http://www.komchadluek.net/news/politic/236847
...แทนที่ ป.ป.ช.จะเร่งรีบไต่สวนของนายบุญทรงในฐานะผู้ปฏิบัติงาน กลับกล่าวหาตนก่อนในฐานะผู้ให้นโยบาย 
ซึ่งเป็นการเลือกปฏิบัติ และไม่เป็นธรรม ซึ่งการแจ้งข้อกล่าวหากับการไต่สวนของ ป.ป.ช. 
มีเอกสารเพียง 49 แผ่น 
โดยไม่มีหลักฐานว่าตนกระทำการไม่ชอบหรือทุจริต แล้วใช้เวลาสรุปสำนวน 2 เดือนเศษ แต่โครงการอื่นใช้เวลา 5 ปี 
ขณะที่คดีนายบุญทรง 8 เดือนเศษหลังจากสรุปสำนวนตน ถือเป็นการเร่งรัดอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับคดีมาก่อน 
อีกทั้งสำนวนของอัยการก็เพิ่มข้อกล่าวสมยอมให้เกิดการทุจริต รวมทั้งนำเอกสารที่มีเพิ่มอีก 60,000 แผ่น ที่ไม่ได้ไต่สวนชั้น ป.ป.ช. มาปรักปรำ...
...พบเอกสารของ นบข.ฉบับหนึ่ง 
จึงขอตั้งข้อสงสัยว่า การที่กล่าวถึงการทำหน้าที่ของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิดที่ระบุว่า 
“
ประธาน นบข. ให้ข้อสังเกตว่า หน้าที่ของคณะกรรมการ คือ ประเมินความเสียหาย และนำส่งข้อมูลให้กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลังตั้งเรื่อง 
โดยไม่ต้องพิจารณาประเด็นความยุติธรรม แต่ต้องดำเนินการตามกรอบเวลาให้ทันการส่งฟ้อง...
------------------
ทำให้นึกถึงคดีวิคเตอร์  บู้ท  ครับ  ที่ทางการไทยส่งตัวไปดำเนินคดีที่สหรัฐ
อัยการสหรัฐก็ส่งฟ้องต่อศาล   
แต่เมื่อศาลรู้ว่า  สำนวนฟ้องมีคำให้การของวิคเตอร์ บู้ท  ที่โดนสอบจากในเรือนจำไทย
ศาลไม่รับฟ้องทันที   สั่งให้อัยการสหรัฐสอบสวนใหม่  เพราะเห็นว่าจำเลยไม่ได้รับความเป็นธรรม
ขณะที่ของเรา   กระบวนการไต่สวนทางคดีก็ไม่ปกติ
การสั่งฟ้องก็ไม่ปกติ  เพราะขณะที่คณะทำงานระหว่างอัยการกับ ป.ป.ช. ยังไม่ได้ประชุมหาข้อสรุปว่าจะฟ้องหรือไม่
อัยการสูงสุดก็โดดลงมาสั่งฟ้องทันที
คงจำกันได้นะครับ  
นายวิชา  มหาคุณ   พูดว่าอัยการสูงสุดมีความเห็นสั่งฟ้องคดีจำนำข้าวในวันแถลงเปิดคดีถอดถอนนายกฯยิ่งลักษณ์
ทั้งที่ตอนนั้น  อัยการสูงสุดยังไม่มีความเห็นใด ๆ   คณะทำงานร่วมอัยการ-ป.ป.ช. ก็ยังไม่มีความเห็นใด ๆ
สองสามวันต่อมา  หัวหน้าคณะทำงานร่วมฝ่าย ป.ป.ช. ก็ส่งแฟกซ์ไปที่สำนักงานอัยการ เชิญประชุม
ก็มีฝ่าย ป.ป.ช. ครบ 10 คน   ฝ่ายอัยการ 3 คน จาก 10 คน   อ้างว่าครบองค์ประชุม (13 คน จาก 20 คน)
แล้วสรุปง่าย ๆ ว่า  มีมติสั่งฟ้อง
นายวิชา  พูดวันที่ 16 ม.ค. 58    ว่ามีความเห็นสั่งฟ้อง
ป.ป.ช. แถลงคณะทำงานร่วม  ประชุม 20 ม.ค. 58   ว่ามีความเห็นสั่งฟ้อง   ทั้งที่คณะทำงานฝ่ายอัยการยัง งง ๆ
แล้ว 23 ม.ค. 58   อัยการสูงสุดก็แถลงข่าวสั่งฟ้อง
ฟ้องแล้ว  ผ่านไปสี่เดือน  ก็เพิ่มหลักฐานทีหลังอีกหกหมื่นหน้า
ไม่ยุติธรรม  ขาดความเป็นธรรมตั้งแต่การไต่สวนจนถึงการฟ้องต่อศาล
หากเป็นที่อื่น   ไม่รับฟ้อง หรือยกฟ้องไปนานแล้วครับ
แต่ที่นี่    ไม่ใช่ที่อื่น
																															 
						
เรื่องอย่างนี้ ถ้าเป็นที่อื่น ไม่มีคดี หรือคดีจบไปนานแล้วครับ เพราะขัดหลักการด้านความยุติธรรมอย่างรุนแรง
...แทนที่ ป.ป.ช.จะเร่งรีบไต่สวนของนายบุญทรงในฐานะผู้ปฏิบัติงาน กลับกล่าวหาตนก่อนในฐานะผู้ให้นโยบาย
ซึ่งเป็นการเลือกปฏิบัติ และไม่เป็นธรรม ซึ่งการแจ้งข้อกล่าวหากับการไต่สวนของ ป.ป.ช. มีเอกสารเพียง 49 แผ่น
โดยไม่มีหลักฐานว่าตนกระทำการไม่ชอบหรือทุจริต แล้วใช้เวลาสรุปสำนวน 2 เดือนเศษ แต่โครงการอื่นใช้เวลา 5 ปี
ขณะที่คดีนายบุญทรง 8 เดือนเศษหลังจากสรุปสำนวนตน ถือเป็นการเร่งรัดอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับคดีมาก่อน
อีกทั้งสำนวนของอัยการก็เพิ่มข้อกล่าวสมยอมให้เกิดการทุจริต รวมทั้งนำเอกสารที่มีเพิ่มอีก 60,000 แผ่น ที่ไม่ได้ไต่สวนชั้น ป.ป.ช. มาปรักปรำ...
...พบเอกสารของ นบข.ฉบับหนึ่ง
จึงขอตั้งข้อสงสัยว่า การที่กล่าวถึงการทำหน้าที่ของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิดที่ระบุว่า
“ประธาน นบข. ให้ข้อสังเกตว่า หน้าที่ของคณะกรรมการ คือ ประเมินความเสียหาย และนำส่งข้อมูลให้กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลังตั้งเรื่อง
โดยไม่ต้องพิจารณาประเด็นความยุติธรรม แต่ต้องดำเนินการตามกรอบเวลาให้ทันการส่งฟ้อง...
------------------
ทำให้นึกถึงคดีวิคเตอร์ บู้ท ครับ ที่ทางการไทยส่งตัวไปดำเนินคดีที่สหรัฐ
อัยการสหรัฐก็ส่งฟ้องต่อศาล
แต่เมื่อศาลรู้ว่า สำนวนฟ้องมีคำให้การของวิคเตอร์ บู้ท ที่โดนสอบจากในเรือนจำไทย
ศาลไม่รับฟ้องทันที สั่งให้อัยการสหรัฐสอบสวนใหม่ เพราะเห็นว่าจำเลยไม่ได้รับความเป็นธรรม
ขณะที่ของเรา กระบวนการไต่สวนทางคดีก็ไม่ปกติ
การสั่งฟ้องก็ไม่ปกติ เพราะขณะที่คณะทำงานระหว่างอัยการกับ ป.ป.ช. ยังไม่ได้ประชุมหาข้อสรุปว่าจะฟ้องหรือไม่
อัยการสูงสุดก็โดดลงมาสั่งฟ้องทันที
คงจำกันได้นะครับ
นายวิชา มหาคุณ พูดว่าอัยการสูงสุดมีความเห็นสั่งฟ้องคดีจำนำข้าวในวันแถลงเปิดคดีถอดถอนนายกฯยิ่งลักษณ์
ทั้งที่ตอนนั้น อัยการสูงสุดยังไม่มีความเห็นใด ๆ คณะทำงานร่วมอัยการ-ป.ป.ช. ก็ยังไม่มีความเห็นใด ๆ
สองสามวันต่อมา หัวหน้าคณะทำงานร่วมฝ่าย ป.ป.ช. ก็ส่งแฟกซ์ไปที่สำนักงานอัยการ เชิญประชุม
ก็มีฝ่าย ป.ป.ช. ครบ 10 คน ฝ่ายอัยการ 3 คน จาก 10 คน อ้างว่าครบองค์ประชุม (13 คน จาก 20 คน)
แล้วสรุปง่าย ๆ ว่า มีมติสั่งฟ้อง
นายวิชา พูดวันที่ 16 ม.ค. 58 ว่ามีความเห็นสั่งฟ้อง
ป.ป.ช. แถลงคณะทำงานร่วม ประชุม 20 ม.ค. 58 ว่ามีความเห็นสั่งฟ้อง ทั้งที่คณะทำงานฝ่ายอัยการยัง งง ๆ
แล้ว 23 ม.ค. 58 อัยการสูงสุดก็แถลงข่าวสั่งฟ้อง
ฟ้องแล้ว ผ่านไปสี่เดือน ก็เพิ่มหลักฐานทีหลังอีกหกหมื่นหน้า
ไม่ยุติธรรม ขาดความเป็นธรรมตั้งแต่การไต่สวนจนถึงการฟ้องต่อศาล
หากเป็นที่อื่น ไม่รับฟ้อง หรือยกฟ้องไปนานแล้วครับ
แต่ที่นี่ ไม่ใช่ที่อื่น