สวัสดีค่าเพื่อนๆ
กระทู้นี้เราตั้งใจทำขึ้นมาสำหรับคนที่อยากจะจัดทริปไปเที่ยวยุโรปเองค่ะ
>>ไม่จำเป็นต้องเที่ยวตามที่เราไปก็ได้..สามารถเอาไปประยุกต์ใช้ได้นะคะ
(เพื่อนๆที่เคยไปแล้วมาแบ่งปัน มาช่วยแชร์ก็จะดีมากๆเลยค่า)
"เที่ยวยุโรป" อาจเป็นความฝันของใครหลายๆคน แต่มันจะเกิดขึ้นจริง ถ้าเราตื่น 5555 ล้อเล่น
เรานี่แหละ ใฝ่ฝันมานาน และเราก็ทำให้มันเป็นจริงได้ ดังนั้น เราเชื่อว่า..ใครๆก็ไปได้ ความฝันเป็นจริงได้ ถ้าเรามีสิ่งนี้.....

5 สิ่งที่ทำให้ฝันการท่องเที่ยวยุโรปด้วยตัวเองเป็นจริง
อันนี้คือกระทู้แรก และจะเป็นกระทู้หลักที่เราจะแปะลิ้งค์แบ่งปันข้อมูลทุกๆอย่างเกี่ยวกับทริปยุโรปที่เราไปผจญภัยมา
(จะค่อยๆทยอยอัพค่ะ จะค่อยๆเขียนน้า เราเป็นมือใหม่ห้องบลู ^^)

ทริปเนเธอร์แลนด์ เบลเยี่ยม เยอรมันนี 16 วัน 12 เมือง 3 ประเทศ แนวผจญภัยโรแมนติค บนทางเดินแห่งความฝัน Introduction
Part Introduction >>
http://pantip.com/topic/35424908
ในชีวิตจริง...การที่เราจะลงมือทำอะไรแล้วสำเร็จ นั่นก็เพราะเรามี "เป้าหมาย+Plan" ฉันใด
การท่องเที่ยวก็ต้องมี "เป้าหมาย+การวางแผน" ฉันนั้น
ซึ่งก็แล้วแต่สไตล์การท่องเที่ยวและความชอบของแต่ละคน
ใช่แล้ว!!!! ถ้าเรามีเป้าหมาย และเราชัดเจนกับมัน...เราจะไม่ "หลุด" และจะทำสิ่งนั้นให้สำเร็จจนได้
การไปเที่ยวนี่มัน...แลดูจริงจังเนอะ55555 เป็นคนชอบเที่ยวค่ะ ^^
5 สิ่งที่ทำให้ฝันการท่องเที่ยวยุโรปด้วยตัวเองเป็นจริงคือ....
1. ออกแบบการท่องเที่ยว
2. ตั้งงบและวางแผนเก็บตังค์ไปเที่ยว
3. วางแผนการท่องเที่ยวและการเดินทาง
4. การขอวีซ่าเชงเก้น
5. ของสำคัญที่ต้องเตรียมไป
ข้อแถม. ลุยให้เต็มที่ (เพราะช่วงใกล้ๆบางคนจะรู้สึกหวั่นๆนิดนึง - โดยเฉพาะคนจัดทริป/หรือคนพาเที่ยว 555 เพราะทุกอย่างกุมไว้อยู่ในมือเรา < ไม่รู้เพื่อนๆเป็นรึเปล่านะ แต่เราเป็นบ่อย เพราะเป็นคนจัดทริปตลอดเลย555 คืออยากทำให้ทุกคนที่ไปกับเราสนุกและมีความสุขอะ นี่คือ mission)
แค่นี้จริงๆ
มาลงรายละเอียดกันสักนิดนะ
1. ออกแบบการท่องเที่ยวของเรา (และผู้ร่วมเดินทางด้วยกันก่อน) >> ลองถามและตอบกับตัวเองดูนะคะ
-ทำไมเราถึงอยากไปเที่ยว?
-เราอยากเที่ยวประเทศอะไร เมืองอะไร?
-ไปกับใคร? (หรือใครอยากไปกับเรา? เอ๊ะ.. หรืออยากลุยเดี่ยว..)
-สิ่งที่อยากทำตอนไปที่นั่น?
-เน้นอาหารรึเปล่า...อาหารที่อยากชิม?
-ของที่อยากช้อป?
-สถานที่ที่อยากไปชม?
-กิจกรรมที่อยากทำ?
-ฤดูและสภาพอากาศของช่วงที่อยากไป
คำถามเหล่านี้จะช่วยให้เราออกแบบคร่าวๆ ไม่ต้องตอบหมดก็ได้ ไว้เป็นไอเดีย เป็นแรงบันดาลใจ และจะช่วยเพิ่ม"อรรถรส"ในการเดินทางท่องเที่ยวด้วยน้า
สำหรับเรา >เราตั้งเป้าหมายไว้ตั้งแต่ 1 ปีก่อนแล้ว , ส่วนประเทศที่อยากไปโซนยุโรป "ครั้งแรก" คือ ประเทศเยอรมันนี และประเทศเนเธอร์แลนด์ , ไปช่วงไหนก็ได้ แต่เพื่อนชาวเยอรมันบอกว่า หน้าร้อนดีที่สุด ก็เลยไปหน้าร้อน (แต่คนไทยคงอยากไปช่วงหนาวๆ หรือมีหิมะ เพราะความรู้สึกและประสบการณ์ก็จะแตกต่างออกไป ตอนเราไปเจอหิมะที่ญี่ปุ่นก็รู้สึกฟินมาก...ก็ที่ไทยไม่มีนี่นา อิอิ)
ยังไม่มีแพลน ยังไม่รู้ว่าจะเที่ยวเมืองไหนบ้าง เลยต้องศึกษา หาอ่านจากเวบ จากพันทิป และซื้อหน้งสือมาอ่าน

ซื้อมาตั้งแต่ปีที่แล้ว...5555 มาอ่านอีกทีตอนก่อนที่จะไป 11 วัน 555 ฝุ่นจับ!!
เค้าเขียนดีมากจริงๆ ตอนไปเที่ยว เราหิ้วเล่มนี้ไปด้วยนะ เวิร์คมาก (แต่เราเที่ยวหลายวัน หลายเมืองกว่าเค้า และไม่ได้ไปฝรั่งเศษอะ)
2. วางแผนเก็บตังค์ >> เมื่อเรามีแรงบันดาลใจ เราก็ต้องวางแผนเก็บตังค์ค่ะ
เราเป็นเพียงพนักงานประจำคนนึง ไม่ได้มีเงินเยอะพอที่จะไปง่ายๆ เหมือนใครหลายๆคนที่เค้ามี "โอกาส" มากกว่า ....ถ้าเรามีตังค์ การเที่ยวยุโรปครั้งแรกเราจะไปกับทัวร์ 555 เพราะคิดว่าเราจะได้เรียนรู้ก่อนไปเที่ยวเอง แต่ค่าทัวร์ที่เราสนใจก็แพงมากๆ และเราชอบสไตล์เที่ยวออกแบบเองมากกว่า....อยากทำไรก็ทำ ตื่นกี่โมง หรือเที่ยวไหนตามสไตล์เรา เลยตัดสินใจเที่ยวเองค่ะ
ดังนั้น "โอกาส...เราจึงต้องสร้างมันขึ้นมาเอง" ถึงแม้เราจะมีเงื่อนไขใน Introduction ว่าจะต้องได้ตั๋วฟรี จะต้องได้ที่พักฟรี... แต่เราก็ทำงานเพื่อแลกสิ่งเหล่านั้นมาเป็นเวลามากกว่า 1 ปีครึ่งนะ และสุดท้ายปีนี้เราก็ได้มัน...แบบอเมซิ่งสุดๆ ไม่คิดว่าสิ่งที่คิดจะเกิดขึ้นจริง << นั่นคือการสร้างโอกาสครั้งที่ 1 (หากเพื่อนๆเชื่อในกฎแรงดึงดูด เราจะมาแชร์ให้ฟัง มันอเมซิ่งและเกิดกับเราหลายเรื่องแล้ว ซึ่งมันก็ไม่ได้เกี่ยวกับโชคชะตาหรอก)
นอกจากค่าตั๋วเครื่องบินและที่พักแล้ว ค่าใช้จ่ายต่างๆที่เราต้องออกเอง ก็คือ "โอกาสที่เราต้องสร้างเองจริงๆ"
1.ค่าเดินทางภายในประเทศและระหว่างเปลี่ยนประเทศ
2.ค่ากิน
3.ค่าธรรมเนียมเข้าชมสถานที่ต่างๆที่อยากเข้า
4.ค่าช้อปปิ้งของฝากจิปาถะ (จะเปลืองตังค์ก็ตรงนี้เนี่ยแหละ)
5.ค่า internet
คาดเดาเอาไว้ว่า 50,000 บาท น่าจะอยู่ จึงได้วางแผน "ออมเงินสำหรับเที่ยว" หักออกมาจากเงินเดือนในบัญชีเลย..เดือนละ 5,000 บาท
(เราเพิ่งรู้จักวางแผนออมเงินเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ซึ่งมันเวิร์คมาก มีเงินเก็บ เงินออม เงินให้พ่อแม่ เงินลงทุนไปเข้าคอร์สสัมมนา และเงินออมไปเที่ยว ถ้ามีโอกาสจะมาแชร์ค่ะ ^^)
จิบอกว่า.... วินัย สำคัญมากๆๆ เงินออมแต่ละประเภทห้ามไปยุ่งกับมัน..
เงินสำหรับใช้ก็ใช้เท่านั้น ไม่เช่นนั้น "ความฝัน" จะไม่เป็นจริงนะ << คอยเตือนสติตัวเองตลอดดด

ตัวอย่างค่าใช้จ่ายจริงในระหว่างการท่องเที่ยว (มันจะมีบางมื้อที่เราอยากกินดีๆ ของที่อยากซื้อ)
ซึ่งตอนได้ไปเที่ยวจริงๆ....เราได้มาแบบฉุกละหุก มีเวลาเตรียมตัว เพียง 11 วันเท่านั้น!!!
เนื่องจากแฟนเราได้โอกาสไปเทรนงานที่ประเทศเนเธอร์แลนด์พอดี!!....พร้อมกันนี้เราก็ได้งบซื้อตั๋วเครื่องบินฟรี(ที่ได้ก็มาจากงานที่ทำ ไม่ใช่ได้ง่ายๆ)
ดังนั้น.. เราจึงตัดสินใจตามไปเที่ยวระหว่างที่เค้าเทรน... ระหว่างเทรน เราก็ไปเที่ยว 5555
และจัดทริปเที่ยวด้วยกันต่อที่เบลเยี่ยมกับเยอรมันนีค่ะ
(ประหยัดค่าตั๋วเครื่องบินและที่พักที่เนเธอร์แลนด์...ส่วนที่พักในเบลเยี่ยมกับเยอรมันนีเราก็ใช้ Point ในการทำงานแลกที่พักฟรี ประหยัดเข้าไปอีก เดี๋ยวเราจะมาแนะนำเกี่ยวกับ Starwood Preferred Guest = SPG Pro นะจ๊ะ
เวบลิ้งค์ของ SPG ค่ะ>>
http://www.starwoodhotels.com/preferredguest/about/index.html?directoryId=spgpro&categoryId=brand.overview)
3. วางแผนการท่องเที่ยวและการเดินทาง มีคร่าวๆ 3 แบบค่ะ
1. วางแผนการเดินทางแบบละเอียดทุกขั้นตอน
> คือการวางแผนแบบละเอียดมากๆ เช่นกำหนดว่าใน 10 วันจะต้อวไปพักที่เมืองไหน รถออกกี่โมง วันนี้ต้องไปสถานที่นี้กี่โมง ไปให้ได้กี่ที่ใน 1 วัน ซึ่งมันดีมากๆ ทำให้ไม่หลงและชัวร์เรื่องเวลา แต่ข้อเสียคือเราไม่ยืดหยุ่น บางทีเหมือนบังคับตัวเองเกินไป จะเหนื่อยและเครียดกับการเดินทางได้ บางทีเราปวดหัวเลย เพราะเครียดตอนเตรียมแผน
2. วางแผนการเดินทางเฉพาะระหว่างเมือง
> คือกำหนดไปว่าวันนี้ถึงวันนี้เราจะไปประเทศอะไร เที่ยวเมืองอะไร แต่กำหนดการระหว่างวันสามารถปรับเปลี่ยนไปตามความเหมาะสม เพราะความเป็นจริงเราอาจเจอฝนฟ้าไม่เป็นใจ หรือป่วย ถ้ากำหนดคร่าวๆเราจะสามารถจองรถไฟข้ามเมืองได้ จองโรงแรม และแผนระหว่างวันดูเป็นวันๆ แผนนี้เราชอบนะ พอไปแต่ละเมือง เราจะไปที่ tourist information ไปเอา map มาดูว่ามีอะไรน่าสนใจ แล้วตะลุยเที่ยวเลย
เราชอบผสมกับแบบที่ 1 เวลาจัดทริป รู้สึกสบายใจดี และไม่ fix เกินไป ^^
3. วางแผนการเดินทางวันต่อวัน
> นี่แหละคือ backpaker ตัวจริง ไม่กำหนดอะไรเลย ค่ำไหนนอนนั่น เดินหาโรงแรมเอา คือมันอิสระมากๆๆๆ แต่เรารู้สึกว่าจะพลาดโปรโมชั่นราคาถูกหลายอย่าง ทั้งค่าเดินทาง ที่พัก ยิ่งจองนานยิ่งถูก จริงๆนะ แต่บางทีมันก็ตื่นเต้น เร้าใจดี เหมือนการผจญภัย
คุณคือสไตล์ไหนเอ่ย
สำหรับเพื่อนคนไหนอยากไปประเทศอื่นๆ ฝรั่งเศษ อิตาลี สวิสฯ ลักเซมเบิร์ก นอร์เวย์ ฟินแลนด์ ฯลฯ ลองศึกษาดูได้นะจ๊ะ

นี่คือประเทศที่วีซ่าเชงเก้นครอบคลุมค่ะ

แต่ถ้าเพื่อนๆที่มีแพลนจะไปประเทศเนเธอร์แลนด์ เบลเยี่ยม เยอรมันนี สามารถลอกเราได้ หรือเก็บไว้พิจารณาเอาไปเป็นตัวเลือกได้ค่ะ
3 ประเทศนี้ติดกันและสามารถเดินทางได้สะดวก มี Visa Shengen ก็ไปได้ทั่วค่ะ

คงจะอ่านกันไม่รู้เรื่อง เราเลยทำดีๆไว้ให้ดูนะคะ ^^
Tips
-การจองตั๋วเครื่องบินไป-กลับ
เพื่อนๆคนไหนที่มีฝันอยากไป...ลองมองหาตั๋วโปรโมชั่นดีๆ เวลาไปเดินเล่นตามงานท่องเที่ยว หรือแฟนเพจอาแปะ หรือสายการบินต่างๆดูนะคะ
ขอให้ได้ตั๋วบินราคาถูกๆน้า มีหลายสายการบินค่ะ ขึ้นอยู่กับว่าเราจะไปลงประเทศไหน - กลับประเทศไหน
> พอดีเรามีเงื่อนไขคือ ต้องบินไป-กลับกรุงเทพ- Schiphol Airport ,Amsterdam, The Netherlands เท่านั้น
(อย่างที่บอก..ตั๋วใบนี้มันเปลี่ยนแปลงไม่ได้ เลยต้องจัด route ให้เอื้อต่อการท่องเที่ยวครั้งนี้)

ส่วนของเรา เราใช้บริการสายการบิน KLM Royal Dutch Airline ค่ะ นั่งชั้น Economy บินตรงจากกรุงเทพฯ - สนามบิน Schiphol , ประเทศเนเธอร์แลนด์ ใช้เวลา 11 ชั่วโมงรวด (เมื่อยตูดเหมือนกัน) มีบริการอาหารว่าง 2 ครั้ง อาหาร 2 มื้อ ระหว่างการเดินทางจ้า (จองก่อนไป 11 วัน ราคา 4x,xxx บาท แม่เจ้าา) แต่ถ้าจองเนิ่นๆจะไม่แพงขนาดนี้ค่ะ
Tips
-การจองที่พัก > พอดีเราได้สิทธิ์ในการแลก point ของโรงแรมในเครือ starwood ก็เลยประหยัดในส่วนนี้มากๆค่ะ
แต่ถ้าให้แนะนำ เราชอบ booking.com เพราะสามารถจอง และยกเลิกได้ฟรีไม่เสียค่าธรรมเนียมในเวลาที่เค้ากำหนด แถมไปรูดบัตรจ่ายที่โรงแรมตอนเช๊คอินได้เลย สะดวกสบายจริง แต่บางครั้งก็ใช้ Agoda เพราะบางครั้งราคาถูกกว่า ^^ Expedia.co.th ก็น่าสนใจค่ะ
>>ส่วนทำเลที่พัก เราจะเลือกใกล้สถานีรถไฟในรัศมีการเดินไม่เกิน 1 กิโลเมตร ยิ่งได้ใกล้ยิ่งดีค่ะ ชีวิตจะสะดวกมากขึ้น 5555
ประเทศเนเธอร์แลนด์ เราพักที่เมือง Eindhoven โรงแรม Holiday Inn > จากสถานี Eindhoven ไปโรงแรมเพียง 6 นาที
ประเทศเบลเยี่ยม เราพักที่ Brussels โรงแรม Four Points by Sheraton > เดี๋ยวมารีวิว ยาว 555
ประเทศเยอรมัน เราพักที่ Munich โรงแรม Aloft Munich > อยู่ตรงข้ามกับสถานีรถไฟ Haufbahnof กลางของ Munich เลย ทำเลดีมากกก
และพักที่ Frankfurt โรงแรม Westin Grand Frankfurt > อยู่ใกล้สถานีใต้ดินและใจกลางย่านเดินเที่ยวเล่นที่ Frankfurt เลย ทำเลดีมากกก
4. การขอวีซ่าเชงเก้น
4.1 เตรียมเอกสารขอวีซ่า (เดี๋ยวมาแปะลิ้งค์เพิ่มให้จ้า)
4.2 ขั้นตอนการขอวีซ่า (เดี๋ยวมาแปะลิ้งค์เพิ่มให้จ้า)
5. ของสำคัญที่ต้องเตรียมไป

ลองลิสต์รายการไว้เลย จะได้ไม่ลืมค่ะ (แต่ก็ไม่ต้องเยอะเหมือนเราหรอก พอดีเราเตรียมของไปเยอะ จะไปทำคลิปแต่งหน้าด้วย 5555 ของเยอะมากมาย น้ำหนักเกินด้วย บางอย่างแบกไปฟรี T^T เช่นส้นสูง ที่หนีบผม เอาไปไม?)
และสิ่งที่จะทำให้เราจดจำ และสามารถเอามาแบ่งปันเพื่อนๆ ก็คือ กล้องของฉัน (งบน้อย เท่านี้พอ)
ุ6. พร้อมไปเที่ยวกันรึยังค้า?? ลุยยย Part Introduction >>
http://pantip.com/topic/35424908
หวังว่าจะเป็นประโยชน์นะคะ
อยากให้มาแบ่งปันอะไรเพิ่มเติม ถ้าเรารู้และสามารถบอกได้จะเข้ามาเพิ่มเติมจ้า
ส่วนเพื่อนท่านไหนมีข้อมูลมาแบ่งปัน ยินดีมากๆเลย
5 สิ่งที่ทำให้ฝันการท่องเที่ยวยุโรปด้วยตัวเองเป็นจริง (การวางแผนและเตรียมตัวเที่ยวยุโรปด้วยตัวเอง)
กระทู้นี้เราตั้งใจทำขึ้นมาสำหรับคนที่อยากจะจัดทริปไปเที่ยวยุโรปเองค่ะ
>>ไม่จำเป็นต้องเที่ยวตามที่เราไปก็ได้..สามารถเอาไปประยุกต์ใช้ได้นะคะ
(เพื่อนๆที่เคยไปแล้วมาแบ่งปัน มาช่วยแชร์ก็จะดีมากๆเลยค่า)
"เที่ยวยุโรป" อาจเป็นความฝันของใครหลายๆคน แต่มันจะเกิดขึ้นจริง ถ้าเราตื่น 5555 ล้อเล่น
เรานี่แหละ ใฝ่ฝันมานาน และเราก็ทำให้มันเป็นจริงได้ ดังนั้น เราเชื่อว่า..ใครๆก็ไปได้ ความฝันเป็นจริงได้ ถ้าเรามีสิ่งนี้.....
5 สิ่งที่ทำให้ฝันการท่องเที่ยวยุโรปด้วยตัวเองเป็นจริง
อันนี้คือกระทู้แรก และจะเป็นกระทู้หลักที่เราจะแปะลิ้งค์แบ่งปันข้อมูลทุกๆอย่างเกี่ยวกับทริปยุโรปที่เราไปผจญภัยมา
(จะค่อยๆทยอยอัพค่ะ จะค่อยๆเขียนน้า เราเป็นมือใหม่ห้องบลู ^^)
ทริปเนเธอร์แลนด์ เบลเยี่ยม เยอรมันนี 16 วัน 12 เมือง 3 ประเทศ แนวผจญภัยโรแมนติค บนทางเดินแห่งความฝัน Introduction
Part Introduction >> http://pantip.com/topic/35424908
ในชีวิตจริง...การที่เราจะลงมือทำอะไรแล้วสำเร็จ นั่นก็เพราะเรามี "เป้าหมาย+Plan" ฉันใด
การท่องเที่ยวก็ต้องมี "เป้าหมาย+การวางแผน" ฉันนั้น
ซึ่งก็แล้วแต่สไตล์การท่องเที่ยวและความชอบของแต่ละคน
ใช่แล้ว!!!! ถ้าเรามีเป้าหมาย และเราชัดเจนกับมัน...เราจะไม่ "หลุด" และจะทำสิ่งนั้นให้สำเร็จจนได้
การไปเที่ยวนี่มัน...แลดูจริงจังเนอะ55555 เป็นคนชอบเที่ยวค่ะ ^^
5 สิ่งที่ทำให้ฝันการท่องเที่ยวยุโรปด้วยตัวเองเป็นจริงคือ....
1. ออกแบบการท่องเที่ยว
2. ตั้งงบและวางแผนเก็บตังค์ไปเที่ยว
3. วางแผนการท่องเที่ยวและการเดินทาง
4. การขอวีซ่าเชงเก้น
5. ของสำคัญที่ต้องเตรียมไป
ข้อแถม. ลุยให้เต็มที่ (เพราะช่วงใกล้ๆบางคนจะรู้สึกหวั่นๆนิดนึง - โดยเฉพาะคนจัดทริป/หรือคนพาเที่ยว 555 เพราะทุกอย่างกุมไว้อยู่ในมือเรา < ไม่รู้เพื่อนๆเป็นรึเปล่านะ แต่เราเป็นบ่อย เพราะเป็นคนจัดทริปตลอดเลย555 คืออยากทำให้ทุกคนที่ไปกับเราสนุกและมีความสุขอะ นี่คือ mission)
แค่นี้จริงๆ
มาลงรายละเอียดกันสักนิดนะ
1. ออกแบบการท่องเที่ยวของเรา (และผู้ร่วมเดินทางด้วยกันก่อน) >> ลองถามและตอบกับตัวเองดูนะคะ
-ทำไมเราถึงอยากไปเที่ยว?
-เราอยากเที่ยวประเทศอะไร เมืองอะไร?
-ไปกับใคร? (หรือใครอยากไปกับเรา? เอ๊ะ.. หรืออยากลุยเดี่ยว..)
-สิ่งที่อยากทำตอนไปที่นั่น?
-เน้นอาหารรึเปล่า...อาหารที่อยากชิม?
-ของที่อยากช้อป?
-สถานที่ที่อยากไปชม?
-กิจกรรมที่อยากทำ?
-ฤดูและสภาพอากาศของช่วงที่อยากไป
คำถามเหล่านี้จะช่วยให้เราออกแบบคร่าวๆ ไม่ต้องตอบหมดก็ได้ ไว้เป็นไอเดีย เป็นแรงบันดาลใจ และจะช่วยเพิ่ม"อรรถรส"ในการเดินทางท่องเที่ยวด้วยน้า
สำหรับเรา >เราตั้งเป้าหมายไว้ตั้งแต่ 1 ปีก่อนแล้ว , ส่วนประเทศที่อยากไปโซนยุโรป "ครั้งแรก" คือ ประเทศเยอรมันนี และประเทศเนเธอร์แลนด์ , ไปช่วงไหนก็ได้ แต่เพื่อนชาวเยอรมันบอกว่า หน้าร้อนดีที่สุด ก็เลยไปหน้าร้อน (แต่คนไทยคงอยากไปช่วงหนาวๆ หรือมีหิมะ เพราะความรู้สึกและประสบการณ์ก็จะแตกต่างออกไป ตอนเราไปเจอหิมะที่ญี่ปุ่นก็รู้สึกฟินมาก...ก็ที่ไทยไม่มีนี่นา อิอิ)
ยังไม่มีแพลน ยังไม่รู้ว่าจะเที่ยวเมืองไหนบ้าง เลยต้องศึกษา หาอ่านจากเวบ จากพันทิป และซื้อหน้งสือมาอ่าน
ซื้อมาตั้งแต่ปีที่แล้ว...5555 มาอ่านอีกทีตอนก่อนที่จะไป 11 วัน 555 ฝุ่นจับ!!
เค้าเขียนดีมากจริงๆ ตอนไปเที่ยว เราหิ้วเล่มนี้ไปด้วยนะ เวิร์คมาก (แต่เราเที่ยวหลายวัน หลายเมืองกว่าเค้า และไม่ได้ไปฝรั่งเศษอะ)
2. วางแผนเก็บตังค์ >> เมื่อเรามีแรงบันดาลใจ เราก็ต้องวางแผนเก็บตังค์ค่ะ
เราเป็นเพียงพนักงานประจำคนนึง ไม่ได้มีเงินเยอะพอที่จะไปง่ายๆ เหมือนใครหลายๆคนที่เค้ามี "โอกาส" มากกว่า ....ถ้าเรามีตังค์ การเที่ยวยุโรปครั้งแรกเราจะไปกับทัวร์ 555 เพราะคิดว่าเราจะได้เรียนรู้ก่อนไปเที่ยวเอง แต่ค่าทัวร์ที่เราสนใจก็แพงมากๆ และเราชอบสไตล์เที่ยวออกแบบเองมากกว่า....อยากทำไรก็ทำ ตื่นกี่โมง หรือเที่ยวไหนตามสไตล์เรา เลยตัดสินใจเที่ยวเองค่ะ
ดังนั้น "โอกาส...เราจึงต้องสร้างมันขึ้นมาเอง" ถึงแม้เราจะมีเงื่อนไขใน Introduction ว่าจะต้องได้ตั๋วฟรี จะต้องได้ที่พักฟรี... แต่เราก็ทำงานเพื่อแลกสิ่งเหล่านั้นมาเป็นเวลามากกว่า 1 ปีครึ่งนะ และสุดท้ายปีนี้เราก็ได้มัน...แบบอเมซิ่งสุดๆ ไม่คิดว่าสิ่งที่คิดจะเกิดขึ้นจริง << นั่นคือการสร้างโอกาสครั้งที่ 1 (หากเพื่อนๆเชื่อในกฎแรงดึงดูด เราจะมาแชร์ให้ฟัง มันอเมซิ่งและเกิดกับเราหลายเรื่องแล้ว ซึ่งมันก็ไม่ได้เกี่ยวกับโชคชะตาหรอก)
นอกจากค่าตั๋วเครื่องบินและที่พักแล้ว ค่าใช้จ่ายต่างๆที่เราต้องออกเอง ก็คือ "โอกาสที่เราต้องสร้างเองจริงๆ"
1.ค่าเดินทางภายในประเทศและระหว่างเปลี่ยนประเทศ
2.ค่ากิน
3.ค่าธรรมเนียมเข้าชมสถานที่ต่างๆที่อยากเข้า
4.ค่าช้อปปิ้งของฝากจิปาถะ (จะเปลืองตังค์ก็ตรงนี้เนี่ยแหละ)
5.ค่า internet
คาดเดาเอาไว้ว่า 50,000 บาท น่าจะอยู่ จึงได้วางแผน "ออมเงินสำหรับเที่ยว" หักออกมาจากเงินเดือนในบัญชีเลย..เดือนละ 5,000 บาท
(เราเพิ่งรู้จักวางแผนออมเงินเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ซึ่งมันเวิร์คมาก มีเงินเก็บ เงินออม เงินให้พ่อแม่ เงินลงทุนไปเข้าคอร์สสัมมนา และเงินออมไปเที่ยว ถ้ามีโอกาสจะมาแชร์ค่ะ ^^)
จิบอกว่า.... วินัย สำคัญมากๆๆ เงินออมแต่ละประเภทห้ามไปยุ่งกับมัน..
เงินสำหรับใช้ก็ใช้เท่านั้น ไม่เช่นนั้น "ความฝัน" จะไม่เป็นจริงนะ << คอยเตือนสติตัวเองตลอดดด
ตัวอย่างค่าใช้จ่ายจริงในระหว่างการท่องเที่ยว (มันจะมีบางมื้อที่เราอยากกินดีๆ ของที่อยากซื้อ)
ซึ่งตอนได้ไปเที่ยวจริงๆ....เราได้มาแบบฉุกละหุก มีเวลาเตรียมตัว เพียง 11 วันเท่านั้น!!!
เนื่องจากแฟนเราได้โอกาสไปเทรนงานที่ประเทศเนเธอร์แลนด์พอดี!!....พร้อมกันนี้เราก็ได้งบซื้อตั๋วเครื่องบินฟรี(ที่ได้ก็มาจากงานที่ทำ ไม่ใช่ได้ง่ายๆ)
ดังนั้น.. เราจึงตัดสินใจตามไปเที่ยวระหว่างที่เค้าเทรน... ระหว่างเทรน เราก็ไปเที่ยว 5555
และจัดทริปเที่ยวด้วยกันต่อที่เบลเยี่ยมกับเยอรมันนีค่ะ
(ประหยัดค่าตั๋วเครื่องบินและที่พักที่เนเธอร์แลนด์...ส่วนที่พักในเบลเยี่ยมกับเยอรมันนีเราก็ใช้ Point ในการทำงานแลกที่พักฟรี ประหยัดเข้าไปอีก เดี๋ยวเราจะมาแนะนำเกี่ยวกับ Starwood Preferred Guest = SPG Pro นะจ๊ะ
เวบลิ้งค์ของ SPG ค่ะ>>http://www.starwoodhotels.com/preferredguest/about/index.html?directoryId=spgpro&categoryId=brand.overview)
3. วางแผนการท่องเที่ยวและการเดินทาง มีคร่าวๆ 3 แบบค่ะ
1. วางแผนการเดินทางแบบละเอียดทุกขั้นตอน
> คือการวางแผนแบบละเอียดมากๆ เช่นกำหนดว่าใน 10 วันจะต้อวไปพักที่เมืองไหน รถออกกี่โมง วันนี้ต้องไปสถานที่นี้กี่โมง ไปให้ได้กี่ที่ใน 1 วัน ซึ่งมันดีมากๆ ทำให้ไม่หลงและชัวร์เรื่องเวลา แต่ข้อเสียคือเราไม่ยืดหยุ่น บางทีเหมือนบังคับตัวเองเกินไป จะเหนื่อยและเครียดกับการเดินทางได้ บางทีเราปวดหัวเลย เพราะเครียดตอนเตรียมแผน
2. วางแผนการเดินทางเฉพาะระหว่างเมือง
> คือกำหนดไปว่าวันนี้ถึงวันนี้เราจะไปประเทศอะไร เที่ยวเมืองอะไร แต่กำหนดการระหว่างวันสามารถปรับเปลี่ยนไปตามความเหมาะสม เพราะความเป็นจริงเราอาจเจอฝนฟ้าไม่เป็นใจ หรือป่วย ถ้ากำหนดคร่าวๆเราจะสามารถจองรถไฟข้ามเมืองได้ จองโรงแรม และแผนระหว่างวันดูเป็นวันๆ แผนนี้เราชอบนะ พอไปแต่ละเมือง เราจะไปที่ tourist information ไปเอา map มาดูว่ามีอะไรน่าสนใจ แล้วตะลุยเที่ยวเลย
เราชอบผสมกับแบบที่ 1 เวลาจัดทริป รู้สึกสบายใจดี และไม่ fix เกินไป ^^
3. วางแผนการเดินทางวันต่อวัน
> นี่แหละคือ backpaker ตัวจริง ไม่กำหนดอะไรเลย ค่ำไหนนอนนั่น เดินหาโรงแรมเอา คือมันอิสระมากๆๆๆ แต่เรารู้สึกว่าจะพลาดโปรโมชั่นราคาถูกหลายอย่าง ทั้งค่าเดินทาง ที่พัก ยิ่งจองนานยิ่งถูก จริงๆนะ แต่บางทีมันก็ตื่นเต้น เร้าใจดี เหมือนการผจญภัย
คุณคือสไตล์ไหนเอ่ย
สำหรับเพื่อนคนไหนอยากไปประเทศอื่นๆ ฝรั่งเศษ อิตาลี สวิสฯ ลักเซมเบิร์ก นอร์เวย์ ฟินแลนด์ ฯลฯ ลองศึกษาดูได้นะจ๊ะ
นี่คือประเทศที่วีซ่าเชงเก้นครอบคลุมค่ะ
แต่ถ้าเพื่อนๆที่มีแพลนจะไปประเทศเนเธอร์แลนด์ เบลเยี่ยม เยอรมันนี สามารถลอกเราได้ หรือเก็บไว้พิจารณาเอาไปเป็นตัวเลือกได้ค่ะ
3 ประเทศนี้ติดกันและสามารถเดินทางได้สะดวก มี Visa Shengen ก็ไปได้ทั่วค่ะ
คงจะอ่านกันไม่รู้เรื่อง เราเลยทำดีๆไว้ให้ดูนะคะ ^^
Tips
-การจองตั๋วเครื่องบินไป-กลับ
เพื่อนๆคนไหนที่มีฝันอยากไป...ลองมองหาตั๋วโปรโมชั่นดีๆ เวลาไปเดินเล่นตามงานท่องเที่ยว หรือแฟนเพจอาแปะ หรือสายการบินต่างๆดูนะคะ
ขอให้ได้ตั๋วบินราคาถูกๆน้า มีหลายสายการบินค่ะ ขึ้นอยู่กับว่าเราจะไปลงประเทศไหน - กลับประเทศไหน
> พอดีเรามีเงื่อนไขคือ ต้องบินไป-กลับกรุงเทพ- Schiphol Airport ,Amsterdam, The Netherlands เท่านั้น
(อย่างที่บอก..ตั๋วใบนี้มันเปลี่ยนแปลงไม่ได้ เลยต้องจัด route ให้เอื้อต่อการท่องเที่ยวครั้งนี้)
ส่วนของเรา เราใช้บริการสายการบิน KLM Royal Dutch Airline ค่ะ นั่งชั้น Economy บินตรงจากกรุงเทพฯ - สนามบิน Schiphol , ประเทศเนเธอร์แลนด์ ใช้เวลา 11 ชั่วโมงรวด (เมื่อยตูดเหมือนกัน) มีบริการอาหารว่าง 2 ครั้ง อาหาร 2 มื้อ ระหว่างการเดินทางจ้า (จองก่อนไป 11 วัน ราคา 4x,xxx บาท แม่เจ้าา) แต่ถ้าจองเนิ่นๆจะไม่แพงขนาดนี้ค่ะ
Tips
-การจองที่พัก > พอดีเราได้สิทธิ์ในการแลก point ของโรงแรมในเครือ starwood ก็เลยประหยัดในส่วนนี้มากๆค่ะ
แต่ถ้าให้แนะนำ เราชอบ booking.com เพราะสามารถจอง และยกเลิกได้ฟรีไม่เสียค่าธรรมเนียมในเวลาที่เค้ากำหนด แถมไปรูดบัตรจ่ายที่โรงแรมตอนเช๊คอินได้เลย สะดวกสบายจริง แต่บางครั้งก็ใช้ Agoda เพราะบางครั้งราคาถูกกว่า ^^ Expedia.co.th ก็น่าสนใจค่ะ
>>ส่วนทำเลที่พัก เราจะเลือกใกล้สถานีรถไฟในรัศมีการเดินไม่เกิน 1 กิโลเมตร ยิ่งได้ใกล้ยิ่งดีค่ะ ชีวิตจะสะดวกมากขึ้น 5555
ประเทศเนเธอร์แลนด์ เราพักที่เมือง Eindhoven โรงแรม Holiday Inn > จากสถานี Eindhoven ไปโรงแรมเพียง 6 นาที
ประเทศเบลเยี่ยม เราพักที่ Brussels โรงแรม Four Points by Sheraton > เดี๋ยวมารีวิว ยาว 555
ประเทศเยอรมัน เราพักที่ Munich โรงแรม Aloft Munich > อยู่ตรงข้ามกับสถานีรถไฟ Haufbahnof กลางของ Munich เลย ทำเลดีมากกก
และพักที่ Frankfurt โรงแรม Westin Grand Frankfurt > อยู่ใกล้สถานีใต้ดินและใจกลางย่านเดินเที่ยวเล่นที่ Frankfurt เลย ทำเลดีมากกก
4. การขอวีซ่าเชงเก้น
4.1 เตรียมเอกสารขอวีซ่า (เดี๋ยวมาแปะลิ้งค์เพิ่มให้จ้า)
4.2 ขั้นตอนการขอวีซ่า (เดี๋ยวมาแปะลิ้งค์เพิ่มให้จ้า)
5. ของสำคัญที่ต้องเตรียมไป
ลองลิสต์รายการไว้เลย จะได้ไม่ลืมค่ะ (แต่ก็ไม่ต้องเยอะเหมือนเราหรอก พอดีเราเตรียมของไปเยอะ จะไปทำคลิปแต่งหน้าด้วย 5555 ของเยอะมากมาย น้ำหนักเกินด้วย บางอย่างแบกไปฟรี T^T เช่นส้นสูง ที่หนีบผม เอาไปไม?)
และสิ่งที่จะทำให้เราจดจำ และสามารถเอามาแบ่งปันเพื่อนๆ ก็คือ กล้องของฉัน (งบน้อย เท่านี้พอ)
ุ6. พร้อมไปเที่ยวกันรึยังค้า?? ลุยยย Part Introduction >> http://pantip.com/topic/35424908
หวังว่าจะเป็นประโยชน์นะคะ
อยากให้มาแบ่งปันอะไรเพิ่มเติม ถ้าเรารู้และสามารถบอกได้จะเข้ามาเพิ่มเติมจ้า
ส่วนเพื่อนท่านไหนมีข้อมูลมาแบ่งปัน ยินดีมากๆเลย