทางกลับค่อนข้างมืดมาก ต้องใช้ความระมัดระวังมากๆครับ
บรรยากาศที่ห้องยามค่ำคืน
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น