เข้าเรื่องเลยนะคะคือเราแอบไปทำจมูก แต่เราเก็บตังเอง พ่อแม่เราไม่ค่อยชอบเท่าไรนัก แต่ด้วยความที่อยากจะสวยอะเนอะ เลยคิดว่าทำไปแล้วมันก็ไม่เป็นอะไรหรอก แต่กลับสร้างความมั่นใจให้กับตัวเองซะด้วย เราเลยเริ่มหาข้อมูลเพื่อความมั่นใจ และเราก็ได้ที่นึ่งแถวๆๆที่เราพักอยู่ เราเลยจะไปทำ แต่ช้าก่อนเราก็เริ่มลังเลใจขึ้น เพราะมีเพื่อนแนะนำมาว่า อีกทีก็ดีนะ เราไม่ขอบอกนะที่ไหน แต่เราขอใบ้ๆๆเพื่อเพื่อนๆกำลังสนใจคลินิคนี้อยู่ คือ แถวลาดพร้าว และเราก็หาข้อมูล หารีวิวต่างๆ เราก็เห็นว่ามีคนดังๆไปทำอยู่ เราจึงเริ่มมั่นใจและโชคดีศรีสวัสดิ์ ตอนช่วงนนั้นมีโปรเราเลยไม่ต้องคิดอะไรเยอะ เราเลยวางมัดจำและจองวันไปทำเลยจ้าาา(ความสวยรอไม่ได้) พอวันทำมาถึง เราก็รุ้สึกดีนะ เหมือนจะได้ลมหายใจไหม่ พอเราไปถึงที่คลินิค หมอก็ให้นั่งรอ รอ และก็ รอ เพราะคนเยอะมากเลยทีเดียว พอถึงคิวเราหมอก็แนะนำต่างๆ และสรุปก็คือต้องเหลาฮัมออก เพราะกระดูกเรามันเอียงถ้าไม่เหลามันจะเอียง อันนี้เราไม่คิดอะไรเพราะมันเป็นเรื่องปกติ พอถึงคิวทำ หมอทำแปปเดียวประมาน 50 นาทีได้ แอบเจ็บตอนฉีดยาชา เพราะฉีดไป 6เข็ม!!! คุณพระคุณเจ้า ผ่านไป 50นาทีเราก็ว่า มันตึงๆ และปากตึง มันเป็นเรื่องปกตินั้นแหละ พอกลับมาถึงหอเราก็รีบนอนพัก เพราะเพลียมาก ตอนนั้นหน้าเปลี่ยนไปมาก ( อยากดูรูปเรายินดี แต่หลังไมค์ดีหว่า ) วันแรกเราเข้าใจว่ามันอาจจะเป็นแบบนี้ พอวันที่สองก็มีอาการบวมแลละมีรอยช้ำ ที่เราโชคดีที่ว่าเราไม่ช้ำมาก เพราะเราประคบเย็นทุกวัน และบ่อยพอควรเลย พอวันที่สาม เราก็เริ่มรู้สึกว่ามันยุบนะ แต่รู้สึกว่ามันตึงๆตรงปลายและมีอาการแดง หน้าเริ่มเปลี่ยนละ มองไกลๆแอบเหมือน เมียอวตานในร่างคน แต่เราเข้าใจแหละว่าต้องเป็นแบบนี้ แต่ตอนนั้นเริ่มจิตตกละ เพราะคิดว่า มันเริ่มไม่เหมือนเดิมแล้วววว (กลัวพ่อแแม่ตกใจ ) แต่ตอนนั้นใจก็สู้นะ เพราะคิดว่า เดียวมันอาจจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม วันที่สี่ วันดีมากอย่างที่เราบอกว่า เราประคบบ่อยวันนั้นมือเจ้ากรรม ดันไปกระแทกกับปลายจมูกรู้สึกได้ถึงเหมือนการเอานิ้วก้อยไปเตะขอบโต๊ะ ตอนนั้นจมูกเราก็เริ่มแดงขึ้นมานิดๆๆ ละ ปลายจมูกเหมือนกับมีอะไรทิ่มออกมาก เราเริ่มละ เริ่มอีกแล้วจ้า แต่ก็ปล่อยผ่าไป พอมาถึงวันที่ห้า ปลายจมูกเราตึงไปกว่าเดิมอีกสันเริ่มเจ็บขึ้นมานิดๆ เป็นสิวเจ้ากรรมนายเวรก็ได้ขึ้นตรงที่เย็บไหมพอดิบพอดี อยากแกะเอามากๆๆเลย แต่ทำได้แค่คอยประคองไป ตอนนั้นเราเลิกประคบเย็นละ แต่ระว่างคิ้วเรายังบวมอยู่ และพอตอนเย็นๆ เรารู้สึกว่าตามันตึงขึ้นอะ และปลายก็เช่นกัน พอวันที่ หกเราเลยปรึกษาเพื่อนเราว่า ยังไงดีหน้าเปลี่ยนไปจากเดิมเยอะไหม เพื่อนเราบอกก็เปลี่ยนนะ แต่มันยังไม่ยุบรึป่าวเลยไม่เหมือนเดิม แต่ตอนนั้นเราเริ่มคิดล่ะว่า เราต้องเอาออกเพราะเริ่มไม่สบายใจแล้ว รู้สึกจมูกเจ็บอย่างบอกไม่ถูก เราเลยหาข้อมูลคืนนั้น และไปปรึกษาหมอที่เราจะเอาออก เลย เพราะรู้สึกว่าไม่ไหวแล้ว เจ็บเกินไปแล้ว และแล้วเราก็ได้คลินิกที่เราจะไปเอาออก วึ่งเป็นคลินิกที่เราจะไปเอาเข้าตั้งแต่แรกนั้นแหละ ชื่อว่า รังสิตเวชกรรมคลินิก เราเลยคิดว่าวัน พน เราจะไปปรึกษาก่อน พอเราไปถึงไม่มีคิวเลยนะ พี่พยาบาลน่ารักและสวยมาก และพี่พยาบาลก็ถามว่าทำไมเอาออกล่ะ พึ่งทำมาเองเสียดายแทน เราก็บอกว่าไม่ไหวพี่มันเจ็บเกินไปอะ ซึ่งดูภายนอกอะไม่เป็นอะไรนะ ดูไม่แปลกเท่าไร แต่แล้วพอถึงเวลาขึ้นเตียงเราก็ต้องตัดไหมก่อนเพราะเรายังไม่ได้ตัด หมอน่ารักนะ มือเบาแสนเบา หมอฉีดยาชาไปแค่3เข็ม แต่รู้สึกเหมือนเข็มเดียว เพราะเจ็บแค่เข็มแรก แต่ไม่มากเหมือนตอนทำ และรอจนกว่าจะชาแบะฉีดเข็มที่สอง เราก็คุยกับหมอ หมอก็ถามต่างๆนาๆ ไม่เครียด แล้วก็บอกว่ามีหลายเคลสนะที่ไปทำที่เดียวกับเราแล้วเป็นแบบนี้ แบบเราคือ จมูกเราอักเสบ เลือกของเราจะเป็นเลือดที่คลั่ง มันจะดำๆ หมอบอกว่าเนื้อมันยุยๆ ดีนะที่เราเอาออกก่อนเพราะทิ้งไว้นานอักเสบยิ่งกว่านี้แน่ๆ พอยาชาเริ่มแพลงฤทธิ์ หมอก็เริ่มลงมือ เราเจ็บนิดๆแล้วเราก้อ ร้องโอ๊ย หมอก็บอกว่าเสดแล้ว เรารู้สึกว่าแปปเดียว ไม่ถึงนาที เราก็แบบ ห่ะเสดแล้วหรอ ไวแท้ไม่เจ็บมากเลยหมอบอกจมูกอักเสบนะเยบแค่สองเข็มให้เลือกไม่ดีมันไหลออกมา เราลุกมานั่งได้แบบไม่มึนเลย รู้สึกจมูกสบายมาก และพยาบาลก็ให้มานอนประคบเย็น ก็อธิบายให้ฟัง ว่าอาจจะมีเลือดออกวันแรกให้ค่อยเช็ดเอา และก็ดูแล เรากลับมา เราส่องกระจก หน้าเรากลับมาเหมือนเดิม เหมือนตอนคอดจากท้องแม่ออกมา เราเพิ่งไปถอดมาวันนี้เอง เดียวจะมาบอกอาการเรื่อยๆๆนะ สำหรับใครที่จะทำ
มาแชร์ประสบการณ์การทำจมูกและถอดซิลิโคนออกใน 7วัน