เที่ยวเองในยุโรปตะวันออกครั้งแรกด้วยแอปพลิเคชั่นบนมือถือ
จริงๆ เป็นคนที่ภาษาอังกฤษไม่ได้เก่งมากเรียนมาปีนึง แล้วก็เคยไปเที่ยวกับทัวร์ยุโรปที่ต้องช่วยเหลือตัวเองเยอะ ไม่เหมือนทัวร์ไทย ที่หัวหน้าทัวร์จะดูแลอย่างดี ทัวร์ยุโรปต้องตั้งใจฟังว่าเขานัดเวลาอย่างไร บางทีเขาก็ส่งที่พักแล้วให้เที่ยวเอง บางทีพาไปส่งแล้วให้จำทาง เพื่อให้เรากลับเอง ผ่านประสบการณ์ครั้งนั้น ทำให้คิดว่าเที่ยวเองน่าจะพอไหว การเดินทางครั้งนี้ไม่ได้ทำการบ้านมาก เพราะต้องเอาเวลาส่วนใหญ่ไปเตรียมนำเสนอผลงานวิชาการ เวลาจึงมีไม่มากนักสำหรับการเตรียมตัว แต่ประสบการณ์ครั้งนี้ ทำให้รู้ว่า แอพพลิเคชั่นในมือถือ ช่วยอะไรได้เยอะมาก
แอปพลิเคชั่น นำเสนอสำหรับการจองที่พัก
๑. Airbnb เป็นแอปพลิเคชั่นที่เราเลือกห้องพัก แบบสัมผัสกับคนท้องถิ่นบางทีอยู่ห้องนึงในบ้านเขา บางทีเป็นห้องพักที่เขาทำไว้ให้เช่า คือ อยากจะเร็คคอมเม็นด์ แอปนี้มาก เพราะว่าแผนการเดินทางที่ไม่มั่นใจ เราลองถามเจ้าของบ้านได้เลย โดยผ่านหน้าแชทของแอป ไม่ว่าจะจองรถไฟสถานีไหนดี การเดินทางระหว่างเมืองใช้บริการเวปไหน หรือประเภทใด คำแนะนำเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวและอื่นๆ คือ ว่าสิ่งหนึ่งที่ได้มากกว่าแอปอื่น ก็คือ เจ้าของบ้านนี่แหละ ที่ทำหน้าที่ที่กูลเกิลตอบไม่ได้ในบางที
ข้อดีของแอปนี้อีกอย่างคือ ถ้าใช้เวปบนคอมฯจะใช้ยาก แต่ใช้แอปบนมือถือแล้วง่ายกว่า สะดวกมาก มันลิงค์ที่พักกับกูเกิลเม็ป ให้เลย แล้วจากแอปกดเพื่อหาเส้นทางจากจุดที่เราลงรถ มีเวลาการกำหนดการเช็คอิน เช็คเอาท์ ดูกฎของบ้าน ดูว่าเขามีเครื่องอำนวยความสะดวกอะไรบ้าง และรวมถึงพาสเวิร์ดวายฟายในบ้าน
อีกอย่างที่ชอบการใช้บริการของที่นี่มากกว่าโรงแรมคือ บางที่เราพักบ้านเขา เราซักผ้าได้ คือ ถ้าเที่ยวนานหลายสิบวันการซักผ้าก็เป็นเรื่องนึ่งที่สำคัญไม่งั้นกระเป๋าใบใหญ่มากเที่ยวไม่สนุก พอถึงบ้านเขาได้พูดคุยอย่างน้อยเหมือนเรามีเพื่อนคนนึงในประเทศนั้นที่ไว้ใจได้ ถามอะไรได้ ซึ่งมันดียิ่งกว่าโรงแรมก็ตรงนี้แหละ
๒. Agoda ราคาของอโกด้าจะดีกรณีในเมืองใหญ่
๓. Booking.com ไม่เคยใช้แต่มีแต่คนบอกว่าดี
แอปพลิเคชั่นสำหรับการเดินทาง
๑. Go Euro เป็นแอปที่จะบอกการเดินทางข้ามประเทศของยุโรป ซึ่งจะบอกเทียบราคาทั้งรถไฟ รถบัส และเครื่องบิน สะดวกตรงที่เขาเทียบราคาและเวลาทุกสายการบิน ทุกบริษัทรถบัส และทุกสายรถไฟ ทำให้เราตัดสินใจได้ง่าย เมื่อตัดสินใจจะซื้อตั๋วอะไร แอปจะลิงค์ไปที่เวปของบริษัทนั้นเพื่อทำการจองและชำระเงิน อันนี้สะดวกมาก แต่สำหรับรถไฟ มีข้อควรคำนึงนิดนึงบางสายรถไฟโดยเฉพาะในอังกฤษและฮังการี่ ต้องไปปริ้นต์ตั๋วที่ตู้เครื่องตั๋วที่สถานีรถไฟด้วย
๒. Google map เป็นเพื่อนเดินทางที่ดีมากๆ บอกทุกอย่าง มั่นใจว่าทุกคนคงจะใช้กันคล่อง แค่เลือกจุดเริ่มต้นและจุดสุดท้าย เส้นทางหลากหลายก็มาปรากฏให้เราเลือก แต่บางทีกูเกิลก็ไม่รู้ในรายละเอียดประเทศนั้นๆ เช่น ไม่รู้เรื่องแทรมในออสเตรีย
๓. Tube underground หากเที่ยวในลอนดอนหลายวันแนะนำให้โหลด แอปพลิเคชั่นที่เกี่ยวกับ รถไฟใต้ดิน หรือแม้แต่ในออสเตรีย เลือก Vienna Subway&Bus คือ กูเกิลต้องยอมแพ้จริงๆ เพราะในเวียนนาใช้ทั้งแทรม ทั้งบัส ทั้งใต้ดิน แล้วจริงแทรมเยอะมากและสะดวก แต่ว่ากูเกิลไม่มี(ปี ๒๕๕๙)
๔. National rail หากเดินทางในอังกฤษแนะนำให้มีแอปนี้เพราะว่าจะบอกตารางเวลา รวมไปถึงชาลชะลาที่จะขึ้น ชีวิตเราจะง่ายขึ้น ไม่ต้องตื่นเต้นไปสถานีรถไฟก่อนเวลามาก
๕. Flix bus หากใช้บริการของเขาก็ลงไว้สะดวกดี เพราะว่าเขามีเส้นทางในยุโรปหลายที่
๖. Uber เป็นแอปเท็กซี่นอกเครื่องแบบ ก็พอเรียกแล้วรอหน่อย สัก ๑๐ นาทีก็จะมาค่าบริการถูกกว่าเท็กซี่สนามบิน บางที่ถูกเยอะบางที่ถูกน้อย แต่ถูกกว่าแน่นอน
แอปพลิเคชั่นแลกเงิน
๑. XE currency
แอปพลิเคชั่นเที่ยว
๑. Trip Advisor จะแนะนำทั้งสิ่งที่จะทำ ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว และขายตั๋วด้วย
๒. Viator เป็นบริษัททัวร์ จะขายตั๋ว ขายทัวร์ แต่ก็ดูได้ว่าที่ไหนน่าเที่ยว เพราะเขาจะขายทัวร์เฉพาะที่น่าเที่ยว
และการเดินทางในยุโรปครั้งนี้ ต้องขอบคุณหนังสือ เที่ยวยุโรปเส้นทางโรแมนติก ที่ซื้อที่สนามบินสุวรรณภูมิ คือ ว่าได้เล่มนี้ประหยัดเวลาค้นในกูเกิลเยอะเลย
การเดินทางยุโรปตะวันออก ปราก เชสกี้คุมโลฟ ซัลซเบิรก เวียนนา ปูดาเพสต์ ๓ ประเทศ เช็ค ออสเตรีย ฮังการี ๑๐ วัน
การเดินทางเลือกที่จะเดินทางจากทางเหนือลงมาใต้ เพราะออกเดินทางจากอังกฤษ ค่าเครื่องบินลงปราก จะถูกกว่าลงเวียนนา อีกอย่างค่าครองชีพของปรากถูกกว่าเวียนนา การเดินทางระหว่างเมืองอาศัย โกยูโรทั้งสิ้น มีที่เดียวที่โกยูโรไม่มีเส้นทาง คือ เชสกี้กุมโลฟ มา ซัลซเบิร์ก แต่ว่าเจ้าของบ้านที่เชสกี้ คุมโลฟ น่ารักมากบอกว่ามีชัทเทอร์บัส ที่รวมคนประมาณ ๘ คนนั่งคันเดียวเพื่อไปที่เดียวกัน ทำให้ชีวิตง่ายขึ้นไม่ต้องไปอ้อมที่เวียนนา ส่วนการเดินทางในเมืองแต่ละเมืองนั้น ซื้อตั๋ว ๒๔ ชั่วโมงได้หมดเลย ซึ่งสะดวก หาซื้อได้ที่สถานีรถไฟฟ้าทุกสถานี ซึ่งจะใช้ได้ทั้งรถไฟฟ้า แทรม บัส ใน ๒๔ ชั่วโมง
ปรากและเชสกี้คุมโลฟ ในเช็ค
เป็นที่สวยตามที่เขาว่าถ่ายรูปได้ทุกมุม แต่ถ้าเทียบกับเชสกี้คุมโลฟ แล้ว เชสกี้เล็กกว่าปราก แต่น่ารักจริงๆ ถ่ายได้ทุกมุมจริงๆ ที่พักอยู่บนเขาที่เดินมาในเมืองได้ แอบไปเห็นว่าเขาก็มีทะเลสาบเล็กๆ ไว้พักผ่อนเหมือนชายหาดบ้านเราบนเขา ใช้เวลาที่ปราก ๒ วัน และ เชสกี้คุมโลฟ ๑ วัน อาหารที่ปรากอร่อย ควรกินที่เขียนว่าเป็นเมนูเช็ค สลัดเช็ค ส่วนที่เชสกี้คุมโลฟ มีร้านนึงต้องจองคิว ขาหมูย่าง คนเยอะมาก กินกันสองคนไม่หมด ห่อกลับบ้านกินได้อีกมื้อ
ซัลซเบิร์กและเวียนนา ใน ออสเตรีย
คือ เมืองนี้น่าเที่ยวเพราะมีทะเลสาบหลายแห่ง แต่ที่ดังๆ คือ Wolfgang see, Hallstatt แต่เนื่องจากที่พักของทั้งสองที่ และ ในเมืองซัลซเบิร์ก แพงมาก ทางเลือกนึงที่เลือกคือ ไปพัก ที่ทะเลสาบ Fuschi ซึ่งก็สวยงามเห็นทะเลสาบตรงหลังบ้าน ได้เดินเล่นรอบทะเลสาบและชมพระอาทิตย์ตกดิน ซึ่งที่นี่อยู่ตรงกลางระหว่างเมืองซัลซเบิร์กและ ทะเลสาบดังอีก ๒ ที่ จึงเลือกที่นี่เป็นฐานทัพ วันแรกมาถึงซัลซเบิร์กด้วยชัทเทอร์บัสจากเชสกี้คุมโลฟ ก็เอากระเป๋าฝากไว้ที่สถานีรถไฟ มีตู้เก็บให้เลือกขนาดได้ตามขนาดและจำนวนกระเป๋า ซึ่งฝากได้ ๒๔ ชั่วโมง แล้วก็เดินเที่ยวในเมือง ค่ำหน่อยก็นั่งรถสาย 150 ไปที่พักซึ่งกูเกิลก็ไม่รู้จักสายนี้ แต่เป็นสายสำคัญในการเดินทางไปยังทะเลสาบทั้ง ๓ เนื่องจากมาเที่ยวเดือนกฤกฏาคม พระอาทิตย์ตกดินตอน ๓ ทุ่มครึ่ง ชีวิตเราเลยยาวนาน เที่ยวได้นานคุ้ม เดินทาง ๔๐ นาทีถึงที่พัก
๑ วัน เดินทางไป St wolfgang โดยผ่าน St Gilgen ที่มีเคเบอร์คาร์ ขึ้นไปยอดสูงสุดสามารถเห็นวิวของทะเลสาบ wolfgang ทั้งหมด จากนั้นสามารถนั่งเรือไปยัง St wolfgang สำหรับส่วนตัวแล้ว ถ้าไม่มีเวลาไปถึง St wolfgang การอยู่ กลิเก็น ก็เป็นทางเลือกที่ดี
๑ วัน เดินทางไป Hallstatt ที่เป็นภาพบนปกหนังสือ ที่นี่สวยตามภาพเลย มีเหมืองเกลือให้ได้ศึกษาและเล่นสไลดเดอร์ในถ้ำ ซึ่งการเดินทางต้องไปลงที่ Bad Ischl จากนั้นจะนั่งรถบัส สาย ๕๔๒ หรือรถไฟก็ได้ แต่มีพี่คนไทยบอกว่าถ้านั่งรถไฟต้องนั่งเรืออีก นั่งบัสสะดวกสุด และเราก็เที่ยวจนรอบสุดท้าย ก็อย่าตกใจว่ารถบัสรอบสุดท้ายไม่มี แต่มีรถเท็กซี่มาจอดที่ป้ายรถแทน ขึ้นเลยนั่นคือรถที่เขาจัดแทนรถบัสรอบสุดท้าย แล้วเขาก็ส่งไม่สุดทางให้เรานั่งรถไฟต่อ ก็ไม่ต้องตกใจว่าต้องเสียตังค์ซื้อตั๋วรถไฟเพิ่มเพื่อไปลง Bad Ischl เพราะว่าเป็นการบริการทางเลือกของเขาให้เรา
จบด้วยเที่ยวเวียนนา ๑ วัน การเดินทางไปเวียนนานั่งรถไฟในประเทศ เวียนนาสะดวกทุกอย่างมากๆ ขอแค่ซื้อตั๋วเดินทาง ๒๔ ชั่วโมงและลงแอปพลิเคชั่น Vienna Subway&Bus ชีวิตก็จะง่ายมากๆ แม้กูเกิลเมปจะพึ่งไม่ได้ในยามนี้ พระราชวังเชินบรุนน์ (Schönbrunn)เป็นสิ่งที่ไม่ควรพลาด ส่วนอย่างอื่นดูในหนังสือได้เลย
บูดาเพสต์ ในฮังการี่
เดินทางมาบูดาเพสต์ด้วยรถบัส ที่นี่ก็เช่นกันมีตั๋ว ๒๔ ชั่วโมง จริงๆมีบัตร Budapest Card ซึ่งจะประหยัดหากเป็นนักเที่ยวเข้าทุกสถานที่ที่ท่องเที่ยว แต่ส่วนตัวไม่ซื้อด้วยว่า เป็นพวกเที่ยวช้า ไปไม่กี่ที่ ไม่คุ้ม และสิ่งที่ห้ามพลาดในเมืองนี้คือการอาบน้ำแร่ ที่มีหลายสระ แต่เราเลือกสระใหญ่สุด Szechenyi Thermal Bath ด้วยรถไฟใต้ดินสายสีเหลือง สะดวกมากๆ มีทั้งสระในและนอกอาคาร สระนอกอาคารแม้อากาศเย็น สระจะอยู่ที่ ๓๐ กว่าองศา มีสระที่มีแรงดันให้วิ่งกันในสระเป็นวงกลมสนุกดี มีน้ำพุ ซาวน่าที่ต้องคู่กับสระเย็น ๒๐องศา พร้อมน้ำแข็ง และอาบน้ำแร่ในอาคาร นอกจากนี้เจ้าของบ้านแนะนำให้เดินเล่นถนนสาย Andrassy ut ซึ่งเป็นสายที่ตรงไปที่อาบน้ำแร่ จากนั้นก็เดินชมริมแม่น้ำ โชคดีวันที่ไปเป็นวันชาติเขาหรือไงไม่ทราบ มีการบินผาดโผนโชว์ที่หน้ารัฐสภาของเขา ตื่นเต้นดี ผาดโผนน่าดูเลย แต่ถ้าพลาดก็ตกแม่น้ำเท่านั้นเอง
สุดท้ายนั่งรถไฟกลับปราก ๖ ชั่วโมงครึ่ง และเดินทางกลับไทย
เพราะว่าได้อาศัยข้อมูลในกูเกิล พันทิป และอื่นๆ เมื่อเรามีประสบการณ์อะไรดีๆ เลยคิดจะแบ่งปันเพื่อประโยชน์ของผู้ค้นหาต่อไป
[CR] เที่ยวเองในยุโรปตะวันออกครั้งแรกด้วยแอปพลิเคชั่นบนมือถือ
จริงๆ เป็นคนที่ภาษาอังกฤษไม่ได้เก่งมากเรียนมาปีนึง แล้วก็เคยไปเที่ยวกับทัวร์ยุโรปที่ต้องช่วยเหลือตัวเองเยอะ ไม่เหมือนทัวร์ไทย ที่หัวหน้าทัวร์จะดูแลอย่างดี ทัวร์ยุโรปต้องตั้งใจฟังว่าเขานัดเวลาอย่างไร บางทีเขาก็ส่งที่พักแล้วให้เที่ยวเอง บางทีพาไปส่งแล้วให้จำทาง เพื่อให้เรากลับเอง ผ่านประสบการณ์ครั้งนั้น ทำให้คิดว่าเที่ยวเองน่าจะพอไหว การเดินทางครั้งนี้ไม่ได้ทำการบ้านมาก เพราะต้องเอาเวลาส่วนใหญ่ไปเตรียมนำเสนอผลงานวิชาการ เวลาจึงมีไม่มากนักสำหรับการเตรียมตัว แต่ประสบการณ์ครั้งนี้ ทำให้รู้ว่า แอพพลิเคชั่นในมือถือ ช่วยอะไรได้เยอะมาก
แอปพลิเคชั่น นำเสนอสำหรับการจองที่พัก
๑. Airbnb เป็นแอปพลิเคชั่นที่เราเลือกห้องพัก แบบสัมผัสกับคนท้องถิ่นบางทีอยู่ห้องนึงในบ้านเขา บางทีเป็นห้องพักที่เขาทำไว้ให้เช่า คือ อยากจะเร็คคอมเม็นด์ แอปนี้มาก เพราะว่าแผนการเดินทางที่ไม่มั่นใจ เราลองถามเจ้าของบ้านได้เลย โดยผ่านหน้าแชทของแอป ไม่ว่าจะจองรถไฟสถานีไหนดี การเดินทางระหว่างเมืองใช้บริการเวปไหน หรือประเภทใด คำแนะนำเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวและอื่นๆ คือ ว่าสิ่งหนึ่งที่ได้มากกว่าแอปอื่น ก็คือ เจ้าของบ้านนี่แหละ ที่ทำหน้าที่ที่กูลเกิลตอบไม่ได้ในบางที
ข้อดีของแอปนี้อีกอย่างคือ ถ้าใช้เวปบนคอมฯจะใช้ยาก แต่ใช้แอปบนมือถือแล้วง่ายกว่า สะดวกมาก มันลิงค์ที่พักกับกูเกิลเม็ป ให้เลย แล้วจากแอปกดเพื่อหาเส้นทางจากจุดที่เราลงรถ มีเวลาการกำหนดการเช็คอิน เช็คเอาท์ ดูกฎของบ้าน ดูว่าเขามีเครื่องอำนวยความสะดวกอะไรบ้าง และรวมถึงพาสเวิร์ดวายฟายในบ้าน
อีกอย่างที่ชอบการใช้บริการของที่นี่มากกว่าโรงแรมคือ บางที่เราพักบ้านเขา เราซักผ้าได้ คือ ถ้าเที่ยวนานหลายสิบวันการซักผ้าก็เป็นเรื่องนึ่งที่สำคัญไม่งั้นกระเป๋าใบใหญ่มากเที่ยวไม่สนุก พอถึงบ้านเขาได้พูดคุยอย่างน้อยเหมือนเรามีเพื่อนคนนึงในประเทศนั้นที่ไว้ใจได้ ถามอะไรได้ ซึ่งมันดียิ่งกว่าโรงแรมก็ตรงนี้แหละ
๒. Agoda ราคาของอโกด้าจะดีกรณีในเมืองใหญ่
๓. Booking.com ไม่เคยใช้แต่มีแต่คนบอกว่าดี
แอปพลิเคชั่นสำหรับการเดินทาง
๑. Go Euro เป็นแอปที่จะบอกการเดินทางข้ามประเทศของยุโรป ซึ่งจะบอกเทียบราคาทั้งรถไฟ รถบัส และเครื่องบิน สะดวกตรงที่เขาเทียบราคาและเวลาทุกสายการบิน ทุกบริษัทรถบัส และทุกสายรถไฟ ทำให้เราตัดสินใจได้ง่าย เมื่อตัดสินใจจะซื้อตั๋วอะไร แอปจะลิงค์ไปที่เวปของบริษัทนั้นเพื่อทำการจองและชำระเงิน อันนี้สะดวกมาก แต่สำหรับรถไฟ มีข้อควรคำนึงนิดนึงบางสายรถไฟโดยเฉพาะในอังกฤษและฮังการี่ ต้องไปปริ้นต์ตั๋วที่ตู้เครื่องตั๋วที่สถานีรถไฟด้วย
๒. Google map เป็นเพื่อนเดินทางที่ดีมากๆ บอกทุกอย่าง มั่นใจว่าทุกคนคงจะใช้กันคล่อง แค่เลือกจุดเริ่มต้นและจุดสุดท้าย เส้นทางหลากหลายก็มาปรากฏให้เราเลือก แต่บางทีกูเกิลก็ไม่รู้ในรายละเอียดประเทศนั้นๆ เช่น ไม่รู้เรื่องแทรมในออสเตรีย
๓. Tube underground หากเที่ยวในลอนดอนหลายวันแนะนำให้โหลด แอปพลิเคชั่นที่เกี่ยวกับ รถไฟใต้ดิน หรือแม้แต่ในออสเตรีย เลือก Vienna Subway&Bus คือ กูเกิลต้องยอมแพ้จริงๆ เพราะในเวียนนาใช้ทั้งแทรม ทั้งบัส ทั้งใต้ดิน แล้วจริงแทรมเยอะมากและสะดวก แต่ว่ากูเกิลไม่มี(ปี ๒๕๕๙)
๔. National rail หากเดินทางในอังกฤษแนะนำให้มีแอปนี้เพราะว่าจะบอกตารางเวลา รวมไปถึงชาลชะลาที่จะขึ้น ชีวิตเราจะง่ายขึ้น ไม่ต้องตื่นเต้นไปสถานีรถไฟก่อนเวลามาก
๕. Flix bus หากใช้บริการของเขาก็ลงไว้สะดวกดี เพราะว่าเขามีเส้นทางในยุโรปหลายที่
๖. Uber เป็นแอปเท็กซี่นอกเครื่องแบบ ก็พอเรียกแล้วรอหน่อย สัก ๑๐ นาทีก็จะมาค่าบริการถูกกว่าเท็กซี่สนามบิน บางที่ถูกเยอะบางที่ถูกน้อย แต่ถูกกว่าแน่นอน
แอปพลิเคชั่นแลกเงิน
๑. XE currency
แอปพลิเคชั่นเที่ยว
๑. Trip Advisor จะแนะนำทั้งสิ่งที่จะทำ ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว และขายตั๋วด้วย
๒. Viator เป็นบริษัททัวร์ จะขายตั๋ว ขายทัวร์ แต่ก็ดูได้ว่าที่ไหนน่าเที่ยว เพราะเขาจะขายทัวร์เฉพาะที่น่าเที่ยว
และการเดินทางในยุโรปครั้งนี้ ต้องขอบคุณหนังสือ เที่ยวยุโรปเส้นทางโรแมนติก ที่ซื้อที่สนามบินสุวรรณภูมิ คือ ว่าได้เล่มนี้ประหยัดเวลาค้นในกูเกิลเยอะเลย
การเดินทางยุโรปตะวันออก ปราก เชสกี้คุมโลฟ ซัลซเบิรก เวียนนา ปูดาเพสต์ ๓ ประเทศ เช็ค ออสเตรีย ฮังการี ๑๐ วัน
การเดินทางเลือกที่จะเดินทางจากทางเหนือลงมาใต้ เพราะออกเดินทางจากอังกฤษ ค่าเครื่องบินลงปราก จะถูกกว่าลงเวียนนา อีกอย่างค่าครองชีพของปรากถูกกว่าเวียนนา การเดินทางระหว่างเมืองอาศัย โกยูโรทั้งสิ้น มีที่เดียวที่โกยูโรไม่มีเส้นทาง คือ เชสกี้กุมโลฟ มา ซัลซเบิร์ก แต่ว่าเจ้าของบ้านที่เชสกี้ คุมโลฟ น่ารักมากบอกว่ามีชัทเทอร์บัส ที่รวมคนประมาณ ๘ คนนั่งคันเดียวเพื่อไปที่เดียวกัน ทำให้ชีวิตง่ายขึ้นไม่ต้องไปอ้อมที่เวียนนา ส่วนการเดินทางในเมืองแต่ละเมืองนั้น ซื้อตั๋ว ๒๔ ชั่วโมงได้หมดเลย ซึ่งสะดวก หาซื้อได้ที่สถานีรถไฟฟ้าทุกสถานี ซึ่งจะใช้ได้ทั้งรถไฟฟ้า แทรม บัส ใน ๒๔ ชั่วโมง
ปรากและเชสกี้คุมโลฟ ในเช็ค
เป็นที่สวยตามที่เขาว่าถ่ายรูปได้ทุกมุม แต่ถ้าเทียบกับเชสกี้คุมโลฟ แล้ว เชสกี้เล็กกว่าปราก แต่น่ารักจริงๆ ถ่ายได้ทุกมุมจริงๆ ที่พักอยู่บนเขาที่เดินมาในเมืองได้ แอบไปเห็นว่าเขาก็มีทะเลสาบเล็กๆ ไว้พักผ่อนเหมือนชายหาดบ้านเราบนเขา ใช้เวลาที่ปราก ๒ วัน และ เชสกี้คุมโลฟ ๑ วัน อาหารที่ปรากอร่อย ควรกินที่เขียนว่าเป็นเมนูเช็ค สลัดเช็ค ส่วนที่เชสกี้คุมโลฟ มีร้านนึงต้องจองคิว ขาหมูย่าง คนเยอะมาก กินกันสองคนไม่หมด ห่อกลับบ้านกินได้อีกมื้อ
ซัลซเบิร์กและเวียนนา ใน ออสเตรีย
คือ เมืองนี้น่าเที่ยวเพราะมีทะเลสาบหลายแห่ง แต่ที่ดังๆ คือ Wolfgang see, Hallstatt แต่เนื่องจากที่พักของทั้งสองที่ และ ในเมืองซัลซเบิร์ก แพงมาก ทางเลือกนึงที่เลือกคือ ไปพัก ที่ทะเลสาบ Fuschi ซึ่งก็สวยงามเห็นทะเลสาบตรงหลังบ้าน ได้เดินเล่นรอบทะเลสาบและชมพระอาทิตย์ตกดิน ซึ่งที่นี่อยู่ตรงกลางระหว่างเมืองซัลซเบิร์กและ ทะเลสาบดังอีก ๒ ที่ จึงเลือกที่นี่เป็นฐานทัพ วันแรกมาถึงซัลซเบิร์กด้วยชัทเทอร์บัสจากเชสกี้คุมโลฟ ก็เอากระเป๋าฝากไว้ที่สถานีรถไฟ มีตู้เก็บให้เลือกขนาดได้ตามขนาดและจำนวนกระเป๋า ซึ่งฝากได้ ๒๔ ชั่วโมง แล้วก็เดินเที่ยวในเมือง ค่ำหน่อยก็นั่งรถสาย 150 ไปที่พักซึ่งกูเกิลก็ไม่รู้จักสายนี้ แต่เป็นสายสำคัญในการเดินทางไปยังทะเลสาบทั้ง ๓ เนื่องจากมาเที่ยวเดือนกฤกฏาคม พระอาทิตย์ตกดินตอน ๓ ทุ่มครึ่ง ชีวิตเราเลยยาวนาน เที่ยวได้นานคุ้ม เดินทาง ๔๐ นาทีถึงที่พัก
๑ วัน เดินทางไป St wolfgang โดยผ่าน St Gilgen ที่มีเคเบอร์คาร์ ขึ้นไปยอดสูงสุดสามารถเห็นวิวของทะเลสาบ wolfgang ทั้งหมด จากนั้นสามารถนั่งเรือไปยัง St wolfgang สำหรับส่วนตัวแล้ว ถ้าไม่มีเวลาไปถึง St wolfgang การอยู่ กลิเก็น ก็เป็นทางเลือกที่ดี
๑ วัน เดินทางไป Hallstatt ที่เป็นภาพบนปกหนังสือ ที่นี่สวยตามภาพเลย มีเหมืองเกลือให้ได้ศึกษาและเล่นสไลดเดอร์ในถ้ำ ซึ่งการเดินทางต้องไปลงที่ Bad Ischl จากนั้นจะนั่งรถบัส สาย ๕๔๒ หรือรถไฟก็ได้ แต่มีพี่คนไทยบอกว่าถ้านั่งรถไฟต้องนั่งเรืออีก นั่งบัสสะดวกสุด และเราก็เที่ยวจนรอบสุดท้าย ก็อย่าตกใจว่ารถบัสรอบสุดท้ายไม่มี แต่มีรถเท็กซี่มาจอดที่ป้ายรถแทน ขึ้นเลยนั่นคือรถที่เขาจัดแทนรถบัสรอบสุดท้าย แล้วเขาก็ส่งไม่สุดทางให้เรานั่งรถไฟต่อ ก็ไม่ต้องตกใจว่าต้องเสียตังค์ซื้อตั๋วรถไฟเพิ่มเพื่อไปลง Bad Ischl เพราะว่าเป็นการบริการทางเลือกของเขาให้เรา
จบด้วยเที่ยวเวียนนา ๑ วัน การเดินทางไปเวียนนานั่งรถไฟในประเทศ เวียนนาสะดวกทุกอย่างมากๆ ขอแค่ซื้อตั๋วเดินทาง ๒๔ ชั่วโมงและลงแอปพลิเคชั่น Vienna Subway&Bus ชีวิตก็จะง่ายมากๆ แม้กูเกิลเมปจะพึ่งไม่ได้ในยามนี้ พระราชวังเชินบรุนน์ (Schönbrunn)เป็นสิ่งที่ไม่ควรพลาด ส่วนอย่างอื่นดูในหนังสือได้เลย
บูดาเพสต์ ในฮังการี่
เดินทางมาบูดาเพสต์ด้วยรถบัส ที่นี่ก็เช่นกันมีตั๋ว ๒๔ ชั่วโมง จริงๆมีบัตร Budapest Card ซึ่งจะประหยัดหากเป็นนักเที่ยวเข้าทุกสถานที่ที่ท่องเที่ยว แต่ส่วนตัวไม่ซื้อด้วยว่า เป็นพวกเที่ยวช้า ไปไม่กี่ที่ ไม่คุ้ม และสิ่งที่ห้ามพลาดในเมืองนี้คือการอาบน้ำแร่ ที่มีหลายสระ แต่เราเลือกสระใหญ่สุด Szechenyi Thermal Bath ด้วยรถไฟใต้ดินสายสีเหลือง สะดวกมากๆ มีทั้งสระในและนอกอาคาร สระนอกอาคารแม้อากาศเย็น สระจะอยู่ที่ ๓๐ กว่าองศา มีสระที่มีแรงดันให้วิ่งกันในสระเป็นวงกลมสนุกดี มีน้ำพุ ซาวน่าที่ต้องคู่กับสระเย็น ๒๐องศา พร้อมน้ำแข็ง และอาบน้ำแร่ในอาคาร นอกจากนี้เจ้าของบ้านแนะนำให้เดินเล่นถนนสาย Andrassy ut ซึ่งเป็นสายที่ตรงไปที่อาบน้ำแร่ จากนั้นก็เดินชมริมแม่น้ำ โชคดีวันที่ไปเป็นวันชาติเขาหรือไงไม่ทราบ มีการบินผาดโผนโชว์ที่หน้ารัฐสภาของเขา ตื่นเต้นดี ผาดโผนน่าดูเลย แต่ถ้าพลาดก็ตกแม่น้ำเท่านั้นเอง
สุดท้ายนั่งรถไฟกลับปราก ๖ ชั่วโมงครึ่ง และเดินทางกลับไทย
เพราะว่าได้อาศัยข้อมูลในกูเกิล พันทิป และอื่นๆ เมื่อเรามีประสบการณ์อะไรดีๆ เลยคิดจะแบ่งปันเพื่อประโยชน์ของผู้ค้นหาต่อไป