วันดับสูญ...
...กาลดับสูญ
สมชายผละตัวเองออกจากห้องพักผ่อน ถ้าสิ่งที่เขาคิดเป็นความจริง ต่อจากนี้จะไม่มีอะไรเหลืออยู่อีกต่อไป ที่หอบังคับการเขาพบว่าชายคนหนึ่งนั่งอยู่ที่หน้าแผงควบคุมอยู่ก่อนแล้ว
“ด๊อกเตอร์โทมัส”
ชายชราหมุนตัวเล็กน้อยมายังต้นเสียงก่อนจะหันกลับไปยังตำแหน่งเดิม สีหน้าที่เห็นเมื่อสักครู่นั้นเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด สมชายเดินเข้าไปใกล้ มองภาพในมอนิเตอร์ซึ่งกำลังแสดงแผนที่ดวงดาว จักรวาล และเส้นทางเดินของยานโนอาร์อยู่
ไม่มีใครพูดอะไรสักคำ ทั้งห้องเงียบกริบ บางทีทั้งคู่ก็คงรู้อยู่แล้วว่าไม่มีประโยชน์อะไรที่จะพูด
ที่ด้านล่างซ้ายของจอ ตัวเลขแสดงกำลังขับเคลื่อนของยานกำลังไต่ระดับสูงขึ้นเรื่อยๆ จนเข้าใกล้เส้นโอเวอร์ฮีท ในขณะที่ตัวแสดงแสดงระยะทางการเดินทางของยานกลับสวนทาง
ด๊อกเตอร์โทมัสพยายามเพิ่มกำลังของยานขึ้นไปอีกแต่ดูเหมือนจะไร้ผล และเมื่อใดก็ตามที่ยานหยุดการเคลื่อนตัวไปข้างหน้ามันก็จะถูกดูดกลับเข้าไปยังระบบสุริยะ
ตามปกติแล้วดวงอาทิตย์ที่จะทำให้เกิดหลุมดำได้นั้นจะต้องใหญ่กว่าดวงอาทิตย์ที่เราเห็นกันอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันอย่างน้อยสิบแปดเท่า
เมื่อมันเกิดการระเบิด หากแรงดึงดูดของดาวนิวตรอนสามารถดึงเศษซากดาวที่กระจัดกระจายจากการระเบิดให้ตกกลับลงมายังตัวมันเองได้จนกระทั่งมันมีมวลมากกว่าดวงอาทิตย์ของเราสามเท่าได้ แรงโน้มถ่วงที่สูงขึ้นเรื่อยๆ นั้นก็จะทำให้ดาวนิวตรอนเกิดการยุบตัวลงอย่างต่อเนื่องไม่มีที่สิ้นสุดจนเกิดเป็นหลุมดำ
สิ่งที่ยังคงเป็นปริศนาในจักรวาล มันกลืนกินได้ทุกสิ่งแม้กระทั่งแสง
การระเบิดที่เกิดขึ้นในครั้งนี้รุนแรงและกินพื้นที่มหาศาลกว่าที่เคย พลังงานและมวลที่จะทำให้เกิดหลุมดำนั้นเหลือเฟืออย่างไม่ต้องสงสัย
สมชายเหลือบมองไปทั่วห้อง นักบินสองคนอยู่ในสภาพหมดอาลัยตายอยากไปเรียบร้อยแล้ว ส่วนคนอื่นๆ ก็คงไม่ต่างกันมาก ทุกคนไม่เหลือกำลังใจที่จะทำอะไรต่ออีกแล้ว
แม้กระทั่งด๊อกเตอร์โทมัสก็ไม่เว้น แม้สายตาของชายชราจะยังคงจับจ้องอยู่ที่หน้าจอ แต่เขากลับไม่สามารถระบุรายละเอียดที่ปรากฏได้ แม้จะดูเหมือนกำลังครุ่นคิดอย่างหนัก แต่ในขณะนี้สมองนั้นกลับว่างเปล่า
สมองที่เคยปราดเปรื่องรอบรู้ไปเสียทุกเรื่องกลับใช้การไม่ได้ไปเสียแล้ว
“ออด ออด ออด”
สัญญาณเตือนดังขึ้น สัญญาณไฟสีแดงกระพริบถี่ที่แผงควบคุม เครื่องยนต์ที่ปีกขวาได้รับความเสียหายจากการทำงานเกินกำลังของมัน
หลุมดำที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ที่มนุษย์เคยรู้จักได้ก่อกำเนิดขึ้นแล้ว หลุมดำที่เกิดจากจุดจบของดวงดาวจำนวนมากมาย แรงดึงดูดที่แม้แต่ความเร็วแสงก็ยังต้องพ่ายแพ้
แล้วนับประสาอะไรกับความเร็วที่เกิดจากแรงขับเคลื่อนของเชื้อเพลิงและเครื่องยนต์ที่มนุษย์กระจ้องร่อยสร้างขึ้น
“ไม่มีทางเลย”
จักรวาลเกิดขึ้นจากบิ๊กแบงหรือการระเบิดครั้งใหญ่ หลังการระเบิดในครั้งนั้นส่งผลให้จักรวาลแผ่ขยายออกไปเรื่อยๆ จนกระทั่งปัจจุบันนี้มันก็ยังคงขยายตัวต่อไปไม่หยุดยั้ง
มันทำอย่างนั้นก็เพื่อลดพลังงานและเข้าสู่สมดุล
ไม่แน่ว่าหลุมดำที่ก่อกำเนิดขึ้นในเวลานี้อาจจะใหญ่และมีแรงดึงดูดมหาศาลขนาดที่จะหยุดยั้งการแผ่ขยายของจักรวาลก็เป็นได้
และถ้าเป็นอย่างนั้นจริงมันจะกลืนกินทุกสิ่ง ทั้งสสาร พลังงาน แสง และรวมจึงจักรวาลทั้งหมด
ไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรต่อจากนี้ เพราะคงไม่มีใครอยู่ดูมันได้แล้ว ยานหยุดเคลื่อนที่ไปข้างหน้าแล้ว ตัวยานสั่นสะเทือนหนักขึ้น แรงขับเคลื่อนไม่อาจต้านทานแรงดึงดูดได้อีกต่อไป
สัญญาณไฟสีแดงกระพริบที่ปีกซ้าย และที่จุดอื่นๆ ในช่วงเวลาติดๆ กันจนในที่สุดสัญญาณเตือนทั่วทั้งยานก็ติดกระพริบ
ด๊อกเตอร์โทมัสก้มหน้าแต่มือยังคงอยู่ที่แผงควบคุม
“อ๊าก...กกก”
เสียงตะโกนก้องอย่างบ้าคลั่งนั้นยอมรับว่าตนเองหมดหนทางแล้ว ชายชราทุกกำปั้นลงไปบนแผงควบคุมราวคนเสียสติ
“ข้าไม่ยอมแพ้ ไม่ยอม แก ไอ้พระเจ้าเฮงซวย แกต้องการจะให้พวกข้าหายไปจริงๆ ใช่มั้ย ไม่ยอม แกดูถูกพวกเราเกินไป พวกข้าต้องรวดโว้ย ไม่ยอม ไม่ อ๊าก...กกก”
ความทรงภูมิและความสุขุมหายไปหมด ตรงหน้าของสมชายในเวลานี้เหลือเพียงชายแก่หมดสภาพที่กำลังคลุ้มคลั่งควบคุมตัวเองไม่ได้เท่านั้น
การกระทำของพวกเราส่งผลกระทบอันใหญ่หลวงและรุนแรงแสนสาหัสกว่าที่คาด เป็นเรื่องเหลือเชื่อเกินกว่าจะจินตนาการถึงจริงๆ
คนที่อยู่ภายนอกห้องนี้อาจจะยังไม่รู้ตัว ปล่อยให้พวกเขาหายไปอย่างสงบดีกว่า
การกระทำของธุลีจักรวาลอย่างเราไหนเลยจะสู้ธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ได้ ทุกการกระทำที่ผ่านมา ทุกการดิ้นรน เราก็แค่วิ่งอยู่ในกรงขังของธรรมชาติเท่านั้น
และเมื่อธรรมชาติเบื่อที่จะเล่นกับเราแล้วทุกอย่างก็จบ เราไม่มีทางรอดแต่แรกแล้ว ตั้งแต่เราทอดทิ้งโลก
สมชายหลับตาลงอย่างสงบ ปล่อยให้จิตใจล่องลอยไปไกลแสนไกลสู่ห้วงเวลาของอดีต คิดถึงช่วงเวลาที่มีความสุขในชีวิตที่ผ่านมาก่อนหมดโอกาสที่แม้แต่จะคิด
และเฝ้ารอให้ทุกสิ่งถูกกลืนกิน เพื่อกลับไปสู่จุดเริ่มต้นอีกครั้ง
วันดับสูญ...กาลดับสูญ (+ส่งท้าย)
...กาลดับสูญ
สมชายผละตัวเองออกจากห้องพักผ่อน ถ้าสิ่งที่เขาคิดเป็นความจริง ต่อจากนี้จะไม่มีอะไรเหลืออยู่อีกต่อไป ที่หอบังคับการเขาพบว่าชายคนหนึ่งนั่งอยู่ที่หน้าแผงควบคุมอยู่ก่อนแล้ว
“ด๊อกเตอร์โทมัส”
ชายชราหมุนตัวเล็กน้อยมายังต้นเสียงก่อนจะหันกลับไปยังตำแหน่งเดิม สีหน้าที่เห็นเมื่อสักครู่นั้นเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด สมชายเดินเข้าไปใกล้ มองภาพในมอนิเตอร์ซึ่งกำลังแสดงแผนที่ดวงดาว จักรวาล และเส้นทางเดินของยานโนอาร์อยู่
ไม่มีใครพูดอะไรสักคำ ทั้งห้องเงียบกริบ บางทีทั้งคู่ก็คงรู้อยู่แล้วว่าไม่มีประโยชน์อะไรที่จะพูด
ที่ด้านล่างซ้ายของจอ ตัวเลขแสดงกำลังขับเคลื่อนของยานกำลังไต่ระดับสูงขึ้นเรื่อยๆ จนเข้าใกล้เส้นโอเวอร์ฮีท ในขณะที่ตัวแสดงแสดงระยะทางการเดินทางของยานกลับสวนทาง
ด๊อกเตอร์โทมัสพยายามเพิ่มกำลังของยานขึ้นไปอีกแต่ดูเหมือนจะไร้ผล และเมื่อใดก็ตามที่ยานหยุดการเคลื่อนตัวไปข้างหน้ามันก็จะถูกดูดกลับเข้าไปยังระบบสุริยะ
ตามปกติแล้วดวงอาทิตย์ที่จะทำให้เกิดหลุมดำได้นั้นจะต้องใหญ่กว่าดวงอาทิตย์ที่เราเห็นกันอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันอย่างน้อยสิบแปดเท่า
เมื่อมันเกิดการระเบิด หากแรงดึงดูดของดาวนิวตรอนสามารถดึงเศษซากดาวที่กระจัดกระจายจากการระเบิดให้ตกกลับลงมายังตัวมันเองได้จนกระทั่งมันมีมวลมากกว่าดวงอาทิตย์ของเราสามเท่าได้ แรงโน้มถ่วงที่สูงขึ้นเรื่อยๆ นั้นก็จะทำให้ดาวนิวตรอนเกิดการยุบตัวลงอย่างต่อเนื่องไม่มีที่สิ้นสุดจนเกิดเป็นหลุมดำ
สิ่งที่ยังคงเป็นปริศนาในจักรวาล มันกลืนกินได้ทุกสิ่งแม้กระทั่งแสง
การระเบิดที่เกิดขึ้นในครั้งนี้รุนแรงและกินพื้นที่มหาศาลกว่าที่เคย พลังงานและมวลที่จะทำให้เกิดหลุมดำนั้นเหลือเฟืออย่างไม่ต้องสงสัย
สมชายเหลือบมองไปทั่วห้อง นักบินสองคนอยู่ในสภาพหมดอาลัยตายอยากไปเรียบร้อยแล้ว ส่วนคนอื่นๆ ก็คงไม่ต่างกันมาก ทุกคนไม่เหลือกำลังใจที่จะทำอะไรต่ออีกแล้ว
แม้กระทั่งด๊อกเตอร์โทมัสก็ไม่เว้น แม้สายตาของชายชราจะยังคงจับจ้องอยู่ที่หน้าจอ แต่เขากลับไม่สามารถระบุรายละเอียดที่ปรากฏได้ แม้จะดูเหมือนกำลังครุ่นคิดอย่างหนัก แต่ในขณะนี้สมองนั้นกลับว่างเปล่า
สมองที่เคยปราดเปรื่องรอบรู้ไปเสียทุกเรื่องกลับใช้การไม่ได้ไปเสียแล้ว
“ออด ออด ออด”
สัญญาณเตือนดังขึ้น สัญญาณไฟสีแดงกระพริบถี่ที่แผงควบคุม เครื่องยนต์ที่ปีกขวาได้รับความเสียหายจากการทำงานเกินกำลังของมัน
หลุมดำที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ที่มนุษย์เคยรู้จักได้ก่อกำเนิดขึ้นแล้ว หลุมดำที่เกิดจากจุดจบของดวงดาวจำนวนมากมาย แรงดึงดูดที่แม้แต่ความเร็วแสงก็ยังต้องพ่ายแพ้
แล้วนับประสาอะไรกับความเร็วที่เกิดจากแรงขับเคลื่อนของเชื้อเพลิงและเครื่องยนต์ที่มนุษย์กระจ้องร่อยสร้างขึ้น
“ไม่มีทางเลย”
จักรวาลเกิดขึ้นจากบิ๊กแบงหรือการระเบิดครั้งใหญ่ หลังการระเบิดในครั้งนั้นส่งผลให้จักรวาลแผ่ขยายออกไปเรื่อยๆ จนกระทั่งปัจจุบันนี้มันก็ยังคงขยายตัวต่อไปไม่หยุดยั้ง
มันทำอย่างนั้นก็เพื่อลดพลังงานและเข้าสู่สมดุล
ไม่แน่ว่าหลุมดำที่ก่อกำเนิดขึ้นในเวลานี้อาจจะใหญ่และมีแรงดึงดูดมหาศาลขนาดที่จะหยุดยั้งการแผ่ขยายของจักรวาลก็เป็นได้
และถ้าเป็นอย่างนั้นจริงมันจะกลืนกินทุกสิ่ง ทั้งสสาร พลังงาน แสง และรวมจึงจักรวาลทั้งหมด
ไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรต่อจากนี้ เพราะคงไม่มีใครอยู่ดูมันได้แล้ว ยานหยุดเคลื่อนที่ไปข้างหน้าแล้ว ตัวยานสั่นสะเทือนหนักขึ้น แรงขับเคลื่อนไม่อาจต้านทานแรงดึงดูดได้อีกต่อไป
สัญญาณไฟสีแดงกระพริบที่ปีกซ้าย และที่จุดอื่นๆ ในช่วงเวลาติดๆ กันจนในที่สุดสัญญาณเตือนทั่วทั้งยานก็ติดกระพริบ
ด๊อกเตอร์โทมัสก้มหน้าแต่มือยังคงอยู่ที่แผงควบคุม
“อ๊าก...กกก”
เสียงตะโกนก้องอย่างบ้าคลั่งนั้นยอมรับว่าตนเองหมดหนทางแล้ว ชายชราทุกกำปั้นลงไปบนแผงควบคุมราวคนเสียสติ
“ข้าไม่ยอมแพ้ ไม่ยอม แก ไอ้พระเจ้าเฮงซวย แกต้องการจะให้พวกข้าหายไปจริงๆ ใช่มั้ย ไม่ยอม แกดูถูกพวกเราเกินไป พวกข้าต้องรวดโว้ย ไม่ยอม ไม่ อ๊าก...กกก”
ความทรงภูมิและความสุขุมหายไปหมด ตรงหน้าของสมชายในเวลานี้เหลือเพียงชายแก่หมดสภาพที่กำลังคลุ้มคลั่งควบคุมตัวเองไม่ได้เท่านั้น
การกระทำของพวกเราส่งผลกระทบอันใหญ่หลวงและรุนแรงแสนสาหัสกว่าที่คาด เป็นเรื่องเหลือเชื่อเกินกว่าจะจินตนาการถึงจริงๆ
คนที่อยู่ภายนอกห้องนี้อาจจะยังไม่รู้ตัว ปล่อยให้พวกเขาหายไปอย่างสงบดีกว่า
การกระทำของธุลีจักรวาลอย่างเราไหนเลยจะสู้ธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ได้ ทุกการกระทำที่ผ่านมา ทุกการดิ้นรน เราก็แค่วิ่งอยู่ในกรงขังของธรรมชาติเท่านั้น
และเมื่อธรรมชาติเบื่อที่จะเล่นกับเราแล้วทุกอย่างก็จบ เราไม่มีทางรอดแต่แรกแล้ว ตั้งแต่เราทอดทิ้งโลก
สมชายหลับตาลงอย่างสงบ ปล่อยให้จิตใจล่องลอยไปไกลแสนไกลสู่ห้วงเวลาของอดีต คิดถึงช่วงเวลาที่มีความสุขในชีวิตที่ผ่านมาก่อนหมดโอกาสที่แม้แต่จะคิด
และเฝ้ารอให้ทุกสิ่งถูกกลืนกิน เพื่อกลับไปสู่จุดเริ่มต้นอีกครั้ง