แชร์ประสบการณ์ขอวีซ่า UK แบบไปพักกับญาติ (Family Visit) จริงๆ แล้วไม่ยากเลยนะ

เพราะตอนเราจะขอวีซ่าเพื่อไปเที่ยว UK แบบพักกับญาติ คือแบบ Family Visit บอกเลยว่าหาข้อมูลเกี่ยวกับการขอวีซ่าแบบนี้ยากมาก และที่มีอยู่ก็ไม่ค่อยชัดเจนเท่าไหร่ พอเราขอได้แล้ว ได้แบบว่าง่ายกว่าที่คิดเยอะด้วย เราก็เลยอยากเอามาแชร์ประสบการณ์กันค่ะ

                  ซึ่งข้อดีของวีซ่าประเภทนี้ (ตามที่เราคิดเองเออเองนะ555) ก็คือ มันจะทำให้เราไม่จำเป็นต้องมีสเตทเม้นสำหรับท่องเที่ยวหรูหรามาก เพราะเราไม่ต้องจ่ายค่าที่พัก รวมถึงค่าอาหาร(ในบางมื้อ) และที่สำคัญมันยังทำให้เราดูน่าเชื่อถือ เหมือนกับว่าเราแนบใบเสร็จจ่ายตังค์ค่าโรงแรมไปแล้วนั่นแหละ(มั้ง) แล้วก็มีเป้าหมายชัดเจนคือฉันไปเยี่ยมญาตินะ ไม่ได้ไปทำอะไรอย่างอื่นที่ผิดกฎหมาย เลยทำให้วีซ่ามีโอกาสผ่านเยอะขึ้น (นี่มโนเองล้วนๆ ไม่รู้คนอนุมัติวีซ่าเขาคิดงี้ป่าวเหมือนกัน หรือจริงๆแล้วฉันควรขอแค่แบบไปเที่ยวปกติวะ? 555)

                 กรอกข้อมูลตรงไหนเป็นพิเศษ?
                 เอาล่ะเลิกนอกเรื่อง สำหรับวิธีการขอวีซ่าประเภทนี้ ก็ให้ไปกรอกข้อมูลในเว็บไซต์ของ VFS ตามปกตินั่นแหละค่ะ เว็บนี้เลย https://www.visa4uk.fco.gov.uk/home/welcome ซึ่งเราเคยอ่านเจอ(จากที่ไหนจำไม่ได้เหมือนกัน) ว่าวีซ่า UK ให้ไปขอล่วงหน้าได้ไม่เกิน 3 เดือนจากวันเดินทางวันแรกที่เราจะไป UK นะคะ ส่วนวิธีการกรอก แบบ Family Visit ก็คล้ายๆกับการกรอกข้อมูลวีซ่าตามปกติทั่วไปล่ะค่ะ เราเลยจะไม่เล่ารายละเอียดตรงนี้มากนะคะ ใครอยากรู้ลองหาอ่านได้เยอะมาก มีคนเขียนแนะนำไว้เต็มเลยค่ะ

                 แต่ที่ต่างก็จะมีตรง Visa Category ที่เราต้องเลือก Family Visit ก่อนนะคะ


                 พอเลือกประเภทวีซ่าแล้ว ตอนกรอกข้อมูล สิ่งพิเศษของวีซ่าประเภทนี้ ก็จะมี (เราเขียนเฉพาะส่วนที่แปลกจากปกตินะคะ)
                 PART 1 > PASSPORT AND TRAVEL INFORMATION
PASSPORT / TRAVEL DOCUMENT >> ในส่วนนี้ตรง TRAVEL INFORMATION ตรงข้อ WHAT IS THE MAIN ADDRESS AND CONTACT DETAILS OR WHERE YOU WILL BE STAYING WHILST IN THE UK? >> ให้กรอก ชื่อและที่อยู่ของญาติที่เราจะไปพักด้วย (บอกเขาไปเลยว่าฉันมีที่ซุกหัวนอนแน่นอนแล้วนะยะ!)


                 PART 5 > FAMILY IN THE UK
                  FAMILY AND FRIENDS >> ในส่วน DO YOU HAVE ANY FAMILY IN THE UK? ให้ตอบ Yes แล้วกรอกข้อมูลญาติค่ะ


                มีแค่สองพาร์ทนี้เท่านั้นนะคะที่เราต้องกรอกข้อมูลพิเศษ แต่ทริคของเราก็คือ เราทำแผนท่องเที่ยวและการใช้เงินไปด้วย แล้วก็กรอกข้อมูลส่วนนี้ให้ตรงกับแผนที่ทำไป ค่ะ (*พี่สาว คนที่เราจะไปเยี่ยมที่ UK นั่นแหละ บอกเราว่า จะกรอกอะไรต้องให้สอดคล้องกันทั้งหมด อย่าให้เขางงไปงงมา ตรงนั้นว่างั้น ตรงนี้ว่างี้ เราจะดูไม่น่าเชื่อถือค่ะ) และการทำแผนท่องเที่ยวชัดไปเลย มันจะทำให้เขาได้รู้ว่า ถึงเสตทเม้นเรามีไม่เยอะ แต่เรามีพอ ที่พักก็บอกในแผนไปเลยว่าฉันไม่เสียนะ ค่าข้าวมื้อไหนอยากประหยัดก็เขียนไปเลยว่าทำเอง ลองดูจากตัวอย่างของเราก็ได้ค่ะ แต่ไม่ต้องทำละเอียดขนาดเราก็ได้นะคะ 555

                ตัวอย่างแผนท่องเที่ยว ( จะเห็นว่าเราไปมาตั้งแต่สงกรานต์ แต่ด้วยความขี้เกียจส่วนตัวล้วนๆ เลยเพิ่งได้เขียนค่ะ T-T)


                ตอนกรอกในใบขอวีซ่าก็ให้ข้อมูลตรงกัน (ข้อมูลเกี่ยวกับเงินจะอยู่ใน PART 4 > EMPLOYMENT AND INCOME
EMPLOYMENT นะคะ)


              แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เรื่องสเตทเม้นนี่เราก็เชื่อที่เขาบอกกันมาด้วยนะคะ คือไม่ควรมีน้อยกว่าหกหลัก (ซึ่งฉันก็หามาได้แค่แสนกับอีกนิดดดดด เท่านั้นจีจี) แต่ที่เรายื่นไปเป็นบัญชีเงินเดือนนะคะ จึงมีเงินเข้าออกตลอดค่ะ

              เอกสารต้องเตรียมอะไรบ้าง?
              ที่เรายื่นไปก็มีเอกสารทั่วไป ปกติ คือ
•    Passport
•    สำเนาบัตรประชาชน (แปลเอง เซ็นรับรองเอง มีความมั่นหน้าค่ะ 555)
•    สำเนาทะเบียนบ้าน (แปลเอง เซ็นรับรองเองเหมือนกัน)
•    สเตทเม้นย้อนหลัง 6 เดือน (ไปขอจากธนาคารมา)
•    ใบรับรองการทำงาน (ภาษาอังกฤษ)

              เอกสารที่ไม่ค่อยปกติ
•    ประวัติการเดินทางไปต่างประเทศ

(แต่ก่อนเราทำงานด้านสื่อสารมวลชน เลยได้ไปต่างประเทศบ่อยค่ะ ไปทำข่าว ไปเองไม่ค่อยจิมีตังค์หรอก พอเปลี่ยนงานพอมีเงินเก็บ เลยเพิ่งได้ไปต่างประเทศเองแบบจริงๆจังๆกะเขานี่แหละ T-T)

•    แผนท่องเที่ยว แผนใช้เงิน (ตามที่ยกตัวอย่างไปแล้วค่ะ)

              เอกสารเกี่ยวกับญาติที่จะไปพักด้วย (อันนี้คือพระเอกของเราค่ะ)
•    Invitation Letter จดหมายเชิญ ให้ญาติเขียนมาค่ะ


ในส่วนเอกสารของญาติ เราแนบตามนี้นะคะ
•    สำเนา Passport (ให้เขาเซ็นรับรองมาด้วยว่า Certified True Copy แล้วลงชื่อ)
•    สำเนาวีซ่า UK (เซ็นรับรองเหมือนกัน)
•    University registration letter อันนี้เป็นเหมือนใบรับรองว่าพี่สาวเราเรียนอยู่มหาลัยจริง ไปให้ทางมหาลัยออกให้ได้เลยค่ะ (พี่เรามันฉลาดค่ะ เลยได้ทุนไป ส่วนน้องอย่างเราที่ฉลาดน้อยกว่า เลยได้แค่ทำงานงกๆ เพื่อหาเงินไปเที่ยวค่ะ T-T) แต่ถ้าญาติคุณไม่ได้เรียนอยู่อาจไม่ต้องใช้ตรงนี้ หรือถ้าเอาแบบชัวร์ ก็เป็นใบรับรองการทำงานของเขา ก็ได้มั้ง (อันนี้ยอมรับว่ามั่วค่ะ)


•     A proof letter of accommodation เป็นเอกสารยืนยันว่าญาติเราพักอาศัยอยู่ในที่ที่เราแจ้งจริง ที่ๆเราจะไปพักมันมีอยู่จริง และฉันก็ไปพักได้นะ ซึ่งตรงนี้ถ้าญาติคุณไม่ได้อยู่หอแบบพี่สาวเรา ก็อาจใช้พวกทะเบียนบ้าน สัญญาเช่า ก็คงพอได้ค่ะ (อันนี้เดาอีกละ)


นอกจากนี้ก็มีเอกสารเพิ่มเติม ที่แสดงว่าเราเป็นครอบครัวเดียวกันจริงๆ ยังติดต่อกันเรื่อยๆ เช่น ภาพถ่ายครอบครัว สำเนาทะเบียนบ้านของเขา (มันจะแสดงว่าเราอยู่ทะเบียนบ้านเดียวกัน พ่อแม่เดียวกัน) เราส่งไปแค่สองอย่างนี้ค่ะ

พอกรอกข้อมูลเสร็จ เตรียมเอกสารครบตามนี้ เราก็นัดวันเวลา เดินเข้าไปยื่นเอกสารที่ VFS  ซึ่งเอกสารเราเป็นปึกที่ค่อนข้างบางมาก ตอนไปเจอคนอื่นแบบมาเป็นตั้งนี่หวั่นใจเลย (กุจะรอดไหมวะ 555) แต่ก็รอดมาได้ค่ะ ไม่โดนโทรมาถามอะไรเพิ่มเติม ส่งไปวันจันทร์ วันพฤหัสได้เลย สงสัยช่วงนั้นคนมาขอไม่เยอะ ปกติเขาว่ารอกัน 15 วัน  ดีนะที่ไม่จ่ายตังค์แบบเร่งด่วน  ซึ่งแพงมากกก  ดังนั้น เราว่าจริงๆแล้วถ้ากรอกเอกสารอย่างสอดคล้องกันทุกอย่าง พิสูจน์ให้เขาเห็นว่าเราเตรียมตัวดีแล้ว เหมือนที่เราเขียนแผนท่องเที่ยวกับกรอกข้อมูลให้ตรงกัน วีซ่าก็น่าจะผ่านได้ค่ะ หวังว่าประสบการณ์ของเราจะพอช่วยอะไรเพื่อนๆที่กำลังอยากขอวีซ่าแบบนี้ได้บ้างนะคะ เราก็ไม่ใช่กูรูหรอก แต่อยากได้ก็ต้องสู้ ต้องพยายามค่ะ

ท้ายนี้อยากบอกว่า อย่าซีเรียสเรื่องรูปที่จะใช้ติดตอนสมัครค่ะ เอาให้ถูกตามกฎที่เขาบอกพอ ถ้าไม่สวยไม่ต้องถ่ายใหม่ให้เปลือง  เพราะตอนเข้าไปห้องสแกนลายนิ้วมือ เขาจะให้เราถ่ายรูปใหม่ ซึ่งมันมักออกมาแย่ ด้วยกล้องที่ใช้ และไม่มีการจัดไฟอันใดเลย แล้วเขาจะใช้ภาพนั้นเป็นภาพในวีซ่าเราค่ะ ไม่ใช่ภาพที่เราส่งไป T-T ตอนเราได้ Passport กลับมา เปิดดูเห็นวีซ่าผ่านก็ดีใจ แต่เห็นรูปตัวเองในวีซ่าแล้วจะร้องห้ายยยยย  5555  เอาล่ะพล่ามมาพอละ ขอให้ทุกคนโชคดี วีซ่าผ่านฉลุยยย และได้เที่ยวกันให้สนุกนะคะ ^^

ปอลอ - ถ้าเราเลิกขี้เกียจได้แล้ว เดี๋ยวจะมาเล่าทริปสนุกๆ กับการฉาย(เกือบ)เดี่ยว ใน UK ที่ เอดินบะระ - ไฮแลนด์ สก็อตแลนด์ + ออกฟอร์ด-ลอนดอน อังกฤษ ให้อ่านกันนะคะ เป็นทริปยุโรปครั้งแรกที่ไปคนเดียว เที่ยวเกือบคนเดียว โหด มันฮา เหนื่อยกับการพยายามเก็บตังค์จนไม่อยากไป แต่พอได้ไปแล้วบอกกับตัวเองเลย ช้านต้องไปอีกให้ด้ายยยยยยยย

ขอบคุณที่อ่านกันนะคะ มีคำถามหรือคำแนะนำเพิ่มเติม ก็แชร์กันได้เลยค่ะ ยิ้ม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่