แตกประเด็นปัญหาจากกระทู้ตามลิ้งค์นี้ครับ
http://pantip.com/topic/35451634/comment17-16
เรื่องนี้ผมเคยจะโพสต์ทีนึงแล้วไปเมื่อไม่นานมานี่เอง แต่พอดียุ่งๆก็เลยไม่ได้โพสต์
วันนี้มีเหตุถกเถียงกันในเรื่องนี้ เลยอยากให้ทั้ง 2 ฝ่ายได้เข้าใจว่าเหตุการณ์จริงๆ มันเป็นอย่างไร
ก็พยายามจะเล่าแบบที่ ไม่เป็นการขุดคุ้ยอย่างน่าเกลียด หรือกระทบกับผู้เสียชีวิตครับ
จะว่าไปมันไม่ใช่สังหารหมู่แบบตั้งใจไปฆ่าฝ่ายตรงข้ามอะไรแบบนั้น
และก็มันไม่ใช่การก่อการร้าย ผมเองก็ไม่รู้ว่าจะใช้คำว่าอะไรดีเหมือนกัน
เหตุมันเริ่มจาก การทะเลาะกันของแฟนบอลทั้งสองฝ่ายนั่นแหละ
ก่อนที่ตอนหลัง แฟนบอลยูเว่จะเสียชีวิตในเวลาต่อมาอย่างที่ทราบ
วันนั้ 29 May 1985 เป็นวันแข่งขันนัดชิง ยูโรเปี้ยนคัพ (สมัยก่อนเรียกใช้ชื่อนี้) ซึ่งถือเป็นถ้วยใหญ่สุดของยุโรป
ระหว่าง จูเวนตัส กับ ลิเวอร์พูล โดยจัดขึ้นที่ เฮย์เซล สเตเดี้ยม กรุงบร้สเซล เบลเยี่ยม เพราะกำหนดไว้นานแล้ว
(สมัยก่อนบ้านเราเรียก จูเวนตัส ตามนักข่าวสายบอล เช่น ย.โย่ง บิ๊กจ๊ะ เตยหอม_พิษณุฯ ซึ่งน่าจะเรียกกัน
ก่อนหน้าสยามกีฬา เพราะนักข่าวเหล่านี้อยู่ นสพ. บ้านเมือง มาก่อน ตอนหลังจึงย้ายมาที่ สยองกาลี เอ้ย!
สยามกีฬา (ตอนนั้นยังไม่สยองน่ะ) ซึ่งก็คงเรียกในแบบภาษาอังกฤษนั่นเอง ก่อนจะมาเปลี่ยนเป็น ยูเวนตุส
กันหลังจากที่ สยามกีฬาเริ่มส่งนักข่าวไปทำข่าวที่อิตาลีและก็คงไปได้ยินเจ้าของภาษาเรียก ยูเวนตุส
นักข่าวพวกนี้ เลยมาเปลี่ยน ชื่อเรียกกันใน นสพ สยามกีฬา และทางทีวี มาจนปัจจุบัน และก็มีอีกหลายทีม
หลายประเทศ เริ่มมีการเปลี่ยนชื่อเรียกให้ถูกต้อง กันมาตั้งแต่นั้น
ก่อนแข่งประธานสโมสรของทั้ง 2 ทีม ก็ร้องไปยังยูฟ่าว่าขอย้ายสนาม เนื่องจากคาดว่าแฟนบอลจะมีจำนวนมาก
สนามอาจจะไม่ปลอดภัยและรองรับแฟนบอลได้ไม่เพียงพอ แต่ยูฟ่ายังยืนยันว่าจะให้แข่งที่นี่ตามเดิม
วันนั้นแฟนบอลทั้ง 2 ฝ่ายถูกแยกไว้ที่อัฒจรรย์ด้านหลังประตูคนละฝั่ง เหมือนการแข่งทั่วๆไป
ยูเว่ อยู่โซน N กับ O ลิเวอร์พูล อยู่โซน X กับ Y
แต่!! มันดันมีแฟนบอลจำนวนหนึ่งที่ซื้อตั๋วจากบริษัททัวร์ และบริษัททัวร์ก็ไปซื้อตั๋วที่โซน Z
ซึ่งติดกับอัฒจรรย์ของแฟนลิเวอร์พูล แฟนบอลเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นแฟนบอลยูเว่ แต่ก็น่าจะมี
แฟนบอลลิเวอร์พูล และแฟนขาจรจากเบลเยี่ยม และประเทศอื่นที่ไม่ใช้อิตาลี่และอังกฤษรวมอยู่ด้วย
ซึ่งแฟนบอลกลุ่มนี้ บริษัททัวร์ และฝ่ายจัดการแข่งขันนั้นก็คงไม่นึกว่า จะมีแฟนยูเว่มาอยู่ตรงนั้น
เป็นจำนวนมากแบบนั้น เพราะพื้นที่นั้นเปิดขายบุคคลทั่วไป ดูรูปประกอบ
ทีนี้เหตุมันก็เริ่มเกิดจากแฟนบอลทั้ง 2 ฝ่ายทะเลาะกัน คงไม่มีใครบอกได้ว่าใครเริ่มก่อน และเริ่ม
ตอนไหน อาจจะเริ่มตั้งแต่ช่วงก่อนแข่งก็เป็นไปได้ ซึ่งน่าจะเริ่มจากการเยาะเย้ยกัน
จากแฟนบอลแค่กลุ่มเดียวของทั้ง 2 ฝ่าย หรือ อาจจะเป็นแฟนบอลจำนวนมาก อันนี้ข้อมูลที่ทราบไม่แน่ชัด
แนวโน้มน่าจะเริ่มจากแฟนบอลอังกฤษเพราะสมัยนั้น อังกฤษได้ชื่อว่าไปตีแฟนบอลประเทศอื่นบ่อยๆ
จนได้ยินจากข่าวเค้าเรียกกันว่า "พวกฮูลิแกน" หรือ อันธพาล บ่อยๆ แต่จุดเริ่มต้นมันมาจากการมีปากเสียงกันแน่ๆ
พอบอลแข่งไปก็ทะเลาะกันมากขึ้นแรงขึ้น ต่อมาแฟนบอลลิเวอร์พูลเริ่มปาก้อนหินและอื่นๆใส่แฟนบอลโซน Z
ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแฟนบอลยูเว่ (อันนี้ทีมสอบสวนยืนยันชัดเจนว่าแฟนบอลลิเวอร์พูลเริ่มขว้างปาก่อน) ต่อมาก็มี
การขว้างกลับใส่กันไปมาจนต้องให้ตำรวจจำนวนหนึ่งไปยืนขวางระหว่าง "กำแพงตาข่ายชั่วคราว" ที่ทำไว้กั้นโซน
แต่ก็กันไว้ได้ไม่นาน "สุดท้ายแฟนบอลลิเวอร์พูล ก็สามารถพังกำแพงตาข่ายที่ว่าลง และสามารถฝ่าแนวกั้นของ
ตำรวจมาข้ามมาทำร้ายแฟนบอลยูเว่จนได้ และนี่เองที่เป็นสาเหตุให้เกิดโศกนาฏกรรมขัน" เพราะการข้ามมาของ
แฟนบอลลิเวอร์พูล ทำให้แฟนบอลยูเว่และคนอื่นๆ (ที่ไม่น่าจะใช่ฮูลิแกน เพราะคงไม่ได้ตั้งใจมาทะเลาะวิวาท)
ต้องถอยหนีออกจากแนวกั้นโซน ทีนี้มันเลยเกิดการเบียดเสียดกันขึ้นจากการถอยหนี และทำให้คนที่อยู่ริมกำแพง
อีกด้านหนึ่ง (กำแพงหรือที่กั้นแบบถาวร) ถ้าหันหน้าจากสนามที่เตะบอลหาอัฒจรรย์ ก็คือกำแพงด้านข้างซ้ายมือ
และ กำแพงที่กั้นมุมด้านล่างซ้าย ถูกเบียดติดกำแพงตาข่าย ซึ่งแฟนบอลที่ถอยจากแนวกั้นโซนก็คงไม่ทราบว่า
การถอยนั้น ไปดันคนที่อยู่ริมอีกด้านหนึ่งจนขยับตัวหรือหนีไม่ได้ และในที่สุดก็เกิดอาการขาดอากาศหายใจ
เสียชีวิตในเวลาต่อมา แต่แล้วความโชคดี (หลายคนรวมทั้งเจ้าหน้าที่บอกแบบนั้น) บนความโชคร้ายก็เกิดขั้น
เมื่อกำแพงที่กั้นด้านล่างซ้ายได้พังลง จากแรงอัดเบียดเสียดของแฟนบอล ทำให้คนหลายคนที่ติดอยู่ตรงนั้น
สามารถหลุดออกมา หรือหนีออกมาได้ แต่ก็ทุลักทุเล มีการเหยียบกัน (คิดว่าผู้เสียชีวิตบางส่วนอาจจะถูกเหยียบ)
ทั้งตำรวจ จนท. และแฟนบอล ก็มาเพื่อช่วยเหลือแฟนบอลเหล่านี้กันอลหม่าน สุดท้ายก็ทราบว่ามีผู้เสียชีวิต 39 คน
และบาดเจ็บอีกกว่า 600 คน โดยผู้เสียชีวิตเป็น ชาวอิตาลี่ 32 คน, ชาวเบลเจี้ยน 4 คน, ฝรั่งเศส 2 คน และ
ชาวไอร์แลนด์เหนือ 1 คน จะเห็นว่าส่วนใหญ่เป็นแฟนบอลยูเว่จากอิตาลี่ ไม่มีแฟนบอลอังกฤษเลย
เรื่องนี้ถูกนำไปทำข่าวที่ไม่ถูกต้องในตอนแรกว่า มีผู้เสียชีวิตจากอัฒจรรย์พัง เข้าใจว่าสมัยนั้น 1985 ข่าวสาร ภาพวีดีโอ
หรือ ภาพถ่ายมันไม่ได้รวดเร็วข้ามโลกได้ในเวลาไม่กี่วินาทีแบบปัจจุบัน ข่าวเลยออกมาแบบนั้น คนส่วนใหญ่ก็เลยคิดว่า
เสียชีวิตเพราะอัฒจรรย์พัง เพราะไม่ได้ติดตามต่อและไม่ได้สืบค้นข้อมูล แต่ว่าที่จริงแล้วมันไม่ใช่แบบนั้น
และถ้าอัฒจรรย์ไม่พังลงมา จำนวนผู้เสียชีวิตจะมากกว่านี้แน่นอน หลายคนออกมาบอกภายหลังว่าโชคดีที่มันพังลงมา
ภาพวีดีโอเหตุการณ์
https://www.youtube.com/watch?v=KjfKHiYLBbw
หลังจากนั้นก็มี มากาเร็ต แธทเชอร์ นายกฯอังกฤษก็ขอให้ สมาคมฟุตบอลอังกฤษ งดส่งทีมแข่งในยุโรปทันที ก่อนการ
สืบสวนสอบสวนจะแล้วเสร็จใน 18 เดือนให้หลัง ซึ่งเมื่อสือบสวนสอบสวนเสร็จ ทางยูฟ่า ก็มีมติแบน ลิเวอร์พูล 6 ปี และ
สโมสรอื่นจากอังกฤษ 4 ปี ตามที่ทราบๆกันในที่สุด
ซึ่งอันหลังสุดนี่แหละ ที่ผมรู้สึกว่ามันไม่เป็นธรรมกับทีมอื่นๆในอังกฤษ รวมถึงทีมที่ผมเชียร์อยู่ด้วย (ตรงนี้ขอนอกเรื่องเป็น
ส่วนตัวนิดนึงครับ จะได้ทราบความรู้สึกแฟนบอลทีมอื่นในเวลานั้นด้วย) ก็นั่งดูช่อง 7 ถ่ายทอดสด เกมเป็นรองตั้งแต่เริ่ม ลุ้นแล้วลุ้นอีก
จนมาโดนใบแดงทั้งๆเสียบธรรมดาและเล่นที่ลูกบอล สถานการณ์เป็นรองอยู่แล้วยิ่งแย่ไปใหญ่ แต่สุดท้ายช่วงต่อเวลาครึ่งหลัง
เจ้าหนูมหัศจรรย์ นอร์แมน ไวท์ไซด์ ก็ปั่นเสียบเสาสองทำให้ชนะเอฟเวอร์ตันที่กำลังแรงชนิดหยุดยากไปแบบไม่นึกว่าจะชนะจนได้
และกำลังจะได้ไปเล่นบอลยุโรป อุคส่าห์เชียร์ลุ้นแทบตาย แต่ก็ต้องมาช็อคกับเหตุการณ์นี้อดไปซะงั้น และก็ยังทำให้หลายทีม
หมดโอกาสที่จะได้ไปแข่งบอลยุโรปในถ้วยต่างๆ ที่มีถึง 3 ถ้วยด้วย คือ ยูโรเปี้ยนคัพ (เฉพาะแชมป์แต่ละประเทษ) คัพ วินเนอร์สคัพ
(เฉพาะแชมป์บอลถ้วยหลักของแต่ละประเทศเช่น FA cup อังกฤษ) และ ยูฟ่าคัพ (เฉพาะทีมอันดับรองลงมาของแต่ละประเทศ
ตามโควต้า) นานถึง 4 ปี ทำให้ช่วงนั้นบอลอังกฤษจะล้าหลังกว่าประเทศอื่นมาก ตอนที่กลับมาได้เตะบอลยุโรปใหม่ๆก็แพ้กันระนาว
พักนึงจึงปรับตัวได้
ปีนั้น เอฟเวอร์ตัน ทีมที่กำลังแรงมากถึงขนาดเกือบได้ ทริปเปิ้ลแชมป์ หรือ ทรีเบิ้ล แต่ก็อดไปแข่งอย่างน่าเสียดาย
ถ้าได้แข่งก็มีโอกาสมากที่จะคว้าถ้วยใบใหญ่ หรือ ยูโรเปี้ยนคัพได้ รวมทั้ง แมนฯยูฯ ที่ได้แชมป์ FA Cup และ
ทีมอื่นๆที่ได้สิทธิไปแข่ง ยูฟ่าคัพ ก็เสียโอกาสอดไปแข่งแบบไม่มีปีมีขลุ่ย
ปีนั้น เอฟเวอร์ตัน ได้แชมป์ดิวิชั่น 1 (D1) แบบทิ้งอันดับรองลงมาขาดลอย อันดับ 2-4 เบียดกันมาแบบเฉือนกัน
ปลายจมูก 2.ลิเวอร์พูล 77 +33 3.สเปอร์ 77 +27 4.แมนฯยูฯ 76 +30 5.เซ้าท์แธมตัน 68 +9 . . .
และ เอฟเวอร์ตัน ได้แชมป์ คัพ วินเนอร์สคัพด้วย จากการชนะบาร์เยิร์นรอบรอง 3-1 และ ชนะ ราปิด เวียนนา ในรอบชิง 3-1
แต่ FA cup มาแพ้แมนฯยูฯ ที่เหลือ 10 คน เฉือนชนะเอฟเวอร์ตันไปได้ 1-0 ก็ดับความหวัง ทรีเบิ้ล ไป
เรื่องราวทั้งหมดมันก็เป็นแบบนี้ ก็ลองคิด พินิจ พิจารณา เอาเองก็แล้วกันครับว่า อะไรมันเป็นอะไร
แน่นอน แฟนบอลลิเวอร์พูล ที่อยู่ในสนามวันนั้น ควรจะมีส่วนต้องรับผิดชอบในเรื่องนี้ โดยเฉพาะพวกที่ปาก้อนหิน
และพังกำแพงข้ามไปทำร้ายร่างกายแฟนบอลยูเว่อีกฝั่งหนึ่ง
อ้อ ถ้าใครมีข้อมูลที่ดีกว่านี้ก็แชร์มาได้ครับ หากมีจุดใดที่ไม่ตรงกัน แต่ผมยืนยันว่าผมก็หาข้อมูลมาระดับนึงครับ
ปล. รูปและคลิปที่ลงคิดว่าไม่น่าจะรุนแรงเกินไปครับ และช่วงท้ายลงรูปเยอะหน่อย เพื่อให้เข้าใจลำดับเหตุการณ์
อีกอย่างผมไม่มีเวลาเรียบเรียงเนื้อหาสลับกับรูปต้องขออภัย รูปเพิ่มเติมหรือรูปผู้เสียชีวิตที่ไม่ลงเพราะดูแรงไป
ลองหาในเนทดูครับ แต่ระวังจะไปเจอรูปของ เหตุการณ์ฮิลส์โบโร่ห์ แล้วคิดว่าเป็นอันเดียวกันนะ มันแยกยากอยู่สักหน่อยครับ
### แตกประเด็น : เหตุการณ์ Heysal Stadium จากกระทู้ 35451634 ###
เรื่องนี้ผมเคยจะโพสต์ทีนึงแล้วไปเมื่อไม่นานมานี่เอง แต่พอดียุ่งๆก็เลยไม่ได้โพสต์
วันนี้มีเหตุถกเถียงกันในเรื่องนี้ เลยอยากให้ทั้ง 2 ฝ่ายได้เข้าใจว่าเหตุการณ์จริงๆ มันเป็นอย่างไร
ก็พยายามจะเล่าแบบที่ ไม่เป็นการขุดคุ้ยอย่างน่าเกลียด หรือกระทบกับผู้เสียชีวิตครับ
จะว่าไปมันไม่ใช่สังหารหมู่แบบตั้งใจไปฆ่าฝ่ายตรงข้ามอะไรแบบนั้น
และก็มันไม่ใช่การก่อการร้าย ผมเองก็ไม่รู้ว่าจะใช้คำว่าอะไรดีเหมือนกัน
เหตุมันเริ่มจาก การทะเลาะกันของแฟนบอลทั้งสองฝ่ายนั่นแหละ
ก่อนที่ตอนหลัง แฟนบอลยูเว่จะเสียชีวิตในเวลาต่อมาอย่างที่ทราบ
วันนั้ 29 May 1985 เป็นวันแข่งขันนัดชิง ยูโรเปี้ยนคัพ (สมัยก่อนเรียกใช้ชื่อนี้) ซึ่งถือเป็นถ้วยใหญ่สุดของยุโรป
ระหว่าง จูเวนตัส กับ ลิเวอร์พูล โดยจัดขึ้นที่ เฮย์เซล สเตเดี้ยม กรุงบร้สเซล เบลเยี่ยม เพราะกำหนดไว้นานแล้ว
(สมัยก่อนบ้านเราเรียก จูเวนตัส ตามนักข่าวสายบอล เช่น ย.โย่ง บิ๊กจ๊ะ เตยหอม_พิษณุฯ ซึ่งน่าจะเรียกกัน
ก่อนหน้าสยามกีฬา เพราะนักข่าวเหล่านี้อยู่ นสพ. บ้านเมือง มาก่อน ตอนหลังจึงย้ายมาที่ สยองกาลี เอ้ย!
สยามกีฬา (ตอนนั้นยังไม่สยองน่ะ) ซึ่งก็คงเรียกในแบบภาษาอังกฤษนั่นเอง ก่อนจะมาเปลี่ยนเป็น ยูเวนตุส
กันหลังจากที่ สยามกีฬาเริ่มส่งนักข่าวไปทำข่าวที่อิตาลีและก็คงไปได้ยินเจ้าของภาษาเรียก ยูเวนตุส
นักข่าวพวกนี้ เลยมาเปลี่ยน ชื่อเรียกกันใน นสพ สยามกีฬา และทางทีวี มาจนปัจจุบัน และก็มีอีกหลายทีม
หลายประเทศ เริ่มมีการเปลี่ยนชื่อเรียกให้ถูกต้อง กันมาตั้งแต่นั้น
ก่อนแข่งประธานสโมสรของทั้ง 2 ทีม ก็ร้องไปยังยูฟ่าว่าขอย้ายสนาม เนื่องจากคาดว่าแฟนบอลจะมีจำนวนมาก
สนามอาจจะไม่ปลอดภัยและรองรับแฟนบอลได้ไม่เพียงพอ แต่ยูฟ่ายังยืนยันว่าจะให้แข่งที่นี่ตามเดิม
วันนั้นแฟนบอลทั้ง 2 ฝ่ายถูกแยกไว้ที่อัฒจรรย์ด้านหลังประตูคนละฝั่ง เหมือนการแข่งทั่วๆไป
ยูเว่ อยู่โซน N กับ O ลิเวอร์พูล อยู่โซน X กับ Y
แต่!! มันดันมีแฟนบอลจำนวนหนึ่งที่ซื้อตั๋วจากบริษัททัวร์ และบริษัททัวร์ก็ไปซื้อตั๋วที่โซน Z
ซึ่งติดกับอัฒจรรย์ของแฟนลิเวอร์พูล แฟนบอลเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นแฟนบอลยูเว่ แต่ก็น่าจะมี
แฟนบอลลิเวอร์พูล และแฟนขาจรจากเบลเยี่ยม และประเทศอื่นที่ไม่ใช้อิตาลี่และอังกฤษรวมอยู่ด้วย
ซึ่งแฟนบอลกลุ่มนี้ บริษัททัวร์ และฝ่ายจัดการแข่งขันนั้นก็คงไม่นึกว่า จะมีแฟนยูเว่มาอยู่ตรงนั้น
เป็นจำนวนมากแบบนั้น เพราะพื้นที่นั้นเปิดขายบุคคลทั่วไป ดูรูปประกอบ
ทีนี้เหตุมันก็เริ่มเกิดจากแฟนบอลทั้ง 2 ฝ่ายทะเลาะกัน คงไม่มีใครบอกได้ว่าใครเริ่มก่อน และเริ่ม
ตอนไหน อาจจะเริ่มตั้งแต่ช่วงก่อนแข่งก็เป็นไปได้ ซึ่งน่าจะเริ่มจากการเยาะเย้ยกัน
จากแฟนบอลแค่กลุ่มเดียวของทั้ง 2 ฝ่าย หรือ อาจจะเป็นแฟนบอลจำนวนมาก อันนี้ข้อมูลที่ทราบไม่แน่ชัด
แนวโน้มน่าจะเริ่มจากแฟนบอลอังกฤษเพราะสมัยนั้น อังกฤษได้ชื่อว่าไปตีแฟนบอลประเทศอื่นบ่อยๆ
จนได้ยินจากข่าวเค้าเรียกกันว่า "พวกฮูลิแกน" หรือ อันธพาล บ่อยๆ แต่จุดเริ่มต้นมันมาจากการมีปากเสียงกันแน่ๆ
พอบอลแข่งไปก็ทะเลาะกันมากขึ้นแรงขึ้น ต่อมาแฟนบอลลิเวอร์พูลเริ่มปาก้อนหินและอื่นๆใส่แฟนบอลโซน Z
ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแฟนบอลยูเว่ (อันนี้ทีมสอบสวนยืนยันชัดเจนว่าแฟนบอลลิเวอร์พูลเริ่มขว้างปาก่อน) ต่อมาก็มี
การขว้างกลับใส่กันไปมาจนต้องให้ตำรวจจำนวนหนึ่งไปยืนขวางระหว่าง "กำแพงตาข่ายชั่วคราว" ที่ทำไว้กั้นโซน
แต่ก็กันไว้ได้ไม่นาน "สุดท้ายแฟนบอลลิเวอร์พูล ก็สามารถพังกำแพงตาข่ายที่ว่าลง และสามารถฝ่าแนวกั้นของ
ตำรวจมาข้ามมาทำร้ายแฟนบอลยูเว่จนได้ และนี่เองที่เป็นสาเหตุให้เกิดโศกนาฏกรรมขัน" เพราะการข้ามมาของ
แฟนบอลลิเวอร์พูล ทำให้แฟนบอลยูเว่และคนอื่นๆ (ที่ไม่น่าจะใช่ฮูลิแกน เพราะคงไม่ได้ตั้งใจมาทะเลาะวิวาท)
ต้องถอยหนีออกจากแนวกั้นโซน ทีนี้มันเลยเกิดการเบียดเสียดกันขึ้นจากการถอยหนี และทำให้คนที่อยู่ริมกำแพง
อีกด้านหนึ่ง (กำแพงหรือที่กั้นแบบถาวร) ถ้าหันหน้าจากสนามที่เตะบอลหาอัฒจรรย์ ก็คือกำแพงด้านข้างซ้ายมือ
และ กำแพงที่กั้นมุมด้านล่างซ้าย ถูกเบียดติดกำแพงตาข่าย ซึ่งแฟนบอลที่ถอยจากแนวกั้นโซนก็คงไม่ทราบว่า
การถอยนั้น ไปดันคนที่อยู่ริมอีกด้านหนึ่งจนขยับตัวหรือหนีไม่ได้ และในที่สุดก็เกิดอาการขาดอากาศหายใจ
เสียชีวิตในเวลาต่อมา แต่แล้วความโชคดี (หลายคนรวมทั้งเจ้าหน้าที่บอกแบบนั้น) บนความโชคร้ายก็เกิดขั้น
เมื่อกำแพงที่กั้นด้านล่างซ้ายได้พังลง จากแรงอัดเบียดเสียดของแฟนบอล ทำให้คนหลายคนที่ติดอยู่ตรงนั้น
สามารถหลุดออกมา หรือหนีออกมาได้ แต่ก็ทุลักทุเล มีการเหยียบกัน (คิดว่าผู้เสียชีวิตบางส่วนอาจจะถูกเหยียบ)
ทั้งตำรวจ จนท. และแฟนบอล ก็มาเพื่อช่วยเหลือแฟนบอลเหล่านี้กันอลหม่าน สุดท้ายก็ทราบว่ามีผู้เสียชีวิต 39 คน
และบาดเจ็บอีกกว่า 600 คน โดยผู้เสียชีวิตเป็น ชาวอิตาลี่ 32 คน, ชาวเบลเจี้ยน 4 คน, ฝรั่งเศส 2 คน และ
ชาวไอร์แลนด์เหนือ 1 คน จะเห็นว่าส่วนใหญ่เป็นแฟนบอลยูเว่จากอิตาลี่ ไม่มีแฟนบอลอังกฤษเลย
เรื่องนี้ถูกนำไปทำข่าวที่ไม่ถูกต้องในตอนแรกว่า มีผู้เสียชีวิตจากอัฒจรรย์พัง เข้าใจว่าสมัยนั้น 1985 ข่าวสาร ภาพวีดีโอ
หรือ ภาพถ่ายมันไม่ได้รวดเร็วข้ามโลกได้ในเวลาไม่กี่วินาทีแบบปัจจุบัน ข่าวเลยออกมาแบบนั้น คนส่วนใหญ่ก็เลยคิดว่า
เสียชีวิตเพราะอัฒจรรย์พัง เพราะไม่ได้ติดตามต่อและไม่ได้สืบค้นข้อมูล แต่ว่าที่จริงแล้วมันไม่ใช่แบบนั้น
และถ้าอัฒจรรย์ไม่พังลงมา จำนวนผู้เสียชีวิตจะมากกว่านี้แน่นอน หลายคนออกมาบอกภายหลังว่าโชคดีที่มันพังลงมา
ภาพวีดีโอเหตุการณ์ https://www.youtube.com/watch?v=KjfKHiYLBbw
หลังจากนั้นก็มี มากาเร็ต แธทเชอร์ นายกฯอังกฤษก็ขอให้ สมาคมฟุตบอลอังกฤษ งดส่งทีมแข่งในยุโรปทันที ก่อนการ
สืบสวนสอบสวนจะแล้วเสร็จใน 18 เดือนให้หลัง ซึ่งเมื่อสือบสวนสอบสวนเสร็จ ทางยูฟ่า ก็มีมติแบน ลิเวอร์พูล 6 ปี และ
สโมสรอื่นจากอังกฤษ 4 ปี ตามที่ทราบๆกันในที่สุด
ซึ่งอันหลังสุดนี่แหละ ที่ผมรู้สึกว่ามันไม่เป็นธรรมกับทีมอื่นๆในอังกฤษ รวมถึงทีมที่ผมเชียร์อยู่ด้วย (ตรงนี้ขอนอกเรื่องเป็น
ส่วนตัวนิดนึงครับ จะได้ทราบความรู้สึกแฟนบอลทีมอื่นในเวลานั้นด้วย) ก็นั่งดูช่อง 7 ถ่ายทอดสด เกมเป็นรองตั้งแต่เริ่ม ลุ้นแล้วลุ้นอีก
จนมาโดนใบแดงทั้งๆเสียบธรรมดาและเล่นที่ลูกบอล สถานการณ์เป็นรองอยู่แล้วยิ่งแย่ไปใหญ่ แต่สุดท้ายช่วงต่อเวลาครึ่งหลัง
เจ้าหนูมหัศจรรย์ นอร์แมน ไวท์ไซด์ ก็ปั่นเสียบเสาสองทำให้ชนะเอฟเวอร์ตันที่กำลังแรงชนิดหยุดยากไปแบบไม่นึกว่าจะชนะจนได้
และกำลังจะได้ไปเล่นบอลยุโรป อุคส่าห์เชียร์ลุ้นแทบตาย แต่ก็ต้องมาช็อคกับเหตุการณ์นี้อดไปซะงั้น และก็ยังทำให้หลายทีม
หมดโอกาสที่จะได้ไปแข่งบอลยุโรปในถ้วยต่างๆ ที่มีถึง 3 ถ้วยด้วย คือ ยูโรเปี้ยนคัพ (เฉพาะแชมป์แต่ละประเทษ) คัพ วินเนอร์สคัพ
(เฉพาะแชมป์บอลถ้วยหลักของแต่ละประเทศเช่น FA cup อังกฤษ) และ ยูฟ่าคัพ (เฉพาะทีมอันดับรองลงมาของแต่ละประเทศ
ตามโควต้า) นานถึง 4 ปี ทำให้ช่วงนั้นบอลอังกฤษจะล้าหลังกว่าประเทศอื่นมาก ตอนที่กลับมาได้เตะบอลยุโรปใหม่ๆก็แพ้กันระนาว
พักนึงจึงปรับตัวได้
ปีนั้น เอฟเวอร์ตัน ทีมที่กำลังแรงมากถึงขนาดเกือบได้ ทริปเปิ้ลแชมป์ หรือ ทรีเบิ้ล แต่ก็อดไปแข่งอย่างน่าเสียดาย
ถ้าได้แข่งก็มีโอกาสมากที่จะคว้าถ้วยใบใหญ่ หรือ ยูโรเปี้ยนคัพได้ รวมทั้ง แมนฯยูฯ ที่ได้แชมป์ FA Cup และ
ทีมอื่นๆที่ได้สิทธิไปแข่ง ยูฟ่าคัพ ก็เสียโอกาสอดไปแข่งแบบไม่มีปีมีขลุ่ย
ปีนั้น เอฟเวอร์ตัน ได้แชมป์ดิวิชั่น 1 (D1) แบบทิ้งอันดับรองลงมาขาดลอย อันดับ 2-4 เบียดกันมาแบบเฉือนกัน
ปลายจมูก 2.ลิเวอร์พูล 77 +33 3.สเปอร์ 77 +27 4.แมนฯยูฯ 76 +30 5.เซ้าท์แธมตัน 68 +9 . . .
และ เอฟเวอร์ตัน ได้แชมป์ คัพ วินเนอร์สคัพด้วย จากการชนะบาร์เยิร์นรอบรอง 3-1 และ ชนะ ราปิด เวียนนา ในรอบชิง 3-1
แต่ FA cup มาแพ้แมนฯยูฯ ที่เหลือ 10 คน เฉือนชนะเอฟเวอร์ตันไปได้ 1-0 ก็ดับความหวัง ทรีเบิ้ล ไป
เรื่องราวทั้งหมดมันก็เป็นแบบนี้ ก็ลองคิด พินิจ พิจารณา เอาเองก็แล้วกันครับว่า อะไรมันเป็นอะไร
แน่นอน แฟนบอลลิเวอร์พูล ที่อยู่ในสนามวันนั้น ควรจะมีส่วนต้องรับผิดชอบในเรื่องนี้ โดยเฉพาะพวกที่ปาก้อนหิน
และพังกำแพงข้ามไปทำร้ายร่างกายแฟนบอลยูเว่อีกฝั่งหนึ่ง
อ้อ ถ้าใครมีข้อมูลที่ดีกว่านี้ก็แชร์มาได้ครับ หากมีจุดใดที่ไม่ตรงกัน แต่ผมยืนยันว่าผมก็หาข้อมูลมาระดับนึงครับ
ปล. รูปและคลิปที่ลงคิดว่าไม่น่าจะรุนแรงเกินไปครับ และช่วงท้ายลงรูปเยอะหน่อย เพื่อให้เข้าใจลำดับเหตุการณ์
อีกอย่างผมไม่มีเวลาเรียบเรียงเนื้อหาสลับกับรูปต้องขออภัย รูปเพิ่มเติมหรือรูปผู้เสียชีวิตที่ไม่ลงเพราะดูแรงไป
ลองหาในเนทดูครับ แต่ระวังจะไปเจอรูปของ เหตุการณ์ฮิลส์โบโร่ห์ แล้วคิดว่าเป็นอันเดียวกันนะ มันแยกยากอยู่สักหน่อยครับ