เรากะพ่อปู่ สนิทกันมาก พ่อปู่เหมือนพ่อเราเพราะพ่อแท้ๆเราเสียไปตั้งแต่ยังเล็ก เรากะพ่อปู่อ่านหนังสือเล่มเดียวกัน มีอะไรคล้ายๆกัน พ่อปู่เราเป็นที่นับหน้าถือตาของคนในหมู่บ้านแกเป็นครูใหญ่ เเละเป็นคนรักษาสัจจะ จำได้ว่าแกไม่เคยโกหกเราสักครั้ง ผิดกับย่าที่ ไม่สามารถรักษาคำพูดได้ พ่อปู่ดูแลเราดี จำได้ว่าแกเดินเข้าร้านค้าซื้อหากางเกงในให้เราใส่ หรือ แม้แต่ ผ้าอนามัย หรือตอนเราป่วยก็จะเข้าป่าหาสมุนไพร นั่งพัดยุงไล่ริ้นให้เราประจำ ตอนโตมาก็ ส่งเราเรียนมหาลัยเอกชนดีดี เรียนจบแกก็สร้างบ้านให้หลังโตสวยงาม ตอนนั้นคือเรามาอยู่เมืองนอกทำงานหาประสพการณ์แล้ว อายุปู่มากขึ้น แกก็ได้ป่วยเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากระยะสุดท้ายซึ่งแกก็พยายามปิดเราแต่เราก็รู้จนได้ ก็รักษาอย่างดีแกอยู่ได้อีกหลายปี เราคุยกะปู่เช้า เที่ยง เย็น ทุกวัน ค่าโทรศัพท์ก็ไม่ฟรีไม่ถูกเหมือนเดี๋ยวนี้ ครั้งแรกและครั้งเดียวที่ปู่โกหกเราในชีวิตคือบอกให้เราพาลูกกลับบ้านแกจะไม่ตาย รอเรากลับมาเยี่ยมอีก ปู่เราเสียชีวิตมาหกปี เราสวดมนต์ ทุกวัน เราไม่กลัวเลยกะึวนมตาย ชีวิตนี้ถือว่าไม่มีอะไรที่ต้องเสียหรือเสียดายอาลัยชีวิตมากมาย เราเริ่มจะนั่งสมาธิได้ระดับนึงเมื่อไม่นานมานี้ เราเริ่มอธิษฐานจิต ว่าขอเจอปู่เรา ถ้าแกยังอยู่ เราสวดมนต์บทยาวๆ และเริ่มนั่งนิ่งได้นาน ทำใจได้กะความตายไม่กลัว วันนี้ เราเหมือนจะครั้งแรกที่ได้สัมผัสกะปู่เรา( เราอยู่เมืองนอก ปู่เราตายที่เมืองไทย )ตอนเราลืมตาใช้ชิวิตประจำวันที่บ้านเรา แกเหมือนจะปรากฏให้เราเห็นแวบๆ จิตเราสัมผัสได้ว่าคือแก อัศจรรย์ใจเป็ยแว้บที่ มากด้วยคำพูดถ่ายทอดคำพูดออกมาเป็นตัวหนังสือได้ไม่หมด
หลังความตาย