[Spoil] Train to Busan vs Suicide squard

กระทู้สนทนา
ผมดูเรื่อง Suicide squard จบแล้วต่อด้วย Train to Busan เพราะเพิ่งทราบว่าเข้าฉายรอบพิเศษด้วย เลยซื้อตัว 2 เรื่องพร้อมกันเลย

พนักงานขายตั๋วหนัง บอกว่า ถ้าคนดูไม่ถึง 3 จะงดฉายนะครับ ก่อนหนังฉาย 10 นาที ค่อยมาถามอีกครั้ง ถ้างดฉายจะคืนเงินให้

ซื้อตั๋วเสร็จ หาของกินรองท้องก่อนเข้าโรงหนัง แล้วก็ได้เวลาหนัง Suicide Squard ฉาย ....

Suicide Squard ....
ดูหนังจบ .... ถ้าหนังยาวอีกนิด จะหมดอารมณ์ดูต่อแล้วนะครับ ... เพราะคาดหวัง เรื่องฉาก Action ไว้พอสมควร และไม่ค่อยเชื่อกระแสวิจารณ์มากนัก คือถ้าอยากดูก็คือต้องดู ....
1.บทหนัง ก๊องแก๊ง มาก ไม่มีเป้าหมาย หรือวางเป้าหมายไว้เยอะเกินไป อยากดราม่า แอ็คชั่น ตลก อินดี้ กวนโอ้ย ตื้นเต้น ... ก็ไปไม่สุดสักทาง
2.การแสดง คือสื่งที่คาดหวังไว้เยอะ เพราะได้วิวล์ สมิท มาเล่นเชียวนะ และหนังตัวอย่างฮารี่ ควินส์ น่ารักดี ... แต่ถ้าบทมันไม่ช่วย ต่อให้นักแสดงเก่งแค่ไหน ก็เอาตัวรอดได้ยาก กรณีนี้ไม่รอด
3.เทคนิคพิเศษและฉากต่อสู้ คือสิ่งที่สร้างคำถามให้ผมว่า จะทำให้คุ้มเม็ดเงินที่เสียไปได้ ต้องกำกับภาพ และออกแบบให้ดี เช่น ฉากต่อสู้  ผมว่าไม่คุ้มนะ และฉากต้นเรื่องทำให้เห็นตั้งแต่ต้นเลยว่า ต่อไปนี้คงคาดหวังอะไรไม่ได้อีกแล้ว

เมื่อหนังจบ ผมเดินออกจากโรงหนังด้วยความสะบายใจ ว่าเรารอดแล้วที่ดูได้จนจบ โดยไม่หลับไปเสียก่อน อยู่ในระดับหนังน่าเบื่อ ...

เดินหาอะไรกินต่อ ระหว่างรอหนังเรื่องที่ 2 ที่ตั้งความหวังไว้สูง ว่าจะช่วยให้คุ้มค่ากับเงินและเวลาที่เสียไป ... โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ช่วยลบความน่าเบื่อของหนังเรื่องแรก ออกไปจากหัวผมที ... ก่อนเวลาฉาย 10 นาที ผมไปช่องขายตั๋วถามพนักงานว่าผมจะได้ดูหนังไหม ปรากฏว่ามีคนดู เยอะกว่าเรื่องแรกอีก ....

Train to Busan ...
ผมเป็นแฟนหนังเลือดสาด ซอมบี้ และเกาหลี เป็นทุนเดิม .... ชอบหนังเกาหลี เพราะบทดี  แสดงสมจริง และโศกเศร้า
1.บทหนัง ดีงามตามมาตรฐาน ส่งให้เรื่องเดินไปข้างหน้าอย่างเข้มข้น เห็นสัจธรรมลอยอยู่ทั่วไป ทุกการกระทำมีเหตุผลที่หนักแน่นมากพอ จนชวนให้คนดูร่วมคิดตามว่า ถ้าเป็นตัวเราเอง เราจะตัดสินใจอย่างไร ... ส่งผลให้เรามีอารมณ์ร่วมได้ง่าย จนรู้สึก เหนื่อยและท้อไปกับตัวละคร แต่บางขณะก็เศร้า สะเทือนใจ สนุก ลุ้น มันส์ สะใจ ตื่นตะลึง หวาดกลัว และประทับใจ ทั้งหมดเกิดขึ้นในปริมาณ มากๆ
2.การแสดง ดีมาก ถึงมากที่สุด ในระดับเป็นที่น่าจดจำ แม้ตัวละครบางตัว จะพูดไม่กี่ประโยค แต่ก็มีพลังมากพอที่จะจดจำได้แม่นยำ .... กงยู หุ่นดีมากจนอยากจะอุทานว่า ทำไมหุ่นดีอย่างนี้
3.เทคนิคและฉากต่อสู้
ชมมากที่เปิดตัวซอมบี้ ตัวแรก แม้แต่งหน้าแปลกแต่ก็เห็นถึงความสวยน่ารักที่ซ่อนอยู่ หลังจากนั้นก็มาอีกเยอะ การเปลี่ยนเป็นซอมบี้ทำได้สวยสยองดี  ฉาก องค์ประกอบ หลายฉาก ทำให้ผมต้องหลังไม่ติดพนักพิง เม็ดเงินทุกอย่างที่ใช้ไปในเรื่องการทำเทคนิค คุ้มค่ามากๆ ฉากต่อสู้ก็สมจริง ไม่เลือดสาดอย่างที่คิดไว้

ดูจบ รู้สึกอิ่มเอมมาก ได้เสพหนังที่มีครบทุกอารมณ์ และทำได้ถึงในทุกทาง ... ล้างความน่าเบื่อออกไปจากสมองที่เกิดขึ้นเพราะหนังเรื่องแรกได้สนิทเลย ....

แม้จะดูหนังจบไป 1 วันแล้ว แต่ภาพตัวละคร และเหตุการณ์ต่างๆ ในหนัง ยังวนเวียนอยู่ในหัว แทบตลอดทั้งวัน เป็นหนังที่ต้องดูซ้ำในโรงภาพยนตร์ อย่างแน่นอน ... ไม่น่าพลาด ^^
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่