ชีวิตของผม

ผมชื่อ นัท ครับ ที่บ้านเรียกนัย บางคนก็เรียกนนท์เพราะตอนเล็กผมชื่อ นนท์ เปลี่ยนเพราะว่าป่วยบ่อย( ตาเป็นคนเปลี่ยนให้ )
ความรักเริ่มจากป๊อบปี้เลิฟ ก็ปกติอะครับเด็กๆ 555 ตั้งแต่ อนุบาล ผมเป็นคนชอบใครง่ายอะครับ
ตอนนั้นก็ชอบผู้หญิงปกติแหละครับ ตอนเด็กเป็นคนที่ชอบแกล้งคนอื่นมากเล่นไรพิเลนๆ เพราะคิดว่าทำแล้วทำให้เพื่อนๆ หัวเราะแล้วก็มีความสุข
ผมก็มีวีรกรรมมากมาย โดนปกครองไม่รู้กี่รอบ ชอบมีเรื่องกะเขาตลอด ส่วนเรื่องรักก็ไม่เคยสมหวังเลยสักที ยันวันนี้ ก็คือโสดมาตลอด
ผมเริ่มอยากเป็นตุ๊ดตั้งแต่ ป.4 ตอนนั้นหนังเรื่องตั้ดสู้ฟุ๊ดตุ๊ดสู้ฟัด กำลังออกมาดังๆ ถ้าใครยังจำได้ก็น่าจะรู้ดี ผมเองที่อยากเป็นก็เพราะมันฮาทำแล้วมีเพื่อนๆหัวเราะผมก็เป็นตั้งแต่หลังวันที่ไปดูหนังสัก 2-3 วัน พ่อผมชอบดูหนังฝรั่งผู้ชายจูบกะผู้หญิงตลอดจูบแบบเมามัน ผมก็ชอบนะเลยไปจูบกะเพื่อน 555 เด็กหน๋อเด็ก แต่ก็เปลี่ยนตัวเองกลับมาเป็นเหมือนเดิมคือ ผู้ชาย ตั้งแต่ ป.6 เพราะรู้ว่าตัวเองไม่ใช่แต๋ว ก็เลยกลับมาชอบผู้หญิงเหมือนเดิม แต่ก็เหมือนเดิม รักเขาแต่เขาไม่รัก คนที่เขารักเรา เราก็ไม่ได้ชอบเขา ตอนนั้นก็มีคนแนะนำให้ไปแบดมินตัน ผมก็เลยลองไปเรียนก็ถูกใจ ชอบ สนุก หลังจากก็ตีแบดมาตลอด
ม.1 ก็ได้ห้องใหม่ ผมเองก็พูดตรงๆว่าปรับตัวไม่เก่งเลย คือ... เข้ากะเพื่อนยากมาก เจอเพื่อนแบบไม่จริงใจ เพื่อนกินที่วันๆแค่เอาฮาไปวันๆ
ม.2 ก็อยู่ห้องเดิม ชีวิตซ้ำๆซากๆ จากเมื่อก่อนที่เคยแกล้งตอนนี้ถูกแกล้งซะเอง ผมเริ่มคนไม่สู้คนตั้งแต่ ป.4 ที่เป็นตุ๊ด  ก็อ่อนแอ จิตใจก็อ่อนแอ
จนกระทั่งแม่ผมส่งไปเรียนตีแบดซัมเมอร์ที่บ้านทองหยอดที่พี่เมย์ รัชนกอยู่ สำหรับผมแล้วผมแฮปปี้มากสำหรับตรงนั้น เป็นไรที่สนุกมากๆก็เลยตัดสินใจย้ายโรงเรียนมาอยู่ใกล้ๆ บ้านทองหยอด
พอเปิดเทอม แม้งคนละเรื่องเลย จากสวรรค์ไปนรกต้องซ้อมตี5 โคตรหนักเสด 7 โมงอาบน้ำไปเรียน กลับจากโรงเรียนก็ซ้อมต่อ ซึ่งคนคลุมคือ พี่หลิ๋ว โค้ชจีน  โหดจริง แต่จริงๆพี่หลิ๋วใจดี ตอนซ้อมคือโหดแค่ปรับโหมดชั่วขณะ ซ้อมวันหนึ่ง 6 ชม. หยุดวันจันทร์วันเดียว ผมอยู่ประมาณ 8 เดือน ก็ออกครับ แต่ไม่ใช่เพราะเหนื่อยหรือทนไม่ได้ แต่ผมแค่คิดถึงบ้านเวลาเหนื่อย แรกๆบอกเลยว่าท้อมาก หลังๆไม่ท้อ แต่แค่รู้สึกว่าเบื่อกับการซ้อมโปรแกรม มันซ้ำๆเดิม เหนื่อยไหม ไม่เหนื่อยแล้วชิน แต่แค่เบื่อการทำไรซ้ำๆซากๆ
การตีเกมส์หนุกกว่าเยอะ ช่วงนั้นเป็นช่วงม.3 ผมรู้สึกว่าผมชอบผู้ชายแต่ก้ไม่ได้เป็นแต๋ว หลังจากที่ผมออกมาแล้วก็เลยย้ายไปอยู่กับมิส ครูสอนร้องเพลง ช่วงนั้นผมอยู่คอรัส เลยต้องรบกวนมิสไปอีก แต่ต้องขอบคุณมิสนะ เพราะพาผมไปหาประสบการณ์หลายๆที่เลย และก็เลี้ยงดีมาก อาหารการกินครบถ้วนเลย แต่ผมชอบทำให้แม่เป็นห่วง ผมเลยต้องไปอยู่รวม ซึ่งส่วนตัวเป็นคนชอบส่วนตัว ไม่ชอบส่วนรวม ก็เลยจำใจต้องออกเพราะแม่สั่ง ตอนย้ายหอก็ ม.5 แล้ว แค่เทอมเดียวผมก็อยู่ไม่ได้แล้ว เพราะผมเองอย่างที่บอกอยู่กะคนเยอะๆแล้ววุ่นวาย ส่วนตัวก็เป็นคนที่ขี้รำคาญอยู่แล้ว สุดท้ายก็เลยออก ตอนนี้ ม.6 เลยย้ายมาออยู่หอห้องส่วนตัว การเรียนก็แย่เหมือน
ผมเองเป็นเด็กกิจกรรม ไม่ค่อยสนใจเรียนเท่าไหร่ ช่วงปิดเทอมก่อนที่จะขึ้น ม.6 แม่ผมส่งไปเที่ยวกับทัวร์สอนภาษาจีน  ไปที่เมืองกว่างโจว จนผมไปพบรักอีกครั้งที่ประเทศจีน ผมชอบเขามาก.. มากจนเป็นคำว่ารัก ผมทำทุกอย่างให้เขา ซื้อของให้เขา ทำให้เขามีความสุข ตอนแรกเองผมก็คิดว่าเขาโสด เพราะผมก็ถามเขาแล้ว เขาบอกว่าไม่มีแฟน จนกระทั่งผมมารู้เองทีหลัง ตอนนั้นโคตรเสียความรู้สึกมาก เสียน้ำตาอีกครั้ง แต่ก็ยังรักเขาอยู่ยันทุกวันนี้ แต่บางครั้งเราก็ต้องยอมให้เขามีความสุขในสิ่งที่เขาเป็น หลังจากที่ผมกลับมาประเทศไทย ก็ทำให้ผมรู้หลายๆอย่าง
มันทำให้ผมหลงรักประเทศจีนมากขึ้น แต่ยังไม่อเตนะเรื่องขี้ไม่กด 555 แต่ก็ชั่งเถอะ จีนหนิ ชินๆไป ผมก็กลับมาใช้ชีวิตตามปกติแหละครับ วันๆก็ซ้อมร้องเพลงจับโปเกม่อนฟังเพลงเล่นเกมส์กินและนอนตามภาษา..  ผมเองก็ยังคุยกับเหม่ยทิ๋งอยู่ 2 เดือนก็เลิกคุยกะเขา ผมเองก็รู้สึกว่าเขาเริ่มเบื่อผมแล้ว ผมเองก็ห่างๆดีกว่าแต่ก็ยังรักอยู่ ไม่กี่เดือนที่ผ่านมาผมได้มีโอกาสไปประกวดร้องเพลงรายการวันแม่ที่สวนสิริกิจ ก็ได้รางวัลชมเชยกลับมา แล้วก้ไปเจอเด็กคนนึงชื่อแบงค์ผมรู้เขาน่ารักดี หลังจากนั้นผมก็ไม่คิดอะไรกลัวเจ็บก็คิดเสมอว่า คบๆดูนิสัยกันไปก่อนอย่าพึ่งตัดสินใจ ช่วงนั้นผมคุยกะเขาทุกวันผมรู้สึกมีความสุขมาก หลังจากที่เราได้สนิทกันก็มีครูเข้ามาแกล้งแซวซึ่งผมไม่ชอบมากเลย ห่างๆจากแบงค์ไป..เพราะ กลัวหลายๆอย่าง เขาเองก็หายไปเช่นเดียวกับผมหลังจากที่ผมเริ่มเปลี่ยนไป..
ผมเองยังไม่เลยว่าจะเอายังต่อเรื่องของความรัก ถ้าคนมันจะคู่กันเดียวก็กลับมาเจอกัน ที่ผมหนีหน้าเพราะตอนนี้ผมสิวเยอะด้วย ผมไปแพ้อะไรสักอย่างสิวเลยขึ้นหนักช่วงลำคอ สักวันก็คงกลับมาเจอกันผมเชื่อแบบนั้น...
เรื่องเรียนต่อ ผมแพลนไว้สามที่ 1.ศิลปากร เอกว๊อย 2.การแสดง พีเอ ม.กรุงเทพิ 3.Guangdong University ในความคิดของผมคืออาจไปด้านภาษาเพราะผมชอบภาษาจีนมาก อาจไปเรียนด้านดนตรีที่จีน แต่แม่ก็ไม่อยากให้เรียนเพราะผมไม่ค่อยมีความรับผิดชอบ ถ้าใครแนะนำที่เรียนที่จีนให้ผมได้บ้างก็ช่วยหน่อยนะครับ เรื่องราวของผมก็จบลงแค่นี้แหละครับ อาจไม่ได้ดีไปซะทั้งหมด แต่ให้ไงได้หล่ะครับ ชีวิต ไม่ใช่นิยาย ไม่ได้สุขสบายเหมือนนิทาน ก็ร้ายบ้างดีบ้างหล่ะครับ ยังไงก็ต้องผ่านไป ผมคงต้องไปนอนแล้วฝันดีครับ
อย่าลืมนะครับ มหาลัยจีนไหนดีๆที่มีคณะดนตรี
ช่วยแนะนำเข้ามาด้วยนะครับ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่