ขอออกตัวไว้เลยว่านี่เป็นบทความที่เขียนเอง ไม่ใช่เอามาจากกูรูกูรู้ที่ไหน ถ้าจะมีตรงไหนผิดพลาดไม่เห็นด้วยอย่างไรก็แสดงความเห็นกันได้เลย (แต่ห้ามด่า)
เอาล่ะเข้าเรื่องดีกว่า
เป็นที่รู้กันดีว่า ในแวดวงของธุรกิจการจำหน่ายบัตรเข้าชมการแสดง เช่น คอนเสิร์ต การแสดงโชว์ รวมไปถึงการแข่งขันกีฬา ฯลฯ ในประเทศไทย บริษัทไทยทิคเก็ตเมเจอร์ หรือ TTM ถือเป็นขาใหญ่ของธุรกิจนี้ โดยได้รับความไว้วางใจให้เป็นผู้จำหน่ายบัตรในการแสดงรายการสำคัญหลายรายการ
แต่หลังจากที่มีกระแสความสงสัยเกี่ยวกับการจำหน่ายบัตรของ TTM ในรายการแข่งขันกีฬาในประเทศหลายรายการ เช่น ฟุตซอลโลก 2012 รอบสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือกรอบสอง และการแข่งขันวอลเลย์บอลเวิลด์กรังปรีซ์ (WGP) รอบสุดท้าย ซึ่งหลายครั้งมีผู้แสดงความสงสัยว่า ตั๋วขายหมดเร็ว แต่ทำไมพอแข่งจริงถึงได้เห็นที่ว่างในสนามมากมาย หรือมีคนซื้อเพื่อหวังเอาไปขายต่อเป็นจำหน่ายมาก ฯลฯ
ก็เลยเป็นเหตุทำให้สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยโดยนายกฯ คนใหม่ ซึ่งประกาศนโยบาย Fair จึงได้มีนโยบายในเรื่องนี้ใหม่ โดยการเปิดประมูลให้มีการแข่งขันกัน ซึ่งผลปรากฎว่าบริษัทฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส เจ้าของธุรกิจตู้เติมเงินโทรศัพท์มือถือ "บุญเติม" ได้รับสิทธิในการจัดจำหน่ายบัตรเข้าชมฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือกรอบสามทุกนัด
แต่เมื่อถึงวันที่บริษัทฟอร์ทฯ เริ่มเปิดการจำหน่ายบัตรในวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา ปรากฎว่าได้เกิดปัญหาขัดข้อง ระบบไม่สามารถรองรับการเข้ามาจองบัตรของแฟนบอลจำหน่ายมากได้จนระบบล่มเป็นเวลานานก็ไม่สามารถแก้ไขได้ ทำให้แฟนบอลจำหน่ายมากไม่สามารถจองตั๋วได้ สุดท้ายทำให้สมาคมฟุตบอลต้องตัดสินใจยกเลิกสัญญาในทันที ก่อนที่จะกลับไปให้บริษัท TTM เป็นผู้จัดจำหน่ายบัตรเข้าชมตามเดิม ซึ่งก็ได้มีการเปิดจำหน่ายไปแล้วเมื่อวานนี้
งานนี้ต้องเรียกว่า TTM เฮงสุดขีด จากที่เหมือนจะเพลี่ยงพล้ำไปแล้ว แต่ไป ๆ มา ๆ กลายเป็นว่าเหมือนถูกหวย ดูท่าเหมือนจะได้โชคสองชั้นกันเลยจากเหตุการณ์นี้
โชคชั้นแรกก็คือ ได้กลับมาเป็นผู้จำหน่ายบัตรเข้าชมฟุตบอลโลกอีกครั้ง เท่ากับมีรายได้กลับมาเต็ม ๆ นับล้านบาท
แต่โชคชั้นแรกนี่ถือว่าเล็กน้อยไปเลย ถ้าเทียบกับโชคชั้นที่สอง เพราะจากการที่การเปิดจำหน่ายบัตรของบริษัทฟอร์ทฯ ล่มอย่างไม่เป็นท่า ผลอย่างแรกเลยคือ แทบจะเป็นการดับฝันของบริษัทฟอร์ทฯ ในการเข้ามาในธุรกิจนี้เลย เพราะเมื่อเปิดตัวด้วยความล้มเหลวอย่างนี้ ก็เหมือนกับโดนสักคำว่า "ล้มเหลว" ไว้บนหน้าผากเลย ใครที่สนใจจะดีลกับบริษัทนี้ในการจำหน่ายบัตรเข้าชมการแสดงก็คงต้องคิดหนักเลยว่า จะไหวหรือเปล่า กลัวจะเจ๊งเหมือนคราวนี้อีก เรียกว่าต้องทำงานกันหนักเลยถ้าจะกู้ชื่อกลับมาได้
และผลอย่างที่สองคือ จากความล้มเหลวของบริษัทฟอร์ทฯ ในการจำหน่ายบัตรคราวนี้ ก็คงทำให้คู่แข่งเจ้าอื่น ๆ ต้องคิดหนักอยู่ไม่น้อยในการจะสู้กับ TTM ในการจำหน่ายบัตรเข้าชมในรายการใหญ่ ๆ ที่มีผู้ต้องการเข้าชมมาก ๆ ซึ่งคงต้องกลับมาประเมินกำลังตัวเองกันใหม่เลยว่า ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ระบบของตัวเองจะรับมือไหวไหม ถ้าไม่มั่นใจจริงก็ไม่ควรเสี่ยงดีกว่า ไม่งั้นอาจจะกลายเป็นการเอาหัวไปรออยู่ใต้กีโยตินก่อนจะดับอนาถเหมือนอย่างที่บริษัทฟอร์ทฯ เจอได้
แบบนี้ไม่เรียกว่า TTM เฮงสุดขีดก็ไม่รู้จะว่าอย่างไรแล้ว
(ควันหลงเรื่องบัตรดูฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก) ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ จากเหมือนจะเพลี่ยงพล้ำ ดูท่าว่าจะกลายเป็นได้โชคสองชั้น
เอาล่ะเข้าเรื่องดีกว่า
เป็นที่รู้กันดีว่า ในแวดวงของธุรกิจการจำหน่ายบัตรเข้าชมการแสดง เช่น คอนเสิร์ต การแสดงโชว์ รวมไปถึงการแข่งขันกีฬา ฯลฯ ในประเทศไทย บริษัทไทยทิคเก็ตเมเจอร์ หรือ TTM ถือเป็นขาใหญ่ของธุรกิจนี้ โดยได้รับความไว้วางใจให้เป็นผู้จำหน่ายบัตรในการแสดงรายการสำคัญหลายรายการ
แต่หลังจากที่มีกระแสความสงสัยเกี่ยวกับการจำหน่ายบัตรของ TTM ในรายการแข่งขันกีฬาในประเทศหลายรายการ เช่น ฟุตซอลโลก 2012 รอบสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือกรอบสอง และการแข่งขันวอลเลย์บอลเวิลด์กรังปรีซ์ (WGP) รอบสุดท้าย ซึ่งหลายครั้งมีผู้แสดงความสงสัยว่า ตั๋วขายหมดเร็ว แต่ทำไมพอแข่งจริงถึงได้เห็นที่ว่างในสนามมากมาย หรือมีคนซื้อเพื่อหวังเอาไปขายต่อเป็นจำหน่ายมาก ฯลฯ
ก็เลยเป็นเหตุทำให้สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยโดยนายกฯ คนใหม่ ซึ่งประกาศนโยบาย Fair จึงได้มีนโยบายในเรื่องนี้ใหม่ โดยการเปิดประมูลให้มีการแข่งขันกัน ซึ่งผลปรากฎว่าบริษัทฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส เจ้าของธุรกิจตู้เติมเงินโทรศัพท์มือถือ "บุญเติม" ได้รับสิทธิในการจัดจำหน่ายบัตรเข้าชมฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือกรอบสามทุกนัด
แต่เมื่อถึงวันที่บริษัทฟอร์ทฯ เริ่มเปิดการจำหน่ายบัตรในวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา ปรากฎว่าได้เกิดปัญหาขัดข้อง ระบบไม่สามารถรองรับการเข้ามาจองบัตรของแฟนบอลจำหน่ายมากได้จนระบบล่มเป็นเวลานานก็ไม่สามารถแก้ไขได้ ทำให้แฟนบอลจำหน่ายมากไม่สามารถจองตั๋วได้ สุดท้ายทำให้สมาคมฟุตบอลต้องตัดสินใจยกเลิกสัญญาในทันที ก่อนที่จะกลับไปให้บริษัท TTM เป็นผู้จัดจำหน่ายบัตรเข้าชมตามเดิม ซึ่งก็ได้มีการเปิดจำหน่ายไปแล้วเมื่อวานนี้
งานนี้ต้องเรียกว่า TTM เฮงสุดขีด จากที่เหมือนจะเพลี่ยงพล้ำไปแล้ว แต่ไป ๆ มา ๆ กลายเป็นว่าเหมือนถูกหวย ดูท่าเหมือนจะได้โชคสองชั้นกันเลยจากเหตุการณ์นี้
โชคชั้นแรกก็คือ ได้กลับมาเป็นผู้จำหน่ายบัตรเข้าชมฟุตบอลโลกอีกครั้ง เท่ากับมีรายได้กลับมาเต็ม ๆ นับล้านบาท
แต่โชคชั้นแรกนี่ถือว่าเล็กน้อยไปเลย ถ้าเทียบกับโชคชั้นที่สอง เพราะจากการที่การเปิดจำหน่ายบัตรของบริษัทฟอร์ทฯ ล่มอย่างไม่เป็นท่า ผลอย่างแรกเลยคือ แทบจะเป็นการดับฝันของบริษัทฟอร์ทฯ ในการเข้ามาในธุรกิจนี้เลย เพราะเมื่อเปิดตัวด้วยความล้มเหลวอย่างนี้ ก็เหมือนกับโดนสักคำว่า "ล้มเหลว" ไว้บนหน้าผากเลย ใครที่สนใจจะดีลกับบริษัทนี้ในการจำหน่ายบัตรเข้าชมการแสดงก็คงต้องคิดหนักเลยว่า จะไหวหรือเปล่า กลัวจะเจ๊งเหมือนคราวนี้อีก เรียกว่าต้องทำงานกันหนักเลยถ้าจะกู้ชื่อกลับมาได้
และผลอย่างที่สองคือ จากความล้มเหลวของบริษัทฟอร์ทฯ ในการจำหน่ายบัตรคราวนี้ ก็คงทำให้คู่แข่งเจ้าอื่น ๆ ต้องคิดหนักอยู่ไม่น้อยในการจะสู้กับ TTM ในการจำหน่ายบัตรเข้าชมในรายการใหญ่ ๆ ที่มีผู้ต้องการเข้าชมมาก ๆ ซึ่งคงต้องกลับมาประเมินกำลังตัวเองกันใหม่เลยว่า ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ระบบของตัวเองจะรับมือไหวไหม ถ้าไม่มั่นใจจริงก็ไม่ควรเสี่ยงดีกว่า ไม่งั้นอาจจะกลายเป็นการเอาหัวไปรออยู่ใต้กีโยตินก่อนจะดับอนาถเหมือนอย่างที่บริษัทฟอร์ทฯ เจอได้
แบบนี้ไม่เรียกว่า TTM เฮงสุดขีดก็ไม่รู้จะว่าอย่างไรแล้ว