ผมไม่เคยตั้งกระทู้ในพันทิพย์เลย แต่เรื่องนี้มันอดไม่ได้จริง ๆ ขอเบียดเบียนพื้นที่หน่อยนะครับ แล้วถ้าช่วยแชร์ให้เป็นข่าวด้วยจะเป็นพระคุณอย่างสูง
เรื่องมันมีอยู่ ผมอยู่ในวงการระบบ GPS Tracking มาตั้งแต่ในประเทศไทยยังมีคนรู้จัก GPS ไม่กี่คน จนเดี๋ยวนี้หาคนไม่รู้จัก GPS น้อยมาก ทำให้ในวงการนี้ผมมีน้อง ๆ เพื่อน ๆ หลายคน บางคนเคยอยู่ด้วยกันก็ลาออกไปทำเอง บางคนก็ไปนำเข้ามาขายบ้าง ซึ่งพวกเราก็ไม่เคยฟ้องร้องเรื่องลิขสิทธิ์กันเลย เพราะเห็นว่า GPS มันเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ต่อวงการขนส่ง ใครที่สามารถให้บริการลูกค้าได้ดี ก็สามารถอยู่ต่อกันได้ ใครดูแลลูกค้าไม่ดีก็ต้องเลิกรากันไปหลายเจ้ามาแล้ว
วันดีคืนดี กรมขนส่งทางบก เห็นความสำคัญของระบบ GPS tracking ขึ้นมาอยากจะปรับปรุงให้ระบบขนส่งเมืองไทยได้มาตรฐานทัดเทียม อารยะประเทศขึ้นมา เพื่อจะได้สามารถควบคุมความเร็วในการขับขี่ และชั่วโมงการขับรถที่เหมาะสมกับ พนักงานขับรถ จึงได้เรียนเชิญ บริษัทผู้ผลิตและนำเข้าอุปกรณ์ GPS tracking ในประเทศมาหารือเพื่อดำเนินการ พัฒนาระบบส่งข้อมูล GPS tracking พร้อมกับข้อมูลใบขับขี่ มายังระบบ Server ของกรมการขนส่งทางบก เมื่อดำเนินการเสร็จสิ้น จึงเริ่มทดสอบระบบ รับ-ส่งข้อมูล และรับจดทะเบียนอุปกรณ์ GPS tracking ที่สามารถต่อพ่วงกับเครื่องอ่านใบขับขี่ ที่สามารถส่งข้อมูลที่ถูกต้องเข้ามายังงระบบของกรมการขนส่งได้ โดยเริ่มบังคับใช้กับรถ วัตถุอันตรายเพื่อเป็นโครงการนำร่องให้กับระบบรถขนส่งอื่น ๆ
เมื่อโครงการ GPS tracking ที่ติดตั้งบนรถ วัตถุอันตรายประสพความสำเร็จ กรมการขนส่งทางบกจึงได้ขยายโครงการมาควบคุมรถขนส่งขนาดใหญ่ และรถโดยสารสาธารณะเพิ่มขึ้น จึงออกประกาศให้ รถบรรทุก และรถโดยสารสาธารณะ ติดตั้งระบบ GPS tracking ที่สามารถต่อพ่วงกับเครื่องอ่านใบขับขี่นี้ด้วย ซึ่งเป็นเรื่องดี ที่รัฐสามารถควบคุมรถขนส่งให้อยู่ในมาตรฐาน และเพิ่มความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
เมื่อโอกาสในการขายเปิดกว้างขึ้น ก็มีผู้ประกอบการ GPS tracking เกิดขึ้นใหม่มากมาย ผู้ประกอบการ GPS รายหนึ่งแทนที่จะคิดพัฒนา อุปกรณ์ และบริการของตนเองให้ทัดเทียมกับรายอื่น ๆ กลับหันมาไล่ฟ้องร้องผู้ประกอบการ GPS tracking ด้วยข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์ “เครื่องอ่านใบขับขี่ ที่ระบุตำแหน่งได้” ในวงการนี่ถือว่าเป็นเรื่องที่ “ฮามาก” เพราะว่าพี่แก พึ่งมาเป็นผู้ประกอบการ GPS tracking ได้ไม่นานแต่ด้วยความหัวหมอ แกจึงไปจดทะเบียนลิขสิทธิ์ แต่คงจดทะเบียน GPS tracking ไม่ได้เพราะมันเป็นเรื่องที่มีแพร่หลายทั่วไปอยู่แล้ว แกก็เลยไปมั่วจดทะเบียน “เครื่องอ่านใบขับขี่ ที่ระบุตำแหน่งได้” มาแทนตลกไหมล่ะ Thailand Only จริง ๆ
โดนคนในวงการด่ากันไปพักใหญ่แทนที่จะสำนึกตัว แกกลับโดนความโลภครอบงำทำตัวเหมือน “นนทก” พึ่งได้นิ้ววิเศษมาไล่ชี้นิ้ว ให้ผู้ประกอบการรายอื่น ๆ กะจะเอาให้ตาย หรือไม่ก็มาเสียค่าต๋งให้แก ทำตัวเป็นมาเฟียในวงการ เป็นอันธพาลฟ้องร้องเค้าไปทั่ว กว่า 20 บริษัท คราวนี้ทั้งวงการเริ่มไม่ขำกับการกระทำของพี่แกแล้ว แทนที่ผู้ประกอบการ GPS tracking แต่ละบริษัทจะเอาเวลาไปพัฒนา ผลิตภัณฑ์ให้มีปริมาณ และคุณภาพเพียงพอกับการใช้งาน ในราคาที่ถูกลง กลับต้องมานั่งกังวลทำเรื่องแก้ปัญหาการฟ้องร้องแทน ไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าแกเกิดชนะขึ้นมาจริง ๆ แทนที่ GPS tracking จะมีราคาที่เหมาะสมกับการใช้งานได้ทุกระดับ แต่ละบริษัทต้องมานั่งบวกค่าหัวคิวของแกกล่องละ 5,000 บาท ใน GPS tracking ทุกกล่อง และค่าบริการเดือนละ 100 บาทตามคำฟ้องส่งให้แกทุกเดือนจะเกิดอะไรขึ้น... วังเวงจริง ๆ
ถ้าสำนักข่าวไหน สนใจจะเจาะลึกข่าวนี้ติดต่อผมได้นะครับ ผมยินดีให้ข้อมูล หรือถ้าทนายสงกรานต์ สนใจที่คุ้ยคดีนี้ผมก็ยินดีรวบรวมผู้ประกอบการ GPS tracking ไปให้ข้อมูล วงการ GPS tracking ไม่ใช่วงการแรกที่โดนแกทำแบบนี้ รับรองถ้าจะคุ้ยจริง ๆ มันส์ไม่แพ้ “หญิงไก่” แน่นอน
หญิงไก่ ในแวดวงไอที
เรื่องมันมีอยู่ ผมอยู่ในวงการระบบ GPS Tracking มาตั้งแต่ในประเทศไทยยังมีคนรู้จัก GPS ไม่กี่คน จนเดี๋ยวนี้หาคนไม่รู้จัก GPS น้อยมาก ทำให้ในวงการนี้ผมมีน้อง ๆ เพื่อน ๆ หลายคน บางคนเคยอยู่ด้วยกันก็ลาออกไปทำเอง บางคนก็ไปนำเข้ามาขายบ้าง ซึ่งพวกเราก็ไม่เคยฟ้องร้องเรื่องลิขสิทธิ์กันเลย เพราะเห็นว่า GPS มันเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ต่อวงการขนส่ง ใครที่สามารถให้บริการลูกค้าได้ดี ก็สามารถอยู่ต่อกันได้ ใครดูแลลูกค้าไม่ดีก็ต้องเลิกรากันไปหลายเจ้ามาแล้ว
วันดีคืนดี กรมขนส่งทางบก เห็นความสำคัญของระบบ GPS tracking ขึ้นมาอยากจะปรับปรุงให้ระบบขนส่งเมืองไทยได้มาตรฐานทัดเทียม อารยะประเทศขึ้นมา เพื่อจะได้สามารถควบคุมความเร็วในการขับขี่ และชั่วโมงการขับรถที่เหมาะสมกับ พนักงานขับรถ จึงได้เรียนเชิญ บริษัทผู้ผลิตและนำเข้าอุปกรณ์ GPS tracking ในประเทศมาหารือเพื่อดำเนินการ พัฒนาระบบส่งข้อมูล GPS tracking พร้อมกับข้อมูลใบขับขี่ มายังระบบ Server ของกรมการขนส่งทางบก เมื่อดำเนินการเสร็จสิ้น จึงเริ่มทดสอบระบบ รับ-ส่งข้อมูล และรับจดทะเบียนอุปกรณ์ GPS tracking ที่สามารถต่อพ่วงกับเครื่องอ่านใบขับขี่ ที่สามารถส่งข้อมูลที่ถูกต้องเข้ามายังงระบบของกรมการขนส่งได้ โดยเริ่มบังคับใช้กับรถ วัตถุอันตรายเพื่อเป็นโครงการนำร่องให้กับระบบรถขนส่งอื่น ๆ
เมื่อโครงการ GPS tracking ที่ติดตั้งบนรถ วัตถุอันตรายประสพความสำเร็จ กรมการขนส่งทางบกจึงได้ขยายโครงการมาควบคุมรถขนส่งขนาดใหญ่ และรถโดยสารสาธารณะเพิ่มขึ้น จึงออกประกาศให้ รถบรรทุก และรถโดยสารสาธารณะ ติดตั้งระบบ GPS tracking ที่สามารถต่อพ่วงกับเครื่องอ่านใบขับขี่นี้ด้วย ซึ่งเป็นเรื่องดี ที่รัฐสามารถควบคุมรถขนส่งให้อยู่ในมาตรฐาน และเพิ่มความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
เมื่อโอกาสในการขายเปิดกว้างขึ้น ก็มีผู้ประกอบการ GPS tracking เกิดขึ้นใหม่มากมาย ผู้ประกอบการ GPS รายหนึ่งแทนที่จะคิดพัฒนา อุปกรณ์ และบริการของตนเองให้ทัดเทียมกับรายอื่น ๆ กลับหันมาไล่ฟ้องร้องผู้ประกอบการ GPS tracking ด้วยข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์ “เครื่องอ่านใบขับขี่ ที่ระบุตำแหน่งได้” ในวงการนี่ถือว่าเป็นเรื่องที่ “ฮามาก” เพราะว่าพี่แก พึ่งมาเป็นผู้ประกอบการ GPS tracking ได้ไม่นานแต่ด้วยความหัวหมอ แกจึงไปจดทะเบียนลิขสิทธิ์ แต่คงจดทะเบียน GPS tracking ไม่ได้เพราะมันเป็นเรื่องที่มีแพร่หลายทั่วไปอยู่แล้ว แกก็เลยไปมั่วจดทะเบียน “เครื่องอ่านใบขับขี่ ที่ระบุตำแหน่งได้” มาแทนตลกไหมล่ะ Thailand Only จริง ๆ
โดนคนในวงการด่ากันไปพักใหญ่แทนที่จะสำนึกตัว แกกลับโดนความโลภครอบงำทำตัวเหมือน “นนทก” พึ่งได้นิ้ววิเศษมาไล่ชี้นิ้ว ให้ผู้ประกอบการรายอื่น ๆ กะจะเอาให้ตาย หรือไม่ก็มาเสียค่าต๋งให้แก ทำตัวเป็นมาเฟียในวงการ เป็นอันธพาลฟ้องร้องเค้าไปทั่ว กว่า 20 บริษัท คราวนี้ทั้งวงการเริ่มไม่ขำกับการกระทำของพี่แกแล้ว แทนที่ผู้ประกอบการ GPS tracking แต่ละบริษัทจะเอาเวลาไปพัฒนา ผลิตภัณฑ์ให้มีปริมาณ และคุณภาพเพียงพอกับการใช้งาน ในราคาที่ถูกลง กลับต้องมานั่งกังวลทำเรื่องแก้ปัญหาการฟ้องร้องแทน ไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าแกเกิดชนะขึ้นมาจริง ๆ แทนที่ GPS tracking จะมีราคาที่เหมาะสมกับการใช้งานได้ทุกระดับ แต่ละบริษัทต้องมานั่งบวกค่าหัวคิวของแกกล่องละ 5,000 บาท ใน GPS tracking ทุกกล่อง และค่าบริการเดือนละ 100 บาทตามคำฟ้องส่งให้แกทุกเดือนจะเกิดอะไรขึ้น... วังเวงจริง ๆ
ถ้าสำนักข่าวไหน สนใจจะเจาะลึกข่าวนี้ติดต่อผมได้นะครับ ผมยินดีให้ข้อมูล หรือถ้าทนายสงกรานต์ สนใจที่คุ้ยคดีนี้ผมก็ยินดีรวบรวมผู้ประกอบการ GPS tracking ไปให้ข้อมูล วงการ GPS tracking ไม่ใช่วงการแรกที่โดนแกทำแบบนี้ รับรองถ้าจะคุ้ยจริง ๆ มันส์ไม่แพ้ “หญิงไก่” แน่นอน