[CR] :: ทีลอซู . . . เมื่อฉันอยากไป ก็ต้องไป ::

ทีลอซู . . . เมื่อฉันอยากไป ก็ต้องได้ไป


เคยนั่งลิสต์ My Dream Destination ของตัวเองไหม แล้วเคยคิดไหมว่าเราจะได้ไปที่นั่นจริงๆ ???


นี่คือ My Dream Destination ที่ที่ 2 ของเราเอง ‘ทีลอซู


ช่วงหน้าฝน คงไม่มีที่ไหนดีกว่าการได้ไปเที่ยวน้ำตกมั้ง แล้วทำไมถึงต้องเป็นทีลอซูล่ะ?


                 ‘ทีลอซู’ ไปได้เกือบทุกเทศกาลมั้ง แต่ที่เราเลือกไปหน้าฝนก็เพราะเหตุผลที่ใครๆ ก็รู้ ‘น้ำเยอะ’ แน่ๆ และที่สำคัญ การไปทีลอซูช่วงหน้าฝนไม่สามารถเอารถขึ้นไปได้ ฉะนั้นการเดินแทนนั่งรถเป็นอะไรที่น่าจะมันสุดๆ นั่นคือสิ่งที่เราคิดไว้ก่อนจะไป การหาข้อมูลก็ไม่ยากค่ะ มีคนรีวิวไว้พอสมควร การเดินทางไม่ลำบากด้วย

                 ‘ทีลอซู’ อยู่ อุ้มผาง จ. ตากค่ะ การเดินทางจาก กทม. – อุ้มผาง ไม่ยาก (แบบรถทัวร์นะ) นั่งรถ 2 ต่อเท่านั้น เราต้องซื้อตั๋ว กรุงเทพฯ – แม่สอด ก่อนเลย เราไปรอบ 4 ทุ่มตรง ถึงแม่สอดประมาณ 8 โมงกว่า ช่วงที่เราไปเป็นช่วงเทศกาลวันอาสาฬหบูชา เข้าพรรษา แน่นอน! รถติดค่ะ ต่อที่ 2 คือนั่งรถจากขนส่งแม่สอด – อุ้มผาง พอลงรถทัวร์ปุ๊บ เราก็จะเห็นรถสองแถวไปแม่สอด มันคือรถสองแถวธรรมดาๆ สีฟ้าๆ ทั่วไปนะแหละ ข้างรถมีเขียนว่าไปอุ้มผาง บางคันไปท่าสองยาง ให้ขึ้นคันที่ไปอุ้มผางนะคะ ค่ารถ 130 บาท กับการเดินทาง 3 ชม. ถูกสุดๆ ไปเลยใช่ป่ะล่ะ ใช่ค่ะ! เราต้องนั่งรถสองแถวคันนี้ 3 ชม. เพื่อเข้าอุ้มผางกัน บอกแล้วว่าเดินทางง่ายแค่ 2 ต่อเท่านั้น เวลาเดินทางรวม 11 ชม. โดยประมาณ!!!



                 พอดีว่าเราไม่ได้อะไรกับการนั่งรถนานๆ (แต่ไม่โอเคกับการต่อรถบ่อย) เรามองว่าทางที่ไปมันทำให้เราเห็นอะไรหลายๆ อย่าง ที่คนเมืองกรุงไม่เคยเห็น ตลอดทางที่นั่งช่วงแรกๆ เป็นทางถนนและก็เริ่มเข้าทางโค้ง เหมือนเรานั่งรถเข้าไปตามแนวเขา อากาศเย็นสบาย ลมพัดแรงจนเราหนาว ระหว่างทางชาวบ้านบนรถนั่งคุยกันจนรถคิดว่า เค้าเป็นเพื่อนกัน แต่จริงๆ แล้ว เพิ่งมาเจอกันบนรถ พอถึงจุดพักรถ มีน้องคนนึงเป็นผู้หญิงลงไปซื้อมาม่า พอเห็นเราน้องก็ยื่นมาม่ามาให้ ถามเราว่า ‘พี่กินด้วยกันมั้ย’ มันก็รู้สึกแปลกๆ เนอะ ถ้าอยู่ในเมืองเราคงไม้มีโอกาสได้ยินอะไรแบบนี้ ซักพักน้องคนนี้ก็ลงรถที่ศูนย์อพยพอุ้มผาง ศูนย์อพยพนี้คือ สถานที่สำหรับชาวบ้านที่อาศัยอยู่ตามตะเข็บชายแดนไทยพม่า สำหรับผู้ที่หลบภัย ก่อนลงน้องยกมือไหว้ สวัสดีค่ะ เป็นความรู้สึกดีแปลกๆ เราว่าพ่อกับแม่น้องสอนน้องมาดีมากนะ น้องน่ารักดี ยิ้ม


(ไม่ใช่น้องในภาพนะคะ)


                 แล้วเราก็นั่งรถต่อไปอีกเป็นชั่วโมง หลับบ้างตื่นบ้าง ในที่สุดเราก็มาถึง ‘กัญญาภัค รีสอร์ท’ ตอน 13:30 โดยประมาณ โดยรถสองแถวขับเข้ามาส่งให้เลย เราพักบ้านสายรุ้ง ไม่มีแอร์แต่อากาศเย็นสบาย เปิดพัดลมอย่างเดียวก็หนาวแล้ว หลังจากเก็บของ อาบน้ำ ก็มานั่งคุยกับพี่อาร์ม เจ้าของรีสอร์ทถึงโปรแกรมพรุ่งนี้ที่เราจะไป แล้วก็กินข้าวเย็น และก็ไปพักผ่อน เตรียมตัวสำหรับการเดินทางวันพรุ่งนี้ พี่อาร์มให้ถุงพลาสติกใบใหญ่มาเพื่อใส่เฉพาะของที่จำเป็นต้องใช้เวลาไปที่น้ำตก ฉะนั้นของที่ไม่จำเป็นไม่ต้องเอาไป และที่สำคัญมีลูกหาบ สบายยยยยยยย . . .



                 เช้าวันที่ 17 เราเริ่มออกเดินทางตอน 08:30 นั่งรถออกจากรีสอร์ทไปที่ลงเรือยาง เรือที่เรานั่งไปมีสมาชิก 5 คน ลูกเรือ 3 และพี่ที่พาย 2 คน เราไปคนเดียวทางรีสอร์ทเลยให้เราไปจอยกับคู่สวีทคู่นึง พี่ที่พายเรือเป็นพม่าหรือกระเหรี่ยงนี่ละ คุยภาษาไทยรู้เรื่องและก็คุยสลับกับภาษากระเหรี่ยง



ต่อไปคือวิวระหว่างทางจ้าาาาาาาา







เมื่อออกเรือไปได้ไม่ไกลจะเจอ ถ้ำผางู พี่ที่พายเรือให้เราคอยเป็นไกด์แนะนำให้เราตลอดทาง ^^





น้ำตกสายรุ้ง แต่ไม่เห็นสายรุ้ง เพราะตอนที่ไปแดดไม่ค่อยมี พี่ที่พายเรือให้เราบอกว่าจะเห็นชัดช่วงเมษา รู้สึกเสียดายนิดหน่อยที่มาแล้วไม่เจอ พี่เค้าบอกว่ามีแค่ตรงนี้ที่เดียวด้วยที่เป็นสายรุ้ง แต่ก็สวยไปอีกแบบ เราชอบรูปนี้ที่สุด



พอล่องเรือยางมาสักพัก เราจะเจอบ่อน้ำร้อน สามารถไปนั่งพักแช่ตัวได้ และมีห้องน้ำสะอาดให้เข้าด้วย








หลังจากที่เราไปชมบ่อน้ำร้อนและเข้าห้องน้ำเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เราก็ลงเรือยางและไปต่อ




                ตามโปรแกรมแล้วเราต้องล่องเรือยาง 3 ชั่วโมง ต่อด้วยเดินขึ้นไปอีก 3 ชั่วโมง ซึ่งทางเดินก็เป็นถนนทางรถวิ่ง แต่แค่ช่วงหน้าฝนเอารถขึ้นไม่ได้ก็เท่านั้นเอง มีทั้งทางราบ ขึ้นเขา ลงเขานิดหน่อย ไม่ลำบากมากพอเดินกันได้ค่ะ


พอขึ้นฝั่ง เราก็เริ่มเดินเข้าป่ากันเลย ต้นไม้เยอะ เห็นแล้วชื่นใจ มันชุ่มชื้นดีมากๆ



ทางเดินแนวนี้สวยดีนะ เดินง่าย แต่ต้องระวังยุงให้มาก มันบินตามแบบไม่ลดความพยายาม เศร้า



บางจุดก็ไม่ค่อยเป็นใจให้เราเดินเท่าไหร่ แต่ก็สนุกดี นี่ขนาดช่วงที่ไปฝนไม่ตกมา 2-3 วันนะ



ยิ่งแล้วใหญ่ เจอแบบนี้ มันไปอีก 555555555


               แล้วเราก็เดินกันไปเรื่อยๆ จากที่ลูกเรือมากัน 3 คน เดินไปเดินมาเหลือคนเดียว 55555 เพราะเค้าเป็นแฟนกัน ทิ้งระยะให้เค้าอยู่ด้วยกันบ้าง ยังไงก็ต้องขอขอบคุณนะ ที่ให้เราหนีบมาด้วย เลยอาจทำให้สวีทได้ไม่เต็มที่ ยิ้ม


ระยะทางเกือบ 12 กิโลกับ 3 ชม. ในที่สุด . . . เราก็มาถึงซักที


                เขตุรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผางเป็นพื้นที่โล่งๆ สนามหญ้า กางเต๊นได้ มีห้องน้ำหลายห้องแยกชายหญิง 2 จุด ห้องน้ำตรงทางเข้าจะเก่าและสกปรกหน่อย ถ้าเดินขึ้นไปอีกหน่อยไม่ไกลกันจะไม่ค่อยมีคนเข้า ค่อนข้างสะอาดและใหม่ เป็นแบบชักโครก มีช่วงเวลาเปิดปิดไฟ ถ้าจำไม่ผิดช่วงที่มีไฟฟ้าจะเป็นช่วง ตี 5 - 3 ทุ่ม หลังจากนั้นก็จะมืดหมดยกเว้นตรงจุดทำการยังมีไฟฟ้าอยู่



                อาหารเย็นของเรา มีแม่ครัวจากรีสอร์ทขึ้นมาทำกับข้าวให้เรากิน อาหารอร่อยและถูกปาก ที่สำคัญน้ำพริกของรีสอร์ทอร่อยมาก หลังจากที่เราซัดกันไปคนละจาน 2 จาน เราก็แยกย้ายกันไปเข้าเต้นท์ เตรียมพร้อมสำหรับวันพรุ่งนี้



                อันนี้เป็นเต้นท์ของรีสอร์ทอื่น แต่ของกัญญาภัคเค้าจะกางเต้นท์ผ้าใบให้ชั้นนึง แล้วก็เป็นเต้นท์ส่วนตัวของใครของมัน ช่วงหัวค่ำอากาศไม่เย็นออกไปทางร้อนนิดหน่อย ไม่ค่อยมีลม เราชะล่าใจนอนไปซักพักอากาศเริ่มเย็นจนรู้สึกหนาวนิดๆ เกือบจะหลับสบายแต่ดันมีเสียงกรนเกิดขึ้น Zzzzz . . 5555555555

                เช้าแล้ว ไม่มีใครปลุกแต่ตื่นเพราะไม่ได้นอนทั้งคืน ต่างคนต่างไปอาบน้ำแปรงฟันแล้วมาประจำที่โต๊ะอาหารเพื่อนทานข้าวเช้ากัน และข้าวเช้าของเราคือ ข้าวต้ม บะหมี่



                ถ้าใครจัดการตัวเองเสร็จเร็วก็ไปน้ำตกทีลอซูได้เลย เหยยยย! หมายความว่าไง หมายความว่าเราต้องเดินไปอีกหรอ ใช่ค่ะ! จากที่ที่เรากลางเต้นท์เดินไปอีก 1.5 กิโล ไม่ไกลถ้าเทียบกับที่เราเดินทางเมื่อวาน ฮ่าๆ


ทางเดินเดินง่าย ชอบต้นไม้ต้นนี้ มีรูด้วย ยิ้ม



ขอแอบถ่ายเพื่อนร่วมทริปซะหน่อย อมยิ้ม04



ทางไปน้ำตกเป็นแบบนี้ค่ะ เดินสบายแต่ระวังลื่นนะคะ มันมีมอส ตะไคร่ขึ้นเขียวๆ พาไม้ค้ำเดินไปด้วยก็ดีนะคะ



เดินๆ ไปซักพักพี่ที่พายเรือให้เราก็หยุดแล้วมองไปทางเดียวกัน เราก็เข้าใจว่าเค้ารอเรา แต่ไม่ใช่เลย เค้าอยากให้เราได้เห็นมุมนี้ น่ารักที่สุด ใครว่าเราพลาดน้ำตกสายรุ้ง สายรุ้งนี้สวยกว่ามากกกกกกกกกก แนะนำว่าถ้าใครเจอถ่ายรูปไว้เลย เพราะขาลงแดดอาจจะหมดและไม่เห็นสายรุ้งแล้วก็ได้


                ยิ่งเราเดินไปเท่าไหร่ เราก็ยิ่งได้ยินเสียงน้ำตกดังขึ้น ดังขึ้น ชาวบ้านบอกว่า ทีลอซู แปลว่า น้ำตกดัง น้ำตกใหญ่ เป็นภาษากระเหรี่ยง ยิ่งเสียงดังเท่าไหร่ เราก็ยิ่งตื่นเต้น และในที่สุดก็ถึงแล้ว . . . .





                ของจริงสวยกว่านี้มากๆ แต่เราถ่ายรุปไม่สวยเอง 5555 น้ำตกเป็นชั้นๆ น้ำเยอะมาก ไหลลงทีเหมือนเป็นผ้าม่าน นอกจากตรงนั้นแล้ว ยังมีน้ำตกเล็กๆ เป็นชั้นๆ ให้ปีนไปเล่นได้ด้วย ป่าอุดมสมบูรณ์มาก มอสขึ้นเขียว ต้นไม้รกมีหลายพันธุ์ และไม่มีขยะด้วย เราเห็นเค้ามาถ่าย Pre wedding กันด้วยล่ะ มีความพยายามมากจริงๆ ยิ้ม
ชื่อสินค้า:   น้ำตกทีลอซู
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่