((หญิงเดียวเที่ยวละไม))ปายในฝันการเดินทางจากอำเภอเชียงดาวไปสู่อำเภอปายแม่ฮ่องสอนมีกี่โค้งก็สบายๆ
หลังจากครั้งที่แล้วเราได้เล่าเรื่องที่ไปเที่ยวที่บ้านระเบียงดาวอำเภอเชียงดาวจังหวัดเชียงใหม่ไปแล้วนั้นน
วันนี้เรากลับมาแล้ววกลับมาเล่าเรื่องเกี่ยวกับการเดินทางจากอำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ สู่อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน เที่ยวข้ามจังหวัดกันเลยทีเดียวจ้า
เพื่อนๆสามารถกลับไปอ่านเรื่องของเชียงดาวได้ที่กระทู้นี้นะคะ
http://pantip.com/topic/35181173
อำเภอ ปาย ถือเป็นจุดมุ่งหมายหนึ่งในฝันของเราเลยหล้ะ เมื่อหลายปีก่อนมีหนังเรื่องหนึ่ง ออกมาชื่อว่า รักจัง โดยหนังเรื่องนี้ฉากส่วนใหญ่ไปถ่ายทำกันที่ภาคเหนือโดยมีอำเภอปายรวมอยู่ในนั้นด้วย ฉากต่างๆในหนังถ่ายทอดความเป็นปายออกมาได้อย่างสวยงามและลงตัว ทำให้คนดูอย่างเราซึ่งในตอนนั้นยังเด็กอยู่มากมีความฝันว่า วันนึงฉันจะต้องไปปายให้ได้ เวลาล่วงเลยมาเป็นเวลากว่า10ปี เด็กคนนั้นโตขึ้นมีกำลังมากพอที่จะออกเดินทางไปสู่เมืองเล็กๆในภาคเหนือที่เขาใฝ่ฝันมาตลอดว่าวันนึงจะต้องไปให้เห็นกับตาตัวเองให้ได้ ว่าเมืองเล็กๆอย่างปายนั้นมีเสน่ห์อย่างไร ถึงทำให้มีช่วงเวลาหนึ่ง มีกระแสปายฟีเวอร์ถนนทุกสายมุ่งสู่เมืองปาย ถึงตอนนี้ปายจะไม่บูมเหมือนแต่ก่อนแต่เสน่ห์ในความเป็นเมืองเล็กๆแห่งภาคเหนือของประเทศไทยก็ไม่ได้ลดลงไปเลย
เราเริ่มเดินทางไปสู่ปายจากบ้านระเบียงดาวโดยเราอาศัยติดรถแขกที่มาพักบ้านระเบียงดาวลงมาระหว่างทางลงจากบ้านระเบียงดาวก็แวะถ่ายรูปกันหน่อย
เราขออนุญาติเรียกเค้าทั้งสองคนว่าพี่นะคะ พี่ทั้งสองคนน่ารักมากกกยอมให้เราติดรถลงมาด้วย พวกพี่เค้าจะกลับไปเที่ยวที่ตัวเมืองเชียงใหม่โดยพี่เค้าแวะไปส่งเราที่กาดแม่มาลัยเพื่อที่จะไปท่ารถตู้เพื่อนั่งรถตู้ต่อไปปาย ขอเล่านิดนึงว่าตอนแรกพวกเราหาท่ารถกันไม่เจอหาอยู่สักพักก็ไปถามคนที่อยู่ที่นั่น
เค้าบอกว่าท่ารถตู้อยู่หน้าปากซอยซ้ายมือ คือพวกเราขับเลยท่ารถกันมาแล้วจ้าา พอพี่ๆเค้ารู้อย่างนั้นเค้าเลี้ยวหัวรถกลับและเค้าก็พาเราไปส่งยังที่หมาย พี่ๆน่ารักมากๆจ้าา…ต้องขอขอบพระคุณมา ณ โอกาสนี้ด้วยค่ะ ถ้าไม่มีพวกพี่หนูจะไปท่ารถยังง๊ายยยย
ถึงท่ารถแล้วจ้าา
พอถึงท่ารถตู้เราก็ซื้อบัตรโดยสารและรอเวลารถออก รอประมาน45นาทีรถก็ออกโดยรถตู้ที่เรานั่งไปในครั้งนี้เป็นรถตู้ของบริษัทเปรมประชาขนส่งเราได้นั่งเบาะหลังสุดที่สองจากขวามือ โดยซ้ายมือที่นั่งติดกับเราเป็นคุณลุงอายุประมาน65ปี
นั่นไม่ใช่สาระสำคัญอะไรเพราะถัดจากคุณลุงไปเบาะนึงเป็นหนุ่มจีนขาวตี๋หล่อโฮกกกกกกกนี่แหละสาระสำคัญ55
หว่อพูดภาษาจีนไม่ค่อยเก่งพูดเป็นแต่ๆๆหว่ออ้ายหนี่ หว่ออ้ายหนี่5555555
หลังจากนั้นรถก็ขับวนไปเรื่อยๆเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาไปเรื่อยโชคดีที่เราไม่เมารถค่ะขับมาสักพักก็มาจอดที่จุดพักรถให้ทุกคนแวะกินน้ำปัสสาวะจากจุดที่แวะพักนี้เองงทำให้เราได้เริ่มคุยกับ.....
.....
.......
.............
.................
....................
.........................
...............................
......................................
..........................................
..............................................
พี่ผู้หญิงที่นั่งอยู่ทางขวามือติดกับเรา
ไม่ใช่หนุ่มตี๋หล่อโฮกคนนั้นค่ะ5555555555555555
พี่เค้าเล่าให้ฟังว่า เค้าเป็นคนเชียงใหม่มาเที่ยวปายหลายครั้งแล้ว เค้ามาคนเดียวเหมือนกันค่ะ เราเลยถามพี่เค้าว่า ครั้งนี้อะไรคือสาเหตุที่พี่มา
เค้าบอกว่า "ครั้งนี้มาเพราะอยากมาพักผ่อนจากการทำงาน มา1คืนแล้วก็กลับ" เราว่าปายต้องมีมนต์เสน่ห์อะไรบางอย่างหล้ะ
ถึงทำให้พี่คนนี้ไปแล้วก็กลับมาอีกนับครั้งไม่ถ้วน
พอคุยกันไปสักพักพี่เค้าก็แนะนำว่ามาถึงปายแล้วน่าจะไปเที่ยวปางอุ๋งด้วยนะ ที่นั่นสวยมากเราก็เคยได้ยินแต่ชื่อไม่เคยไปสักที
เลยถามพี่เค้าเกี่ยวกับรายละเอียดของการเดินทางไป พี่เค้าก็เล่าเกี่ยวกับรายละเอียดให้เราฟัง เราก็เก็บรายละเอียดนั้นไว้เป็นข้อมูล คุยไปคุยมาเราก็นึกขึ้นมาได้ว่าเราจะไปปายเรายังไม่มีที่พักเลยนี่นา เลยถามพี่เค้าว่า พี่พักที่ไหน เค้าก็บอกว่าเค้าพักที่ วิลล่า เดอ ปาย เค้าถามว่า ไปพักด้วยกันไหม เราก็พยักหน้าหงึกๆทันทีตามประสาคนใจง่าย55 รอดแล้วตูมีที่พักแล้วววว
รถก็ขับไปเรื่อยๆ จากโค้งที่100 เป็นโค้งที่200 300 400ไปเรื่อยๆน่าจะประมานพันกว่าโค้งได้ พอใกล้ถึงอำเภอเมือง ปาย รถตู้ก็ปิดแอร์และเปิดกระจกขับไปเรื่อยๆตอนนี้เรารู้สึกสบายกว่าตอนเปิดแอร์ค่ะ เริ่มมีเสียงดังเป๊าะๆในหูเนื่องมาจากหูเริ่มอื้อ หลายคนที่นั่งรถมาด้วยกัน เริ่มเสียอาการโครกครากกันยกใหญ่ ถุงพลาสติกเอย ยาดม ยาอม ยาหม่อง ที่เตรียมมาได้นำมาใช้ก็คราวนี้ค่ะ ใครที่จะเดินทางไปแล้วรู้ว่าเมารถแนะนำว่าให้เตรียมยาแก้เมารถไปด้วยนะคะ
**สำหรับการนั่งรถไกลๆแล้วเลี้ยวโค้งเยอะๆอย่างนี้มีทริคอยู่นิดนึงค่ะ ให้มองไปไกลๆ จะช่วยเราให้ไม่เมารถ
ช่วยได้มากๆเลยยังไงเพื่อนๆลองเอาทริคนี้ไปใช้ดูนะคะเผื่อจะบรรเทาอาการชวนหัวนี้ได้ค่ะ**
หลังจากได้พิชิตโค้งที่1,095มากันแล้วนั้นน เราก็เดินทางเข้าสู่เมืองปายกันอย่างเป็นทางการ โดยรถตู้จะมาจอดที่ท่ารถในตัวเมืองซึ่งอยู่ตรงถนนคนเดินเลยค่ะสะดวกในการหาที่พักมากๆ พอลงจากรถก็หันรีหันขวามองหาพี่ผู้หญิงคนที่นั่งข้างๆ
พอเจอพี่เค้าแล้วก็เดินอุ้มกระเป๋าเดินทางตามพี่แกไปอย่างว่าง่าย เดินไปที่โรงแรมค่ะ โรงแรมนี้เป็นโรงแรมเล็กๆ ห้องพักเป็นเหมือนกระท่อมเป็นหลังๆจะมีโซนที่อยู่ติดกับแม่น้ำปายด้วยค่ะ แขกที่มาพักส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ ห้องพักแต่ละห้องจะห่างกันพอประมานทำให้รู้สึกว่ามีความเป็นส่วนตัวดีค่ะ โดยที่พักของที่นี่จะไม่มีแอร์นะคะสาเหตุน่าจะมาจากช่วงที่เป็นHigh Seasonของที่นี่จะเป็นช่วงหน้าหนาวค่ะในห้องพักจึงไม่จำเป็นต้องมีแอร์ ในห้องพักมีเตียงนอนที่นอนสบายมว๊ากก มีพัดลม1ตัว มีtv 1เครื่อง มีห้องน้ำ
มีรูปห้องพักมาฝากเพียงรูปเดียวค่ะเนื่องจากไม่ได้ตั้งใจว่าจะมาทำรีวิวค่ะ
ตอนที่เราเดินทางไปถึงเป็นช่วงตอนประมานบ่าย2ค่ะ พอเช็คอินเรียบร้อยแล้วเราก็เข้าไปห้องพักเอาของไปเก็บล้างหน้าล้างตา ทำธุระปะปังพอเรียบร้อยแล้วเราก็ออกมาหาอะไรกินนิดหน่อยค่ะ
หลังจากนั้นก็ไปหาบริษัททัวร์ที่จะพาเราไปเที่ยวในปายค่ะ หลังจากเลือกอยู่นานเราก็ได้บริษัททัวร์ที่ถูกใจค่ะโดยทางบริษัททัวร์จะแบ่งที่เที่ยวในปายไว้สองแบบคือแบบรอบใหญ่กับรอบเล็ก เนื่องจากเราเดินทางถึงเป็นเวลาบ่ายแล้วเราจึงได้เที่ยวแบบรอบเล็กค่ะโดยทางทัวร์จะพาเที่ยวยังสถานที่ต่างๆดังต่อไปนี้ค่ะ
ที่แรกคือ coffee in love ค่ะ ที่นี่จะเป็นร้านกาแฟน่ารักๆซึ่งมีมุมไว้ให้ถ่ายรูปมากมายเลยค่ะ ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นเป็นชาวจีนค่ะ
ต่อไปก็ไปสวนสตรอเบอรี่ค่ะที่นี่มีสินค้าแปรรูปจากสตรอเบอรี่หลากหลายชนิดเลยค่ะ
สถานที่ต่อไปที่เราไปกันนั้นคือ กองแลน โดยชาวต่างชาติจะนิยมเรียกกองแลนว่าเป็น ปายแคนยอน ค่ะ
โดยเจ้าปายแคนยอนหรือกองแลนนั้นเกิดมาจาก การยุบตัวของดินและการกัดเซาะด้วยลมและฝน
ในบริเวณกว้าง จนเกิดเป็นร่องลึกและหน้าผาสูงชัน พื้นดินบางส่วนยุบตัวลงไมาก จยเหลือเพียงทางแคบๆ
ลักษณะคล้ายๆกับแพะเมืองผีในจังหวัดแพร่หรือแกรนด์แคนยอนในต่างประเทศจึงเป็นที่มาของ ปายแคนยอน paicanyon นั่นเองค่ะ
นี่เป็นระหว่างทางเดินที่จะไปกองแลนค่ะ
มาถึงกองแลนกันแล้วว
พอขึ้นมาถึงข้างบนแล้วก็จะมีชมวิว ทำให้เราเห็นบรรยากาศรอบๆตัวเมืองปาย
โดยจากจุดนี้เองจะมองไปเห็นอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดังด้วยค่ะ
ต่อมาก็เดินทางไปสู่ สะพานประวัติศาสตร์ปาย กันค่ะ
ที่สะพานจะมีประวัติความเป็นมาของสะพานแห่งนี้อยู่ด้วยค่ะ
ต่อมาก็ไปต่อกันที่หมู่บ้านช้างค่ะที่นี่จะมีชาวต่างชาติมาอาบน้ำช้างและยังมีโรงเรียนสอนเป็นคาญช้างอีกด้วยค่ะกลุ่มลูกค้าจะเป็นชาวต่างชาติค่ะ
มีดอกไม้สวยๆมาฝากด้วยค่ะ
บรรยากาศแบบชาวไร่แห่งเมืองเหนือ
ต่อมาเราก็ไปยังสถานที่สุดท้ายนั่นก็คือวัดพระธาตุแม่เย็นค่ะ
ตรงจุดชมวินี้ทำให้เราเห็นเมืองปายกันแบสามร้อยยยหกสิบองศาเลยค่ะ
ต่อในคอมเม้นนะคะตัวอักษรจะเกินลิมิตแล้วคร้า
[CR] ((หญิงเดียวเที่ยวละไม))ปายในฝันการเดินทางจากอำเภอเชียงดาวไปสู่อำเภอปายแม่ฮ่องสอนมีกี่โค้งก็สบายๆ
หลังจากครั้งที่แล้วเราได้เล่าเรื่องที่ไปเที่ยวที่บ้านระเบียงดาวอำเภอเชียงดาวจังหวัดเชียงใหม่ไปแล้วนั้นน
วันนี้เรากลับมาแล้ววกลับมาเล่าเรื่องเกี่ยวกับการเดินทางจากอำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ สู่อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน เที่ยวข้ามจังหวัดกันเลยทีเดียวจ้า
เพื่อนๆสามารถกลับไปอ่านเรื่องของเชียงดาวได้ที่กระทู้นี้นะคะ
http://pantip.com/topic/35181173
อำเภอ ปาย ถือเป็นจุดมุ่งหมายหนึ่งในฝันของเราเลยหล้ะ เมื่อหลายปีก่อนมีหนังเรื่องหนึ่ง ออกมาชื่อว่า รักจัง โดยหนังเรื่องนี้ฉากส่วนใหญ่ไปถ่ายทำกันที่ภาคเหนือโดยมีอำเภอปายรวมอยู่ในนั้นด้วย ฉากต่างๆในหนังถ่ายทอดความเป็นปายออกมาได้อย่างสวยงามและลงตัว ทำให้คนดูอย่างเราซึ่งในตอนนั้นยังเด็กอยู่มากมีความฝันว่า วันนึงฉันจะต้องไปปายให้ได้ เวลาล่วงเลยมาเป็นเวลากว่า10ปี เด็กคนนั้นโตขึ้นมีกำลังมากพอที่จะออกเดินทางไปสู่เมืองเล็กๆในภาคเหนือที่เขาใฝ่ฝันมาตลอดว่าวันนึงจะต้องไปให้เห็นกับตาตัวเองให้ได้ ว่าเมืองเล็กๆอย่างปายนั้นมีเสน่ห์อย่างไร ถึงทำให้มีช่วงเวลาหนึ่ง มีกระแสปายฟีเวอร์ถนนทุกสายมุ่งสู่เมืองปาย ถึงตอนนี้ปายจะไม่บูมเหมือนแต่ก่อนแต่เสน่ห์ในความเป็นเมืองเล็กๆแห่งภาคเหนือของประเทศไทยก็ไม่ได้ลดลงไปเลย
เราเริ่มเดินทางไปสู่ปายจากบ้านระเบียงดาวโดยเราอาศัยติดรถแขกที่มาพักบ้านระเบียงดาวลงมาระหว่างทางลงจากบ้านระเบียงดาวก็แวะถ่ายรูปกันหน่อย
เราขออนุญาติเรียกเค้าทั้งสองคนว่าพี่นะคะ พี่ทั้งสองคนน่ารักมากกกยอมให้เราติดรถลงมาด้วย พวกพี่เค้าจะกลับไปเที่ยวที่ตัวเมืองเชียงใหม่โดยพี่เค้าแวะไปส่งเราที่กาดแม่มาลัยเพื่อที่จะไปท่ารถตู้เพื่อนั่งรถตู้ต่อไปปาย ขอเล่านิดนึงว่าตอนแรกพวกเราหาท่ารถกันไม่เจอหาอยู่สักพักก็ไปถามคนที่อยู่ที่นั่น
เค้าบอกว่าท่ารถตู้อยู่หน้าปากซอยซ้ายมือ คือพวกเราขับเลยท่ารถกันมาแล้วจ้าา พอพี่ๆเค้ารู้อย่างนั้นเค้าเลี้ยวหัวรถกลับและเค้าก็พาเราไปส่งยังที่หมาย พี่ๆน่ารักมากๆจ้าา…ต้องขอขอบพระคุณมา ณ โอกาสนี้ด้วยค่ะ ถ้าไม่มีพวกพี่หนูจะไปท่ารถยังง๊ายยยย
ถึงท่ารถแล้วจ้าา
พอถึงท่ารถตู้เราก็ซื้อบัตรโดยสารและรอเวลารถออก รอประมาน45นาทีรถก็ออกโดยรถตู้ที่เรานั่งไปในครั้งนี้เป็นรถตู้ของบริษัทเปรมประชาขนส่งเราได้นั่งเบาะหลังสุดที่สองจากขวามือ โดยซ้ายมือที่นั่งติดกับเราเป็นคุณลุงอายุประมาน65ปี
นั่นไม่ใช่สาระสำคัญอะไรเพราะถัดจากคุณลุงไปเบาะนึงเป็นหนุ่มจีนขาวตี๋หล่อโฮกกกกกกกนี่แหละสาระสำคัญ55
หว่อพูดภาษาจีนไม่ค่อยเก่งพูดเป็นแต่ๆๆหว่ออ้ายหนี่ หว่ออ้ายหนี่5555555
หลังจากนั้นรถก็ขับวนไปเรื่อยๆเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาไปเรื่อยโชคดีที่เราไม่เมารถค่ะขับมาสักพักก็มาจอดที่จุดพักรถให้ทุกคนแวะกินน้ำปัสสาวะจากจุดที่แวะพักนี้เองงทำให้เราได้เริ่มคุยกับ.....
.....
.......
.............
.................
....................
.........................
...............................
......................................
..........................................
..............................................
พี่ผู้หญิงที่นั่งอยู่ทางขวามือติดกับเรา
ไม่ใช่หนุ่มตี๋หล่อโฮกคนนั้นค่ะ5555555555555555
พี่เค้าเล่าให้ฟังว่า เค้าเป็นคนเชียงใหม่มาเที่ยวปายหลายครั้งแล้ว เค้ามาคนเดียวเหมือนกันค่ะ เราเลยถามพี่เค้าว่า ครั้งนี้อะไรคือสาเหตุที่พี่มา
เค้าบอกว่า "ครั้งนี้มาเพราะอยากมาพักผ่อนจากการทำงาน มา1คืนแล้วก็กลับ" เราว่าปายต้องมีมนต์เสน่ห์อะไรบางอย่างหล้ะ
ถึงทำให้พี่คนนี้ไปแล้วก็กลับมาอีกนับครั้งไม่ถ้วน
พอคุยกันไปสักพักพี่เค้าก็แนะนำว่ามาถึงปายแล้วน่าจะไปเที่ยวปางอุ๋งด้วยนะ ที่นั่นสวยมากเราก็เคยได้ยินแต่ชื่อไม่เคยไปสักที
เลยถามพี่เค้าเกี่ยวกับรายละเอียดของการเดินทางไป พี่เค้าก็เล่าเกี่ยวกับรายละเอียดให้เราฟัง เราก็เก็บรายละเอียดนั้นไว้เป็นข้อมูล คุยไปคุยมาเราก็นึกขึ้นมาได้ว่าเราจะไปปายเรายังไม่มีที่พักเลยนี่นา เลยถามพี่เค้าว่า พี่พักที่ไหน เค้าก็บอกว่าเค้าพักที่ วิลล่า เดอ ปาย เค้าถามว่า ไปพักด้วยกันไหม เราก็พยักหน้าหงึกๆทันทีตามประสาคนใจง่าย55 รอดแล้วตูมีที่พักแล้วววว
รถก็ขับไปเรื่อยๆ จากโค้งที่100 เป็นโค้งที่200 300 400ไปเรื่อยๆน่าจะประมานพันกว่าโค้งได้ พอใกล้ถึงอำเภอเมือง ปาย รถตู้ก็ปิดแอร์และเปิดกระจกขับไปเรื่อยๆตอนนี้เรารู้สึกสบายกว่าตอนเปิดแอร์ค่ะ เริ่มมีเสียงดังเป๊าะๆในหูเนื่องมาจากหูเริ่มอื้อ หลายคนที่นั่งรถมาด้วยกัน เริ่มเสียอาการโครกครากกันยกใหญ่ ถุงพลาสติกเอย ยาดม ยาอม ยาหม่อง ที่เตรียมมาได้นำมาใช้ก็คราวนี้ค่ะ ใครที่จะเดินทางไปแล้วรู้ว่าเมารถแนะนำว่าให้เตรียมยาแก้เมารถไปด้วยนะคะ
**สำหรับการนั่งรถไกลๆแล้วเลี้ยวโค้งเยอะๆอย่างนี้มีทริคอยู่นิดนึงค่ะ ให้มองไปไกลๆ จะช่วยเราให้ไม่เมารถ
ช่วยได้มากๆเลยยังไงเพื่อนๆลองเอาทริคนี้ไปใช้ดูนะคะเผื่อจะบรรเทาอาการชวนหัวนี้ได้ค่ะ**
หลังจากได้พิชิตโค้งที่1,095มากันแล้วนั้นน เราก็เดินทางเข้าสู่เมืองปายกันอย่างเป็นทางการ โดยรถตู้จะมาจอดที่ท่ารถในตัวเมืองซึ่งอยู่ตรงถนนคนเดินเลยค่ะสะดวกในการหาที่พักมากๆ พอลงจากรถก็หันรีหันขวามองหาพี่ผู้หญิงคนที่นั่งข้างๆ
พอเจอพี่เค้าแล้วก็เดินอุ้มกระเป๋าเดินทางตามพี่แกไปอย่างว่าง่าย เดินไปที่โรงแรมค่ะ โรงแรมนี้เป็นโรงแรมเล็กๆ ห้องพักเป็นเหมือนกระท่อมเป็นหลังๆจะมีโซนที่อยู่ติดกับแม่น้ำปายด้วยค่ะ แขกที่มาพักส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ ห้องพักแต่ละห้องจะห่างกันพอประมานทำให้รู้สึกว่ามีความเป็นส่วนตัวดีค่ะ โดยที่พักของที่นี่จะไม่มีแอร์นะคะสาเหตุน่าจะมาจากช่วงที่เป็นHigh Seasonของที่นี่จะเป็นช่วงหน้าหนาวค่ะในห้องพักจึงไม่จำเป็นต้องมีแอร์ ในห้องพักมีเตียงนอนที่นอนสบายมว๊ากก มีพัดลม1ตัว มีtv 1เครื่อง มีห้องน้ำ
มีรูปห้องพักมาฝากเพียงรูปเดียวค่ะเนื่องจากไม่ได้ตั้งใจว่าจะมาทำรีวิวค่ะ
ตอนที่เราเดินทางไปถึงเป็นช่วงตอนประมานบ่าย2ค่ะ พอเช็คอินเรียบร้อยแล้วเราก็เข้าไปห้องพักเอาของไปเก็บล้างหน้าล้างตา ทำธุระปะปังพอเรียบร้อยแล้วเราก็ออกมาหาอะไรกินนิดหน่อยค่ะ
หลังจากนั้นก็ไปหาบริษัททัวร์ที่จะพาเราไปเที่ยวในปายค่ะ หลังจากเลือกอยู่นานเราก็ได้บริษัททัวร์ที่ถูกใจค่ะโดยทางบริษัททัวร์จะแบ่งที่เที่ยวในปายไว้สองแบบคือแบบรอบใหญ่กับรอบเล็ก เนื่องจากเราเดินทางถึงเป็นเวลาบ่ายแล้วเราจึงได้เที่ยวแบบรอบเล็กค่ะโดยทางทัวร์จะพาเที่ยวยังสถานที่ต่างๆดังต่อไปนี้ค่ะ
ที่แรกคือ coffee in love ค่ะ ที่นี่จะเป็นร้านกาแฟน่ารักๆซึ่งมีมุมไว้ให้ถ่ายรูปมากมายเลยค่ะ ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นเป็นชาวจีนค่ะ
ต่อไปก็ไปสวนสตรอเบอรี่ค่ะที่นี่มีสินค้าแปรรูปจากสตรอเบอรี่หลากหลายชนิดเลยค่ะ
สถานที่ต่อไปที่เราไปกันนั้นคือ กองแลน โดยชาวต่างชาติจะนิยมเรียกกองแลนว่าเป็น ปายแคนยอน ค่ะ
โดยเจ้าปายแคนยอนหรือกองแลนนั้นเกิดมาจาก การยุบตัวของดินและการกัดเซาะด้วยลมและฝน
ในบริเวณกว้าง จนเกิดเป็นร่องลึกและหน้าผาสูงชัน พื้นดินบางส่วนยุบตัวลงไมาก จยเหลือเพียงทางแคบๆ
ลักษณะคล้ายๆกับแพะเมืองผีในจังหวัดแพร่หรือแกรนด์แคนยอนในต่างประเทศจึงเป็นที่มาของ ปายแคนยอน paicanyon นั่นเองค่ะ
นี่เป็นระหว่างทางเดินที่จะไปกองแลนค่ะ
มาถึงกองแลนกันแล้วว
พอขึ้นมาถึงข้างบนแล้วก็จะมีชมวิว ทำให้เราเห็นบรรยากาศรอบๆตัวเมืองปาย
โดยจากจุดนี้เองจะมองไปเห็นอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดังด้วยค่ะ
ต่อมาก็เดินทางไปสู่ สะพานประวัติศาสตร์ปาย กันค่ะ
ที่สะพานจะมีประวัติความเป็นมาของสะพานแห่งนี้อยู่ด้วยค่ะ
ต่อมาก็ไปต่อกันที่หมู่บ้านช้างค่ะที่นี่จะมีชาวต่างชาติมาอาบน้ำช้างและยังมีโรงเรียนสอนเป็นคาญช้างอีกด้วยค่ะกลุ่มลูกค้าจะเป็นชาวต่างชาติค่ะ
มีดอกไม้สวยๆมาฝากด้วยค่ะ
บรรยากาศแบบชาวไร่แห่งเมืองเหนือ
ต่อมาเราก็ไปยังสถานที่สุดท้ายนั่นก็คือวัดพระธาตุแม่เย็นค่ะ
ตรงจุดชมวินี้ทำให้เราเห็นเมืองปายกันแบสามร้อยยยหกสิบองศาเลยค่ะ
ต่อในคอมเม้นนะคะตัวอักษรจะเกินลิมิตแล้วคร้า