กำหนดการคร่าวๆ ของทริปนี้ (เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุมากกว่า 20 ขึ้นไป โปรดฟังเสียงหัวใจตัวเองและออกเดินทาง)
Date : 16-19 Aug 2016 Fullmoon : 18 Aug 2016
Transport from BKK : Thai Rail – Lomparyah Boat
เป็นทริปที่ 2 ที่กำลังจะไปคนเดียวอีกครั้ง( ที่แรกคือกระบี่) แต่ตอนนี้ว่างมากเลยมานั่งเขียนกระทู้ก่อนเลยค่ะ กลัวความขี้เกียจของตัวเอง กิกิ ตอนนี้ก็อยู่ในขั้นเตรียมตัวเหมือนอย่างเคย การไปไหนมาไหนคนเดียวไม่ง่ายเลยสำหรับผู้หญิง ความกลัวก็มี แต่ความบ้าบิ่นมันเยอะกว่า เราจึงต้องนั่งอ่านกระทู้ล้านอัน อ่านรีวิว หาข้อมูล วาดแผนที่ แพลนวันและเวลาเพื่อที่จะเซฟตัวเอง การเดินทางภายในเกาะ ความปลอดภัย อันตรายที่ควรหลีกเลี่ยง ฯลฯ ซึ่งการอ่านรีวิวคนอื่นนั้นก็ต้องขอขอบพระคุณผู้เผื่อแผ่ข้อมูลอย่างสูง คือมีประโยชน์มากจริง และนี่คือเหตุผลว่าทำไมเราถึงมานั่งเขียนข้อมูลต่างๆ เขียนประสบการณ์ที่เราได้ทำได้เจอ เพราะยังมีผู้หญิงอีกมากที่อยากไปเที่ยวคนเดียวแต่คำว่ากลัวกับอันตรายมันก็ข้ามผ่านได้ยากหากเราไม่มีข้อมูลที่เพียงพอ
ทริปนี้ตอนแรกก็ไม่ได้กะจะไปคนเดียวหรอก แต่แบบเพื่อนๆ เราทั้งหมดไม่ใช่สายนี้เลยอะ เลยไม่อยากชวน เพราะรู้ว่าคงไม่ไปหรอก อีกอย่างชื่อเสียงด้านไม่ดีมันก็เยอะ แต่สำหรับเรา เราก็อยากจะไปลองเห็นกับตาตัวเองสักครั้ง ก่อนทำงาน ก่อนเรียนต่อ หรือก่อนโตจนเกินกว่าจะเที่ยวที่แบบนี้ มันคือความฝันตั้งแต่เรียนมอปลายแล้วว่าต้องไปให้ได้สักครั้ง และที่ไม่อยากไปคนเดียวไม่ใช่เพราะกลัวนะ แต่เราว่ามันจะเต้นไม่สนุกเลยถ้าไม่มีเพื่อนเต้นด้วย เราว่าเหมือนคนบ้ามาก ปล.เรามันสายเต้นฮา รั่วๆ บ้าๆ อารมณ์แบบมดคันไฟกัดเท้าอะ อยู่กับที่ไม่ได้ 555 เออลืมบอกทริปนี้ตอนแรกวางแผนว่าจะไปเดือนกรกฎาคมนี่แหละ แต่ก็ต้องโดนพับเก็บไว้ ทีแรกก็ว่าจะไปวังเวียงแทนแต่ดันเป็นฤดูฝนซึ่งในรีวิวอีกแล้วบอกว่าจะลอยห่วงยางในแม่น้ำไม่ได้ บลูลากูนก็จะไม่บลูจะเรดๆ แทน ทริปวังเวียงเลยต้องโดนพับเก็บไป พอเคลียคิวตัวเองได้อีกครั้งทริปฟลูมูนก็ถูกคลี่ขึ้นมาอีกครั้ง
ืUnfold_version
Fold_version
นี่สินะที่มาของคำว่าโดนพับเก็บไว้ 555
เนื่องจากว่าเราหาเพื่อนได้แล้วเว้ยแกกกกกก คือเป็นกลุ่ม Backpacker เหมือนกันแต่ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติมาคนเดียว (อยากทราบช่องทางหาเพื่อนแนวนี้ติดต่อหลังไมค์ได้นะคะ ได้ฝึกภาษาด้วยนะเออ ไม่อันตราย ไม่น่ากลัว นิสัยดี เพราะเป็นวัยรุ่นๆ เที่ยวเหมือนเราๆ) แล้วเขาจัด Fullmoon Event กัน เราเลยไป join สรุปว่าวันฟลูมูนเราจะมีเพื่อนเต้นละวุ้ยยยยย แต่ก็มีเพื่อนแค่ไปเที่ยวปาร์ตี้นะ จากนั้นเรารีบหาจองโรงแรมเลย ซึ่งหายากมาก เพราะเราเพิ่งจองใกล้วันมาก ปกตืเขาจะจองล่วงหน้าเป็นเดือนๆ คือถ้าไม่มีโรงแรมนอน แผนทุกอย่างคงต้องล่ม ซึ่งยิ่งใกล้วันยิ่งแพงมาก ไม่แพงธรรมดานะ แพงโคตรรรรรรร เราสาย Hostel ใช่มะเพราะจากที่เราไปกระบี่ครั้งที่แล้วมันทำให้เราสตรองขึ้นมาก เราหลงเสน่ห์มันเข้าแล้ว ปกติ Hostel เตียงหนึ่งจะประมาณ 250-350 บาทแต่พอช่วงฟลูมูน OMG 800-1,000 บาทนะคะ ว่าไม่ได้ เราก็หาไปเรื่อยๆ เพราะถ้าแพงมากไปเราก็ไม่ไหวเหมือนกัน ไหนจะค่าเดินทางอีก หาไปหามาเจอ booking.com ถูกสุดละมั้ง 3 คืน 1,100 บาท (ช่วง fullmoon ที่พักส่วนใหญ่จะให้จอง 3 คืนขึ้นไป เลยเปลี่ยนที่นอนแบบกระบี่ไม่ได้เลย) และความพิเศษของเว็บนี้คือ เมื่อบุ๊คแล้วค่อยไปจ่ายเงินที่ที่พักตอนเช็คอินได้เลย
จากนั้นก็เริ่มหาการเดินทางว่าไปยังไง เห็นในหลายกระทู้ว่ามีรถบัสของ Lomprayah จากข้าวสารถึงเกาะพะงันเลย เราก็ลองเสิร์ชดู เท่านั้นแหละเต็มสิคะ อย่างที่บอกว่าเราจองทุกอย่างช้าไป พอลองหาตั๋วเครื่องบินก็แพงเกินเราไม่โอ หาไปหามาเราว่ารถไฟก็โอเคนะราคาและเวลาก็พอๆกับรถบัสนั่นแหละ เราจึงเลือกการเดินทางวิธีนี้
รถไฟจะเป็นสายใต้ กรุงเทพ-สุราษฯ (พุนพิน) ซึ่งเราไปซื้อล่วงหน้าที่สถานีหัวลำโพง แล้วค่อยต่อรถไปลงเรือที่ท่าดอนสัก เราเลือกของบริษัท Lomprayah เพราะเห็นหลายรีวิวมันโอเค ที่จริงมีรถโดยสาร รถตู้ นู้ นี่ นั่นเยอะนะ แต่เราว่าเอาที่สะดวกและหาไว้เลยจะดีกว่า เมื่อลงจากรถไฟแล้วจะได้ไม่เคว้ง (รายละเอียดเวลา ขบวน เชิงลึกเราขอไม่บอกก่อนนะ เพื่อความปลอดภัย)
เมื่อทุกอย่างลงตัวหมดแล้วทั้งที่พัก การเดินทางไป-กลับ คร่าวนี้ก็ถึงตาที่ต้องบอกคนรอบข้าง...เผื่อเห็นเราเช็คอินจะได้ไม่ตกใจ พอบอกเพื่อนเท่านั้นแหละ!!!! โดนด่าจ้า ยิ่งพอรู้ว่าไปรถไฟอีก โกรธเราด้วยแบบจะโทรไปฟ้องแม่ตัวเองให้โทรมาห้ามเรา เพื่อนเราบอกว่ามันอันตรายมากไปรถไฟ ยิ่งสายใต้ยิ่งน่ากลัว แต่แบบเรามันลูกหลานชาวใต้อยู่แล้ว ละเราเชื่อมาตลอดและยังเชื่อต่อไปว่าคนใต้หน้าดุแต่ใจดี ผิวคล้ำ หน้าคม แต่จริงใจ (เหมือนอวยตัวเอง -3-) ต่อๆ นอกเรื่องละ คือเพื่อนน่ารักมากกกกก >//< ขอบใจมากๆ แต่เราจะดูแลตัวเองให้ดีที่สุด เราสัญญา
-ติดตามชมตอนต่อไป-
ตอนนี้ก็ดูรีวิววนไปคะ เพื่อวาง action plan ของแต่ละวัน
"ชะนีคนเดียว ก็เฟี้ยวได้" ณ เกาะพะงัน ในวัน Fullmoon
Date : 16-19 Aug 2016 Fullmoon : 18 Aug 2016
Transport from BKK : Thai Rail – Lomparyah Boat
เป็นทริปที่ 2 ที่กำลังจะไปคนเดียวอีกครั้ง( ที่แรกคือกระบี่) แต่ตอนนี้ว่างมากเลยมานั่งเขียนกระทู้ก่อนเลยค่ะ กลัวความขี้เกียจของตัวเอง กิกิ ตอนนี้ก็อยู่ในขั้นเตรียมตัวเหมือนอย่างเคย การไปไหนมาไหนคนเดียวไม่ง่ายเลยสำหรับผู้หญิง ความกลัวก็มี แต่ความบ้าบิ่นมันเยอะกว่า เราจึงต้องนั่งอ่านกระทู้ล้านอัน อ่านรีวิว หาข้อมูล วาดแผนที่ แพลนวันและเวลาเพื่อที่จะเซฟตัวเอง การเดินทางภายในเกาะ ความปลอดภัย อันตรายที่ควรหลีกเลี่ยง ฯลฯ ซึ่งการอ่านรีวิวคนอื่นนั้นก็ต้องขอขอบพระคุณผู้เผื่อแผ่ข้อมูลอย่างสูง คือมีประโยชน์มากจริง และนี่คือเหตุผลว่าทำไมเราถึงมานั่งเขียนข้อมูลต่างๆ เขียนประสบการณ์ที่เราได้ทำได้เจอ เพราะยังมีผู้หญิงอีกมากที่อยากไปเที่ยวคนเดียวแต่คำว่ากลัวกับอันตรายมันก็ข้ามผ่านได้ยากหากเราไม่มีข้อมูลที่เพียงพอ
ทริปนี้ตอนแรกก็ไม่ได้กะจะไปคนเดียวหรอก แต่แบบเพื่อนๆ เราทั้งหมดไม่ใช่สายนี้เลยอะ เลยไม่อยากชวน เพราะรู้ว่าคงไม่ไปหรอก อีกอย่างชื่อเสียงด้านไม่ดีมันก็เยอะ แต่สำหรับเรา เราก็อยากจะไปลองเห็นกับตาตัวเองสักครั้ง ก่อนทำงาน ก่อนเรียนต่อ หรือก่อนโตจนเกินกว่าจะเที่ยวที่แบบนี้ มันคือความฝันตั้งแต่เรียนมอปลายแล้วว่าต้องไปให้ได้สักครั้ง และที่ไม่อยากไปคนเดียวไม่ใช่เพราะกลัวนะ แต่เราว่ามันจะเต้นไม่สนุกเลยถ้าไม่มีเพื่อนเต้นด้วย เราว่าเหมือนคนบ้ามาก ปล.เรามันสายเต้นฮา รั่วๆ บ้าๆ อารมณ์แบบมดคันไฟกัดเท้าอะ อยู่กับที่ไม่ได้ 555 เออลืมบอกทริปนี้ตอนแรกวางแผนว่าจะไปเดือนกรกฎาคมนี่แหละ แต่ก็ต้องโดนพับเก็บไว้ ทีแรกก็ว่าจะไปวังเวียงแทนแต่ดันเป็นฤดูฝนซึ่งในรีวิวอีกแล้วบอกว่าจะลอยห่วงยางในแม่น้ำไม่ได้ บลูลากูนก็จะไม่บลูจะเรดๆ แทน ทริปวังเวียงเลยต้องโดนพับเก็บไป พอเคลียคิวตัวเองได้อีกครั้งทริปฟลูมูนก็ถูกคลี่ขึ้นมาอีกครั้ง
ืUnfold_version
Fold_version
นี่สินะที่มาของคำว่าโดนพับเก็บไว้ 555
เนื่องจากว่าเราหาเพื่อนได้แล้วเว้ยแกกกกกก คือเป็นกลุ่ม Backpacker เหมือนกันแต่ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติมาคนเดียว (อยากทราบช่องทางหาเพื่อนแนวนี้ติดต่อหลังไมค์ได้นะคะ ได้ฝึกภาษาด้วยนะเออ ไม่อันตราย ไม่น่ากลัว นิสัยดี เพราะเป็นวัยรุ่นๆ เที่ยวเหมือนเราๆ) แล้วเขาจัด Fullmoon Event กัน เราเลยไป join สรุปว่าวันฟลูมูนเราจะมีเพื่อนเต้นละวุ้ยยยยย แต่ก็มีเพื่อนแค่ไปเที่ยวปาร์ตี้นะ จากนั้นเรารีบหาจองโรงแรมเลย ซึ่งหายากมาก เพราะเราเพิ่งจองใกล้วันมาก ปกตืเขาจะจองล่วงหน้าเป็นเดือนๆ คือถ้าไม่มีโรงแรมนอน แผนทุกอย่างคงต้องล่ม ซึ่งยิ่งใกล้วันยิ่งแพงมาก ไม่แพงธรรมดานะ แพงโคตรรรรรรร เราสาย Hostel ใช่มะเพราะจากที่เราไปกระบี่ครั้งที่แล้วมันทำให้เราสตรองขึ้นมาก เราหลงเสน่ห์มันเข้าแล้ว ปกติ Hostel เตียงหนึ่งจะประมาณ 250-350 บาทแต่พอช่วงฟลูมูน OMG 800-1,000 บาทนะคะ ว่าไม่ได้ เราก็หาไปเรื่อยๆ เพราะถ้าแพงมากไปเราก็ไม่ไหวเหมือนกัน ไหนจะค่าเดินทางอีก หาไปหามาเจอ booking.com ถูกสุดละมั้ง 3 คืน 1,100 บาท (ช่วง fullmoon ที่พักส่วนใหญ่จะให้จอง 3 คืนขึ้นไป เลยเปลี่ยนที่นอนแบบกระบี่ไม่ได้เลย) และความพิเศษของเว็บนี้คือ เมื่อบุ๊คแล้วค่อยไปจ่ายเงินที่ที่พักตอนเช็คอินได้เลย
จากนั้นก็เริ่มหาการเดินทางว่าไปยังไง เห็นในหลายกระทู้ว่ามีรถบัสของ Lomprayah จากข้าวสารถึงเกาะพะงันเลย เราก็ลองเสิร์ชดู เท่านั้นแหละเต็มสิคะ อย่างที่บอกว่าเราจองทุกอย่างช้าไป พอลองหาตั๋วเครื่องบินก็แพงเกินเราไม่โอ หาไปหามาเราว่ารถไฟก็โอเคนะราคาและเวลาก็พอๆกับรถบัสนั่นแหละ เราจึงเลือกการเดินทางวิธีนี้
รถไฟจะเป็นสายใต้ กรุงเทพ-สุราษฯ (พุนพิน) ซึ่งเราไปซื้อล่วงหน้าที่สถานีหัวลำโพง แล้วค่อยต่อรถไปลงเรือที่ท่าดอนสัก เราเลือกของบริษัท Lomprayah เพราะเห็นหลายรีวิวมันโอเค ที่จริงมีรถโดยสาร รถตู้ นู้ นี่ นั่นเยอะนะ แต่เราว่าเอาที่สะดวกและหาไว้เลยจะดีกว่า เมื่อลงจากรถไฟแล้วจะได้ไม่เคว้ง (รายละเอียดเวลา ขบวน เชิงลึกเราขอไม่บอกก่อนนะ เพื่อความปลอดภัย)
เมื่อทุกอย่างลงตัวหมดแล้วทั้งที่พัก การเดินทางไป-กลับ คร่าวนี้ก็ถึงตาที่ต้องบอกคนรอบข้าง...เผื่อเห็นเราเช็คอินจะได้ไม่ตกใจ พอบอกเพื่อนเท่านั้นแหละ!!!! โดนด่าจ้า ยิ่งพอรู้ว่าไปรถไฟอีก โกรธเราด้วยแบบจะโทรไปฟ้องแม่ตัวเองให้โทรมาห้ามเรา เพื่อนเราบอกว่ามันอันตรายมากไปรถไฟ ยิ่งสายใต้ยิ่งน่ากลัว แต่แบบเรามันลูกหลานชาวใต้อยู่แล้ว ละเราเชื่อมาตลอดและยังเชื่อต่อไปว่าคนใต้หน้าดุแต่ใจดี ผิวคล้ำ หน้าคม แต่จริงใจ (เหมือนอวยตัวเอง -3-) ต่อๆ นอกเรื่องละ คือเพื่อนน่ารักมากกกกก >//< ขอบใจมากๆ แต่เราจะดูแลตัวเองให้ดีที่สุด เราสัญญา
-ติดตามชมตอนต่อไป-
ตอนนี้ก็ดูรีวิววนไปคะ เพื่อวาง action plan ของแต่ละวัน