[CR] [ไหนไหนก็ไหนไหนละ] ไปสวิสทั้งที เสียตังแต่ไม่เสียใจ

สวัสดีค่า ขอแนะนำตัวสักนิด …เจ้าของกระทู้ชื่อบิบัว เอาจริงก็แค่ชื่อบัว แต่อยากสองพยางค์ ฮ่าๆๆๆ เอาเป็นว่าช่างมันเนอะ ตอนนี้เราเรียนต่อโทอยู่ที่อังกฤษ ซึ่งตอนที่มาเรียนนี้ ทางมหาลัยก็จะมีช่วงวันหยุดหลักๆอยู่สองช่วง คือช่วงวันคริสมาสต์ กับช่วงอีสเตอร์ ซึ่งแต่ละมหาวิทยาลัยก็จะแตกต่างกันไปในเรื่องของระยะเวลาที่หยุดค่ะ ^^

    ดังนั้น ระหว่างที่เราได้มาเรียนนี้ ช่วงเวลาที่ว่างจากการเรียน เราก็ทำงานพิเศษที่ร้านอาหารไทยค่ะ (ไม่ใช่ไรนะ แพลนเที่ยวเยอะกว่าตังในกระเป๋าไปมากเหลือเกิน) พูดให้สวยนิดนึงก็ ป๊าม๊าทำงานหนักกว่าจะส่งลูกสาวโง่ๆ มาเรียนถึงต่างประเทศ ถ้าเราอยากเที่ยวก็อย่ารบกวนท่านเลยเนอะ เอาจริงๆมันก็เป็นความภูมิใจอย่างนึงเวลาเราไปเที่ยวเหมือนกันนะ : )


    เกริ่นมาเยอะแล้วววว อย่าเพิ่งเบื่อเราไปซะก่อนนน้า พลีสสสสสส เราอยากลงรูปให้ทุกคนหลงรักสวิสแบบเราจริงๆ ฮ่าๆๆๆ
กระทู้นี้อาจจะหาสาระไม่ค่อยได้เท่าไหร่ เป็นกระทู้แรกของเราด้วย ถ้ามีตรงไหนผิดพลาดไปบ้าง ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยยน้า
จริงๆทริปนี้เราไปตอนช่วงเดือนเมษายน ไปฝรั่งเศสแล้วนั่งรถบัสมาสวิสค่ะ ไปเริ่มกันเลยดีกว่าเนอะ ..


วันแรกที่รสบัสเข้าสู่ประเทศสวิสเซอร์แลนด์นั้นน วิวข้างทางที่เรามองออกไป ช่างแตกต่างจากฝรั่งเศสแบบสิ้นเชิง ..รถบัสของเราไปจอดที่เมือง เจนีวาค่ะ วันนั้นเราเลยมีโอกาสได้ไปเดินเล่นรอบๆทะเลสาบ น้ำใสมาก บรรยากาศสบายๆ ลมเย็นๆ เหมาะกับการเดินเล่นเป็นที่สุ้ดดดดด









     เราอยู่ที่เจนีวากันไม่นาน พอบ่าย เราก็นั่งรถไฟตรงไปที่เมือง Interlaken ใช้เวลานั่งรถไฟประมาณสามชั่วโมง ในทริปนี้ เราซื้อสวิสพาสแบบสี่วัน เดินทางโดยใช้ขนส่งมวลชนทั้งหมด เพราะของเค้าดีจริงๆค่า ดีม้ากกกกกมากกก รถไฟรถบัส ทุกอย่างเชื่อมถึงกันหมด แล้วอีกอย่างนะคะ วิวบนรถไฟนี่คือจุดพีค โหวววววววว สวยแบบวัวตายควายล้ม สวยซะจ้นนนน อยากเดินทางอย่างเดียวเลย 555555 แต่มีความแอบถ่ายยาก ไม่อยากให้เป็นเงาเท่าไหร่ ยังไงก็รบกวนผู้รู้แนะนำด้วยนะค้า คราวหน้าจะได้รูปสวยๆกะเค้าบ้างงง



     เราเลือกที่จะพักเมือง Interlaken เป็นเวลา 4 คืนเต็ม ส่วนที่พักที่เราไปพักมานั้น เราชอบมากกกกก กอไก่ล้านตัวค่ะ ดี๊ดี ชื่อว่า Swiss inn Hotel and Apartment คุณป้ากับคุณลุงเจ้าของใจดีเป็นที่สุด ช็อคโกแลตตรงรีเซปชั่นก็หยิบได้ตลอด อร่อยโคตรรรร ..เราพักเป็นแบบ Apartment ชั้นบนสุด มีสองห้องนอน สองห้องน้ำ มีอ่างอาบน้ำ มีครัว ห้องนั่งเล่น ระเบียงนั่งชิววๆ เรียกได้ว่า ชั้นบนสุดเป็นของข้าคนเดียววว ตกเย็นมานั่งจิบไวน์ชิวๆริมระเบียงไปพลาง ชมวิวเทือกเขางามๆไปพลางงง โอ๊ยยยยยยยย ฟินนาเร่คร่าาาา > < ตอนเย็นวันนั้นเราก็เลยออกมาเดินเล่นแถวที่พัก เดินเรื่อยๆไปชิว ก็จะมาเจอวิววแบบนี้น้าาา









     จริงๆแถวที่พักเรามีซุปเปอร์มาเก็ตขนาดใหญ่ที่เค้าเรียกกันว่า Migros ก็คงเหมือน เทสโก้ บ้านเราเนอะ แต่ราคาของที่นี่ ก็ตามระเบียบนะครัชช แพงลื้มมมม >< ระดับนักศึกษาแบบพวกเรานั้นน ซื้อไก่มันทั้งตัวไปเลย ถูกกว่าพวกอกไก่ชิ้นๆเยอะ ทีนี้ก็นั่งเลาะกันอย่างเมามัน 555555 นี่แหละมั้ง ที่เค้าเรียกกันว่า สีสันของการเดินทาง อะไรไม่เคยได้ทำ ก็ได้ทำ : 3 สนุกจะตายยย



    ตื่นเช้าวันถัดมา หลังจากเช็คสภาพภูมิอากาศเรียบร้อย พวกเราจึงตัดสินใจว่าเราจะไปขึ้นเขา ไปดูยอด Matterhorn กัน จริงๆทุกคนคงจะคุ้นเคยกับยอดเขานี้เป็นอย่างดี ก็ไอเจ้าโลโก้ช็อกโกแลต Toblerone ไงละคะ Matterhorn จอมขี้อายของพวกเรา > < ..วันนี้เราต้องออกเดินทางกันตั้งแต่เช้ามืด เพราะเราต้องนั่งรถไฟกันประมาณสองชั่วโมงนิด เนื่องด้วยว่าต้องตื่นกันเช้ามาก สภาพสมาชิกทุกคนจึงเรียกได้ว่า เยิ้มกันไปตามๆกัน ฮ่าๆๆ แต่ถึงจะง่วงขนาดไหน ก็ยังอยากดูวิวค่ะ พีคคคขนาดนี้ ดังนั้น พอมีคนนึงสะดุ้งรู้สึกตัว ก็จะหันมาสะกิดคนทีเหลือให้ตื่นมาดู ละก็เผลอหลับต่อ ผลัดกันสะกิดกันไปมาๆตลอดทางค่า ฮามากกกก :p





     รถไฟที่เรานั่ง ตรงไปยังเมือง Zermatt ค่ะ พอไปถึงเราก็ลงรถไฟ ไปซื้อตั๋วเพื่อที่จะขึ้นไปยังยอดเขา Gornergrat เพื่อขึ้นไปชมยอด Matterhorn จอมขี้อายกัน Swiss pass สามารถใช้เป็นส่วนลดได้ด้วย
















  ..พอเราลงมาด้านล่างที่เมือง Zermatt ก็ไปเดินเล่นในเมืองกัน นักท่องเที่ยวค่อนข้างเยอะอยู่ในวันอากาศดีๆแบบนี้..





    มาต่อกันในวันที่ 3 เน้อออออ วันนี้ต้องเรียกได้ว่าเราเสี่ยงดวงกับโชคชะตาฟ้าลิขิตกับอากาศสวิสวันนี้ 55555 ตามพยากรณ์บอกว่า บ่ายๆฝนจะตก แต่จะครึ้มตั้งแต่เช้าเลย โอยยยยย น้ำตาจะไหล ไม่เป็นไรเนอะ ไหนไหนก็ไหนไหนละ ไปเห๊อออออ : ) เราเลยตัดสินใจไปขึ้นยอดเขา Schiltorn กัน อ๊ะๆ อาจจะไม่ค่อยเคยได้ยินกันน ไม่แปลกหรอก เราก็เพิ่งรู้จักตอนคุณป้าเจ้าของอพาทเม้นเป็นคนแนะนำ (ตอนที่เราแอบลงไปจิ๊กช็อกโกแลต > <) ปะ ไปดูกันค่ะ รูปที่ถ่ายวันนี้อาจจะไม่ค่อยมี และไม่ค่อยสวยยเท่าไหร่ เนื่องจากฟ้าค่อนข้างครึ้ม แต่ถึงอย่างนั้น ความรู้สึกดีๆที่ได้ไปเก็บภาพเหล่านี้ไว้ในความทรงจำของเราก็ไม่ได้ลดน้อยลงเลย : )




เครดิตรูปแผนที่จาก Google.com

    ถ้าดูตามแผนที่ เราจะนั่งรถไฟไปลงที่สถานี Lauterbrunen จากนั้นก็เดินกันแบบเรื่อยเปื่อย ชมเมืองบนเขาชิววๆ ไปจนถึง สถานีกระเช้าที่ Murren แล้วก็เทคตัวกระโดดขึ้นกระเช้าไปเลย ฮ่าๆๆ จริงๆก็ไม่ต้องแอคทีฟขนาดนั้นก็ได้เนอะ เดินขึ้นสวยๆพอ

    ต่อมา เราแวะลงที่สถานี Birg ก่อน (อยากรู้ว่ามีอะไรงะ) พอเราออกมาจากสถานี จะมีร้านอาหารอยู่ ใครที่หิวก็จัดกันก่อนได้เลยย แต่เราทำข้าวกล่องมา แต่นแต๊นนน มาม่าผัดไง ฮ่าๆๆๆ มากินสูงๆแบบนี้ มาม่าก็อร่อยไปอีกแบบนะ ^^ เราก็เดินเล่นบนจุดชมวิว ซึ่งจะยื่นออกไปในอากาศนิดๆ เป็นโครงตารางเหล็กค่ะ ตรงขอบเป็นกระจกใส เค้าบอกกันว่าที่ตรงนี้ เราจะเห็นเป็นวิวของ 3 ยอดเขาสุดหล่ออ นั่นเองง เวลาลมแรงๆนี่แอบเสียววนะฮะ 55555

    จากนั้นเราก็มุ่งสู่ยอด Schiltorn กัน ที่นี่เป็นหนึ่งในสถานที่ถ่ายทำ 007 นะคะ เราคิดว่าน่าจะภาคแรกๆเลย เพราะภาพดูเก่าโคตรรรร ที่สถานีนี้ถ้าเราเดินออกไปนอกตัวอาคาร จะมีทางเดินไปยังจุดชมวิวกลางภูเขา คำเตือน กรุณาใส่รองเท้าที่ป้องกันการลื่นนิดนึงก็ดีนะคะ ไม่งั้นได้กรี๊ดกันเมามันแบบอะแก๊งเราแน่ 555555 แต่ก็ไปจนถึงเนอะ เสียดาย วันที่เราไปอากาศแอบครึ้มนิดนึง(ไว้ค่อยไปแก้ตัวละกัน)

















     วันที่ 4 วันนี้เรียกได้ว่า ฟรีค่ะฟรี อยากไปไหนไป 555555 พวกเราจึงตัดสินใจเดินทางกลับไปทาง Geneva ตั้งใจไปปราสาทที่ Montreux แล้วก็ไปเดินเล่นที่เมือง Vevey ตอนแรกว่าจะไปแปปเดียว ไปๆมาๆเดินกัน 5 ก้าว ถ่ายรูปทีเลยเอาซะหมดวันเลย แต่ความพีคจริงๆอยู่ตรงการเดินทางจาก Interlaken ไป เพราะรถไฟในสวิสนั้นจะมีหลายรูปแบบ มีลักษณะพิเศษแตกต่างกันไป อย่างสายที่เราเลือกนั่งกันนั้นเรียกว่า Golden Express Line ค่ะ ซึ่งจะมีกระจกหน้าต่างที่ใหญ่เป็นพิเศษทำให้เราเห็นวิวแบบ Panorama กันเลยทีเดียวเชียววว ฟิ๊นนนนนฟิน ^^














    วันที่ 5 วันต่อมา วันนี้เราจะออกจาก Interlaken ไปนอนที่ Luzern กัน พอไปถึง Luzern เราก็ลากกระเป๋าจากสถานีไปที่พักกัน คืนนี้เรานอนกันที่ Ibis budget Luzern ค่อนข้างไกลพอสมควร ลากกันลิ้นห้อยอยู่นะคุณผู้โช้มมมมมม 5555 หลังจากเก็บของกันเสร็จเรียบร้อย ไหนไหนก็ไหนไหนละ ไปเที่ยวเขากันต่อเลยดีกว่า เนื่องจากว่า สวิสพาส สามารถพาเราไปถึง Rigi kulm ได้โดยไม่เสียตังเพิ่มสักกะบาท ปะ รอไรละ ของฟรีต้องรีบบค่าาา ^__^

..ระหว่างทางขึ้นเขา Rigi ถ้ามองออกไปนอกรถราง เราจะสัมผัสได้ถึงความลงตัวของธรรมชาติที่ประกอบกันได้อย่างลงตัว ทะเลสาบ ภูเขา กับ ท้องฟ้า : )















วันสุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด (เอ๊ะยังไง) ฝากติดตามต่อกันในคอมเม้นเน้ออ
ชื่อสินค้า:   Switzerland
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่