✿ แฉยับ!! ม.ดัง "รับน้องโคตรโหด" ราวกับไม่ใช่วิสัยของคนที่ทำกัน ด้วยภาพแบบนี้!!
27 ก.ค.59 ได้มีเพจเฟซบุ๊กชื่อดัง " ANIT SOTUS" ได้เผยแพร่ภาพชุดกิจกรรมรับน้องใหม่ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ถึงความไม่เหมาะสมเกี่ยวกับพฤติกรรมแผลงๆ และไม่ได้ช่วยสร้างสรรค์อะไรเลย ซึ่งเกินที่จะรับได้ ให้ตีแผ่ออกไปในโลกออนไลน์ให้สังคมได้รับรู้กันถ้วนหน้า
ซึ่งภาพกิจกรรมดังกล่าวเข้าข่ายละเมิดสิทธิส่วนบุคคลด้วย เช่น สั่งกลิ้งคลุกโคลน, สั่งจูบปากกัน, สั่งผู้หญิงเลียหัวนมผู้ชาย, นำพริกแกงป้ายให้แปรงฟัน หรือ ภาพนักศึกษาหญิงหลั่งน้ำตาออกมาอย่างน่าสงสาร
จนทำให้สังคมต่างเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเกี่ยวกับกิจกรรมรับน้องที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง และมีชาวเน็ตบางคนก็แนะนำว่า ควรเอาเวลาตรงส่วนนี้ไปสนใจเรื่องการเรียนมากกว่า แทบที่ทำกิจกรรมไม่สร้างสรรค์แล้ว กลับไร้ซึ่งประโยชน์โดยสิ้นเชิง
✿ ✿ ✿ ✿ ✿
การศึกษาและสถาบันการศึกษาเหล่านี้ ไม่ได้ช่วยสั่งสอนให้คนไม่เป็นคนวิปริตได้ และผู้บริหารก็ไร้ความสามารถที่จะหยุดการกระทำที่แสนอุบาทว์เหล่านี้ได้เช่นกัน
ปีแล้วปีเล่าที่การรับน้องที่สุดแสนจะวิปริต ถูกคิดขึ้นมาและกระทำอย่างต่อเนื่อง โดยไม่สนใจกระแสสังคมหรือสื่อที่นำมาประโคมข่าว
ครั้งนี้ก็เช่นกัน สื่อต่างประเทศนำไปทำข่าวประจานถึงความวิปริตที่เกิดขึ้นในสถานศึกษา
อยากถามหาความรับผิดชอบซึ่งคงไม่มีจากผู้บริหารสถานศึกษาเหล่านี้ ว่าท่านสมควรลาออกไปหรือไม่ที่ปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้นมาทุกปี ทั้งๆ ที่ก็รู้ว่ากระแสสังคมยอมรับไม่ได้ ในเมื่อท่านไร้ความสามารถที่จะจัดการเรื่องแค่นี้ได้ เรื่องอื่นคงไม่ต้องพูดถึงว่าจะล้มเหลวเพียงใด
เราต้องการสอนคนให้มีการศึกษาหรือต้องการให้เขาเป็นคนวิปริตกันแน่?
ป.ล. โปรดกด + สักนิด หากคิดว่ามีประโยชน์
✿การศึกษาและสถาบันไม่ได้ช่วยสั่งสอนให้คนไม่เป็นคนวิปริตได้ ผู้บริหารก็ไร้ความสามารถที่จะหยุดการกระทำแสนอุบาทว์นี้ได้
27 ก.ค.59 ได้มีเพจเฟซบุ๊กชื่อดัง " ANIT SOTUS" ได้เผยแพร่ภาพชุดกิจกรรมรับน้องใหม่ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ถึงความไม่เหมาะสมเกี่ยวกับพฤติกรรมแผลงๆ และไม่ได้ช่วยสร้างสรรค์อะไรเลย ซึ่งเกินที่จะรับได้ ให้ตีแผ่ออกไปในโลกออนไลน์ให้สังคมได้รับรู้กันถ้วนหน้า
ซึ่งภาพกิจกรรมดังกล่าวเข้าข่ายละเมิดสิทธิส่วนบุคคลด้วย เช่น สั่งกลิ้งคลุกโคลน, สั่งจูบปากกัน, สั่งผู้หญิงเลียหัวนมผู้ชาย, นำพริกแกงป้ายให้แปรงฟัน หรือ ภาพนักศึกษาหญิงหลั่งน้ำตาออกมาอย่างน่าสงสาร
จนทำให้สังคมต่างเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเกี่ยวกับกิจกรรมรับน้องที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง และมีชาวเน็ตบางคนก็แนะนำว่า ควรเอาเวลาตรงส่วนนี้ไปสนใจเรื่องการเรียนมากกว่า แทบที่ทำกิจกรรมไม่สร้างสรรค์แล้ว กลับไร้ซึ่งประโยชน์โดยสิ้นเชิง
การศึกษาและสถาบันการศึกษาเหล่านี้ ไม่ได้ช่วยสั่งสอนให้คนไม่เป็นคนวิปริตได้ และผู้บริหารก็ไร้ความสามารถที่จะหยุดการกระทำที่แสนอุบาทว์เหล่านี้ได้เช่นกัน
ปีแล้วปีเล่าที่การรับน้องที่สุดแสนจะวิปริต ถูกคิดขึ้นมาและกระทำอย่างต่อเนื่อง โดยไม่สนใจกระแสสังคมหรือสื่อที่นำมาประโคมข่าว
ครั้งนี้ก็เช่นกัน สื่อต่างประเทศนำไปทำข่าวประจานถึงความวิปริตที่เกิดขึ้นในสถานศึกษา
อยากถามหาความรับผิดชอบซึ่งคงไม่มีจากผู้บริหารสถานศึกษาเหล่านี้ ว่าท่านสมควรลาออกไปหรือไม่ที่ปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้นมาทุกปี ทั้งๆ ที่ก็รู้ว่ากระแสสังคมยอมรับไม่ได้ ในเมื่อท่านไร้ความสามารถที่จะจัดการเรื่องแค่นี้ได้ เรื่องอื่นคงไม่ต้องพูดถึงว่าจะล้มเหลวเพียงใด
เราต้องการสอนคนให้มีการศึกษาหรือต้องการให้เขาเป็นคนวิปริตกันแน่?
ป.ล. โปรดกด + สักนิด หากคิดว่ามีประโยชน์