[CR][SR] < รีวิวทริป > เมื่อน้ำตกไนเเองการ่ากลายเป็นน้ำเเข็ง Niagara falls winter season

กระทู้รีวิว
พอดีมีโอกาสได้เดินทางไปเที่ยวน้ำตกไนเเองการ่า( Niagara falls  )ที่ยิ่งใหญ่เเละสวยงามที่สุดในโลกในช่วงหน้าหนาวมาค่ะ        ซึ่งอาจจะฟังดูสวนกระเเสไปสักหน่อย  เพราะคนส่วนใหญ่นั้น หรือเกือบเเทบจะร้อยเปอร์เซ็นต์เลยก็ว่าได้  นิยมเดินทางไปเที่ยวไนเเองการ่าในช่วงหน้าร้อนกัน ....เพราะ ในหน้าร้อน นอกจากจะสวยงามกว่ามากเเล้ว ก็ยังมีกิจกรรมต่างๆให้ได้ทำอีกเยอะเเยะด้วย   โดยผิดกับหน้าหนาวอย่างสิ้นเชิงที่ในเขตของน้ำตกจะปิด ตลอดจนรวมไปถึงการท่องเที่ยวในเมืองของไนเเองการ่าด้วย คือทุกอย่างจะเงียบสนิท โรงเเรมราคาจะถูกเเสนถูก เสมือนอย่างกับให้นอนฟรี ลดลงมาจากราคาเต็มถึงครึ่งหนึ่ง เพราะในช่วงหน้าหนาวของไนเเองการ่านั้น ทุกอย่างจะกลายเป็นกองน้ำเเข็งมหึมา ที่นกสามารถบินลงไปเดินบนน้ำตกได้อย่างสบาย .....เเต่ภายใต้น้ำเเข็งจำนวนมหึมาเหล่านี้ มันก็ยังคงรักษาความยิ่งใหญ่เเละสวยงามให้น่าเดินทางไปเที่ยวกันอีกเเบบ

7ชั่วโมงนะค่ะ จากนิวยอร์ก ขับรถตลอดทางที่เต็มไปด้วยหิมะ ซึ่งต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างยิ่งสำหรับถนนที่ลื่น บวกกับสภาพอากาศติดลบ หนาวเหน็บ บอกกับตัวเองมาตลอดทาง ว่า...จะมาเที่ยวช่วงหน้าหนาวทำไมเนี่ย ทรมาน ..ชมัด

ตามถนนหนทางในเมืองบัฟฟาโลเขตของน้ำตกไนเเองการ่า ขอบอกว่าเงียบมากค่ะ.....มีนักท่องเที่ยวมาเดินเที่ยวกันอยู่เเค่ไม่กี่คน ด้วยสภาพอากาศที่หนาวเหน็บ จึงไม่มีใครอยากที่จะออกมาเที่ยวกัน เเละกองหิมะตามถนนสูงเกือบครึ่งตัวของดิฉันเลย


ความยิ่งใหญ่ของน้ำตกโลกในช่วงหน้าหนาวค่ะ ซึ่งหาดูได้ยากเพราะหลายคนไม่ค่อยอยากที่จะเดินทางมาเที่ยวช่วงฤดูหนาวกันมากนัก ....อาจจะดูเเปลกตาไปบ้าง เพราะเมื่อเห็นน้ำตกที่มาของสายน้ำที่มีเรือเเล่นได้อย่างสบายได้เปลี่ยนเเปลงมาเป็นกองพะเนินหิมะที่เเข็งทื่อเเบบนี้ เเต่....เพื่อนๆเคยสงสัยกันบ้างไหมค่ะว่า น้ำตกสายนี้ ที่มาของน้ำนั้นได้เดินทางมาจากที่ไหนกัน คำตอบนั่นก็คือน้ำทั้งหมดนั้นมาจาก " ทะเลสาบอีรี "ค่ะ ไหลผ่านไนเเองการ่าลงสู่ทะเลสาบออนตาริโอ เมืองสองฝั่งของน้ำตกในสองประเทศนั้นที่เชื่อมสองประเทศเข้าไว้ด้วยกันระหว่างสหรัฐอเมริกาเเละเเคนาดา


สะพานที่เชื่อมระหว่างสองประเทศเข้าไว้ด้วยกันนี้นะค่ะ ถ้าให้เปรียบเทียบระยะทางในการเดินข้ามเเล้วอาจจะใช้เวลาอยู่ที่สิบนาที ให้นึกถึงสะพานกรุงเทพที่บ้านเราเป็นตัวอย่างค่ะถึงจะนึกภาพออก....เเต่ก็ไม่ใช่ว่าใครนึกจะข้ามฝั่งไปอีกประเทศได้ง่ายนะค่ะ เพราะต้องผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองของเเคนาดาก่อน ดังนั้นถ้าคิดจะข้ามไปดูน้ำตกฝั่งเเคนาดาด้วย ก็ควรที่จะจำเป็นที่จะต้องทำวีซ่าท่องเที่ยวของเเคนาดามาก่อนพร้อมกับพาสปอร์ต เเต่เผอิญว่าของดิฉันนั้นถือกรีนการ์ดของอเมริกาอยู่ จึงเเค่โชว์กรีนการ์ดกับพาสปอร์ตไปเเค่นั้นก็เพียงพอ



ภาพถ่ายบนสะพานค่ะ ขณะที่กำลังเดินข้ามไปฝั่งเเคนาดา ขอบอกว่าวันนั้นลมเเรงสุดๆต้องเดินทรงตัวดีๆไม่อย่างนั้นปลิวเเน่นอน ......ตอนที่เดินข้ามสะพานไปนั้น สังเกตุได้เลยว่า นานๆทีจะมีนักท่องเที่ยวเดินสวนกันกับเรามาสักคน เพราะเเทบจะไม่มีใครมาเที่ยวเลย



เป็นภาพที่ดูสวยงามเเละเเปลกตามากอีกเเบบค่ะ      * ขอเข้าเรื่องนิดนึงถึงการที่จะเที่ยวไนเเองการ่าเเบบใกล้ชิดนะค่ะ .....โดยในช่วงหน้าร้อนสามารถที่จะเที่ยวได้เเบบสะใจก็คือ * วิธีที่1 Maid of mist นี่เป็นการนั่งเรือเข้าไปใกล้ๆค่ะ อย่างนี้ทุกคนจะเปียกกันสะใจเเน่นอน
                                                                            วิธีที่2 Cave of the wind อันนี้เป็นทางเดินที่สามารถเข้าไปสัมผัสกับละอองน้ำตกได้เต็มตัวอีกเช่นกัน                                                                    วิธีที่3 Luna Island
อีกอย่างนี้ก็คือ เรื่องทัวส์เเทบที่จะไม่ต้องเป็นห่วงนะค่ะ เพราะหน้าร้อนมีให้เลือกเทียวกันหลายรูปเเบบ ชนิดที่มีบริษัททัวส์ให้เห็นกันเกลื่อนตาเหมือนดอกเห็ด


เดินเข้าใกล้ฝั่งเเคนาดาเข้าไปทุกทีเเล้ว

หลายคนบอกว่าน้ำตกถ้ามองทางฝั่งของเเคนาดาจะสวยกว่ามาก เพราะมุมจะดูใหญ่กว่าอันนี้ไม่รู้จริงไหม ต้องหาโอกาสมาตัดสินกันเองนะค่ะ

ในฝั่งของเเคนาดาเมื่อข้ามมาถึงเเล้วจะมีร้านขายของที่ระลึกเยอะเเยะมากมาย ส่วนเงินก็ใช้ได้ทั้งเงินสกุลยูเอส เเละก็ของเเคนาดา

เสื้อสัญลักษณ์เเคนาดาน่ารักจัง ...อย่าลืมซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้านมาสักตัวนะค่ะ ......ถ้าใครอยากจะข้ามไปเที่ยวโตรอนโตต่อก็ไปได้ค่ะไม่ว่ากันเพราะเมืองนี้ก็มีอะไรที่เด่นๆหลายอย่างอยู่เหมือนกัน ที่สำคัญเเคนาดานั้นมีเครือข่ายรถใต้ดินที่สะดวกสบาย คุณจะไปเดิน ช๊อปปิ้งที่Old townหรือ Yorkvilleเพราะที่นั้นมีเเฟชั่นสวยๆเก๋ๆเยอะ หรือใครที่ชอบดูสถาปัตยกรรมเเนะนำที่นี่เลย Victorian house เเห่ง Cabbagetown ไม่ผิดหวังเเน่

มื้อเเรกที่โตรอนโตค่ะ ชามใหญ่มากเเบ่งกันกินได้สองคน ไม่เเปลกเลยว่าทำไมคนฝรั่งที่อยู่ที่นี่ถึงอ้วนเอาอ้วนเอา จานหนึ่งเป็นไก่ย่างที่มาคู่กับผักลวกมีทั้งเเครอท,บรอกคอรี่ ส่วนอีกจานเป็นมันฝรั่งทอดราดด้วยชีสเสริฟบนกระทะร้อน เรียกได้ว่ารับสารอาหารโปรตีนเเก้หนาวได้ดีเลยวันนั้น

ร้าน Food truck บนถนนค่ะ เป็นร้านขายเเฮมเบอร์เกอร์กับพวกเเซนวิส อาหารที่ซื้อกินง่ายๆ เเต่ช่วงนี้ร้านค้าปิดนะค่ะหนาวหน้า เพราะไม่มีนักท่องเที่ยว ไม่อยากจะนึกภาพเลยค่ะ ถ้าเป็นช่วงหน้าร้อนบรรยากาศนันจะคึกคักขนาดไหน

รูปนี้เป็นช่วงที่หิมะตกค่อนข้างหนักนะค่ะ ถ่ายออกมามืดนิดหน่อย

ภาพหิมะน้ำเเข็งกำลังถล่มลงมาด้านล่างนะค่ะ เสียงดังกระหึ่มก้องไปทั่วหมดเลย ......จังหวะนี้ทำให้นึกถึงอารมณ์ตอนที่ได้เห็นธารน้ำเเข็งที่อลาสก้า คล้ายคลึงกัน

ชื่อสินค้า:   บันทึกการเดินทางไนเเองการ่า
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่