[CR][SR] Shangri-La : การเดินทางนับพันไมล์สู่ดินแดนแห่งความฝัน

Shangri-La : การเดินทางนับพันไมล์สู่ดินแดนแห่งความฝัน





ขึ้นชื่อว่าพี่จีน ในความรู้สึกแรกของหลายๆคนรวมทั้งตัวผมเองด้วย สิ่งที่เราจะนึกถึง นอกจากจำนวนประชากรที่มากที่สุดในโลกแล้ว ก็คงเป็นเรื่อง “ห้องน้ำ” เพราะเราได้ดูจากสื่อหรือฟังมาจากคนรอบข้างที่เคยเดินทางไปจีน ก็กลับมาเล่าแต่เรื่องห้องน้ำ ไม่เคยเห็นจะพูดเรื่องอื่น เฮ้ออออ จนกระทั่งเราได้อ่านรีวิวของพี่ๆ กลุ่มนึงที่เรารู้จักเป็นอย่างดี(กระซิบนิดนึงว่ากระทู้ไปจีนพี่เค้าอันนี้เขียนดีมากเพราะเราได้ใช้ประโยชน์จากกระทู้นี้เยอะมาก) เมื่ออ่านรีวิวแล้วก็คุยกะเพื่อนร่วมทริปว่าเห้ยจีนยิ้มสวยสลัด ยังไงเราต้องไปให้ได้ ตามรอยพี่ๆกลุ่มนี้เลย แต่ขอเล่าย้อนนิดนึงว่า การไปเที่ยวต่างประเทศแต่ละที มันต้องไปยาวๆหน่อย จะให้ไปสี่ห้าวันกลับก็ไม่น่าจะคุ้มกะเงินที่เสียไปสิครับ ซึ่งช่วงที่เราเลือกเดินทางครั้งก็เป็นช่วงหยุดยาวเลย ใช่แล้ว สงกรานต์นั่นเอง ไม่ใช่หยุดแค่ตามที่บริษัทประกาศเท่านั้นแต่เราต้องลาเพิ่มด้วย ใบหน้าของหัวหน้าลอยมาเลยครับ แต่ผมสัญญาครับบอส กลับมาผมจะทำงานให้หนักขึ้นอีก 18 เท่า 555 ที่บอกว่าจะเล่าย้อน คือ เนื่องด้วยเราเป็นคนชอบเดินทางท่องเที่ยวเป็นปกติอยู่แล้ว ทำให้เราได้พบเจอผู้คนมากมาย และผู้คนเหล่านั้นก็คือเพื่อนนักเดินทางตัวยงเช่นกัน เราติดต่อกันอยู่เสมอ ถึงแม้จะทำงานคนละที่ แต่เมื่อถึงเทศกาลหยุดยาวเราก็มักจะเดินทางเที่ยวด้วยกันตลอด แต่ความยากมันเกิดเมื่อมีหลายทริปหลายประเทศเหลือเกิน หนึ่งในสองทริปที่ทำผมลังเลใจมากก็คือทริปพม่ากับคนบ้าๆและทริปจีนกับคนดีๆอย่างพวกผมนี่แหละ 5555 ตัดสินใจเด็ดขาดแล้ว ด้วยเหตุผลที่ดูไร้สาระมาก คือ พม่าร้อนอิตายอยู่ไทยก็คงไม่ต่าง เห้ยแต่พม่านี่ชเวดากองเลยนะ แต่จีนก็มีหิมะรออยู่นะ เออสรุปเลย จีนนั่นแหละ แต่ก็ไม่วายก็ยังคิดทุกวันว่าไปไหนดีวะ จนกระทั่งจองตั๋วเดินทางแหละครับ ถึงได้แน่วแน่แล้วว่าจะไป จีนเป็นแน่แท้ เยี่ยม

เกริ่นนำกันนิดนึง
ทริปนี้เอาจิงๆเวลาในการเตรียมข้อมูลน้อยมาก อาศัยอ่านจากรีวิวเป็นหลัก นัดกันมาวางแผนแค่คร่าวๆครั้งเดียวพอ ที่เหลือไปตายเอาดาบหน้าละกัน เห้ยแต่ไป 8 คืน  8วัน เลยนะ จะวางแผนแค่นี้จริงๆหรอ ก็ตามนั้นเลยครับ ได้แค่ไหนก็เอาแค่นั้น ยิ่งใกล้วันเดินทางก็ยิ่งตื่นเต้น วีซ่ายื่นไปแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้คำตอบจากสถานทูตซะทีว่าผ่านมั้ย สมาชิกในทริปกังวลมากกลัวว่าวีซ่าจะไม่ผ่าน เพราะเรายื่นเอง ไม่ได้จ้าง เอเจนซี่ไปยื่นให้ เราต้องเตรียมทุกอย่างให้พร้อม ไม่ว่าจะเป็น พาสปอร์ต รูปถ่าย 2 นิ้ว 1 รูป และเงินอีก 1500 บาท จากนั้นก็รอคอยอย่างมีความหวัง รอแล้วรออีกก็ไม่มีวี่แววว่าสถานทูตจีนจะส่งข้อความมาแจ้ง เพราะสมาชิกที่เป็นตัวแทนไปยื่นบอกว่า สถานฑูตจะส่งแจ้งมาทางข้อความให้ไปรับวีซ่า รอไม่ไหวแล้วพี่น้องครับ จะไปติดต่อสถานทูตเองก็ไปไม่ได้ เพราะต้องทำงาน ในเมื่อไปไม่ได้ก็ติดต่อทางโทรศัพท์สิ นี่ปี2016 แล้วนะ จะมานั่งรอคอยนกพิราบคาบจดหมายมาส่งข่าวก็ใช่ที่ สมาชิกในทริป ก็กระหน่ำโทรไปสถานฑูตจีนกันเลยครับ แต่โทรไปกี่สายก็ไม่มีวี่แววว่าจะมีคนรับเลย ความเครียดเพิ่มเป็นทวีคูณ ทริปจีนในฝันของเราต้องจบตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มเดินทางเลยรึ ผมไม่ยอมให้มันจบง่ายๆแน่ เราพยายามทุกวิถีทางเพื่อให้ได้วีซ่ามา วิธีสุดท้ายก็คือ นำเลขใบรับพาสปอร์ตไปเชคสถานะในระบบเลยครับ ว่าวีซ่าได้รึยัง แต่แล้วพระถังซัมจั๋งก็เลือกเราครับในระบบแจ้งว่ามีการตรวจสอบแล้วให้ไปเอาวีซ่าได้เลย(แต่ยังไม่รู้วีซ่าจะผ่านรึป่าว แค่ให้ไปรับพาสปอร์ตคืนเท่านั้น) ร้องไห้หัวเราะ

    ในที่สุดเราก็ได้วีซ่ามาไว้ในครอบครองก่อนวันเดินทาง 3 วัน เกือบได้นอนแช่น้ำอยู่บ้านยาวแล้วครับ และแล้วก็ถึงวันเวลาที่จะได้เดินทางออกไปสู่ดินแดนอันกว้างขวางและไกลโพ้น ได้ปลดปล่อยความเหนื่อยล้าจากการทำงาน ได้เดินทางอย่างอิสระในแบบที่เราต้องการ ต้องบอกก่อนนะครับว่า การเดินทางของเรามันทรหดมาก เพราะตอนไปเราไม่ได้นั่งเครื่องบินชั้นเฟิร์สคลาสหรือบัสสิเนสคลาสอะไรทั้งนั้น เรานั่งรถจากหมอชิตไปครับ ฟังไม่ผิดแน่ๆ ครั้งแรกที่เพื่อนสมาชิกในทริปบอกว่านั่งรถไป ผมตกใจมากๆ แล้วก็พยายามถามเหตุผลว่าทำไมไม่นั่งเครื่องไป เท่าที่จำได้เพื่อนคนนั้นบอกว่า นั่งรถอะเราจะได้เห็นอะไรมากกว่านั่งเครื่องบิน ตอนแรกผมก็ค่อนข้างกังวลว่ามันจะอันตรายมั้ยและเสียเวลามากไปรึเปล่าในการเดินทางด้วยวิธีนี้ แต่สปอยไว้ก่อนเลยครับว่า การนั่งรถทัวร์ไปจีนครั้งนี้มีครบทุกรสชาติของการเดินทาง ถ้าไม่เลือกรถทัวร์ก็คงไม่ได้เจอเหตุการณ์ที่น่าสนุกและน่าปวดหัวมากเท่านี้เลยละครับ

สิ่งที่ควรเตรียมไปด้วยเพื่อความอยู่รอดตลอดทริป(เรียงลำดับตามความสำคัญ)
1.แอพพลิเคชั่นที่ชื่อว่า VPN Master ที่ใช้ในการเล่นFacebookและLineเพราะว่าที่จีนเค้าบล็อกโซเชี่ยลพวกนี้ ถ้าขาดแอพนี้เหมือนขาดใจ
2.แอพพลิเคชั่นแปลภาษาจีนเป็นภาษาอังกฤษ เพราะเท่าที่ทราบคือ อาตี๋ อาหมวยเค้าชาตินิยมสูง ไม่พูดอังกฤษจ้า
3.มาม่า อาหารแห้ง น้ำพริก อาหารจีนเป็นไงไม่รู้ แต่เตรียมอาหารบ้านเราไปเผื่อ อย่างน้อยก็อุ่นใจว่าแม่ประนอมยังรสชาติดีเหมือนเดิม
4.รูปภาพของสถานที่ที่จะไป ปริ้นและนำมาไว้ใต้หมอนนอนก่อนจะเดินทาง1วัน แล้วเราจะไม่หลงทาง5555 (เป็นความเชื่อส่วนบุคคล)
5.แผนที่ ผมอุตส่าห์ลงทุนไปเดินงานหนังสือ แต่ก็ไม่ได้ซื้อ เพราะทางร้านบอกว่า ตอนเดินทางเข้าแต่ละเมืองจะมีแผนที่แจกฟรี ดีไปอีก งั้นไม่ซื้อแต่โหลดแผนที่ออฟไลน์ไปแทน


ชื่อสินค้า:   แชงกรีล่า , คุนหมิง , จงเตี้ยน , เต๋อชิง
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่