คณะรัฐบาลของโอบาม่ามีเรื่องอื้อฉาวต่างๆมากมาย พวกเขาพยายามที่จะกลบเกลื่อนประเด็นต่างๆด้วยเรื่องอื้อฉาวใหม่ๆ
เหตุการณ์นี้ก็ถือเป็นเรื่องที่น่าอับอายขายหน้าของประธานาธิบดีภายใต้ปฎิบัติการที่ชื่อ “Operation Fast And Furious” โดยมีการวางแผนเอื้ออำนวยหน่วยสืบสวน ATF เป็นตัวแทนค้าขายของผิดกฎหมายภายในประเทศอเมริกาและก็ทำการสร้างเส้นทางลำเลียงสินค้าที่ต่างๆ โดยมีการพยายามขายอาวุธให้กับอาชญากรด้วยอาวุธ 2000 ชนิด ซึ่งนำไปใช้ในการสังหารผู้คนในเม็กซิโกกับอีกหนึ่งชาวอเมริกันที่เป็นเจ้าหน้าที่หน่วยลาดตระเวนที่ชื่อ Brain Terry
ตอนนี้ปฎิบัติการ Fast And Furious ก็กลับมาเป็นข่าวอีกครั้ง เดือนก่อนหน้านี้ก็มีการเข้าจับกุมเจ้าพ่อยาเสพติด Joaquin “El Chapo” Guzman ซึ่งไม่เพียงแค่จะเป็นราชาพ่อค้ายาเสพติดเท่านั้น แต่ยังค้าขายปืนไรเฟิล .50-Caliber ที่นำไปใช้การสอยรถหรือสอยเฮลิคอปเตอร์ได้ ซึ่งก็เป็นไปตามโปรแกรม ATF วางเอาไว้ จึงเป็นเรื่องง่ายที่ปืนไรเฟิลทำการค้าขายผ่านตามโปรแกรมนี้ได้
มีข่าวใหม่ๆหลังจากที่ทางผู้พิพากษาไม่รับคำร้องต่อการที่ประธานาธิบดีโอบาม่าจะใช้สิทธิ์ในการดำเนินการเรื่องนี้ผ่านสภาเพื่อสานปฎิบัติการ Fast And Furious ซึ่งก็มีข้อมูลต่างๆที่สอดคล้องกันโดยจะต้องย้อนกลับไปในปี 2012 ที่มีการสืบสวนส่วนหนึ่งพบว่ามีการลำเลียงค้าขายอาวุธ แม้ว่าจะมีเรื่องอื้อฉาว IRS,Benghazi และก็มีการประฌามการกระทำผิดกฎหมายต่อทำเนียบขาว แต่ทางประธานาธิบดีก็ยังยืนกรานที่จะดำเนินปฎิบัติการนี้อยู่ดี
3 ปีครึ่งต่อมาก็มีคำถามอยู่ว่า ทำไมถึงทำแบบนั้นด้วย?
ในเดือนพฤศจิกายน ปี 2009 เจ้าหน้าที่ของ ATF ที่ได้ดำเนินการโดยทำการซื้อขายอาวุธกับพ่อค้าในประเทศอเมริกาเพื่อที่จะนำเข้าไปยังเขตชายแดนเม็กซิโก จากนั้นทางด้านเจ้าหน้าที่หลายคนของ ATF ก็ได้ทำการติดตามแกะรอยพวกเขาเพื่อที่จะสร้างผลงานจับพ่อค้าอาวุธ
อย่างน้อยเรื่องนี้มันก็เป็นหลักทฤษฎี ความจริงแล้วเมื่ออาวุธปืนมีการลำเลียงผ่านไปยังเขตชายแดน พวกเขาก็จากไป ทางด้านผู้เปิดโปงหลายคนก็ได้มีการรายงานและต่อมาผู้สอบสวนก็ทำการยืนยันว่า ATF ไม่ได้ทำการแกะรอยตามอาวุธดังกล่าว
ในเดือนมีนาคม ปี 2010 มีเจ้าหน้าที่ไม่กี่คนของ ATF ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการดำเนินการนี้นั้น ต่างก็ตั้งคำถามว่า อาวุธปืนต่างๆสุดท้ายจะตกอยู่ในมือของอาชญากรหรือไม่? 7 เดือนต่อมาก็ได้เกิดขึ้นจริงๆ ซึ่งอดีตอัยการสูงสุดของรัฐชีวาวาถูกฆาตกรรมและอาวุธจากปฎิบัติการ Fast And Furious ก็ถูกพบในเหตุการณ์นั้น
ในเดือนธันวาคม มีการขยายพื้นที่ลำเลียงผ่านไปยังชายแดน ในวันที่ 14 ธันวาคม ก็มีเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนชายแดนได้ปักหลักอยู่ใกล้ๆกับ Rio Rico,Ariz แห่งจากชายแดนตอนเหนือของเม็กซิกัน 11 ไมล์ มีชายฉกรรจ์อยู่ 5 คนที่ดูเหมือนว่าจะเป็นคนลอบนำเข้ายาเสพติดผ่านชายแดน จากนั้นก็มีการเปิดฉากยิงกันตอนที่เจ้าหน้าที่พยายามจะเข้าไปจับกุม ทางด้านเจ้าหน้าที่ Terry ก็ถูกยิงทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิต มีอาวุธปืนอยู่ 2 กระบอกที่มีความเชื่อมโยงกับแผนการ Fast And Furious ซึ่งก็ยังค้นพบต่อเนื่องอีก 6 สัปดาห์ถัดไป
แผนการนี้สุดท้ายก็ถูกระงับลงจากความช่วยเหลือของวุฒิสภา Chuck Grassley ที่จากนั้นก็ได้เข้าเป็นคณะตุลาการศาลยุติธรรม ซึ่งได้มีการเปิดโปงการสืบสวนนี้ อีก 2 เดือนต่อมา Darrell Issa ที่จากนั้นก็เป็นประธานคณะกรรมการการปฎิรูปรัฐบาลก็ได้ทำการเปิดประเด็นการสอบสวนเรื่องนี้ด้วยตัวเอง
Operation Fast And Furious ถือเป็นปฎิบัติการที่เลวร้ายมากพอแล้ว แต่จากการสืบสวนก็ยิ่งพบว่ายังมีความลับอีกมากที่ยังไม่รู้ ในเดือนกุมภาพันธ์ก็มีการเรียกร้องเรื่องนี้จาก Grassley โดยทางด้านผู้ช่วยอัยการ Ronald Weich ยอมรับว่ามีการบันทึกข้อมูลโดยอ้างว่า “ATF ให้การสนับสนุน หรือในทางตรงข้ามการค้าขายอาวุธจู่โจมให้กับผู้ซื้อขายแล้วก็นำไปลำเลียงที่ประเทศเม็กซิโกนั้นเป็นเรื่องโกหก ทางด้าน ATF พยายามทำทุกอย่างจากการละเมิดกฎหมายการค้าขายอาวุธต่างๆและยังฝ่าฝืนกฎหมายโดยลำเลียงอาวุธไปยังประเทศเม็กซิโก” ในเดือนพฤศจิกายน ทางด้านอัยการสูงสุด Eric Holder ออกมายอมรับว่า ข้อเท็จจริงแล้วการลำเลียงอาวุธเคยเกิดขึ้นจริงและในเดือนธันวาคมทางด้านคณะรัฐบาลของโอบาม่าก็ปฎิเสธข้อมูลจากทางด้าน Weich ที่ให้การในสภาเนื่องจากข้อมูลที่ Holder ให้นั้นไม่เป็นความจริง
เวลานั้น Holder ได้เป็นบุคคลที่หลายคนจับตามอง คำถามก็คือสิ่งที่อัยการสูงสุดรู้เกี่ยวกับปฎิบัติการนั้นคืออะไรและเขารู้เมื่อไรอย่างไร? ในเดือนพฤษภาคม ปี 2011 เขาอ้างว่า เขารู้เกี่ยวกับกลยุทธ์การลำเลียงอาวุธปืนเพียงแค่ไม่กี่สัปดาห์ แต่ในช่วงเดือนตุลาคม มีเอกสารใหม่ๆที่แสดงให้เห็นว่า Holder รู้เรื่องราวเกี่ยวกับแผนการ Fast And Furious ก่อนเดือนกรกฎาคม ปี 2010 และในเดือนมกราคม ปี 2010 หลังจากที่ทาง ATF ได้เริ่มแผนการ Fast And Furious แล้ว ทางด้านเจ้าหน้าที่จาก OCDETF ก็มีการประสานกับทางเจ้าหน้าที่ตัวแทนหลายคนที่มาจากแผนกฝ่ายยุติธรรมเพื่อเป็นการสร้างอิทธิพลให้กับแผนการมากขึ้น
ยิ่งไปกว่านั้น การปฎิบัติการอาจจะมีการเมืองเข้ามาแอบแฝง อีเมล์ต่างๆจากข้อมูล CBS ในช่วงปลายปี 2011 นั้นก็แสดงให้เห็นว่า เจ้าหน้าที่หลายคนของ ATF มีความเป็นไปได้ว่าเกี่ยวพันกับการปฎิบัติการ Fast And Furious ตลอดจนถึงการควบคุมรายงานยอดขายร้านขายอาวุธประเภทไรเฟิลหรือปืนยาว พูดง่ายๆก็คือ ATF ทำการควบคุมร้านขายอาวุธ ทำการขายอาวุธอันตรายให้กับผู้คนและจากนั้นทำการออกแบบรายงานยอดขายใหม่ๆตามที่ตัวเองต้องการ
ในช่วงหน้าร้อนปี 2012 ทางด้าน Holder กับคณะกรรมการก็ได้ปลีกตัวออกมา ทางด้านอัยการสูงสุดอ้างว่า เขาเจอกับคำตอบของคณะกรรมการตามเอกสารต่างๆ Issa กล่าวว่า DOJ มีเอกสารจำนวนกว่า 1300 หน้า ประธานาธิบดีโอบาม่าได้ก้าวก่ายแทรกแซงโดยอ้างว่า เอกสารต่างๆมีการคุ้มครองสิทธิในการดำเนินการ เป็นเรื่องน่าตลกที่เขาอ้างว่าเป็นเรื่องถูกกฎหมายและมีข้อเสนอแนะให้ทำแบบนั้น โดยทางทำเนียบขาวก็ปฎิเสธว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง ในช่วงปลายๆเดือนมิถุนายนก็มีการมอบหมายให้ Holder อยู่ในคณะรัฐมนตรีซึ่งเป็นคนแรกที่ถูกสบประมาทในรัฐสภา
ในเดือนกันยายนทางด้านคณะรัฐบาลได้ประกาศชัยชนะ โดยผู้ตรวจการฝ่ายยุติธรรมก็มีการเปิดเผยรายงานเจ้าหน้าที่กฎหมาย 14 คนที่ฝ่าฝืนกฎวินัยและดูเหมือนจะยกโทษให้สำหรับ Holder ซึ่งจริงๆแล้วรายงานก็มีการบันทึกรายละเอียดเหตุการณ์ต่างๆที่ผิดปกติ โดยในช่วงปี 2010 กับ 2011 ก็มีรายงานข้อมูลเกี่ยวกับโปรแกรมต่างๆที่ทาง Holder ได้รวบรวมเอาไว้ แต่ก็ทางด้านอัยการสูงสุดกลับไม่รู้เห็นเรื่องพวกนี้เลย ซึ่งก็เป็นเรื่องที่แปลกดี
จากนั้นก็มีการสอบสวนประเด็นแผนการ Fast And Furious โดยมีการพยายามนำเรื่องนี้ขึ้นสู่ศาล ซึ่งถือเป็นความท้าทายสำหรับประธานาธิบดีที่ได้ดำเนินแผนการนี้
แต่ ATF ก็ยังมีความลำบากใจต่อการตัดสิน โดยในช่วงเวลาที่ทางสภาทำเรื่องโหวตนั้น ก็มีชาวเม็กซิกันกว่า 300 คนถูกฆ่าหรือบาดเจ็บสาหัสจากอาวุธที่ได้จาก Fast And Furious และตัวเลขก็เพิ่มมากขึ้น ในเดือนธันวาคม ปี 2013 อาวุธลำเลียงถูกค้นพบในบริเวณพื้นที่รีสอร์ทเม็กซิโกซึ่งมีสมาชิก 5 คนถูกยิงเสียชีวิต
อาวุธต่างๆก็ถูกพบในแถบตอนเหนือด้วยเช่นกัน เป็นอาวุธที่มาจาก Nadir Soofi ซึ่งเป็นหนึ่งในสองผู้ก่อการร้ายชาวมุสลิมที่พยายามจะยิง Pamela Geller ในการประกวด Draw Muhammad ในเท็กซัสในช่วงเดือนพฤษภาคม ซึ่งอาวุธก็ได้มาจากโครงการ Fast And Furious
จึงเป็นเรื่องยากมากที่จะมีการกล่าวเกินจริงว่า เจ้าหน้าที่รัฐทำเรื่องโง่เง่าหรือเกี่ยวข้องกับการละเมิดกฎหมายที่อัปยศนี้ได้อย่างไร ซึ่งช่วงแรกก็มีแนวคิดผุดขึ้นมาเกี่ยวกับการลำเลียงอาวุธให้กับอาชญากรชาวเม็กซิกันกว่าพันคน จากนั้นก็ดำเนินการโดยที่ไม่ระวังว่าผลที่ตามมานั้นจะเป็นอย่างไร จึงเป็นเรื่องยากที่จะกล่าวเกินจริงเช่นกันในการตรวจสอบความโปร่งใสของคณะรัฐบาล ซึ่งเป็นความผิดพลาดที่ล้มเหลวซ้ำๆซากๆ มีการปกปิดจากการไต่สวนของรัฐสภาว่า มีความเกี่ยวข้องกับการดำเนินการครั้งนี้อย่างไร ที่ดีที่สุดก็คือรู้ว่าการปฎิบัติการหลังจากนั้นมีการกระทำผิดกฎหมายอย่างน่าแปลกใจ แต่ที่แย่ที่สุดก็คือ ทางคณะรัฐบาลรู้ว่าการกระทำนี้เป็นการไม่เคารพในชีวิตความเป็นมนุษย์แล้วยังมีการปกปิดความจริงอีก
ภายใต้ปฎิบัติการที่ชื่อ “Operation Fast & Furious” นั้น ทางรัฐบาลอเมริกาเป็นนักค้าอาวุธให้กับพ่อค้าชาวเม็กซิกันกับอาชญากรชาวมุสลิมจริง
แต่คณะรัฐบาลนี้ก็ยังอธิบายให้ชาวอเมริกันรับรู้เกี่ยวกับการควบคุมอาวุธปืนอยู่ได้อีก
ผู้แปล : Mr.lawrence10
ที่มา : www.nationalreview.com
Operation Fast And Furious : ปฎิบัติการสุดอื้อฉาวของรัฐบาลโอบาม่า
คณะรัฐบาลของโอบาม่ามีเรื่องอื้อฉาวต่างๆมากมาย พวกเขาพยายามที่จะกลบเกลื่อนประเด็นต่างๆด้วยเรื่องอื้อฉาวใหม่ๆ
เหตุการณ์นี้ก็ถือเป็นเรื่องที่น่าอับอายขายหน้าของประธานาธิบดีภายใต้ปฎิบัติการที่ชื่อ “Operation Fast And Furious” โดยมีการวางแผนเอื้ออำนวยหน่วยสืบสวน ATF เป็นตัวแทนค้าขายของผิดกฎหมายภายในประเทศอเมริกาและก็ทำการสร้างเส้นทางลำเลียงสินค้าที่ต่างๆ โดยมีการพยายามขายอาวุธให้กับอาชญากรด้วยอาวุธ 2000 ชนิด ซึ่งนำไปใช้ในการสังหารผู้คนในเม็กซิโกกับอีกหนึ่งชาวอเมริกันที่เป็นเจ้าหน้าที่หน่วยลาดตระเวนที่ชื่อ Brain Terry
ตอนนี้ปฎิบัติการ Fast And Furious ก็กลับมาเป็นข่าวอีกครั้ง เดือนก่อนหน้านี้ก็มีการเข้าจับกุมเจ้าพ่อยาเสพติด Joaquin “El Chapo” Guzman ซึ่งไม่เพียงแค่จะเป็นราชาพ่อค้ายาเสพติดเท่านั้น แต่ยังค้าขายปืนไรเฟิล .50-Caliber ที่นำไปใช้การสอยรถหรือสอยเฮลิคอปเตอร์ได้ ซึ่งก็เป็นไปตามโปรแกรม ATF วางเอาไว้ จึงเป็นเรื่องง่ายที่ปืนไรเฟิลทำการค้าขายผ่านตามโปรแกรมนี้ได้
มีข่าวใหม่ๆหลังจากที่ทางผู้พิพากษาไม่รับคำร้องต่อการที่ประธานาธิบดีโอบาม่าจะใช้สิทธิ์ในการดำเนินการเรื่องนี้ผ่านสภาเพื่อสานปฎิบัติการ Fast And Furious ซึ่งก็มีข้อมูลต่างๆที่สอดคล้องกันโดยจะต้องย้อนกลับไปในปี 2012 ที่มีการสืบสวนส่วนหนึ่งพบว่ามีการลำเลียงค้าขายอาวุธ แม้ว่าจะมีเรื่องอื้อฉาว IRS,Benghazi และก็มีการประฌามการกระทำผิดกฎหมายต่อทำเนียบขาว แต่ทางประธานาธิบดีก็ยังยืนกรานที่จะดำเนินปฎิบัติการนี้อยู่ดี
3 ปีครึ่งต่อมาก็มีคำถามอยู่ว่า ทำไมถึงทำแบบนั้นด้วย?
ในเดือนพฤศจิกายน ปี 2009 เจ้าหน้าที่ของ ATF ที่ได้ดำเนินการโดยทำการซื้อขายอาวุธกับพ่อค้าในประเทศอเมริกาเพื่อที่จะนำเข้าไปยังเขตชายแดนเม็กซิโก จากนั้นทางด้านเจ้าหน้าที่หลายคนของ ATF ก็ได้ทำการติดตามแกะรอยพวกเขาเพื่อที่จะสร้างผลงานจับพ่อค้าอาวุธ
อย่างน้อยเรื่องนี้มันก็เป็นหลักทฤษฎี ความจริงแล้วเมื่ออาวุธปืนมีการลำเลียงผ่านไปยังเขตชายแดน พวกเขาก็จากไป ทางด้านผู้เปิดโปงหลายคนก็ได้มีการรายงานและต่อมาผู้สอบสวนก็ทำการยืนยันว่า ATF ไม่ได้ทำการแกะรอยตามอาวุธดังกล่าว
ในเดือนมีนาคม ปี 2010 มีเจ้าหน้าที่ไม่กี่คนของ ATF ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการดำเนินการนี้นั้น ต่างก็ตั้งคำถามว่า อาวุธปืนต่างๆสุดท้ายจะตกอยู่ในมือของอาชญากรหรือไม่? 7 เดือนต่อมาก็ได้เกิดขึ้นจริงๆ ซึ่งอดีตอัยการสูงสุดของรัฐชีวาวาถูกฆาตกรรมและอาวุธจากปฎิบัติการ Fast And Furious ก็ถูกพบในเหตุการณ์นั้น
ในเดือนธันวาคม มีการขยายพื้นที่ลำเลียงผ่านไปยังชายแดน ในวันที่ 14 ธันวาคม ก็มีเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนชายแดนได้ปักหลักอยู่ใกล้ๆกับ Rio Rico,Ariz แห่งจากชายแดนตอนเหนือของเม็กซิกัน 11 ไมล์ มีชายฉกรรจ์อยู่ 5 คนที่ดูเหมือนว่าจะเป็นคนลอบนำเข้ายาเสพติดผ่านชายแดน จากนั้นก็มีการเปิดฉากยิงกันตอนที่เจ้าหน้าที่พยายามจะเข้าไปจับกุม ทางด้านเจ้าหน้าที่ Terry ก็ถูกยิงทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิต มีอาวุธปืนอยู่ 2 กระบอกที่มีความเชื่อมโยงกับแผนการ Fast And Furious ซึ่งก็ยังค้นพบต่อเนื่องอีก 6 สัปดาห์ถัดไป
แผนการนี้สุดท้ายก็ถูกระงับลงจากความช่วยเหลือของวุฒิสภา Chuck Grassley ที่จากนั้นก็ได้เข้าเป็นคณะตุลาการศาลยุติธรรม ซึ่งได้มีการเปิดโปงการสืบสวนนี้ อีก 2 เดือนต่อมา Darrell Issa ที่จากนั้นก็เป็นประธานคณะกรรมการการปฎิรูปรัฐบาลก็ได้ทำการเปิดประเด็นการสอบสวนเรื่องนี้ด้วยตัวเอง
Operation Fast And Furious ถือเป็นปฎิบัติการที่เลวร้ายมากพอแล้ว แต่จากการสืบสวนก็ยิ่งพบว่ายังมีความลับอีกมากที่ยังไม่รู้ ในเดือนกุมภาพันธ์ก็มีการเรียกร้องเรื่องนี้จาก Grassley โดยทางด้านผู้ช่วยอัยการ Ronald Weich ยอมรับว่ามีการบันทึกข้อมูลโดยอ้างว่า “ATF ให้การสนับสนุน หรือในทางตรงข้ามการค้าขายอาวุธจู่โจมให้กับผู้ซื้อขายแล้วก็นำไปลำเลียงที่ประเทศเม็กซิโกนั้นเป็นเรื่องโกหก ทางด้าน ATF พยายามทำทุกอย่างจากการละเมิดกฎหมายการค้าขายอาวุธต่างๆและยังฝ่าฝืนกฎหมายโดยลำเลียงอาวุธไปยังประเทศเม็กซิโก” ในเดือนพฤศจิกายน ทางด้านอัยการสูงสุด Eric Holder ออกมายอมรับว่า ข้อเท็จจริงแล้วการลำเลียงอาวุธเคยเกิดขึ้นจริงและในเดือนธันวาคมทางด้านคณะรัฐบาลของโอบาม่าก็ปฎิเสธข้อมูลจากทางด้าน Weich ที่ให้การในสภาเนื่องจากข้อมูลที่ Holder ให้นั้นไม่เป็นความจริง
เวลานั้น Holder ได้เป็นบุคคลที่หลายคนจับตามอง คำถามก็คือสิ่งที่อัยการสูงสุดรู้เกี่ยวกับปฎิบัติการนั้นคืออะไรและเขารู้เมื่อไรอย่างไร? ในเดือนพฤษภาคม ปี 2011 เขาอ้างว่า เขารู้เกี่ยวกับกลยุทธ์การลำเลียงอาวุธปืนเพียงแค่ไม่กี่สัปดาห์ แต่ในช่วงเดือนตุลาคม มีเอกสารใหม่ๆที่แสดงให้เห็นว่า Holder รู้เรื่องราวเกี่ยวกับแผนการ Fast And Furious ก่อนเดือนกรกฎาคม ปี 2010 และในเดือนมกราคม ปี 2010 หลังจากที่ทาง ATF ได้เริ่มแผนการ Fast And Furious แล้ว ทางด้านเจ้าหน้าที่จาก OCDETF ก็มีการประสานกับทางเจ้าหน้าที่ตัวแทนหลายคนที่มาจากแผนกฝ่ายยุติธรรมเพื่อเป็นการสร้างอิทธิพลให้กับแผนการมากขึ้น
ยิ่งไปกว่านั้น การปฎิบัติการอาจจะมีการเมืองเข้ามาแอบแฝง อีเมล์ต่างๆจากข้อมูล CBS ในช่วงปลายปี 2011 นั้นก็แสดงให้เห็นว่า เจ้าหน้าที่หลายคนของ ATF มีความเป็นไปได้ว่าเกี่ยวพันกับการปฎิบัติการ Fast And Furious ตลอดจนถึงการควบคุมรายงานยอดขายร้านขายอาวุธประเภทไรเฟิลหรือปืนยาว พูดง่ายๆก็คือ ATF ทำการควบคุมร้านขายอาวุธ ทำการขายอาวุธอันตรายให้กับผู้คนและจากนั้นทำการออกแบบรายงานยอดขายใหม่ๆตามที่ตัวเองต้องการ
ในช่วงหน้าร้อนปี 2012 ทางด้าน Holder กับคณะกรรมการก็ได้ปลีกตัวออกมา ทางด้านอัยการสูงสุดอ้างว่า เขาเจอกับคำตอบของคณะกรรมการตามเอกสารต่างๆ Issa กล่าวว่า DOJ มีเอกสารจำนวนกว่า 1300 หน้า ประธานาธิบดีโอบาม่าได้ก้าวก่ายแทรกแซงโดยอ้างว่า เอกสารต่างๆมีการคุ้มครองสิทธิในการดำเนินการ เป็นเรื่องน่าตลกที่เขาอ้างว่าเป็นเรื่องถูกกฎหมายและมีข้อเสนอแนะให้ทำแบบนั้น โดยทางทำเนียบขาวก็ปฎิเสธว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง ในช่วงปลายๆเดือนมิถุนายนก็มีการมอบหมายให้ Holder อยู่ในคณะรัฐมนตรีซึ่งเป็นคนแรกที่ถูกสบประมาทในรัฐสภา
ในเดือนกันยายนทางด้านคณะรัฐบาลได้ประกาศชัยชนะ โดยผู้ตรวจการฝ่ายยุติธรรมก็มีการเปิดเผยรายงานเจ้าหน้าที่กฎหมาย 14 คนที่ฝ่าฝืนกฎวินัยและดูเหมือนจะยกโทษให้สำหรับ Holder ซึ่งจริงๆแล้วรายงานก็มีการบันทึกรายละเอียดเหตุการณ์ต่างๆที่ผิดปกติ โดยในช่วงปี 2010 กับ 2011 ก็มีรายงานข้อมูลเกี่ยวกับโปรแกรมต่างๆที่ทาง Holder ได้รวบรวมเอาไว้ แต่ก็ทางด้านอัยการสูงสุดกลับไม่รู้เห็นเรื่องพวกนี้เลย ซึ่งก็เป็นเรื่องที่แปลกดี
จากนั้นก็มีการสอบสวนประเด็นแผนการ Fast And Furious โดยมีการพยายามนำเรื่องนี้ขึ้นสู่ศาล ซึ่งถือเป็นความท้าทายสำหรับประธานาธิบดีที่ได้ดำเนินแผนการนี้
แต่ ATF ก็ยังมีความลำบากใจต่อการตัดสิน โดยในช่วงเวลาที่ทางสภาทำเรื่องโหวตนั้น ก็มีชาวเม็กซิกันกว่า 300 คนถูกฆ่าหรือบาดเจ็บสาหัสจากอาวุธที่ได้จาก Fast And Furious และตัวเลขก็เพิ่มมากขึ้น ในเดือนธันวาคม ปี 2013 อาวุธลำเลียงถูกค้นพบในบริเวณพื้นที่รีสอร์ทเม็กซิโกซึ่งมีสมาชิก 5 คนถูกยิงเสียชีวิต
อาวุธต่างๆก็ถูกพบในแถบตอนเหนือด้วยเช่นกัน เป็นอาวุธที่มาจาก Nadir Soofi ซึ่งเป็นหนึ่งในสองผู้ก่อการร้ายชาวมุสลิมที่พยายามจะยิง Pamela Geller ในการประกวด Draw Muhammad ในเท็กซัสในช่วงเดือนพฤษภาคม ซึ่งอาวุธก็ได้มาจากโครงการ Fast And Furious
จึงเป็นเรื่องยากมากที่จะมีการกล่าวเกินจริงว่า เจ้าหน้าที่รัฐทำเรื่องโง่เง่าหรือเกี่ยวข้องกับการละเมิดกฎหมายที่อัปยศนี้ได้อย่างไร ซึ่งช่วงแรกก็มีแนวคิดผุดขึ้นมาเกี่ยวกับการลำเลียงอาวุธให้กับอาชญากรชาวเม็กซิกันกว่าพันคน จากนั้นก็ดำเนินการโดยที่ไม่ระวังว่าผลที่ตามมานั้นจะเป็นอย่างไร จึงเป็นเรื่องยากที่จะกล่าวเกินจริงเช่นกันในการตรวจสอบความโปร่งใสของคณะรัฐบาล ซึ่งเป็นความผิดพลาดที่ล้มเหลวซ้ำๆซากๆ มีการปกปิดจากการไต่สวนของรัฐสภาว่า มีความเกี่ยวข้องกับการดำเนินการครั้งนี้อย่างไร ที่ดีที่สุดก็คือรู้ว่าการปฎิบัติการหลังจากนั้นมีการกระทำผิดกฎหมายอย่างน่าแปลกใจ แต่ที่แย่ที่สุดก็คือ ทางคณะรัฐบาลรู้ว่าการกระทำนี้เป็นการไม่เคารพในชีวิตความเป็นมนุษย์แล้วยังมีการปกปิดความจริงอีก
ภายใต้ปฎิบัติการที่ชื่อ “Operation Fast & Furious” นั้น ทางรัฐบาลอเมริกาเป็นนักค้าอาวุธให้กับพ่อค้าชาวเม็กซิกันกับอาชญากรชาวมุสลิมจริง
แต่คณะรัฐบาลนี้ก็ยังอธิบายให้ชาวอเมริกันรับรู้เกี่ยวกับการควบคุมอาวุธปืนอยู่ได้อีก
ผู้แปล : Mr.lawrence10
ที่มา : www.nationalreview.com