สวัสดีค่า วันนี้เราอยากจะมาแบ่งปันและแนะนำประสบการณ์ซาฟารีในเคนย่าให้เพื่อนๆทุกคนตามมาเที่ยวด้วยกันนะคะ เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาเรามีโอกาสได้ไปเที่ยวประเทศเคนย่า ซึ่งจริงๆแล้วคือไปงานแต่งงานของหลานสาวคนสวยคนแฟนค่ะ ขอเล่านิดนึงนะคะ คือครอบครัวนี้เป็นครอบครัวอังกฤษแท้ แต่พ่อแม่ของเจ้าสาวย้ายมาอยู่เคนย่าและทำกิจการโรงแรมรีสอร์ทแบบซาฟารีตั้งแต่วัยรุ่น แต่ลูกสาวลูกชายก็ไปเรียนที่อังกฤษ จะกลับมาเคนย่าบ้างตอนซัมเมอร์เพื่อมาช่วยกิจการค่ะ พอจะแต่งงานก็เลยเลือกแต่งงานที่นี้ ทำให้ญาติ เพื่อนพ้อง พี่น้องทุกคนต้องเดินทางมาจากต่างประเทศเพื่อมาร่วมงานนี้ค่ะ
เข้าเรื่องเลยละกันเนอะ เราเดินทางไปเมือง Isiolo ซึ่งเป็นเมืองเกษตรกรรมทางภาคตะวันออกของเคนย่าค่ะ และยังมีการท่องเที่ยวแบบซาฟารีให้นักท่องเที่ยวได้มาชมด้วย โดยส่วนใหญ่แล้วการท่องเที่ยวและโรงแรมในแถบนี้จะมีเจ้าของเป็นชาวต่างชาติ ซึ่งเป็นชาวอังกฤษซะส่วนใหญ่ค่ะ
โดยเราไปถึงสนามบินเคนย่าในเมืองไนโรบี โดยสายการบินเคนย่าแอร์ไลน์ ซึ่งเป็นสายการบินเดียวที่ไม่ต้องแวะพักเครื่องค่ะ ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 9 ชั่วโมงจากกรุงเทพ มาถึงไนโรบีประมาณ ตี5 เวลาของเคนย่าค่ะ (ซึ่งช้ากว่าไทยประมาณ4ชั่วโมง) อากาศกำลังเย็นค่ะ แต่ไม่หนาวมาก พอถึงปุ๊บก็ออกเดินทางไปเมือง Isiolo ปั๊บ เราเดินทางโดยแท็กซี่ค่ะ ซึ่งหาไว้ก่อนหน้าอยู่แล้ว เสียค่าใช้จ่ายประมาณ 6,000 บาท ใช้ระยะเวลาเดินทาง 6 ชั่วโมงค่ะ
เรามาถึงเมือง Isiolo เกือบบ่ายโมงเลยค่ะ เวลาอาหารกลางวันพอดี บรรยากาศแรกที่เข้ามาถึงที่พักนี้คือแบบผ่อนคลายมากค่ะ อยู่กันแบบครอบครัว ซึ่งจริงๆแล้วถ้าไม่ใช่ช่วงเวลาที่เรามีงานแต่งงานคงจะเต็มไปด้วยแขกที่มาพัก แต่ตอนนี้ลูกสาวแต่งงานทั้งที คุณแม่เลยขอไม่รับแขกที่จองประมาณ 2 อาทิตย์เลยค่ะ เราไม่ได้ถ่ายรูปบรรยากาศมามาก เพราะเกรงใจและไม่อยากจับโทรศัพท์ด้วย เดี๋ยวจะโดนผู้ใหญ่ว่า ห้าๆ เลยขออนุญาตนำรูปบรรยากาศส่วนต่างๆ จากทางเว็บไซต์ มาให้เพื่อนๆได้ชมกันนะคะ สามารถเข้าไปดูรูปเพิ่มเติมหรือถ้าใครมีโอกาสได้ไปเที่ยวก็สามารถจองไปพักได้น้า
http://lewawilderness.com/ (ไปอยู่ฟรี กินฟรีมาสองอาทิตย์ กลับไทยมาช่วยเค้าโปรโมทหน่อย แหะๆ)
ส่วนนี้คือพื้นที่ส่วนกลางของรีสอร์ทค่ะ พ่อกับแม่ของเจ้าสาวก็จะพักอาศัยในส่วนนี้ค่ะ
พื้นที่ตรงนี้เป็น Living area ค่ะ ให้แขกที่เข้ามาพักได้นั่งคุย แลกเปลี่ยนบทสนทนากัน
ส่วนนี้เป็นส่วนรับประทานอาหารค่ะ โดยอาหารทั้ง3มื้อ จะรวมอยู่ในราคาทั้งหมดของผู้ที่เข้าพักต้องจ่าย ไม่คิดเพิ่มค่ะ เป็นส่วนที่เราชอบที่สุด เพราะ แขกหรือผู้ที่เข้าพักทุกคนต้องมานั่งโต๊ะเดียวกัน กินอาหารร่วมกันเหมือนครอบครัวค่ะ
นี้คือห้องพักของเราค่าาา ห้องหมายเลข 7 พี่สาวแฟนจัดห้องนี้ให้เราเลย วิวสวยมากกก แต่ต้องระวังลิงค่ะ นางเข้ามาทางหลังคา แอบมากินช๊อคโกแลตที่ยังไม่ได้แกะห่อของเรา นางฉลาดมากค่ะ ลิงแอฟริกา!
พื้นที่ส่วนด้านระเบียงนอกห้องค่ะ
ต่อจากนั้นระหว่างรอให้ถึงวันงาน เราก็ทำกิจกรรมต่างๆค่ะ โดยส่วนใหญ่จะเป็นการ safari drive games ให้เราไปนั่งรถส่องสัตว์ค่ะ จะไปกี่รอบต่อวันก็ได้ ไปทู๊กกกกกวันเลยก็ได้ ถ้าไม่เบื่อซะก่อน แต่เราไม่เบื่อเลยค่ะ เพราะ เราไม่สามารถรู้ได้ว่าวันนี้เราจะเจออะไร เราจะเจอสิงโต เสือ ช้าง ม้า อะไรหรือไม่ ในแต่ละวันนี้วัดกันที่ดวงล้วนๆเลยค่ะ แต่บางวันก็ต้องพักเพราะไม่ไหวจริงๆกับการนั่งรถ คือพื้นที่มันขรุขระมาก ท้องไส้ปั่นป่วน บางครั้งหนักมากจนอยากจะอ้วกเลยค่ะ drive games ในแต่ละครั้งจะใช้เวลา 2-3 ชั่วโมงค่ะ แล้วแต่ความพึงพอใจของเพื่อนร่วมชะตากรรม ห้าๆ
วันแรกก็โชคดีเลย สัตว์ตัวแรกที่ได้เห็นวันนี้ คือ สิงโต ค่าาาาาาา ตื่นเต้นมาก เหมือนรู้สึกอยู่ในรายการสาระคดีเลย ห้าๆ
ต่อมาเป็นแรด มาเป็นครอบครัวเลยค่ะ เพื่อนๆเห็นกี่ตัวเอ่ยยยย
หลานๆเด็กๆกำลังส่องกล้องดูฝูงม้าลาย ซึ่งอยู่ใกล้มากกกก
Tadaaaaa นี้ไงฝูงม้าลาย ชั้นอยู่นี้!!!
ฟรานซิส ไกด์ของเราใน drive games เที่ยวนี้ เป็นชาวเผ่ามาไซ กำลังสอนวิธีการใช้ไอโฟนให้คุณป้าค่ะ สอนจริงๆนะ ฟรานซิสใช้ไอโฟน 6S นะจ๊ะ! ชั้นยังใช้ android อยู่เล๊ยยย
ฝูงช้างแอฟริกาเดินผ่านมาทางนี้พอดี ตะลึงมากกกก ตัวใหญ่มากกกก
เพื่อนๆ เห็น Cheetahs กันมั้ยยย เราโชคดีมาก วันนี้เราเห็น 5 ตัว เพิ่งฆ่าสัตว์ชนิดนึงได้ เราไม่แน่ใจว่าเคยเป็นตัวอะไรมาก่อน แต่ตอนนี้ชีต้าทั้ง 5 ตัว กำลังจัดการเหยื่อเป็นอาหารมื้อค่ำกันอยู่ค่ะ
ยีราฟเป็นสัตว์ที่เห็นได้เยอะมากค่ะ เป็นสัตว์ที่เราชอบด้วย น่ารักกกก
เจ้าหน้าที่ ที่ดูแลช่วยเหลือสัตว์ในพื้นที่ Lewa นี้กำลังช่วยเหลือแรดน้อยค่ะ
นี้เป็นวิวระหว่างทางของเราค่ะ เพื่อนที่เห็นรูปทุกคนถามว่าร้อนมากมั้ย ผิดนะคะ!! ที่นี้อากาศเย็นมากกก และหนาวมากตอนกลางคืน! นี้ขนาดตอนกลางวันนะคะ ยังต้องใส่เสื้อกันหนาวเลย ลมเย็นมากกกกค่ะ
กว้างสุดลูกหูลูกตามากค่ะ ชอบบรรยากาศที่นี้มากๆ
วันไหนโชคดี อากาศแจ่มใสเราจะเห็นเมาท์เคนย่าด้วยนะคะ เพื่อนๆลองส่องดูว่าเห็นมั้ยยย
เรา drive games กันแทบจะทุกวันกันเลยค่ะ ถ้าช่วงไหนว่างๆ ก็จะมานั่งพักผ่อนกันบริเวณที่พักกันค่ะ
จำชื่อตัวนี้ไม่ได้ แต่มาหาเค้าทุกวันเลยนะตัวเองงง ><
บางครั้งก็มาผ่อนคลายที่สระว่ายน้ำค่ะ แต่อากาศเย็นจริงๆ เราว่ายได้แปบเดียวก็ไม่ไหวแล้ว
พักผ่อนชมบรรยากาศ เอาหนังสือมาอ่านเล่นดีกว่าค่ะ ห้าๆ
หลังจาก drive games มาหลายวัน เช้านี้เราตื่น 7 โมง วันนี้เราจะมาเดินซาฟารีกันค่ะ โดยมีคารามูชกับมาร์คมาเป็นไกด์ให้เรา บอกก่อนนะคะ คนที่นี้พูดภาษาอังกฤษกันนะค่า ฉะนั้นไม่ต้องห่วงค่ะ พูดคุยกันได้รู้เรื่องสบายแน่นอน
มาร์คเพิ่งมาทำงานใหม่ค่ะ แต่ทำงานได้ดีเลยทีเดียว
มูช กำลังส่องว่ามีสัตว์อะไรในระแวกนี้ให้เราได้ชมกันบ้างน้าา
Into the wild
วิวจากมุมสูงซึ่งเราแวะพักระหว่างทางค่ะ
เห็นที่พักของเราไกลๆ ซึ่งญาติๆกำลังรับประทานอาหารเช้าอยู่ข้างล่างค่ะ
ใส่ขายาวเถอะค่ะ หญ้าบาดมากกก คราวหลังชั้นจะไม่พลาดแล้ว!!
ชอบท้องฟ้าที่นี้มาก คือฟ้าจริงๆค่ะ ไม่มีสายไฟฟ้ากวนใจด้วย ห้าๆ
วันนี้เราจะมาทำอีกกิจกรรมค่ะ มาขี่อูฐชมซาฟารีกันดีกว่าเนอะ!
มาร์คกำลังเตรียมความพร้อม และสอนวิธีขึ้นอูฐให้เราค่ะ
ไม่น่ากลัวอย่างที่คิดค่ะ สนุกเลย แต่อาจจะเป็นงานยากสำหรับคุณผู้ชายนิดหน่อยนะคะ
ระหว่างทางก็มีน้องยีราฟออกมาทักทายอีกแล้ววว
ช่วงเย็นๆก่อนเวลาอาหารค่ำ พวกเราซึ่งมาจากหลากหลายที่เพื่อมาร่วมงานแต่งงานในครั้งนี้ ก็จะมาพบปะสังสรรค์กันค่ะ เพราะทุกคนเป็นญาติกัน เพื่อนกัน รู้จักกัน ซึ่งไม่ได้พบปะกันมานานมาก เหมือนเป็นงานรวมญาติเลยค่ะครั้งนี้
อาหารระหว่างพบปะก่อนอาหารค่ำ ก็จะเป็นซอฟท์ดริ้งค์เบาๆ กับขนมทานเล่นจำพวกชีส แครกเกอร์ค่ะ แล้วก็จะมานั่งชมวิวพระอาทิตย์ตกดินกัน
Let me show you "Wildlife in Isiolo, KENYA"
เข้าเรื่องเลยละกันเนอะ เราเดินทางไปเมือง Isiolo ซึ่งเป็นเมืองเกษตรกรรมทางภาคตะวันออกของเคนย่าค่ะ และยังมีการท่องเที่ยวแบบซาฟารีให้นักท่องเที่ยวได้มาชมด้วย โดยส่วนใหญ่แล้วการท่องเที่ยวและโรงแรมในแถบนี้จะมีเจ้าของเป็นชาวต่างชาติ ซึ่งเป็นชาวอังกฤษซะส่วนใหญ่ค่ะ
โดยเราไปถึงสนามบินเคนย่าในเมืองไนโรบี โดยสายการบินเคนย่าแอร์ไลน์ ซึ่งเป็นสายการบินเดียวที่ไม่ต้องแวะพักเครื่องค่ะ ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 9 ชั่วโมงจากกรุงเทพ มาถึงไนโรบีประมาณ ตี5 เวลาของเคนย่าค่ะ (ซึ่งช้ากว่าไทยประมาณ4ชั่วโมง) อากาศกำลังเย็นค่ะ แต่ไม่หนาวมาก พอถึงปุ๊บก็ออกเดินทางไปเมือง Isiolo ปั๊บ เราเดินทางโดยแท็กซี่ค่ะ ซึ่งหาไว้ก่อนหน้าอยู่แล้ว เสียค่าใช้จ่ายประมาณ 6,000 บาท ใช้ระยะเวลาเดินทาง 6 ชั่วโมงค่ะ
เรามาถึงเมือง Isiolo เกือบบ่ายโมงเลยค่ะ เวลาอาหารกลางวันพอดี บรรยากาศแรกที่เข้ามาถึงที่พักนี้คือแบบผ่อนคลายมากค่ะ อยู่กันแบบครอบครัว ซึ่งจริงๆแล้วถ้าไม่ใช่ช่วงเวลาที่เรามีงานแต่งงานคงจะเต็มไปด้วยแขกที่มาพัก แต่ตอนนี้ลูกสาวแต่งงานทั้งที คุณแม่เลยขอไม่รับแขกที่จองประมาณ 2 อาทิตย์เลยค่ะ เราไม่ได้ถ่ายรูปบรรยากาศมามาก เพราะเกรงใจและไม่อยากจับโทรศัพท์ด้วย เดี๋ยวจะโดนผู้ใหญ่ว่า ห้าๆ เลยขออนุญาตนำรูปบรรยากาศส่วนต่างๆ จากทางเว็บไซต์ มาให้เพื่อนๆได้ชมกันนะคะ สามารถเข้าไปดูรูปเพิ่มเติมหรือถ้าใครมีโอกาสได้ไปเที่ยวก็สามารถจองไปพักได้น้า http://lewawilderness.com/ (ไปอยู่ฟรี กินฟรีมาสองอาทิตย์ กลับไทยมาช่วยเค้าโปรโมทหน่อย แหะๆ)
ต่อจากนั้นระหว่างรอให้ถึงวันงาน เราก็ทำกิจกรรมต่างๆค่ะ โดยส่วนใหญ่จะเป็นการ safari drive games ให้เราไปนั่งรถส่องสัตว์ค่ะ จะไปกี่รอบต่อวันก็ได้ ไปทู๊กกกกกวันเลยก็ได้ ถ้าไม่เบื่อซะก่อน แต่เราไม่เบื่อเลยค่ะ เพราะ เราไม่สามารถรู้ได้ว่าวันนี้เราจะเจออะไร เราจะเจอสิงโต เสือ ช้าง ม้า อะไรหรือไม่ ในแต่ละวันนี้วัดกันที่ดวงล้วนๆเลยค่ะ แต่บางวันก็ต้องพักเพราะไม่ไหวจริงๆกับการนั่งรถ คือพื้นที่มันขรุขระมาก ท้องไส้ปั่นป่วน บางครั้งหนักมากจนอยากจะอ้วกเลยค่ะ drive games ในแต่ละครั้งจะใช้เวลา 2-3 ชั่วโมงค่ะ แล้วแต่ความพึงพอใจของเพื่อนร่วมชะตากรรม ห้าๆ