วิดีโอเรียลไทม์แรงฉุดไม่อยู่ 'ยูทูบ' ขยับลุยไลฟ์สตรีมมิ่ง

วิดีโอเรียลไทม์แรงฉุดไม่อยู่ 'ยูทูบ' ขยับลุยไลฟ์สตรีมมิ่ง
ประชาชาติธุรกิจ ฉบับวันที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

          ปัจจุบันพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปรับชมคอนเทนต์วิดีโอผ่านระบบออนไลน์ หรือออนไลน์สตรีมมิ่งเพิ่มขึ้น หันไปทางไหนจะเห็นคนก้มหน้าก้มตาดูคอนเทนต์วิดีโอที่ชอบจากหน้าจอสมาร์ทโฟน ฟากเจ้าของหรือผู้พัฒนาเนื้อหาเริ่มอัพโหลดคอนเทนต์เข้าสู่แพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อขยายช่องทางการรับชมเช่นกัน

          "ไมเคิล จิตติวาณิชย์" หัวหน้าฝ่ายการตลาดด้านผู้บริโภค กูเกิล ประเทศไทย เปิดเผยว่า การใช้งานยูทูบในประเทศไทยเติบโตอย่างรวดเร็ว จากพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปใช้สมาร์ทโฟนเพิ่มขึ้นมากจากราคาที่ถูกลง และโครงข่ายสัญญาณโทรศัพท์ มือถือครอบคลุมมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกือบทั้งหมดให้บริการบนเทคโนโลยี 4G ทำให้ปริมาณการรับยูทูบในไทยติด 10 อันดับแรกของโลก โดย 65% รับชมผ่านโทรศัพท์มือถือ ขณะที่จำนวนการอัพโหลดคอนเทนต์เติบโต 70% เทียบกับปีก่อน

          "บริษัทแม่ให้ความสำคัญกับบริการยูทูบ ในประเทศไทย เพราะการใช้งานเติบโตอย่างรวดเร็ว รวมถึงความสร้างสรรค์ของยูทูบเบอร์ (ผู้ผลิตคอนเทนต์บนยูทูบ) ไม่แพ้ชาติใดในโลกจึงเริ่มเข้ามาทำตลาดในไทยมา 2 ปีแล้ว เพื่อให้ยูทูบเบอร์มีรายได้จากการนำโฆษณาของกูเกิลไปแสดงบนวิดีโอ จัดสัมมนาให้แบรนด์สินค้า และ ยูทูบเบอร์เจอกันเพื่อให้เข้าใจเรื่องการทำดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งผ่านยูทูบได้ดีขึ้น และเมื่อ พ.ค.ที่ผ่านมา เปิดยูทูบ พ็อปอัพสเปซ (สตูดิโอเคลื่อนที่) ให้ยูทูบเบอร์ได้ใช้"

          การสนับสนุนในประเทศไทยทำให้มี ยูทูบเบอร์ที่มีผู้ติดตามมากกว่า 1 ล้านไอดี 25 ช่อง โดย 9 ยูทูบเบอร์ เป็นคนที่เติบโตจากการทำแชนเนลบนยูทูบ ไม่ได้เป็น ผู้มีชื่อเสียง และมียูทูบเบอร์ 500 รายมี ผู้ติดตามมากกว่า 1 แสนไอดี โดยคอนเทนต์ ที่มีผู้ติดตามจำนวนมาก คือ เกม, เพลง, เด็ก, ท่องเที่ยว และอื่น ๆ มีกลุ่มผู้ชมอายุต่ำกว่า 35 ปี และรับชมยูทูบโดยเฉลี่ยเป็นเวลา 1.30 ชม./วัน

          จากการเติบโตดังกล่าวทำให้ "กูเกิล" เพิ่มทีมงานยูทูบในไทย เพื่อรับผิดชอบในการติดต่อแบรนด์สินค้า และจัดสัมมนา ต่าง ๆ เพิ่มเติม ขณะเดียวกัน เตรียมจัด "ยูทูบ พ็อปอัพ สเปซ" ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 25-27 ส.ค.นี้ ที่เซ็นเตอร์พอยท์สตูดิโอ บางนา หลังจากครั้งที่แล้วมียูทูบเบอร์ลงทะเบียนเข้ามาใช้งานกว่า 300 ราย โดยในครั้งนี้จะมีอุปกรณ์ใหม่ ๆ เช่น กล้องความละเอียด 4K และพื้นที่ที่รองรับความต้องการของยูทูบเบอร์ได้มากขึ้น และจะจัด อีกครั้งในเดือน พ.ย. ซึ่งการจัดงานทุกครั้งจะนำมาประมวลผลเพื่อจัดตั้งยูทูบ สเปซในไทยอย่างถาวร เหมือนที่มีในประเทศญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา

          "กูเกิลให้ความสำคัญกับผู้ใช้บริการยูทูบ 3 เรื่องคือ ผู้ชมต้องได้รับชมคอนเทนต์ สะดวกสบายที่สุด เช่น มีแอปพลิเคชั่น และร่วมกับโอเปอเรเตอร์จัดแพ็กเกจรับชมยูทูบแบบไม่เสียค่าบริการ, ยูทูบเบอร์ต้องสร้างคอนเทนต์ได้ดีที่สุด มีการจัดสัมมนาแนะนำวิธีการทำคลิป จัดงานแมตชิ่ง ระหว่างยูทูบเบอร์กับแบรนด์สินค้าเพื่อทำการตลาดร่วมกัน สุดท้ายคือช่วยสร้างรายได้ให้ยูทูบเบอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด เพื่อให้ทั้งเราและยูทูบเบอร์เติบโตไปด้วยกัน"

          สำหรับการไลฟ์สตรีมมิ่งที่เริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้นในประเทศไทย ทำให้ยูทูบเตรียมปรับระบบไลฟ์สตรีมมิ่งบนแพลตฟอร์ม ยูทูบให้ใช้งานง่ายขึ้น เพื่อแข่งกับผู้เล่นในตลาดที่เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยอยู่ระหว่างทดสอบกับยูทูบเบอร์บางกลุ่ม ส่วนการที่มี ผู้เล่นในตลาดเปิดบริการไลฟ์สตรีมมิ่งมากขึ้น แสดงให้เห็นถึงความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการเผยแพร่คอนเทนต์วิดีโอแบบเรียลไทม์ ซึ่งช่วยส่งเสริมสนับสนุนให้เกิดสังคมออนไลน์ผ่านการไลฟ์สตรีมมิ่งได้เช่นกัน

          ด้าน "อรรถพล โพธิ์หาญรัตนกุล" ผู้ร่วม ก่อตั้งช่อง Tiger Cry บนยูทูบ มีผู้ติดตาม 4.7 แสนไอดี เปิดเผยว่า ความต่อเนื่องในการผลิตคอนเทนต์ คือปัจจัยหลักในการเพิ่มยอดการรับชม และยอดการติดตาม ทั้งสองเรื่องมีส่วนสำคัญในการสร้างรายได้จากการโฆษณากับกูเกิล และการที่แบรนด์ต่าง ๆ ติดต่อเข้ามาทำตลาดร่วมกัน ซึ่งใน 3-4 ปีที่ผ่านมา มีครีเอเตอร์หลายรายอัพโหลดวิดีโอขึ้นไป และโด่งดังจนมีแบรนด์สินค้าต่าง ๆ จ้างไปทำตลาด แต่ความไม่ต่อเนื่องของการพัฒนาคอนเทนต์ทำให้ระยะเวลาในการทำตลาดเกิดขึ้นในช่วงเวลาสั้น ๆ

          "สิ่งสำคัญอย่างแรกคือ เนื้อหางาน ต้องใช่ และมีคอนเทนต์ออกมาต่อเนื่อง ถ้าคอนเทนต์ไม่เข้ากับแบรนด์สินค้า เช่น ทำรายการวาไรตี้ให้วัยทำงานดู แต่มีแบรนด์ขนมเด็กติดต่อเข้ามาก็ขัดต่อคอนเซ็ปต์ตนเอง และสุดท้ายแบรนด์สินค้าก็ไม่ได้ทาร์เก็ตตามที่ตั้งไว้ ส่วนเรื่องความต่อเนื่องเป็นการสร้างความเชื่อใจให้แบรนด์สินค้า แม้การลงทุนโปรดักชั่นบางครั้งอาจสูง แต่ค่อนข้างคุ้มเมื่อเทียบกับรายรับที่จะกลับเข้ามาจากโฆษณาทั้งทางตรง และทางอ้อม"

          "วิญญู วงศ์สุรวัฒน์" ผู้ร่วมก่อตั้งช่อง SpokeDark TV บนยูทูบ มีผู้ติดตาม 7.8 แสนไอดี เปิดเผยว่า ด้วยพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ทำให้การนำคอนเทนต์ที่เกี่ยวกับ ประเทศไทย เช่น การท่องเที่ยวมาเผยแพร่บนยูทูบมีประสิทธิภาพกว่าช่องทางเดิม โดยเฉพาะการท่องเที่ยวที่ปัจจุบันมีชาวต่างชาติ ทำรายการท่องเที่ยวประเทศไทยไปเผยแพร่ และมีผู้ชมจำนวนมากจึงต้องการให้หน่วยงานภาครัฐทำความเข้าใจ และนำงบประมาณมาให้ยูทูบเบอร์สัญชาติไทยช่วยประชาสัมพันธ์อย่างถูกต้องมากกว่า


แหล่งข่าว
หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ ฉบับวันที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 (หน้า 29,32)