สวัสดีคร่า
วันที่3ของทริป เช้านี้เราจะไป Noboribetsu และ ต่อด้วย Lake Toya ในช่วงบ่าย
วันนี้เราก็ยังคงขับรถไปเช้า-เย็นกลับเหมือนเดิม ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชม.
ระหว่างทางสามีขับรถไป ภรรยานั่งชิมเชอรี่ที่ซื้อมาชิวๆ อิๆ
แวะจุดพักรถนิด สามีไปห้องน้ำ ภรรยาวิ่งไปซื้อไอติมเมล่อนหอมๆ มีความสุขจริงๆ
นอกเรื่องไปเยอะ ถึงแล้วค่ะ Noboribetsu เรื่มเข้าเมืองมาเราก็จะเจอกับปีศาจสัญลักษณ์ของเมืองนี้เลยคะ เนื่องจากมืองเล็กๆแห่งนี้คนโบราณเชื่อว่า "เป็นประตูสู่นรก" ถูกปกครองโดนปิศาจ เนื่องจากมีภูเขาไฟและยังคุกรุ่นอยู่ เมืองนี้จึงมีไอน้ำและกลิ่นกำมะถัน
Noboribetsu เป็นเมืองเล็กๆที่อยู่ในเขต Shikotsu-Toya National Park และเป็นเมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองออนเซน ติดอันดับต้นๆของญี่ปุ่นและถือว่าดังที่สุดในฮอกไกโดเลย
เส้นทางในเมืองเงียบมากๆ
เราตั้งใจจะไป Hell Valley เป็นจุดที่ภูเขาไฟยังคุกรุ่นอยู่ มีบางจุดที่รอยแยกของแผ่นดิน ทำให้มีไอน้ำและกำมะถันพวยพุ่งขึ้นมา เป็นจุดที่เคยปะทุมาแล้วเมื่อประมาณ 20,000 ปี ไม่มีค่าเข้าชม สามารถเดินเที่ยวได้เลยตามเส้นทางที่กำหนดไว้กลิ่นกำมะถันไม่แรงนัก
จริงๆแล้วเค้ามีเส้นทาง ให้เดินและแวะจุดท่องเที่ยวหลายจุด แต่ต้องใช้เวลาในการเดินเท้าพอสมควร วันนี้เวลาเรามีไม่มากเลยแวะแค่จุดเดียวก่อน
เดินออกมาดูด้านนอกของ Hell Valley เมืองเงียบสงบมาก มีรร.ให้แช่ออนเซนหลายแห่ง น่ามาค้างคืนนอนชิวๆสัก2-3วัน
ปีศาจมีอยู่ไปทั่ว
เนื่องจากมีภูเขาไฟและยังคุกรุ่นอยู่ เมืองนี้จึงมีไอน้ำและกลิ่นกำมะถัน
ต่อจาก Hell Valley เราจะไป noboribetsu edo wonderland ซึ่งไม่ไกลกัน
สวนสนุกนี้จำลองบรรยากาศของเมืองเอโดะ มีการแสดงรำ การแสดงนินจาแนวๆ live action ค่าเข้าคนละ 2500 เยน
ภายในจำลองบรรยากาศของเมืองเอโดะ การแสดงๆ จะมีเป็นรอบๆ
ภายในมีให้เช่าชุดใส่ด้วย จึงเห็นนินจา และผู้หญิงชุดกิโมโนเดินไปทั่ว
ป้ายห้องน้ำค่ะ น่ารักจัง
เราแวะทานข้าวก่อนที่ร้านในสวนสนุก อร่อยดีเหมือนกัน
ดูตามตารางการแสดงแล้ว เราเลือกไปดูการแสดงตลก/รำญี่ปุ่นกัน ก่อน เพื่อรอเวลาดู Ninja Show
ตลกญี่ปุ่นค่ะ เป็นเรื่องเกี่ยวกับเทพเจ้าแมว ตอนจะเข้าไปมีการแจกโบชัวร์เล่าเรื่องให้ด้วย มีภาษาไทยซะด้วย
ต่อด้วยรำญี่ปุ่นเป็นเรื่องเกี่ยวกับชายหนุ่มที่หลงรักเกอิชาของเมือง
คนเล่าเรื่องครับ พูดได้ทั้งอังกฤษ จีนและเกาหลี เล่าเก่งและสนุกมาก ส่วนมากจะพูดญี่ปุ่น คนที่พอรู้ญี่ปุ่นเท่าหางอึ่งแบบเรา อ่านในโบชัวร์ แล้วก็ดูรู้เรื่อง
ในการแสดงจะมีการเชิญนักท่องเที่ยวผู้ชายไปเล่นด้วย ใครอยากไปเล่นยกมือเลยค่ะ เผื่อจะโดนเลือก
เสร็จก็รีบวิ่งไปดู Ninja Show ที่อยู่ข้างๆ กัน ดูสนุกและฮามากๆ
หลังจากถ่ายรูปเล่นพักใหญ่เราออกเดินทางต่อไปตามโปรแกรม คือ Lake Toya ใช้เวลาเดินทางชม.นึงค่ะ
เส้นทางไป Lake Toya วิวสวยมากค่ะ
แวะพักที่จุดพักรถ วิวสวยมาก มีวิวทุ่งหญ้า มองไกลๆด้านหน้าจะเป็นทะเล ด้านหลังเป็นเขา
ทานขนมไปชมวิวไป (จะบอกว่าHokkaido ไส้กรอกอร่อยมากค่ะ จัดทุกที่ที่แวะเลย อิๆ)
มาถึงแล้วเราแวะสวนสาธารณะริมทะเลสาป ถ่ายรูปแปรบนึง
มองเห็นตัวเมืองไกลๆค่ะ
ทะเลสาบโทยะ(Lake Toya) เป็นทะเลสาบขนาดใหญ่รูปวงกลม มีเส้นรอบวงยาวประมาณ 40 กิโลเมตร เกิดจากปากปล่องภูเขาไฟ
ทะเลสาบแห่งนี้มีความพิเศษตรงที่น้ำจะไม่แข็งตัวในช่วงฤดูหนาว ในหน้าร้อน อากาศก็เย็นสบาย เหมาะสำหรับเดินเล่น ปั่นจักรยาน หรือล่องเรือชมทิวทัศน์
เข้าตัวเมืองกันค่ะ
Wow wow wow... วิวสวยมาก. บางคนบอกว่าที่นี่คือฟูจิน้อยๆของHokkaida ก็คล้ายๆนะคะ
รอบๆทะเลสาบมีโรงแรมหรู ออนเซนขนาดใหญ่อยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งขณะแช่ออนเซนก็สามารถชมทัศนียภาพของทะเลสาบ เห็นแล้วเสียดายมากที่ไม่ได้ค้าง เล็งไว้เลยไว้ต้องมาค้างสักคืนให้ได้
มีเรือล่องเรือชมทะเลสาบโทยะ ซึ่งจะนั่งเรือขนาดใหญ่ที่จุคนได้กว่า 100 คน ออกจากท่าเรือ Nakanoshima หลังโรงแรม Grand Toya ซึ่งเรือล่องชมนั้นจะออกจากท่าแล้ววนรอบเกาะนากาจิมะที่อยู่ใจกลางทะเลสาบ โดยจะแวะให้นักท่องเที่ยวลงไปเดินเล่นบนเกาะได้ด้วย แต่เรามาช้าไปนิดเรือเที่ยวสุดท้ายออกไปแล้ว เลยได้แต่มอง
นั่งเล่น เดินเล่นพักรถ และชื่นชมวิวสักนิดก่อนกลับ
เส้นทางกลับ Spporo เราใช้เวลาประมาณ2ชม.
แวะพักรถสักนิด เราแวะหาอะไรทานเป็นมื้อเย็นง่ายที่จุดพักรถ
แต่....อาหารเลิศมากค่ะ โดยเฉพาะข้าวหน้าปู เนื้อปูเน้นๆรสชาติอร่อย ราคาไม่แพง ทาโกะยากิกดจากตู้ร้อนๆรสชาติพอได้เลยค่ะ
วันนี้ทริปเราก็เป็นไปตามแผน กลับรร.พักเอาแรงสักหน่อย กระทู้หน้าเราจะมาไปไฮไลท์ของทริปนี้เลยค่ะ Biei /Furano ดูดอกลาเวนเดอร์กัน
http://pantip.com/topic/35455279
สำหรับทริป2วันแรกไปดูได้ที่นี่นะคะ
Day1 : Sapporo-เที่ยว Chocolate factory Sapporo เดินเล่นย่านกลางใจเมือง
http://pantip.com/topic/35451998
Day2 : เที่ยว Otaru ไปดูคลอง Otaru เมืองท่าเก่าแก่ บรรยากาศโรแมนติก
http://pantip.com/topic/35452208
ขอบคุณค่ะ
[CR] Summer time in Hokkaido (Day 3: Noboribetsu / Lake Toya)
วันที่3ของทริป เช้านี้เราจะไป Noboribetsu และ ต่อด้วย Lake Toya ในช่วงบ่าย
ระหว่างทางสามีขับรถไป ภรรยานั่งชิมเชอรี่ที่ซื้อมาชิวๆ อิๆ
แวะจุดพักรถนิด สามีไปห้องน้ำ ภรรยาวิ่งไปซื้อไอติมเมล่อนหอมๆ มีความสุขจริงๆ
นอกเรื่องไปเยอะ ถึงแล้วค่ะ Noboribetsu เรื่มเข้าเมืองมาเราก็จะเจอกับปีศาจสัญลักษณ์ของเมืองนี้เลยคะ เนื่องจากมืองเล็กๆแห่งนี้คนโบราณเชื่อว่า "เป็นประตูสู่นรก" ถูกปกครองโดนปิศาจ เนื่องจากมีภูเขาไฟและยังคุกรุ่นอยู่ เมืองนี้จึงมีไอน้ำและกลิ่นกำมะถัน
Noboribetsu เป็นเมืองเล็กๆที่อยู่ในเขต Shikotsu-Toya National Park และเป็นเมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองออนเซน ติดอันดับต้นๆของญี่ปุ่นและถือว่าดังที่สุดในฮอกไกโดเลย
เส้นทางในเมืองเงียบมากๆ
เราตั้งใจจะไป Hell Valley เป็นจุดที่ภูเขาไฟยังคุกรุ่นอยู่ มีบางจุดที่รอยแยกของแผ่นดิน ทำให้มีไอน้ำและกำมะถันพวยพุ่งขึ้นมา เป็นจุดที่เคยปะทุมาแล้วเมื่อประมาณ 20,000 ปี ไม่มีค่าเข้าชม สามารถเดินเที่ยวได้เลยตามเส้นทางที่กำหนดไว้กลิ่นกำมะถันไม่แรงนัก
จริงๆแล้วเค้ามีเส้นทาง ให้เดินและแวะจุดท่องเที่ยวหลายจุด แต่ต้องใช้เวลาในการเดินเท้าพอสมควร วันนี้เวลาเรามีไม่มากเลยแวะแค่จุดเดียวก่อน
เดินออกมาดูด้านนอกของ Hell Valley เมืองเงียบสงบมาก มีรร.ให้แช่ออนเซนหลายแห่ง น่ามาค้างคืนนอนชิวๆสัก2-3วัน
ปีศาจมีอยู่ไปทั่ว
เนื่องจากมีภูเขาไฟและยังคุกรุ่นอยู่ เมืองนี้จึงมีไอน้ำและกลิ่นกำมะถัน
ต่อจาก Hell Valley เราจะไป noboribetsu edo wonderland ซึ่งไม่ไกลกัน
สวนสนุกนี้จำลองบรรยากาศของเมืองเอโดะ มีการแสดงรำ การแสดงนินจาแนวๆ live action ค่าเข้าคนละ 2500 เยน
ภายในจำลองบรรยากาศของเมืองเอโดะ การแสดงๆ จะมีเป็นรอบๆ
ภายในมีให้เช่าชุดใส่ด้วย จึงเห็นนินจา และผู้หญิงชุดกิโมโนเดินไปทั่ว
ป้ายห้องน้ำค่ะ น่ารักจัง
เราแวะทานข้าวก่อนที่ร้านในสวนสนุก อร่อยดีเหมือนกัน
ดูตามตารางการแสดงแล้ว เราเลือกไปดูการแสดงตลก/รำญี่ปุ่นกัน ก่อน เพื่อรอเวลาดู Ninja Show
ตลกญี่ปุ่นค่ะ เป็นเรื่องเกี่ยวกับเทพเจ้าแมว ตอนจะเข้าไปมีการแจกโบชัวร์เล่าเรื่องให้ด้วย มีภาษาไทยซะด้วย
ต่อด้วยรำญี่ปุ่นเป็นเรื่องเกี่ยวกับชายหนุ่มที่หลงรักเกอิชาของเมือง
คนเล่าเรื่องครับ พูดได้ทั้งอังกฤษ จีนและเกาหลี เล่าเก่งและสนุกมาก ส่วนมากจะพูดญี่ปุ่น คนที่พอรู้ญี่ปุ่นเท่าหางอึ่งแบบเรา อ่านในโบชัวร์ แล้วก็ดูรู้เรื่อง
ในการแสดงจะมีการเชิญนักท่องเที่ยวผู้ชายไปเล่นด้วย ใครอยากไปเล่นยกมือเลยค่ะ เผื่อจะโดนเลือก
เสร็จก็รีบวิ่งไปดู Ninja Show ที่อยู่ข้างๆ กัน ดูสนุกและฮามากๆ
หลังจากถ่ายรูปเล่นพักใหญ่เราออกเดินทางต่อไปตามโปรแกรม คือ Lake Toya ใช้เวลาเดินทางชม.นึงค่ะ
เส้นทางไป Lake Toya วิวสวยมากค่ะ
แวะพักที่จุดพักรถ วิวสวยมาก มีวิวทุ่งหญ้า มองไกลๆด้านหน้าจะเป็นทะเล ด้านหลังเป็นเขา
ทานขนมไปชมวิวไป (จะบอกว่าHokkaido ไส้กรอกอร่อยมากค่ะ จัดทุกที่ที่แวะเลย อิๆ)
มาถึงแล้วเราแวะสวนสาธารณะริมทะเลสาป ถ่ายรูปแปรบนึง
มองเห็นตัวเมืองไกลๆค่ะ
ทะเลสาบโทยะ(Lake Toya) เป็นทะเลสาบขนาดใหญ่รูปวงกลม มีเส้นรอบวงยาวประมาณ 40 กิโลเมตร เกิดจากปากปล่องภูเขาไฟ
ทะเลสาบแห่งนี้มีความพิเศษตรงที่น้ำจะไม่แข็งตัวในช่วงฤดูหนาว ในหน้าร้อน อากาศก็เย็นสบาย เหมาะสำหรับเดินเล่น ปั่นจักรยาน หรือล่องเรือชมทิวทัศน์
เข้าตัวเมืองกันค่ะ
Wow wow wow... วิวสวยมาก. บางคนบอกว่าที่นี่คือฟูจิน้อยๆของHokkaida ก็คล้ายๆนะคะ
รอบๆทะเลสาบมีโรงแรมหรู ออนเซนขนาดใหญ่อยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งขณะแช่ออนเซนก็สามารถชมทัศนียภาพของทะเลสาบ เห็นแล้วเสียดายมากที่ไม่ได้ค้าง เล็งไว้เลยไว้ต้องมาค้างสักคืนให้ได้
มีเรือล่องเรือชมทะเลสาบโทยะ ซึ่งจะนั่งเรือขนาดใหญ่ที่จุคนได้กว่า 100 คน ออกจากท่าเรือ Nakanoshima หลังโรงแรม Grand Toya ซึ่งเรือล่องชมนั้นจะออกจากท่าแล้ววนรอบเกาะนากาจิมะที่อยู่ใจกลางทะเลสาบ โดยจะแวะให้นักท่องเที่ยวลงไปเดินเล่นบนเกาะได้ด้วย แต่เรามาช้าไปนิดเรือเที่ยวสุดท้ายออกไปแล้ว เลยได้แต่มอง
เส้นทางกลับ Spporo เราใช้เวลาประมาณ2ชม.
แวะพักรถสักนิด เราแวะหาอะไรทานเป็นมื้อเย็นง่ายที่จุดพักรถ
แต่....อาหารเลิศมากค่ะ โดยเฉพาะข้าวหน้าปู เนื้อปูเน้นๆรสชาติอร่อย ราคาไม่แพง ทาโกะยากิกดจากตู้ร้อนๆรสชาติพอได้เลยค่ะ
วันนี้ทริปเราก็เป็นไปตามแผน กลับรร.พักเอาแรงสักหน่อย กระทู้หน้าเราจะมาไปไฮไลท์ของทริปนี้เลยค่ะ Biei /Furano ดูดอกลาเวนเดอร์กัน
http://pantip.com/topic/35455279
สำหรับทริป2วันแรกไปดูได้ที่นี่นะคะ
Day1 : Sapporo-เที่ยว Chocolate factory Sapporo เดินเล่นย่านกลางใจเมือง
http://pantip.com/topic/35451998
Day2 : เที่ยว Otaru ไปดูคลอง Otaru เมืองท่าเก่าแก่ บรรยากาศโรแมนติก
http://pantip.com/topic/35452208
ขอบคุณค่ะ