ท้าวความไปเมื่อปีที่แล้ว ก่อนหนังเรื่องนี้จะเข้าฉาย
เมื่อมีข่าวมาว่า Suicide Squad จะถูกนำมาทำเป็นหนัง
ผมนี่ถึงกับหูตั้ง หางกระดิกเลย และก็ตั้งหน้าตั้งตารอหนังเรื่องนี้มากกว่าเรื่องอื่นๆของ DC เลย ด้วยเหตุผลดังนี้
1. ผมอยากดูหนังจาก DC Comics เรื่องอื่นๆที่ไม่ใช่ Superman และ Batman บ้าง
จากที่เราเห็นๆกันชัดๆว่า ตลอดหลายสิบปีมานี้วงการภาพยนต์ที่ผลิตภาพยนต์จากตัวละคร DC Comics นั้น หากินแต่กับชื่อ Batman และ Superman มาตลอด (จริงๆมันก็พอมีตัวอื่นบ้าง แต่ไม่รุ่ง) ซึ่งพอผมเห็นเรื่อง Suicide Squad เป็นหนึ่งในแผนการสร้างภาพยนต์ ทำให้ผมให้ความสนใจมาก อาจเพราะตัว Suicide Squad มีพื้นฐานต้นฉบับที่ค่อนข้างน่าสนใจสามารนำมาทำเป็นหนังดีๆได้เลยเรื่องนึง
แถมตัว Suicide Squad เองก็ยังเคยถูกนำมาทำเป็น Animation ตอน Assaults on Arkham ซึ่งทำออกมาสนุกมาก หรือแม้แต่ซีรี่ย์ Arrow เองก็ยังหยิบเนื้อหาของ Suicide Squad ไปทำบางตอน
2. Costume และ Design ตัวละครโดนใจ
คอสตูมกับดีไซน์นี่เป็นอีกหนึ่งโจทย์ยากเลยในความคิดผม สำหรับทีมออกแบบ
เพราะถ้าเอาซะตรงคอมมิคแบบ Copy+Paste มันก็จะดูตลก (ยกเว้นพวกแนวชุดเกราะอย่าง Iron Man หรือพวกแนวกางเกงตัวเดียวแบบ Hulk นะ ส่วน Deadpool นี่กรณียกเว้น) อย่างเช่น Green Lantern ที่ทำมาคล้ายต้นฉบับ แต่ดูตลกมาก
หรือถ้าดัดแปลงซะจนไม่เหลือเค้าโครงเดิม ทิ้งความเป็นต้นฉบับไปซะหมด มันก็ไม่สามารถเชื่อมโยงคนดูระหว่างฉบับภาพยนต์กับต้นฉบับได้ อย่างเช่น Deadpool ใน X-Men: Origin
ซึ่งสำหรับเรื่อง Suicide Squad นี้ ตัวละครอย่าง Harley Quinn ก็มีการดีไซน์ชุด และรูปลักษณ์ใหม่ ซึ่งมันออกมาแล้วผมชอบมากๆ มันไม่ได้เป็นชุดตัวตลก ทาหน้าขาว หมวกสองจุกแบบในคอมมิค (แต่ก็มีมาให้แฟนๆเห็นในหนังอยู่นิดหน่อย) มีการดัดแปลงอยู่เยอะพอสมควร แต่มันทำออกมาได้ดีมาก ที่ถึงแม้จะแทบไม่มีอะไรเหมือนต้นฉบับเลย แต่ผมเห็นแล้วก็ยังรู้สึกว่า "นี่มัน Harley Quinn!!" เรื่องดีไซน์นี่ผมให้ 3 ผ่านเลย
3. Art Work โดนใจมาก
หนังเรื่อง Suicide Squad นี่เลือกใช้ Art Work แนวๆ Pop Punk ใช้สีสันฉูดฉาด ซึ่งส่วนตัว ผมชอบ Art แนวๆพังค์อยู่แล้ว และผมคิดว่า Art Work แนวนี้เหมาะกับหนังเรื่องนี้มาก มันดูเข้ากับคาแรคเตอร์ต่างๆของเรื่อง แต่ดึงจิตวิญญาณของ Suicide Squad ออกมาได้ ตอนผมเห็นโปสเตอร์ของหนัง ผมยิ่งอยากดูเข้าไปอีก
4. ตัวอย่างหนัง
Warner ไม่เคยทำให้เราผิดหวัง เรื่องตัวอย่างหนัง ตัดออกมาได้น่าสนใจ น่าดูน่าติดตาม จากตัวอย่างหนังที่ปล่อยออกมานั้น ยิ่งเพิ่มความน่าดูของหนังเข้าไปใหญ่
จากเหตุผลดังกล่าว ทำให้ผมตั้งความหวังของหนังเรื่องนี้ไว้สูงส่งมาก แต่แล้ว หนังเรื่องนี้มันก็ทำให้ผม "อกหัก" หลังจากได้เข้าโรงไปดู
1. หนังไม่สนุกอย่างที่คิด
ผลออกมาถึงแม้หนังมันจะไม่ได้แย่ ห่วยแตกเหมือน Fantastic Four แต่มันก็ไม่ได้สมกับความหวังที่ตั้งตารอ มันกลายเป็นหนังธรรมดาเรื่องนึงที่ไม่ได้พิเศษและน่าจดจำอะไร ความรู้สึกของผมหลังจากดูมันอารมณ์เหมือนดูหนังแนวๆ The Expendibles ทำนองนั้น
จะว่ากันตรงๆ มันสนุกไม่เท่า Animation Assaults on Arkham ด้วยซ้ำ
2. เพลงประกอบตัวดำเนินเรื่อง มักมาไม่ถูกจังหวะ
ผมไม่อยากเทียบกับ Guardians of the Galaxy นะ แต่ผมหาตัวเทียบอื่นไม่ได้ละ
ทั้งสองเรื่องนี้คล้ายกันตรงจะใช้เพลงฮิตต่างๆในการซัพพอร์ทเรื่อง
ทางด้าน Guardians of the Galaxy นั้นเลือกใช้เพลงได้ถูกจังหวะกว่ามาก ฉากบางฉากพอเอาเพลงเข้ามาประกอบแล้วเราเคลิ้มไปกับมัน
แต่เรื่อง Suicide Squad นี้ใช้เพลงพร่ำเพรื่อมาก แทบจะฉากนึง เพลงนึง เรายังไม่ทันเคลิ้มกับมันเลย อ้าว เปลี่ยนเพลงละ
ปล. แต่ผมไม่ได้มีปัญหาอะไรกับตัวเพลงนะ หนังเลือกใช้เพลงที่ดีมาประกอบ แต่ผมรู้สึกมันใช้ไม่เหมาะสมกับฉาก และช่วงเวลาเท่าไหร่
3. Will Smith ดูเป็น Will Smith มากเกินไป
การเอาดาราระดับแม่เหล็กอย่าง Will Smith นั้น เป็นทั้งดาบสองคม
ซึ่งเรื่องนี้การแสดงของ Will Smith นั้นดีสมกับชื่อเสียง
แต่บท Deadshot ที่เค้าได้รับนั้น มันไม่เหมาะกับคาแรคเตอร์ Will Smith
ซึ่งถ้าคนที่ติดตามหนังของ Will Smith มาตลอดแบบผม แล้วดูหนังเรื่องนี้แล้วอาจรู้สึกแบบผม
ผมรู้สึกว่าคนๆนี้ ไม่ใช่คนร้าย ไม่ใช่ฆาตรกร คุณไม่สมควรมาติดคุก คุณควรจะไปเป็นพระเอก ไปเป็นฮีโร่ช่วยโลก!!
ทั้งนี้ทั้งนั้น เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิด Will Smith เลย แต่ผมกลับคิดว่า ทางผู้กำกับและค่าย เลือกที่จะเอาตัวดาราตั้ง แล้วค่อยหาบทให้ มากกว่าเอาบทมาตั้ง แล้วหาคนที่เหมาะสมมาแสดง
4. ฉากแอคชั่นดูมักง่าย
หนังเรื่องนี้มันรวมทีมสุดยอดวายร้ายนะ แต่เห้ย ฉากต่อสู้แทบไม่มีโชว์เลยว่าตัวละครแต่ละตัวมีความสามารถ เก่งอะไรกันบ้าง แต่เหัย สิ่งที่ออกมาในหนังคือ ฉากต่อสู้มีแต่การตะลุมบอน กราดยิง เอาไม้ฟาด ต่อยเตะ ดูดาดๆมาก จะมีโชว์หน่อยก็แค่ของ El Diablo ซึ่งมันก็จะจบเรื่องละ
5. Suicide Squad? กับ Enchantress?
แกนหลักของเรื่อง Suicide Squad มันคือการที่รัฐบาลจับเอาผู้ร้ายมาทำงานสกปรก ที่รัฐบาลเองไม่อยากลงมือเอง ที่เผื่อว่าภารกิจผิดพลาดขึ้นมาก็แค่โยนแพะให้ไอ้พวกผู้ร้ายนี้ ซึ่งภารกิจมันควรจะเป็นแนว ลอบสังหาร จารกรรม หรืองานเก็บกวาดของรัฐ
ซึ่งสมาชิกส่วนใหญ่อย่างที่เห็นมันก็คือตัวร้ายจากเรื่อง Batman ทั้งนั้น แต่ตัวร้ายของเรื่อง? Enchantress? WTF!!! มันต่างกันไปมั้ยนี่มันตัวร้ายระดับ Justice League เลยนะ
แล้วความเป็น Suicide Squad ล่ะ แทบไม่เหลือเลย เหมือนแค่เปลี่ยน Superman, Batman, Wonder Woman มาเป็น Harley Quinn, Deadshot, Captain Boomerang แต่ก็รวมพลังมิตรภาพปราบบอสใหญ่เหมือนกัน
6. ตัดต่อชวนงง
อันนี้เป็นมาตั้งแต่ BvS ละ ซึ่งตอนแรกคิดว่าคงเป็นปัญหาที่อีตาแซค แต่พอมาดูเรื่องนี้แล้วก็ อืม...ไม่ต่างกัน
ด้วยเหตุเหล่านี้แหละ ทำให้รู้สึกอกหักจากหนังเรื่องนี้อย่างแรง เนื่องจากหวังไว้มาก ว่ามันจะมาฉีกแนว และเป็นความหวังของจักรวาล DC แต่สุดท้ายตั้งแต่เปิดจักรวาลมาก็ยังไม่มีเรื่องไหนประสบความสำเร็จแบบจริงจังเลย
ก่อนไปดูผมก็อ่านรีวิว อ่านบทวิจาร์ณอยู่บ้างแต่ก็พยายาม "ไม่เชื่อ" แต่พอดูมาแล้วก็อย่าไปโทษนักวิจาร์ณเลยครับ มันเป็นแบบนั้นจริงๆ
ปล. เรื่อง Joker กับ Batman ที่ออกมานิดเดียว ผมไม่ซีเรียสนะ เพราะเข้าใจอยู่แล้วว่าหนังเรื่องนี้ไม่ใช่หนังสำหรับสองคนนั้น
[CR] [Review]Suicide Squad เมื่อผมอกหักจากหนังเรื่องนี้ (สปอยล์นิดหน่อย)
เมื่อมีข่าวมาว่า Suicide Squad จะถูกนำมาทำเป็นหนัง
ผมนี่ถึงกับหูตั้ง หางกระดิกเลย และก็ตั้งหน้าตั้งตารอหนังเรื่องนี้มากกว่าเรื่องอื่นๆของ DC เลย ด้วยเหตุผลดังนี้
1. ผมอยากดูหนังจาก DC Comics เรื่องอื่นๆที่ไม่ใช่ Superman และ Batman บ้าง
จากที่เราเห็นๆกันชัดๆว่า ตลอดหลายสิบปีมานี้วงการภาพยนต์ที่ผลิตภาพยนต์จากตัวละคร DC Comics นั้น หากินแต่กับชื่อ Batman และ Superman มาตลอด (จริงๆมันก็พอมีตัวอื่นบ้าง แต่ไม่รุ่ง) ซึ่งพอผมเห็นเรื่อง Suicide Squad เป็นหนึ่งในแผนการสร้างภาพยนต์ ทำให้ผมให้ความสนใจมาก อาจเพราะตัว Suicide Squad มีพื้นฐานต้นฉบับที่ค่อนข้างน่าสนใจสามารนำมาทำเป็นหนังดีๆได้เลยเรื่องนึง
แถมตัว Suicide Squad เองก็ยังเคยถูกนำมาทำเป็น Animation ตอน Assaults on Arkham ซึ่งทำออกมาสนุกมาก หรือแม้แต่ซีรี่ย์ Arrow เองก็ยังหยิบเนื้อหาของ Suicide Squad ไปทำบางตอน
2. Costume และ Design ตัวละครโดนใจ
คอสตูมกับดีไซน์นี่เป็นอีกหนึ่งโจทย์ยากเลยในความคิดผม สำหรับทีมออกแบบ
เพราะถ้าเอาซะตรงคอมมิคแบบ Copy+Paste มันก็จะดูตลก (ยกเว้นพวกแนวชุดเกราะอย่าง Iron Man หรือพวกแนวกางเกงตัวเดียวแบบ Hulk นะ ส่วน Deadpool นี่กรณียกเว้น) อย่างเช่น Green Lantern ที่ทำมาคล้ายต้นฉบับ แต่ดูตลกมาก
หรือถ้าดัดแปลงซะจนไม่เหลือเค้าโครงเดิม ทิ้งความเป็นต้นฉบับไปซะหมด มันก็ไม่สามารถเชื่อมโยงคนดูระหว่างฉบับภาพยนต์กับต้นฉบับได้ อย่างเช่น Deadpool ใน X-Men: Origin
ซึ่งสำหรับเรื่อง Suicide Squad นี้ ตัวละครอย่าง Harley Quinn ก็มีการดีไซน์ชุด และรูปลักษณ์ใหม่ ซึ่งมันออกมาแล้วผมชอบมากๆ มันไม่ได้เป็นชุดตัวตลก ทาหน้าขาว หมวกสองจุกแบบในคอมมิค (แต่ก็มีมาให้แฟนๆเห็นในหนังอยู่นิดหน่อย) มีการดัดแปลงอยู่เยอะพอสมควร แต่มันทำออกมาได้ดีมาก ที่ถึงแม้จะแทบไม่มีอะไรเหมือนต้นฉบับเลย แต่ผมเห็นแล้วก็ยังรู้สึกว่า "นี่มัน Harley Quinn!!" เรื่องดีไซน์นี่ผมให้ 3 ผ่านเลย
3. Art Work โดนใจมาก
หนังเรื่อง Suicide Squad นี่เลือกใช้ Art Work แนวๆ Pop Punk ใช้สีสันฉูดฉาด ซึ่งส่วนตัว ผมชอบ Art แนวๆพังค์อยู่แล้ว และผมคิดว่า Art Work แนวนี้เหมาะกับหนังเรื่องนี้มาก มันดูเข้ากับคาแรคเตอร์ต่างๆของเรื่อง แต่ดึงจิตวิญญาณของ Suicide Squad ออกมาได้ ตอนผมเห็นโปสเตอร์ของหนัง ผมยิ่งอยากดูเข้าไปอีก
4. ตัวอย่างหนัง
Warner ไม่เคยทำให้เราผิดหวัง เรื่องตัวอย่างหนัง ตัดออกมาได้น่าสนใจ น่าดูน่าติดตาม จากตัวอย่างหนังที่ปล่อยออกมานั้น ยิ่งเพิ่มความน่าดูของหนังเข้าไปใหญ่
จากเหตุผลดังกล่าว ทำให้ผมตั้งความหวังของหนังเรื่องนี้ไว้สูงส่งมาก แต่แล้ว หนังเรื่องนี้มันก็ทำให้ผม "อกหัก" หลังจากได้เข้าโรงไปดู
1. หนังไม่สนุกอย่างที่คิด
ผลออกมาถึงแม้หนังมันจะไม่ได้แย่ ห่วยแตกเหมือน Fantastic Four แต่มันก็ไม่ได้สมกับความหวังที่ตั้งตารอ มันกลายเป็นหนังธรรมดาเรื่องนึงที่ไม่ได้พิเศษและน่าจดจำอะไร ความรู้สึกของผมหลังจากดูมันอารมณ์เหมือนดูหนังแนวๆ The Expendibles ทำนองนั้น
จะว่ากันตรงๆ มันสนุกไม่เท่า Animation Assaults on Arkham ด้วยซ้ำ
2. เพลงประกอบตัวดำเนินเรื่อง มักมาไม่ถูกจังหวะ
ผมไม่อยากเทียบกับ Guardians of the Galaxy นะ แต่ผมหาตัวเทียบอื่นไม่ได้ละ
ทั้งสองเรื่องนี้คล้ายกันตรงจะใช้เพลงฮิตต่างๆในการซัพพอร์ทเรื่อง
ทางด้าน Guardians of the Galaxy นั้นเลือกใช้เพลงได้ถูกจังหวะกว่ามาก ฉากบางฉากพอเอาเพลงเข้ามาประกอบแล้วเราเคลิ้มไปกับมัน
แต่เรื่อง Suicide Squad นี้ใช้เพลงพร่ำเพรื่อมาก แทบจะฉากนึง เพลงนึง เรายังไม่ทันเคลิ้มกับมันเลย อ้าว เปลี่ยนเพลงละ
ปล. แต่ผมไม่ได้มีปัญหาอะไรกับตัวเพลงนะ หนังเลือกใช้เพลงที่ดีมาประกอบ แต่ผมรู้สึกมันใช้ไม่เหมาะสมกับฉาก และช่วงเวลาเท่าไหร่
3. Will Smith ดูเป็น Will Smith มากเกินไป
การเอาดาราระดับแม่เหล็กอย่าง Will Smith นั้น เป็นทั้งดาบสองคม
ซึ่งเรื่องนี้การแสดงของ Will Smith นั้นดีสมกับชื่อเสียง
แต่บท Deadshot ที่เค้าได้รับนั้น มันไม่เหมาะกับคาแรคเตอร์ Will Smith
ซึ่งถ้าคนที่ติดตามหนังของ Will Smith มาตลอดแบบผม แล้วดูหนังเรื่องนี้แล้วอาจรู้สึกแบบผม
ผมรู้สึกว่าคนๆนี้ ไม่ใช่คนร้าย ไม่ใช่ฆาตรกร คุณไม่สมควรมาติดคุก คุณควรจะไปเป็นพระเอก ไปเป็นฮีโร่ช่วยโลก!!
ทั้งนี้ทั้งนั้น เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิด Will Smith เลย แต่ผมกลับคิดว่า ทางผู้กำกับและค่าย เลือกที่จะเอาตัวดาราตั้ง แล้วค่อยหาบทให้ มากกว่าเอาบทมาตั้ง แล้วหาคนที่เหมาะสมมาแสดง
4. ฉากแอคชั่นดูมักง่าย
หนังเรื่องนี้มันรวมทีมสุดยอดวายร้ายนะ แต่เห้ย ฉากต่อสู้แทบไม่มีโชว์เลยว่าตัวละครแต่ละตัวมีความสามารถ เก่งอะไรกันบ้าง แต่เหัย สิ่งที่ออกมาในหนังคือ ฉากต่อสู้มีแต่การตะลุมบอน กราดยิง เอาไม้ฟาด ต่อยเตะ ดูดาดๆมาก จะมีโชว์หน่อยก็แค่ของ El Diablo ซึ่งมันก็จะจบเรื่องละ
5. Suicide Squad? กับ Enchantress?
แกนหลักของเรื่อง Suicide Squad มันคือการที่รัฐบาลจับเอาผู้ร้ายมาทำงานสกปรก ที่รัฐบาลเองไม่อยากลงมือเอง ที่เผื่อว่าภารกิจผิดพลาดขึ้นมาก็แค่โยนแพะให้ไอ้พวกผู้ร้ายนี้ ซึ่งภารกิจมันควรจะเป็นแนว ลอบสังหาร จารกรรม หรืองานเก็บกวาดของรัฐ
ซึ่งสมาชิกส่วนใหญ่อย่างที่เห็นมันก็คือตัวร้ายจากเรื่อง Batman ทั้งนั้น แต่ตัวร้ายของเรื่อง? Enchantress? WTF!!! มันต่างกันไปมั้ยนี่มันตัวร้ายระดับ Justice League เลยนะ
แล้วความเป็น Suicide Squad ล่ะ แทบไม่เหลือเลย เหมือนแค่เปลี่ยน Superman, Batman, Wonder Woman มาเป็น Harley Quinn, Deadshot, Captain Boomerang แต่ก็รวมพลังมิตรภาพปราบบอสใหญ่เหมือนกัน
6. ตัดต่อชวนงง
อันนี้เป็นมาตั้งแต่ BvS ละ ซึ่งตอนแรกคิดว่าคงเป็นปัญหาที่อีตาแซค แต่พอมาดูเรื่องนี้แล้วก็ อืม...ไม่ต่างกัน
ด้วยเหตุเหล่านี้แหละ ทำให้รู้สึกอกหักจากหนังเรื่องนี้อย่างแรง เนื่องจากหวังไว้มาก ว่ามันจะมาฉีกแนว และเป็นความหวังของจักรวาล DC แต่สุดท้ายตั้งแต่เปิดจักรวาลมาก็ยังไม่มีเรื่องไหนประสบความสำเร็จแบบจริงจังเลย
ก่อนไปดูผมก็อ่านรีวิว อ่านบทวิจาร์ณอยู่บ้างแต่ก็พยายาม "ไม่เชื่อ" แต่พอดูมาแล้วก็อย่าไปโทษนักวิจาร์ณเลยครับ มันเป็นแบบนั้นจริงๆ
ปล. เรื่อง Joker กับ Batman ที่ออกมานิดเดียว ผมไม่ซีเรียสนะ เพราะเข้าใจอยู่แล้วว่าหนังเรื่องนี้ไม่ใช่หนังสำหรับสองคนนั้น