ขอขอบคุณคุณสมาชิก 701555 สำหรับข้อมูลส่วนหนึ่งครับ
สวัสดีครับ
และเรื่องราวของอีก 1 ราชวงศ์ที่เคยปกครองส่วนหนึ่งของดินแดนสุวรรณภูมิ ก็คือพม่า ซึ่งราชวงศ์สุดท้ายนี้ สามารถตีกรุงศรีอยุธยาได้ด้วย และสร้างเกียรติภูมิไว้หลายๆอย่าง อย่างที่พระมหากษัตริย์ราชวงศ์ก่อนทำไม่ได้ เช่น การตีอาณาจักรยะไข่ การตีมณีปุระ และการตีเมืองอัสสัม รวมถึงการทำสงครามกับจีน แสดงให้เห็นว่าพม่าก่อนสิ้นสุดยุคราชาธิปไตย คือ 1 ใน 3 เสือของสุวรรณภูมิ นั้นเอง (อีก 2 อาณาจักร ก็คือ สยาม และ อันนาม (เวียดนาม) ครับ)
อย่างไรก็ตาม ปลายรัชสมัยได้เกิดความวุ่นวายในราชสำนัก เมื่อพระราชโอรส 2 พระองค์สังหารพระมหาอุปราชาและยึดมัณฑะเลย์ไว้ ก่อนที่จะหนีไปหาอังกฤษที่พม่าใต้ รวมไปถึงการสังหารหมู่พระราชวงศ์จำนวนมากหลังสิ้นรัชกาลพระเจ้ามินดงแล้ว
พระเจ้าธีบอ กษัตริย์องค์สุดท้ายแห่งพม่า ต้องยอมประกาศสงครามกับอังกฤษอีกครั้ง เนื่องจากถูกอังกฤษเอาเปรียบเรื่องการค้าไม้ จนท้ายสุด ด้วยอาวุธและเทคโนโลยีที่ดีกว่า ทำให้อังกฤษชนะ และพระเจ้าธีบอถูกบังคับให้สละราชสมบัติ เดิมอังกฤษยังคงตั้งใจจะให้มีกษัตริย์ต่อ แต่หลังจากพบว่าพระราชวงศ์ถูกสังหารเกือบหมดสิ้นแล้ว ก็ประกาศยกเลิกระบอบกษัตริย์ในพม่า และยุบเป็นส่วนหนึ่งของบริติชราช ก่อนที่จะนำพระเจ้าธีบอ,พระมเหสีกับพระราชวงศ์ที่เหลือขึ้นเรือกลไฟไปยังเมืองรัตนคีรีซึ่งอยู่ใกล้กับบอมเบย์ และทรงได้ใช้ชีวิตอย่างสิ้นหวัง ด้วยพระตำหนักที่ค่อนข้างใหญ่โต แต่เทียบไม่ได้กับพระราชวังมัณฑะเลย์ ทรงสวรรคตในวันที่ 19 ธันวาคม 1916 (พ.ศ. 2459) พระมเหสีได้รับอนุญาตให้อาศัยในย่างกุ้งได้จนสิ้นพระชนม์เมื่อ 24 พฤศจิกายน 1925 (พ.ศ. 2468)
ยุคสมัยของราชวงศ์พม่านับตั้งแต่อาณาจักรพุกามจนถึงราชอาณาจักรพม่าของราชวงศ์คองบองสิ้นสุดลงด้วยระยะเวลารวม 1,000 กว่าปี ตลอดเวลานั้นมีการแก่งแย่งชิงระหว่างอาณาจักรจนไปถึงสายตระกูลด้วยกัน จนสิ้นสุดลงเมื่ออังกฤษยึดครอง หลังจากนั้นมา ประเทศพม่าจึงดำรงอยู่สุขอีกครั้งหนึ่ง "ในเวลาสั้นๆ".....
ผู้สืบเชื้อสายจากพระเจ้าธีบอ ที่เกือบจะมีพระราชโอรสแล้ว
พระราชธิดาทั้งสี่ของพระเจ้าธีบอ ซ้ายไปขวา:เจ้าหญิงเมียะพยาจี, เจ้าหญิงเมียะพยาลัต, เจ้าหญิงเมียะพยา, เจ้าหญิงเมียะพยากเล
ความเป็นจริงแล้ว พระเจ้าธีบอเอง ก็ทรงมีพระราชโอรสที่กำเนิดจากพระมเหสีอยู่พระองค์หนึ่ง และเกิดก่อนพระราชธิดาองค์โตด้วยซ้ำ แต่ไม่แน่ใจว่าเพราะผลกรรมอะไรบางอย่างหรือเปล่า พระราชโอรสองค์โตก็สิ้นพระชนม์ด้วยไข้ทรพิษ ส่วนพระราชโอรสอีกพระองค์ที่เกิดจากพระมเหสีอีกองค์ (ซึ่งเป็นพระขนิษฐาของพระมเหสีองค์แรก) ก็สิ้นพระชนม์ไปอีกเช่นกัน
เจ้าหญิงเมียะพยาจี พระราชธิดาองค์โต (ที่รอดมาได้) อภิเษกสมรสกับ ศรีมัน โกปาล ภาอุเรา สาวันต์ ศิวเรกร (Shrimant Gopal bhaurao Savant Shivrekar) นายทหารชาวอินเดีย มีพระธิดาที่รอดมาได้เพียงองค์เดียว คือ ตูตู สาวันต์ (1906-2000) ซึ่งสมรสกับ ไพสุไพ ศังกร ปาวร (Baisubai Shankar Pawar) ช่างอู่ซ่อมรถ ส่วนพระโอรสและธิดาอีกพระองค์นั้น โอรสทรงตกไปเสียก่อน ส่วนอีกองค์สิ้นพระชนม์ขณะมีพระชนม์เพียงแค่ 1 เดือนกว่าๆ เจ้าหญิงเมียะพยาจี สิ้นพระชนม์ในวันที่ 3 มิถุนายน 1947
ตูตู สาวันต์ พระธิดาของเจ้าหญิงเมียะพยาจี
เจ้าหญิงเมียะพยาลัต กับพระราชสวามี ขิ่นหม่องลัต
เจ้าหญิงเมียะพยาลัต พระราชธิดาองค์รอง อภิเษกสมรสกับ ขิ่นหม่องลัต เลขานุการส่วนพระองค์ของพระเจ้าธีบอ ทรงสิ้นพระชนม์เมื่อ 4 เมษายน 1956 (พ.ศ. 2499) มีพระโอรสบุญธรรมชาวเนปาลชื่อว่า อลองยี (1932-2008)
เจ้าหญิงเมียะพยา พระราชธิดาองค์ที่ 3 อภิเษกสมรสครั้งแรกกับเจ้าชายเนียง พระราชนัดดาของเจ้าชายกะนองเมงสอ และอภิเษกสมรสกับหม่องเมียะอู ทรงสิ้นพระชนม์ในวันที่ 21 กรกฏาคม 1962 (พ.ศ. 2505)
เจ้าหญิงเมียะพยากาเล พระราชธิดาองค์สุดท้อง ทรงอภิเษกกับอู โก โกเนียง มีพระโอรส 4 พระองค์ พระธิดา 2 พระองค์ พระโอรสองค์โตชื่อว่า จอร์จ ตอ พะยา จี ซึ่งเสียชีวิตในวันที่ 9 เมษายน 1948 (พ.ศ. 2491) เพราะถูกคอมมิวนิสต์ลอบโจมตี ดังนั้นเมื่อเจ้าหญิงเมียะพยาลัตสิ้นพระชนม์ จึงได้ให้ เอ็ดเวิร์ด ตอ พะยา (เกิดปี 1924/2466 นับ พ.ศ. แบบเก่า) ขึ้นเป็นประมุขราชวงศ์อลองพญาแทน (ปัจจุบัน เอ็ดเวิร์ด ตอ พะยา ยังมีชีวิตอยู่ครับ)
คุณชายหมอแห่งราชวงศ์คองบอง
นพ.ตอ พะยา นอง ผู้สืบเชื้อสายรุ่นที่ 5 จากเจ้าชายกะนองเมงสอ
พระเจ้ามินดง พระมหากษัตริย์องค์รองสุดท้ายของพม่า ก่อนที่ทรงจะให้เจ้าชายธีบอขึ้นเป็นผู้สืบราชบัลลังก์นั้น ทรงเลือกให้เจ้าชายกะนองเมงสอ พระราชอนุชา ขึ้นเป็นพระมหาอุปราชามาก่อนแล้ว แต่ปลายรัชสมัยเกิดเหตุการณ์ดั่งที่อธิบายไปแล้ว ก็จึงเป็นการพลิกชะตากรรมราชวงศ์ตั้งแต่นั้น
อย่างไรก็ตามแล้ว เชื้อสายของเจ้าชายกะนองเมงสอ ยังมีผู้สืบสกุลอีก หนึ่งในนั้นก็คือ นพ.ตอ พะยา นอง (Taw Phayar Nong) ซึ่งเป็นผู้สืบเชื้อสายรุ่นที่ 5 จากเจ้าชายกะนองเมงสอ และปัจจุบันได้ดำรงอาชีพเป็นนายแพทย์ที่เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศพม่า
นพ.ตอ พะยา นอง กับนางอองซาน ซูจี
จขกท. เคยสัมภาษณ์ นพ.ตอ พะยา นอง ซึ่งเขาได้ให้ความเห็นส่วนหนึ่งว่า "พม่าในยุคทหาร พระราชวงศ์ถูกล้มล้างอย่างหนัก แต่พอเปลี่ยนมาเป็นยุคประชาธิปไตยแล้ว พวกเขาเปลี่ยนวิธีรุนแรงมาเป็นวิธีสันติแทน" ซึ่งแปลความได้ว่า พม่านั้น โดยเฉพาะในยุคทหาร ก็ทารุณข่มเหงราชวงศ์ไม่น้อยเช่นกัน
นพ.ตอ พะยา นอง ในฐานะอาชีพแพทย์ มักจะให้การตรวจรักษาคนไข้ตามจรรยาบรรณเป็นอย่างดี ส่วนในฐานะพระราชวงศ์นั้น มักจะเข้าร่วมงาน และจัดกิจกรรมการกุศลทุกครั้งสม่ำเสมอ
และนั้นก็คือเรื่องราวในอดีตและปัจจุบันของราชวงศ์พม่า
*************************
กระทู้เก่าเกี่ยวกับราชวงศ์ลาว
http://pantip.com/topic/35438382
กระทู้เก่าเกี่ยวกับราชวงศ์เวียดนาม
http://pantip.com/topic/35444820
เชื้อสายพระเจ้าธีบอ กษัตริย์องค์สุดท้ายของพม่า และคุณชายหมอแห่งราชวงศ์คองบอง
สวัสดีครับ
และเรื่องราวของอีก 1 ราชวงศ์ที่เคยปกครองส่วนหนึ่งของดินแดนสุวรรณภูมิ ก็คือพม่า ซึ่งราชวงศ์สุดท้ายนี้ สามารถตีกรุงศรีอยุธยาได้ด้วย และสร้างเกียรติภูมิไว้หลายๆอย่าง อย่างที่พระมหากษัตริย์ราชวงศ์ก่อนทำไม่ได้ เช่น การตีอาณาจักรยะไข่ การตีมณีปุระ และการตีเมืองอัสสัม รวมถึงการทำสงครามกับจีน แสดงให้เห็นว่าพม่าก่อนสิ้นสุดยุคราชาธิปไตย คือ 1 ใน 3 เสือของสุวรรณภูมิ นั้นเอง (อีก 2 อาณาจักร ก็คือ สยาม และ อันนาม (เวียดนาม) ครับ)
อย่างไรก็ตาม ปลายรัชสมัยได้เกิดความวุ่นวายในราชสำนัก เมื่อพระราชโอรส 2 พระองค์สังหารพระมหาอุปราชาและยึดมัณฑะเลย์ไว้ ก่อนที่จะหนีไปหาอังกฤษที่พม่าใต้ รวมไปถึงการสังหารหมู่พระราชวงศ์จำนวนมากหลังสิ้นรัชกาลพระเจ้ามินดงแล้ว
พระเจ้าธีบอ กษัตริย์องค์สุดท้ายแห่งพม่า ต้องยอมประกาศสงครามกับอังกฤษอีกครั้ง เนื่องจากถูกอังกฤษเอาเปรียบเรื่องการค้าไม้ จนท้ายสุด ด้วยอาวุธและเทคโนโลยีที่ดีกว่า ทำให้อังกฤษชนะ และพระเจ้าธีบอถูกบังคับให้สละราชสมบัติ เดิมอังกฤษยังคงตั้งใจจะให้มีกษัตริย์ต่อ แต่หลังจากพบว่าพระราชวงศ์ถูกสังหารเกือบหมดสิ้นแล้ว ก็ประกาศยกเลิกระบอบกษัตริย์ในพม่า และยุบเป็นส่วนหนึ่งของบริติชราช ก่อนที่จะนำพระเจ้าธีบอ,พระมเหสีกับพระราชวงศ์ที่เหลือขึ้นเรือกลไฟไปยังเมืองรัตนคีรีซึ่งอยู่ใกล้กับบอมเบย์ และทรงได้ใช้ชีวิตอย่างสิ้นหวัง ด้วยพระตำหนักที่ค่อนข้างใหญ่โต แต่เทียบไม่ได้กับพระราชวังมัณฑะเลย์ ทรงสวรรคตในวันที่ 19 ธันวาคม 1916 (พ.ศ. 2459) พระมเหสีได้รับอนุญาตให้อาศัยในย่างกุ้งได้จนสิ้นพระชนม์เมื่อ 24 พฤศจิกายน 1925 (พ.ศ. 2468)
ยุคสมัยของราชวงศ์พม่านับตั้งแต่อาณาจักรพุกามจนถึงราชอาณาจักรพม่าของราชวงศ์คองบองสิ้นสุดลงด้วยระยะเวลารวม 1,000 กว่าปี ตลอดเวลานั้นมีการแก่งแย่งชิงระหว่างอาณาจักรจนไปถึงสายตระกูลด้วยกัน จนสิ้นสุดลงเมื่ออังกฤษยึดครอง หลังจากนั้นมา ประเทศพม่าจึงดำรงอยู่สุขอีกครั้งหนึ่ง "ในเวลาสั้นๆ".....
ผู้สืบเชื้อสายจากพระเจ้าธีบอ ที่เกือบจะมีพระราชโอรสแล้ว
พระราชธิดาทั้งสี่ของพระเจ้าธีบอ ซ้ายไปขวา:เจ้าหญิงเมียะพยาจี, เจ้าหญิงเมียะพยาลัต, เจ้าหญิงเมียะพยา, เจ้าหญิงเมียะพยากเล
ความเป็นจริงแล้ว พระเจ้าธีบอเอง ก็ทรงมีพระราชโอรสที่กำเนิดจากพระมเหสีอยู่พระองค์หนึ่ง และเกิดก่อนพระราชธิดาองค์โตด้วยซ้ำ แต่ไม่แน่ใจว่าเพราะผลกรรมอะไรบางอย่างหรือเปล่า พระราชโอรสองค์โตก็สิ้นพระชนม์ด้วยไข้ทรพิษ ส่วนพระราชโอรสอีกพระองค์ที่เกิดจากพระมเหสีอีกองค์ (ซึ่งเป็นพระขนิษฐาของพระมเหสีองค์แรก) ก็สิ้นพระชนม์ไปอีกเช่นกัน
เจ้าหญิงเมียะพยาจี พระราชธิดาองค์โต (ที่รอดมาได้) อภิเษกสมรสกับ ศรีมัน โกปาล ภาอุเรา สาวันต์ ศิวเรกร (Shrimant Gopal bhaurao Savant Shivrekar) นายทหารชาวอินเดีย มีพระธิดาที่รอดมาได้เพียงองค์เดียว คือ ตูตู สาวันต์ (1906-2000) ซึ่งสมรสกับ ไพสุไพ ศังกร ปาวร (Baisubai Shankar Pawar) ช่างอู่ซ่อมรถ ส่วนพระโอรสและธิดาอีกพระองค์นั้น โอรสทรงตกไปเสียก่อน ส่วนอีกองค์สิ้นพระชนม์ขณะมีพระชนม์เพียงแค่ 1 เดือนกว่าๆ เจ้าหญิงเมียะพยาจี สิ้นพระชนม์ในวันที่ 3 มิถุนายน 1947
ตูตู สาวันต์ พระธิดาของเจ้าหญิงเมียะพยาจี
เจ้าหญิงเมียะพยาลัต กับพระราชสวามี ขิ่นหม่องลัต
เจ้าหญิงเมียะพยาลัต พระราชธิดาองค์รอง อภิเษกสมรสกับ ขิ่นหม่องลัต เลขานุการส่วนพระองค์ของพระเจ้าธีบอ ทรงสิ้นพระชนม์เมื่อ 4 เมษายน 1956 (พ.ศ. 2499) มีพระโอรสบุญธรรมชาวเนปาลชื่อว่า อลองยี (1932-2008)
เจ้าหญิงเมียะพยา พระราชธิดาองค์ที่ 3 อภิเษกสมรสครั้งแรกกับเจ้าชายเนียง พระราชนัดดาของเจ้าชายกะนองเมงสอ และอภิเษกสมรสกับหม่องเมียะอู ทรงสิ้นพระชนม์ในวันที่ 21 กรกฏาคม 1962 (พ.ศ. 2505)
เจ้าหญิงเมียะพยากาเล พระราชธิดาองค์สุดท้อง ทรงอภิเษกกับอู โก โกเนียง มีพระโอรส 4 พระองค์ พระธิดา 2 พระองค์ พระโอรสองค์โตชื่อว่า จอร์จ ตอ พะยา จี ซึ่งเสียชีวิตในวันที่ 9 เมษายน 1948 (พ.ศ. 2491) เพราะถูกคอมมิวนิสต์ลอบโจมตี ดังนั้นเมื่อเจ้าหญิงเมียะพยาลัตสิ้นพระชนม์ จึงได้ให้ เอ็ดเวิร์ด ตอ พะยา (เกิดปี 1924/2466 นับ พ.ศ. แบบเก่า) ขึ้นเป็นประมุขราชวงศ์อลองพญาแทน (ปัจจุบัน เอ็ดเวิร์ด ตอ พะยา ยังมีชีวิตอยู่ครับ)
คุณชายหมอแห่งราชวงศ์คองบอง
นพ.ตอ พะยา นอง ผู้สืบเชื้อสายรุ่นที่ 5 จากเจ้าชายกะนองเมงสอ
พระเจ้ามินดง พระมหากษัตริย์องค์รองสุดท้ายของพม่า ก่อนที่ทรงจะให้เจ้าชายธีบอขึ้นเป็นผู้สืบราชบัลลังก์นั้น ทรงเลือกให้เจ้าชายกะนองเมงสอ พระราชอนุชา ขึ้นเป็นพระมหาอุปราชามาก่อนแล้ว แต่ปลายรัชสมัยเกิดเหตุการณ์ดั่งที่อธิบายไปแล้ว ก็จึงเป็นการพลิกชะตากรรมราชวงศ์ตั้งแต่นั้น
อย่างไรก็ตามแล้ว เชื้อสายของเจ้าชายกะนองเมงสอ ยังมีผู้สืบสกุลอีก หนึ่งในนั้นก็คือ นพ.ตอ พะยา นอง (Taw Phayar Nong) ซึ่งเป็นผู้สืบเชื้อสายรุ่นที่ 5 จากเจ้าชายกะนองเมงสอ และปัจจุบันได้ดำรงอาชีพเป็นนายแพทย์ที่เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศพม่า
นพ.ตอ พะยา นอง กับนางอองซาน ซูจี
จขกท. เคยสัมภาษณ์ นพ.ตอ พะยา นอง ซึ่งเขาได้ให้ความเห็นส่วนหนึ่งว่า "พม่าในยุคทหาร พระราชวงศ์ถูกล้มล้างอย่างหนัก แต่พอเปลี่ยนมาเป็นยุคประชาธิปไตยแล้ว พวกเขาเปลี่ยนวิธีรุนแรงมาเป็นวิธีสันติแทน" ซึ่งแปลความได้ว่า พม่านั้น โดยเฉพาะในยุคทหาร ก็ทารุณข่มเหงราชวงศ์ไม่น้อยเช่นกัน
นพ.ตอ พะยา นอง ในฐานะอาชีพแพทย์ มักจะให้การตรวจรักษาคนไข้ตามจรรยาบรรณเป็นอย่างดี ส่วนในฐานะพระราชวงศ์นั้น มักจะเข้าร่วมงาน และจัดกิจกรรมการกุศลทุกครั้งสม่ำเสมอ
และนั้นก็คือเรื่องราวในอดีตและปัจจุบันของราชวงศ์พม่า
*************************
กระทู้เก่าเกี่ยวกับราชวงศ์ลาว
http://pantip.com/topic/35438382
กระทู้เก่าเกี่ยวกับราชวงศ์เวียดนาม
http://pantip.com/topic/35444820