======================
เรื่องเหล้า........เมาจนไม่รู้....
======================
อาหารบนโต๊ะกำลังร้อนได้ที่ อาหารประเภทร้อนต้องกินตอนกำลังร้อนจึงจะได้อรรถรสแห่งความอร่อย แต่คนทั้งคู่ดูท่าทางจะร้อนกว่าอาหาร เพราะหัวใจกำลังร้อนได้ที่ จะมีเรื่องกันก็ต้องมีเรื่องตอนอารมณ์กำลังร้อน จะได้มีเรื่องกันอย่างเต็มอรรถรสแห่งการมีเรื่อง
หมายถึงเรื่องของคู่รัก ซึ่งอาจจะกำลังกลายเป็นอดีตคู่รัก พวกเขากำลังเข้าโค้งสุดท้ายแห่งความแตกแยก และอาจระเบิดเส้นทางใหม่ พัฒนาการเป็นเส้นทางคู่ขนานนรกแตก
“คุณทำเกินไปแล้ว ไม่ไว้หน้าผมเลย” ชายหนุ่มคำรามด้วยสีหน้าท่าทางเคร่งเครียดเดือดร้อนเจียนระเบิด สลัดมาดนักธุรกิจหนุ่ม ผู้สุขุมเยือกเย็นในเวทีสงครามการเงินและการงานไปจนหมดสิ้น มาเป็นนักทำลายแอลกอฮอล์ด้วยตับตัวฉกาจ เดินเครื่องรวดเร็วกว่าปกติเท่าตัวจนหูตาลายไปหมด เริ่มเห็นช้างตัวเท่าลูกหนู
“คุณมันวุ่นวายกับผมมากเกินไป แล้วไม่ไว้หน้าผมเลย รู้ไหมว่าผมอับอายขายหน้าประชาชีเพื่อนฝูงขนาดไหน”
พูดจบเขาก็ยกแก้วเหล้าขี้นดื่มรวดเดียวหมดแก้ว บริกรสาวรีบเดินมาหยิบแก้วไปชงเหล้าให้ทันทีเพราะรู้ว่าชักช้าอาจจะได้ค่าทิปน้อยลงกว่าที่ควรจะเป็น แม้ในยามอารมณ์โกรธชายหนุ่มยังอุตส่าห์เบรกตัวเองอารมณ์หันไปยิ้มอย่างชั้นเชิงกับบริกรสาวหุ่นดีแวบหนึ่งอย่างน่าตบให้ลงไปดิ้น ก่อนหันมาระเบิดอารมณ์ต่อไป
“วันก่อนผมผิดนัดคุณก็จริง แต่ก็แค่เป็นครั้งที่ห้าของเดือนเท่านั้น และไม่เคยเกินสามสี่ชั่วโมง หรืออย่างมากก็แค่จำวันจำร้านผิดเท่านั้น คุณก็โวยวายต่อว่าสียงลั่นจนผมอายเพื่อนราวกับเป็นวันสิ้นโลก แบบนี้มันใช้ได้ที่ไหน แล้วสาวคนที่คุณเห็นวันนั้นก็เป็นลูกค้า บางทีต้องไปคุยกันในร้านหรูๆหน่อยก็เพื่อผลทางธุรกิจไม่เห็นต้องคิดมากเลย”
พูดจบก็หันไปสีหน้ายิ้มหวานในบริการสาวอีกครั้ง ก่อนหันกลับมาทำหน้าเครียดต่อไปแบบเหลือเชื่อ
“ฉันไม่ได้โง่นะคุณ...” หญิงสาวฝ่ายตรงข้ามเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่แววตาดุเดือดเลือดพล่านแบบร้อนลึกเอาเรื่องทีเดียว สีหน้าท่าทางแบบนี้ล่ะที่พร้อมจะทลายโลกได้ทุกเมื่อ
“ลูกค้าอะไรจับมือถือแขนหัวร่อต่อกระซิกออเซาะ ยังกับคู่รักแกะกล่องเอี่ยมอ่องถอดด้ามหวานแหวว ดีว่าเพื่อนฉันโทรมาบอก เลยเห็นกับตา พอจะโทรถาม คุณก็ปิดมือถือ มันส่อเจตนาร้ายชัดๆ”
เธอจี้จุดได้ตรงประเด็นทั้งหมด และการจงใจปิดมือถือโดยไม่มีเหตุผล ก็เป็นที่รู้กันโดยทั่วไปว่าเป็นการกระทำเพื่ออำพรางร่องรอยของตัวเอง ไม่ให้ใครบางคนรู้ว่า เขาอยู่พิกัดใดบนพื้นโลก มันเป็นเรื่องของความปลอดภัยจากขีปนาวุธนิวเคลียร์
“คุณมันคิดมาก เธอเป็นลูกค้าพิเศษ ผมก็ต้องต้อนรับแบบพิเศษ และเพราะว่าลูกค้าคนนั้นเรียนห้องเดียวกันกับผม สมัยอยู่มหาวิทยาลัย เพื่อนเก่ามาเจอกันมันก็ต้องดีใจทักทายกันเป็นธรรมดา ไม่เห็นแปลกอะไร”
“เพื่อนเก่าร่วมห้องร่วมเรียงเตียงนอนเดียวกันน่ะสิ ทำไมคุณต้องโกหกหน้าด้านๆแบบนี้ เรามาเลิกกันดีกว่า…หรือว่าอยากจะรับลูกตะกั่วร้อนๆเป็นอาหารเสริม”
“โธ่โว้ย.....ผมจะเข้าห้องน้ำ”
ใช่....ต้องเข้าห้องน้ำตั้งหลักก่อน แฟนสาวของเขาคนนี้นอกจากจะสวยแล้วยังฉลาดเป็นกรด ภายใต้สายตาเฉียบคมดุเข้มเก็บรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ อันเกิดจากความผิดพลาดของชายหนุ่มได้ตลอด ทำให้เขาเหงื่อแตกทุกครั้งที่เขาแอบทำผิด ผู้หญิงบ้าอะไร โกหกเท่าไรก็ไม่ยอมเชื่อกันง่ายๆ แบบนี้มันนางมารร้ายชัดๆ... เขาคำรามในใจขณะยืนอยู่หน้ากระจกในห้องน้ำ ที่สะท้อนภาพชายหนุ่มหน้าตาค่อนข้างดีแต่ผมเผ้ายุ่งเหยิงใบหน้าแดงกล่ำฉ่ำได้ที่เพราะฤทธิ์เหล้าค่อนขวดและการตะลุยดื่มแบบหูดับตับไหม้
เขาต้องดื่มให้หนักเพื่อเป็นการย้อมใจและกลบเกลื่อน เขามีความเชื่อว่าผู้หญิงส่วนมากพอเห็นคนรักเมามายจะต้องใจอ่อนลงไปไม่มากก็น้อย ตามสุภาษิตอย่าถือคนบ้าอย่าว่าคนเมา แม้ฟังดูจะไม่เข้าท่านักก็ตาม
มองหน้าตนเองในกระจกแล้วถามตนเองในกระจกด้วยน้ำเสียงเศร้าสลด สมองเมาๆทำงานอย่างหนัก
“แกจะเอาไง.....เดี๋ยวเธอคนนั้นก็มาที่นี่แล้ว”
มันวันนรกแตกฟ้าสะท้านแผ่นดินสะเทือนจริงๆ ที่เขาทะลึ่งนัดหญิงสาวอีกคนมาที่ร้านนี้ เขามาก่อนเวลานัดประมาณเกือบชั่วโมงแต่ไม่นึกว่าแฟนสาวจะสะกดรอยตามมาถึงที่นี่ได้ และนี่ใกล้เวลานัดแล้ว โอกาสรถไฟจะชนประสานงากันมีสูง รถไฟด่วนนรกอีกขบวนกำลังจะเข้าสถานีด้วยความเร็วเต็มพิกัด ในขณะระเบิดนิวเคลียร์อีกลูกหนึ่งกำลังนั่งอยู่ข้างตัวของเขา
“โทรไปมาแม่สาวคนนั้นสิ ว่ามาถึงไหนแล้ว พอบอกยกเลิกได้ก็ยกเลิกการนัดหมายไปเลย”
เงาในกระจกตอบมา เขาพยักหน้าหงึกหงักให้กับตัวเองอย่างพอใจ ชายหนุ่มอีกคนซึ่งยืนประจันหน้ากับโถปัสสาวะอยู่ด้านหลังหันมองแล้วส่ายหน้า คงนึกว่าไม่ใช่บ้าก็เมา หรือทั้งเมาทั้งบ้า
ผลของการเจรจากับสาวเจ้าผ่านทางโทรศัพท์ทำให้เขาเหงื่อแตกคาห้องน้ำ หล่อนกำลังจะมาถึงอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า แบบนี้มันวันสิ้นโลกชัดๆ จะต้องทำอะไรสักอย่าง รถไฟสองขบวนจะชนกันไม่ได้ เพราะสองขบวนนี้ไม่ใช่รถไฟธรรมดา แต่เป็นรถไฟบรรทุกหัวรบนิวเคลียร์ทั้งคู่ คุณพระคุณเจ้าช่วยลูกช้างด้วยเถิด ลูกช้างไม่ได้ทำงผิดอะไรทำไมมาเจอแบบนี้
ชายหนุ่มใจเต้นแรงแบบคนสติกำลังจะแตกเมื่อนึกภาพหายนะของวันแห่งการสิ้นสุด วิ่งขาขวิดพรวดพรวดออกมากห้องน้ำ เกือบจะชนกับสาวเสิร์ฟคนหนึ่ง ดีว่าเธอเบี่ยงตัวหลบทันอย่างสวยงามแบบเจนภัตตาคารชายกระโปรงสั้นปลิวพลิ้วสวยงาม หลายคนปรบมือเกรียวแต่เขาไม่มีเวลาสนใจอะไร นอกจากจะจะต้องลากแฟนสาวออกจากพื้นที่วินาศภัยโดยเร็วที่สุดต่อให้ใช้กำลังแบกขึ้นบ่าไปก็ต้องทำ นั่นเธอยังนั่งจิบเหล้าอย่างใจเย็นไม่รู้สึกรู้สมกับภัยพิบัติทางอารมณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นถึงเลยสักนิด
เขาพอถึงตัวก็กระชากแขนหญิงสาวให้ลุกขึ้นพลางตะคอกเสียงลั่นอย่างร้อนรน
“คุณต้องกลับบ้านไปก่อนเดี๋ยวนี้ มีอะไรค่อยพูดกันวันหลังวันนี้ผมไม่ว่างมีธุระด่วน กลับไปก่อนเดี๋ยวผมจ่ายเงินเอง”
“มันเรื่องอะไรกัน” หญิงสาวโวยวายเสียงดังไม่แพ้กันพยายามขืนตัวไว้เต็มที่ นี่ล่ะที่เขาไม่ชอบ ผู้หญิงอะไรไม่ยอมอ่อนข้อต่อแรงให้เขาเลย ทำไมจะต้องมารักกับคนแบบนี้นะ หาความอ่อนหวานแบบผู้หญิงทั่วไปก็ไม่ได้ แต่ทำอย่างไรได้เพราะรักเข้าไปแล้วไม่ว่าจะรักแบบไหนก็ตาม ไม่ว่าจะมีคนอื่นกี่คนก็ตาม แต่ก็รู้สึกว่าขาดเธอไม่ได้ คิดแล้วน่าชื่นชมกับคุณธรรมประเสริฐเลิศเลอของตัวเองจริงๆ
“ผมบอกว่าให้กลับไปก่อนได้ยินไหม...ขอร้องล่ะ วันนี้วันเดียว วันที่เหลือผมจะยอมคุณทุกอย่าง”
ขณะกำลังฉุดกระชากลากถูกันอยู่นั่นเองฟ้าก็ผ่าครืนลงมาเต็มหัว
เพล้ง...!
เขาไม่รู้เลยว่าฟ้าที่ผ่าลงมากะทันหันนั้นความจริงเป็นขวดเหล้าซึ่งเหลือเหล้าอยู่เกือบเต็มขวดหวดฟาดลงมาเต็มแรง เศษแก้วเศษเหล้ากระเด็นเซ็นซ่านไปทั่ว ท่ามกลางเสียงหวีดร้องอย่างตกใจของผู้คนในภัตตาคาร ชายหนุ่มผู้น่าสงสารและน่าซ้ำเติมร่างทรุดลงนอนฝันหวานกับพื้น เลือดสีแดงเริ่มไหลออกมาปนเปกับธารน้ำเหล้า
เขาไม่รู้เลยว่าคนที่ตีหัวเขาเป็นชายหนุ่มผู้เดินตามหลังออกมาจากห้องน้ำ ซึ่งตอนนี้กำลังอธิบายถึงความชอบธรรมและความเป็นธรรมในการใช้วิชาขวดสุราปลิดวิญญาณ
“ผมไม่รู้ว่าเขาเกิดบ้าอะไร สังหรณ์ใจตั้งแต่ในห้องน้ำแล้ว เห็นเขายืนพูดกับตัวเองเหมือนคนบ้า ดูสิ...อยู่ดีๆก็มาฉุดแฟนผมต่อหน้าต่อตา ... ใครจะทนไหว ไม่รู้ว่าเขาเกิดบ้าอะไรขึ้มมา”
ใช่...เขาไม่รู้เลยว่า เขามาผิดโต๊ะ....ความเมาทำให้ตาลาย ผู้หญิงโต๊ะนี้บังเอิญสวมเสื้อผ้าสีสันคล้ายๆกันกับคนรักของเขาเท่านั้น ทรงผมสลวยมองจากด้านหลังก็ยังคล้ายกันอีก อารมณ์ร้อนผสานความเมาทำให้ไม่ทันได้มองให้ถนัดชัดตา
และที่น่าเจ็บใจที่สุด..เขาไม่รู้เลยว่า....ความจริงแล้ว ตัวเองไม่จำเป็นต้องกระทำการอันนำไปสู่ภัยพิบัติแบบนี้เลย แค่กลับโต๊ะตัวเองให้ถูกที่ถูกทาง เรื่องก็จบด้วยดี
เพราะแฟนของเขาได้ลุกเดินออกจากร้านไปตั้งแต่ช่วงที่เขาลุกจากโต๊ะไปเข้าห้องน้ำแล้ว
จบแล้วครับ
เรื่องเหล้า......เมาจนไม่รู้...
เรื่องเหล้า........เมาจนไม่รู้....
======================
อาหารบนโต๊ะกำลังร้อนได้ที่ อาหารประเภทร้อนต้องกินตอนกำลังร้อนจึงจะได้อรรถรสแห่งความอร่อย แต่คนทั้งคู่ดูท่าทางจะร้อนกว่าอาหาร เพราะหัวใจกำลังร้อนได้ที่ จะมีเรื่องกันก็ต้องมีเรื่องตอนอารมณ์กำลังร้อน จะได้มีเรื่องกันอย่างเต็มอรรถรสแห่งการมีเรื่อง
หมายถึงเรื่องของคู่รัก ซึ่งอาจจะกำลังกลายเป็นอดีตคู่รัก พวกเขากำลังเข้าโค้งสุดท้ายแห่งความแตกแยก และอาจระเบิดเส้นทางใหม่ พัฒนาการเป็นเส้นทางคู่ขนานนรกแตก
“คุณทำเกินไปแล้ว ไม่ไว้หน้าผมเลย” ชายหนุ่มคำรามด้วยสีหน้าท่าทางเคร่งเครียดเดือดร้อนเจียนระเบิด สลัดมาดนักธุรกิจหนุ่ม ผู้สุขุมเยือกเย็นในเวทีสงครามการเงินและการงานไปจนหมดสิ้น มาเป็นนักทำลายแอลกอฮอล์ด้วยตับตัวฉกาจ เดินเครื่องรวดเร็วกว่าปกติเท่าตัวจนหูตาลายไปหมด เริ่มเห็นช้างตัวเท่าลูกหนู
“คุณมันวุ่นวายกับผมมากเกินไป แล้วไม่ไว้หน้าผมเลย รู้ไหมว่าผมอับอายขายหน้าประชาชีเพื่อนฝูงขนาดไหน”
พูดจบเขาก็ยกแก้วเหล้าขี้นดื่มรวดเดียวหมดแก้ว บริกรสาวรีบเดินมาหยิบแก้วไปชงเหล้าให้ทันทีเพราะรู้ว่าชักช้าอาจจะได้ค่าทิปน้อยลงกว่าที่ควรจะเป็น แม้ในยามอารมณ์โกรธชายหนุ่มยังอุตส่าห์เบรกตัวเองอารมณ์หันไปยิ้มอย่างชั้นเชิงกับบริกรสาวหุ่นดีแวบหนึ่งอย่างน่าตบให้ลงไปดิ้น ก่อนหันมาระเบิดอารมณ์ต่อไป
“วันก่อนผมผิดนัดคุณก็จริง แต่ก็แค่เป็นครั้งที่ห้าของเดือนเท่านั้น และไม่เคยเกินสามสี่ชั่วโมง หรืออย่างมากก็แค่จำวันจำร้านผิดเท่านั้น คุณก็โวยวายต่อว่าสียงลั่นจนผมอายเพื่อนราวกับเป็นวันสิ้นโลก แบบนี้มันใช้ได้ที่ไหน แล้วสาวคนที่คุณเห็นวันนั้นก็เป็นลูกค้า บางทีต้องไปคุยกันในร้านหรูๆหน่อยก็เพื่อผลทางธุรกิจไม่เห็นต้องคิดมากเลย”
พูดจบก็หันไปสีหน้ายิ้มหวานในบริการสาวอีกครั้ง ก่อนหันกลับมาทำหน้าเครียดต่อไปแบบเหลือเชื่อ
“ฉันไม่ได้โง่นะคุณ...” หญิงสาวฝ่ายตรงข้ามเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่แววตาดุเดือดเลือดพล่านแบบร้อนลึกเอาเรื่องทีเดียว สีหน้าท่าทางแบบนี้ล่ะที่พร้อมจะทลายโลกได้ทุกเมื่อ
“ลูกค้าอะไรจับมือถือแขนหัวร่อต่อกระซิกออเซาะ ยังกับคู่รักแกะกล่องเอี่ยมอ่องถอดด้ามหวานแหวว ดีว่าเพื่อนฉันโทรมาบอก เลยเห็นกับตา พอจะโทรถาม คุณก็ปิดมือถือ มันส่อเจตนาร้ายชัดๆ”
เธอจี้จุดได้ตรงประเด็นทั้งหมด และการจงใจปิดมือถือโดยไม่มีเหตุผล ก็เป็นที่รู้กันโดยทั่วไปว่าเป็นการกระทำเพื่ออำพรางร่องรอยของตัวเอง ไม่ให้ใครบางคนรู้ว่า เขาอยู่พิกัดใดบนพื้นโลก มันเป็นเรื่องของความปลอดภัยจากขีปนาวุธนิวเคลียร์
“คุณมันคิดมาก เธอเป็นลูกค้าพิเศษ ผมก็ต้องต้อนรับแบบพิเศษ และเพราะว่าลูกค้าคนนั้นเรียนห้องเดียวกันกับผม สมัยอยู่มหาวิทยาลัย เพื่อนเก่ามาเจอกันมันก็ต้องดีใจทักทายกันเป็นธรรมดา ไม่เห็นแปลกอะไร”
“เพื่อนเก่าร่วมห้องร่วมเรียงเตียงนอนเดียวกันน่ะสิ ทำไมคุณต้องโกหกหน้าด้านๆแบบนี้ เรามาเลิกกันดีกว่า…หรือว่าอยากจะรับลูกตะกั่วร้อนๆเป็นอาหารเสริม”
“โธ่โว้ย.....ผมจะเข้าห้องน้ำ”
ใช่....ต้องเข้าห้องน้ำตั้งหลักก่อน แฟนสาวของเขาคนนี้นอกจากจะสวยแล้วยังฉลาดเป็นกรด ภายใต้สายตาเฉียบคมดุเข้มเก็บรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ อันเกิดจากความผิดพลาดของชายหนุ่มได้ตลอด ทำให้เขาเหงื่อแตกทุกครั้งที่เขาแอบทำผิด ผู้หญิงบ้าอะไร โกหกเท่าไรก็ไม่ยอมเชื่อกันง่ายๆ แบบนี้มันนางมารร้ายชัดๆ... เขาคำรามในใจขณะยืนอยู่หน้ากระจกในห้องน้ำ ที่สะท้อนภาพชายหนุ่มหน้าตาค่อนข้างดีแต่ผมเผ้ายุ่งเหยิงใบหน้าแดงกล่ำฉ่ำได้ที่เพราะฤทธิ์เหล้าค่อนขวดและการตะลุยดื่มแบบหูดับตับไหม้
เขาต้องดื่มให้หนักเพื่อเป็นการย้อมใจและกลบเกลื่อน เขามีความเชื่อว่าผู้หญิงส่วนมากพอเห็นคนรักเมามายจะต้องใจอ่อนลงไปไม่มากก็น้อย ตามสุภาษิตอย่าถือคนบ้าอย่าว่าคนเมา แม้ฟังดูจะไม่เข้าท่านักก็ตาม
มองหน้าตนเองในกระจกแล้วถามตนเองในกระจกด้วยน้ำเสียงเศร้าสลด สมองเมาๆทำงานอย่างหนัก
“แกจะเอาไง.....เดี๋ยวเธอคนนั้นก็มาที่นี่แล้ว”
มันวันนรกแตกฟ้าสะท้านแผ่นดินสะเทือนจริงๆ ที่เขาทะลึ่งนัดหญิงสาวอีกคนมาที่ร้านนี้ เขามาก่อนเวลานัดประมาณเกือบชั่วโมงแต่ไม่นึกว่าแฟนสาวจะสะกดรอยตามมาถึงที่นี่ได้ และนี่ใกล้เวลานัดแล้ว โอกาสรถไฟจะชนประสานงากันมีสูง รถไฟด่วนนรกอีกขบวนกำลังจะเข้าสถานีด้วยความเร็วเต็มพิกัด ในขณะระเบิดนิวเคลียร์อีกลูกหนึ่งกำลังนั่งอยู่ข้างตัวของเขา
“โทรไปมาแม่สาวคนนั้นสิ ว่ามาถึงไหนแล้ว พอบอกยกเลิกได้ก็ยกเลิกการนัดหมายไปเลย”
เงาในกระจกตอบมา เขาพยักหน้าหงึกหงักให้กับตัวเองอย่างพอใจ ชายหนุ่มอีกคนซึ่งยืนประจันหน้ากับโถปัสสาวะอยู่ด้านหลังหันมองแล้วส่ายหน้า คงนึกว่าไม่ใช่บ้าก็เมา หรือทั้งเมาทั้งบ้า
ผลของการเจรจากับสาวเจ้าผ่านทางโทรศัพท์ทำให้เขาเหงื่อแตกคาห้องน้ำ หล่อนกำลังจะมาถึงอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า แบบนี้มันวันสิ้นโลกชัดๆ จะต้องทำอะไรสักอย่าง รถไฟสองขบวนจะชนกันไม่ได้ เพราะสองขบวนนี้ไม่ใช่รถไฟธรรมดา แต่เป็นรถไฟบรรทุกหัวรบนิวเคลียร์ทั้งคู่ คุณพระคุณเจ้าช่วยลูกช้างด้วยเถิด ลูกช้างไม่ได้ทำงผิดอะไรทำไมมาเจอแบบนี้
ชายหนุ่มใจเต้นแรงแบบคนสติกำลังจะแตกเมื่อนึกภาพหายนะของวันแห่งการสิ้นสุด วิ่งขาขวิดพรวดพรวดออกมากห้องน้ำ เกือบจะชนกับสาวเสิร์ฟคนหนึ่ง ดีว่าเธอเบี่ยงตัวหลบทันอย่างสวยงามแบบเจนภัตตาคารชายกระโปรงสั้นปลิวพลิ้วสวยงาม หลายคนปรบมือเกรียวแต่เขาไม่มีเวลาสนใจอะไร นอกจากจะจะต้องลากแฟนสาวออกจากพื้นที่วินาศภัยโดยเร็วที่สุดต่อให้ใช้กำลังแบกขึ้นบ่าไปก็ต้องทำ นั่นเธอยังนั่งจิบเหล้าอย่างใจเย็นไม่รู้สึกรู้สมกับภัยพิบัติทางอารมณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นถึงเลยสักนิด
เขาพอถึงตัวก็กระชากแขนหญิงสาวให้ลุกขึ้นพลางตะคอกเสียงลั่นอย่างร้อนรน
“คุณต้องกลับบ้านไปก่อนเดี๋ยวนี้ มีอะไรค่อยพูดกันวันหลังวันนี้ผมไม่ว่างมีธุระด่วน กลับไปก่อนเดี๋ยวผมจ่ายเงินเอง”
“มันเรื่องอะไรกัน” หญิงสาวโวยวายเสียงดังไม่แพ้กันพยายามขืนตัวไว้เต็มที่ นี่ล่ะที่เขาไม่ชอบ ผู้หญิงอะไรไม่ยอมอ่อนข้อต่อแรงให้เขาเลย ทำไมจะต้องมารักกับคนแบบนี้นะ หาความอ่อนหวานแบบผู้หญิงทั่วไปก็ไม่ได้ แต่ทำอย่างไรได้เพราะรักเข้าไปแล้วไม่ว่าจะรักแบบไหนก็ตาม ไม่ว่าจะมีคนอื่นกี่คนก็ตาม แต่ก็รู้สึกว่าขาดเธอไม่ได้ คิดแล้วน่าชื่นชมกับคุณธรรมประเสริฐเลิศเลอของตัวเองจริงๆ
“ผมบอกว่าให้กลับไปก่อนได้ยินไหม...ขอร้องล่ะ วันนี้วันเดียว วันที่เหลือผมจะยอมคุณทุกอย่าง”
ขณะกำลังฉุดกระชากลากถูกันอยู่นั่นเองฟ้าก็ผ่าครืนลงมาเต็มหัว
เพล้ง...!
เขาไม่รู้เลยว่าฟ้าที่ผ่าลงมากะทันหันนั้นความจริงเป็นขวดเหล้าซึ่งเหลือเหล้าอยู่เกือบเต็มขวดหวดฟาดลงมาเต็มแรง เศษแก้วเศษเหล้ากระเด็นเซ็นซ่านไปทั่ว ท่ามกลางเสียงหวีดร้องอย่างตกใจของผู้คนในภัตตาคาร ชายหนุ่มผู้น่าสงสารและน่าซ้ำเติมร่างทรุดลงนอนฝันหวานกับพื้น เลือดสีแดงเริ่มไหลออกมาปนเปกับธารน้ำเหล้า
เขาไม่รู้เลยว่าคนที่ตีหัวเขาเป็นชายหนุ่มผู้เดินตามหลังออกมาจากห้องน้ำ ซึ่งตอนนี้กำลังอธิบายถึงความชอบธรรมและความเป็นธรรมในการใช้วิชาขวดสุราปลิดวิญญาณ
“ผมไม่รู้ว่าเขาเกิดบ้าอะไร สังหรณ์ใจตั้งแต่ในห้องน้ำแล้ว เห็นเขายืนพูดกับตัวเองเหมือนคนบ้า ดูสิ...อยู่ดีๆก็มาฉุดแฟนผมต่อหน้าต่อตา ... ใครจะทนไหว ไม่รู้ว่าเขาเกิดบ้าอะไรขึ้มมา”
ใช่...เขาไม่รู้เลยว่า เขามาผิดโต๊ะ....ความเมาทำให้ตาลาย ผู้หญิงโต๊ะนี้บังเอิญสวมเสื้อผ้าสีสันคล้ายๆกันกับคนรักของเขาเท่านั้น ทรงผมสลวยมองจากด้านหลังก็ยังคล้ายกันอีก อารมณ์ร้อนผสานความเมาทำให้ไม่ทันได้มองให้ถนัดชัดตา
และที่น่าเจ็บใจที่สุด..เขาไม่รู้เลยว่า....ความจริงแล้ว ตัวเองไม่จำเป็นต้องกระทำการอันนำไปสู่ภัยพิบัติแบบนี้เลย แค่กลับโต๊ะตัวเองให้ถูกที่ถูกทาง เรื่องก็จบด้วยดี
เพราะแฟนของเขาได้ลุกเดินออกจากร้านไปตั้งแต่ช่วงที่เขาลุกจากโต๊ะไปเข้าห้องน้ำแล้ว
จบแล้วครับ