(CR) แนะนำเครื่องรูดบัตรเครดิต mPOS ของ KBANK แบบใหม่ เชื่อมต่อด้วย Bluetooth ครับ

ปกติผมก็ขายสินค้าประเภทไอทีอยู่ ยังไม่เคยมีเครื่องรูดบัตรเครดิต เลยลองหาข้อมูลว่าแบบไหนที่เหมาะสมกับตัวเอง ตอนแรกที่รู้จักก็จะเป็นเครื่องรูดบัตรเครดิตที่อยู่ตามร้านค้าต่างๆ ที่เค้าเรียกว่า ECD ซึ่งจะมีทั้งแบบใช้สายโทรศัพท์ และแบบใช้ SIM Card มือถือ (พกพาไปข้างนอกได้) ซึ่งแบบนี้จะดีในแง่ของความน่าเชื่อถือ เพราะคนที่ใช้บัตรเครดิต ก็เคยใช้งานเครื่องรูดแบบ ECD เป็นประจำอยู่แล้ว แต่แบบนี้คงจะต้องมียอดการรูดให้กับทางธนาคารเป็นประจำ จึงจะไม่เสียค่าบริการรายเดือน เนื่องจากปกติที่ขายสินค้าอยู่ รับเป็นเงินสด มีลูกค้าถามเรื่องชำระด้วยบัตรเครดิตมาบ้าง จึงไม่แน่ใจว่าจะมีลูกค้าใช้เยอะจริงหรือเปล่า พอดีมาเห็นเพื่อนใช้เครื่องรูดบัตรเครดิตแบบ mPOS ที่ใช้ร่วมกับ Smart Phone หรือ Tablet จึงสนใจและลองหาข้อมูลดู ส่วนใหญ่จะเห็นแต่โฆษณาขายของ ไม่ค่อยเห็นการแนะนำการใช้งานซักเท่าไหร่ว่ามันทำงานยังไง วันนี้ได้สมัครใช้ mPOS แล้ว จึงมาแนะนำข้อมูลให้ เผื่อจะสนใจครับ

เครื่อง ECD ที่เคยเห็นทั่วๆ ไปครับ


mPOS ปกติแล้วจะเชื่อมต่อผ่านการเสียบช่องใดช่องหนึ่งของ Smart Phone หรือ Tablet ทำให้ mPOS จึงมีหลายรุ่น เพื่อใช้กับ Smart Phone หรือ Tablet หลากหลายยี่ห้อ ทั้ง Andorid และ IOS ซึ่งต้องระบุว่าจะนำไปใช้กับยี่ห้อหรือรุ่นไหน ทางธนาคารจึงจะจัดให้ใช้งานถูกต้อง



ตอนสมัครที่แรกผมก็แจ้งว่าจะนำไปใช้งานกับเครื่องของ Android แต่พอ KBANK นำมาให้ กลายเป็นรุ่นใหม่ (เค้าแจ้งว่าเพิ่งออกมาให้บริการเป็นรุ่นแรกๆ ประเภทหนูทดลอง) ซึ่งเป็นแบบ Bluetooth หน้าตาและขนาดคล้ายๆ กับเครื่องคิดเลขแบบพกพาเลยครับ



ข้อดีแบบ Bluetooth คือ ไม่มีข้อจำกัดเรื่องช่องเชื่อมต่อที่ไม่เหมือนกันของ  Smart Phone หรือ Tablet ยี่ห้อต่างๆ ดังนั้นมันควรจะใช้ได้กับทุกรุ่นที่มี Bluetooth (เจ้าหน้าที่เค้าบอกอย่างนี้) ซึ่งปกติ mPOS 1 เครื่อง สามารถลงทะเบียนใช้งานกับ Smart Phone หรือ Tablet ได้ถึง 3 เครื่อง

ขั้นตอนใช้งาน

1. ต้องมีอุปกรณ์หรือ App ตามรูปด้านล่างนี้ก่อนครับ



2. การเชื่อมต่อ แบบ Bluetooth เริ่มต้นเปิดเครื่อง mPOS และ App K-PowerPay เมื่อยังไม่ได้เชื่อมต่อ หน้าจอจะขึ้นว่า "Your reader is disconnected" มุมขวาบนจะมีสัญลักษณ์ Bluetooth อยู่ ให้กดเพื่อเชื่อมต่อจะมีเลขเครื่องและ MAC Address ของ mPOS ขึ้นมา ให้เลือก



เมื่อเลือกเชื่อมต่อกับ mPOS ได้แล้ว สัญลักษณ์ Bluetooth จะขึ้นเป็นสีขาว และตัวเลขเครื่องจะขึ้นมา ก็เข้า Log in ได้เลย



3. เริ่มต้นทำรายการชำระเงิน ขั้นตอนดูตามรูปเลยครับ
















เพียงเท่านี้ก็เรียบร้อยแล้วครับ สำหรับร้านค้าตอนค่ำๆ ก็สรุปยอดขายส่งให้กับทางธนาคาร แล้ววันต่อมาเงินก็เข้าบัญชีให้เลยครับ

คำถามที่หลายคนอาจจะสงสัย รวมถึงผมด้วย ก็พยายามตั้งคำถามไว้เหมือนกัน อาจจะไม่ครบถ้วน เอาไว้เป็นแนวทางแล้วกันครับ

1. ใบสลิปให้กับลูกค้าล่ะ มีหรือเปล่า
- ถ้าเป็นกระดาษเหมือนเครื่องรูด ECD คงจะไม่มี จะมีแต่ SMS และ email ส่งไปตามเบอร์ที่ลูกค้ากรอกในตามรูปข้างบนครับ

2. ลายเซ็นต์ลูกค้า ที่เซ็นต์บน Smart Phone หรือ Tablet มันจะเหมือนเหรอ
- มันอาจจะไม่เหมือนเป๊ะ เหมือนกับที่เซ็นต์ด้วยปากกา แต่อย่างน้อยมันก็จะต้องมีความคล้ายคลึงกันบ้าง ถ้าลูกค้าต้องการเซ็นต์ใหม่ ก็สามารถทำได้ครับ ในส่วนตรงนี้ผู้ขายก็ต้องมีจรรยาบรรณในการขายด้วยเหมือนกัน ควรจะตรวจสอบชื่อบนบัตรและลายเซ็นต์ด้วย จริงๆ แล้วการใช้งานก็คล้ายๆ กับเครื่อง ECD แหละครับ

3. ถ้ารายการอนุมัติไปแล้ว อาจจะมีการผิดพลาดต้องยกเลิกรายการทำได้มั๊ย
- ทำได้ครับ รายละเอียดขอไม่อธิบายแล้วกัน จะมีเจ้าหน้าที่แนะนำให้ตอนได้เครื่องครั้งแรกครับ

4. บัตรเครดิตที่รับได้มีอะไรบ้าง
- ที่แน่ๆ คือบัตรเครดิตที่มีสัญลักษณ์ VISA และ MASTERCARD เป็นรุ่นที่มี chip แล้วเท่านั้น ถ้ามีเฉพาะแถบแม่เหล็กอย่างเดียวจะใช้ไม่ได้ครับ ส่วนเดบิตและบัตรอื่นๆ ยังไม่ได้ถามครับ

5. ร้านค้ามีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง ค่าธรรมเนียมในการรูดเท่าไหร่
- ค่าเครื่อง mPOS 2,500 บาท จ่ายครั้งแรกครั้งเดียว แต่แบบ Bluetooth เห็นเจ้าหน้าที่ว่าจะปรับราคาเป็น 3,900 บาทนะ (อันนี้ไม่แน่ใจ) แต่พอดีผมเป็นรุ่นแรกๆ อาจจะได้ราคาพิเศษ ส่วนค่าธรรมเนียมในการรูด

บัตรเครดิตของ KBANK ทุกแบบ ทางธนาคารจะหัก 1.6% + VAT 7% (ของค่าธรรมเนียมนะ ไม่ใช่ค่าสินค้า)
บัตรเครดิตของธนาคารอื่น ทางธนาคารจะหัก 2.2% + VAT 7% (ของค่าธรรมเนียมนะ ไม่ใช่ค่าสินค้า)

6. มีข้อจำกัดเรื่องวงเงินในการรูดมั๊ย
- เจ้าหน้าที่บอกว่า เริ่มต้นทางธนาคารตั้งค่าไว้ว่าเครื่อง mPOS จะรูดบัตรเครดิตของลูกค้าได้ครั้งละไม่เกิน 20,000 บาท แต่ไม่จำกัดจำนวนครั้ง หมายความว่า ถ้าจะซื้อสินค้าราคา 30,000 บาท ก็รูด 2 ครั้ง คือ 20,000 บาท กับ 10,000 บาท เป็นต้น และร้านค้าก็มีลิมิตเหมือนกันคือรับชำระได้ไม่เกิน 300,000 บาทต่อเดือน ถ้าร้านค้าขายดีก็สามารถยื่นเอกสารเพื่อขอขยายวงเงินในการรูดบัตรต่อครั้ง และ วงเงินรับชำระต่อเดือน ได้ครับ

7. นอกจากรูดเต็มจำนวน แล้วลูกค้ารูดแบบผ่อนได้หรือเปล่า
- ทำได้ครับ แต่ได้เฉพาะบัตรเครดิตของ KBANK เท่านั้น ส่วนของที่อื่น คงจะต้องไปติดต่อเอง
กรณีที่ผ่อน 0% ได้แค่ 3 เดือน (เฉพาะบัตรเครดิตของ KBANK) ทางร้านค้าเสียค่าธรรมเนียม 3% + VAT 7% (ของค่าธรรมเนียมนะ ไม่ใช่ค่าสินค้า)
กรณีที่ผ่อน 4-6 เดือน ลูกค้าจะเสียดอกเบี้ยเดือนละ 0.8% ส่วนทางร้านค้าเสียค่าธรรมเนียม 1.5% + VAT 7% (ของค่าธรรมเนียมนะ ไม่ใช่ค่าสินค้า)

8. การสมัครจำเป็นต้องมีหน้าร้านหรือทะเบียนการค้ามั๊ย
- ไม่จำเป็นครับ ใช้ชื่อบุคคลธรรมดาก็ได้ แต่ต้องอธิบายได้ว่า ขายอะไร และอยู่ในเงื่อนไขของธนาคาร

ข้อมูลต่างๆ ได้มาจากการสอบถามกับเจ้าหน้าที่ KBANK นะครับ แล้วนำมาเรียบเรียง ผมอาจจะเข้าใจตรงไหนคลาดเคลื่อน ก็ขออภัยด้วย เอาไว้ดูเป็นแนวทาง เผื่ออยากจะมีเครื่องรูดบัตรเครดิตไว้ใช้งานครับ

*** ธนาคารอื่นก็มีนะครับ ลองสอบถามดูได้ น่าจะมีลักษณะที่คล้ายๆ กันครับ

ยิ้ม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่