DIY จัดงานแบบไทย สวยปัง อลังเวอร์
...อันนี้รวมกระทู้ไว้เรียบร้อยละนะคะ อ่านกันยาวๆ ไปเลยคะ...
ขออนุญาติแชร์ประสบการณ์การจัดงานแต่งงานแบบไทยๆ สำหรับผู้ที่ต้องงานจัดงานด้วยตนเองนะคะ
จะเริ่มจากอะไรอย่างไรกันบ้างมาดูกันคะ..

ก่อนอื่นต้องขอออกตัวก่อนเลยนะคะว่ายังไม่เคยแต่งงานเลยสักครั้งนะคะ

นี่เป็นครั้งแรกและครั้งเดียวคะ ตั้งใจทำมากคะและอยากจะแชร์ประสบการณ์ในการจัดงานของตัวเอง เผื่อจะเป็นประโยชน์ต่อบ่าวสาวที่กำลังจะวางแผนการแต่งงานอยู่ ณ ตอนนี้หรืออนาคตอันใกล้นี้คะ
การจัดงานแต่งงานด้วยตัวเองเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน เหนื่อยมากแต่มีความสุขและภูมิใจมากเช่นกันคะ ที่สำคัญเราสามารถควบคุมและประหยัดงบประมาณของเราเองได้ เพราะเงินถือว่าเป็นปัจจัยหลักสำคัญสำหรับยุคสมัยนี้นะคะ ขนาดน้ำมันก็พุ่งขึ้นพรวดๆ อยู่ตลอด จะมาตำน้ำพริกละลายแม่น้ำเห็นทีจะมิไหวแน่คะ แต่ถึงกระนั้นการจัดงานยังต้องมีอยู่เพื่อเป็นการให้เกียรติฝ่ายหญิงตามประเพณีอันดีงามของไทยเราคะ เราใช้เวลาเตรียมงานทั้งหมด 6-7 เดือนโดยประมาณ โดยมีน้องสาวที่คลานตามกันมา มาช่วยเป็นแม่ทัพร่วมจัดงานสุดอลัง ปังเวอร์ในครั้งนี้ด้วยคะ มาเริ่มตั้งแต่เดือนแรกกันเลยนะคะว่าเราทำอะไรกันบ้าง
6 เดือน ก่อนวันงาน
เราเริ่มรู้ตัวว่าจะมีโอกาสใส่ชุดวิวาห์แบบเจ้าหญิงฟรุ้งฟริ้งก็ประมาณต้นเดือนมกราคม 58 คะ หลังจากคุณผู้ชายได้เอ่ยปากขอแต่งงานกันแบบงงๆ ในร้านอาหารแห่งหนึ่งที่เราชอบทานกันเป็นประจำ และได้คุยรายละเอียดความต้องการกันแบบคร่าวๆ พูดคุยกันเกี่ยวกับสินสอดทองหมั้น พิธีการงานแต่งในเบื้องต้นคร่าวๆ ว่าจะช่วยกันเตรียมงานอย่างไรดี รวมถึงการหาฤกษ์งามยามดีพร้อมกำหนดวันเวลาให้ชัดเจน ในที่นี้เราถือเอาฤกษ์สะดวกนะคะ สิ่งที่ต้องการคือขอให้เป็นวันอาทิตย์ตอนเช้าก็พอ เราเลือกเดือนเกินเราเองคะและมาลงตัวในวันอาทิตย์ที่ 2 สิงหาคม 2558 ว่ากันว่าในวันนี้ “เป็นเทวีฤกษ์ ซะด้วย จัดไป..
4-5 เดือน ก่อนวันงาน
2 เดือนนี้จะมีภารกิจหนักหน่อยนะคะ และถือว่าสำคัญมากๆ ด้วยคะเพราะต้องทั้งระดมสมองช่วยกันคิดช่วยกันทำอย่างเห็นอกเห็นใจกันเลยหละคะ จะมีการขัดแย้งกันบ้างก็ให้ถือว่าเป็นการเริ่มต้นใช้ชีวิตคู่และแชร์ไอเดียกันนะคะ ซึ่งหลังจากที่เราได้ฤกษ์งามยามดีมาแล้ว ก็เป็นหน้าที่ของเราทั้งสองที่จะสำแดงเดชกันคะ โชคดีมากที่คุณพ่อคุณแม่ของเราทั้งสองไม่ได้เข้มงวดอะไรมากนักในเรื่องของรูปแบบการจัดงานแต่งงาน เราจึงเริ่มระดมสมองรวบรวมข้อมูล จัดเก็บข้อมูลในเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวกับงานแต่งงานไม่ว่าจะเป็นเรื่องสถานที่ ช่างภาพ ช่างผม ของชำร่วย โน่นนี่นั่น บลาๆๆๆ เอาเป็นว่าเดือนนี้เป็นเดือนของการเก็บรวบรวมข้อมูลกันแบบเต็มๆ และตกตะกอนความคิดให้เข้าที่เข้าทางให้ได้มากที่สุด ซึ่งสิ่งสำคัญของการวางแผนการจัดงานและเป็นเรื่องใหญ่ที่สุดก็เรื่องของงบประมาณคะ
งบประมาณ เป็นปัจจัยหลักเลยนะคะ สำคัญมว๊ากๆ เพราะหากเราไม่กำหนดงบประมาณที่ชัดเจนแล้วมันจะบานปลายมากคะ ไหนจะค่าโน่นนี่นั่นจุกจิกมากเลย ดังนั้นควรมีการจำกัดงบประมาณให้พอเหมาะคะ (อันนี้ต้องคุยกันนะคะบ่าวสาวสุมหัวกันคะเท่าไรถึงจะสมเหตุสมผล) เปิดบัญชีร่วมกันหรือทำบันทึกรายจ่ายของงานให้ชัดเจนก็เป็นเรื่องที่ดีและควรทำนะคะ และอย่าลืมกำหนดระยะเวลาการเตรียมงานที่เหมาะสมด้วย จะช่วยให้คุณไม่เหนื่อยมากและได้รูปแบบงานตามที่คุณต้องการคะ สำหรับงานของเราใช้เวลาในการรวบรวมข้อมูลรวมถึงจัดหาและจัดทำรูปแบบ Theme งานออกแบบทุกสิ่งอย่าง ทั้งหมดก็ใช้เวลาประมาณ 6 เดือนก่อนถึงวันงานคะ ซึ่งก็กำลังดีคะ ไม่มากหรือน้อยจนเกินไปคะ ทั้งนี้งานเราก็ไม่ได้ซับซ้อนอะไรมากด้วยคะ
มาถึงเรื่องของรูปแบบงานกันบ้างนะคะ เป็นองค์รวมที่จะทำให้เราเลือกรูปแบบงานให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันได้คะ การกำหนดรูปแบบงานที่ชัดเจนจะทำให้เราไม่เสียเวลาในการเตรียมงานมากคะ ยิ่งถ้ามีเวลาในการเตรียมงานน้อยเราต้องชัดเจนและใช้เวลาให้คุ้มค่ามากที่สุด เราเลือกรูปแบบของงานที่เป็นรูปลักษณ์และแสดงเอกลักษณ์ความเป็นไทย เพราะการจัดงานแต่งงานถือว่าเป็นประเพณีวัฒนธรรมอันดีงาม ก็เราคนไทยนิเนอะ จริงๆ แล้วเป็นความต้องการของคุณเจ้าบ่าวด้วยคะที่อยากได้บรรยากาศรื่นรมย์ ไม่อึดอัด มีพื้นที่กว้างมองเห็นต้นไม้ใบหญ้าบ้าง คือไปงานโรงแรมมาก็หลายงานคะ สวยงามคะ แต่ว่าก็เหมือนๆ เดิม อาจจะเป็นเพราะว่ายังไม่เคยไปงานแบบไทยๆ แบบเต็มรูปแบบ เราจึงอยากมีบรรยากาศแบบนั้นในงานของเรา มองเห็นแขกที่มาร่วมงานผ่อนคลายมีความสุขไปกับเรา เห็นเด็กน้อยใส่ชุดไทยวิ่งเล่นในบรรยากาศไทยๆ ก็คงดีไม่น้อยคะ ซึ่งก็เป็นความต้องการที่ตรงกัน ดังนั้นเราจึงอยากให้งานออกมาเป็นไทยให้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นสถานที่, บรรยากาศ, ชุดเจ้าบ่าวเจ้าสาว, งานออกแบบทั้งหลายไม่ว่าจะเป็น การ์ด, ของชำร่วย, ของรับไหว้ต่างๆ, ชุดสังฆทาน, ป้ายงาน, ซุ้มหน้างานที่มีมุมภาพแกลลอรี่ และอื่นๆ เด่วเราจะมาแจกแจงรายละเอียดการออกแบบและการเตรียมสิ่งต่างๆ กันอีกทีคะ
ระหว่างที่เราเก็บรวบรวมข้อมูลนี้เราก็ได้ใช้เวลาตระเวนและคัดสรรสถานที่ที่เราต้องการไปด้วยคะ เพื่อไม่ให้เสียเวลา เผื่อว่าสถานที่ที่เราต้องการเกิดเต็มขึ้นมาเราจะได้หาสถานที่ใหม่ได้ทันตามฤกษ์ของเรานะคะ อันนี้สำคัญมาก ถ้าเป็นโรงแรมบางแห่งอาจจองกันยาวข้ามปีเลยทีเดียว สำหรับเราสองคนอย่างที่บอกนะคะว่าเป็นงานไทยๆ ง่ายๆ เราเลยมองหาเรือนไทยสวยๆ มีพื้นที่มากหน่อยสำหรับรองรับแขกของเราประมาณ 300 คนคะ หลังจากที่เราตระเวนดูเรือนไทยมาหลายที่ส่วนใหญ่จะมีพื้นที่ไม่มากคะ จุคนได้ 100-150 คน ซึ่งก็ไม่ตอบโจทย์ของเราเท่าไร เราอยากจัดงานรอบเดียวแบบพิธีเช้ากินเลี้ยงเที่ยงไปเลยง่ายๆ ไม่ต้องเหนื่อยแต่งตัวเตรียมตัวงานเย็นอีกเหนื่อยคะ (ความเห็นส่วนตัว) และยังเป็นการประหยัดงบประมาณไปด้วยนะคะไม่ต้องจัดเลี้ยง หรือจัดเตรียมสถานที่และอื่นๆ อีก 2 รอบ
หลังจากตระเวนกันไปมาหลายที่หลายแห่งก็ตัดสินใจเลือกเรือนไทยศาลายาคะ เป็นสถานที่ที่เราเคยมาร่วมงานแต่งงานคนที่เรารู้จักกันแล้วคะ ตอนแรกก็คิดว่ามันไกลไปนิดหน่อยอยู่ตั้งศาลายา แต่ด้วยองค์ประกอบอื่นๆ มันลงตัวเราจึงเลือกที่นี่คะ ทั้งเรื่องของบรรยากาศไทยอย่างที่เราต้องการ มีบริเวณกว้างขวางหลายมุม ทั้งในส่วนพิธีการในช่วงเช้าตั้งแต่ทำบุญ แห่ขันหมาก สู่ขอ หมั้น รวมไปถึงบริเวณรดน้ำสังข์ และพื้นที่สำหรับให้แขกนั่งรับประทานอาหารก็เพียงพอต่อจำนวนที่เรากำหนดได้ไว้ด้วยคะ เราจึงจัดการติดต่อทำเรื่องนัดวันและคุยรายละเอียดให้เรียบร้อยกับที่นี่คะ
สิ่งที่เราได้รับจากเรือนไทยศาลายาถือว่าลดขั้นตอนการเตรียมงานของเราไปได้เยอะมากคะ เพราะสถานที่บางแห่งอาจให้เช่าแค่สถานที่อย่างเดียวเท่านั้น เราต้องติดต่อเรื่องอาหาร เรื่องการจัดซุ้มดอกไม้ พิธีการงานเช้าเอง แบบนั้นวุ่นวายและเหนื่อยมากคะ มองหาสถานที่ที่มีครบครอบคลุมหมดก็จะดีนะคะง่ายดี หากไม่พอใจอะไรเราสามารถจัดเองเตรียมเองเพิ่มเติมได้คะ ขึ้นอยู่กับการเจรจาต่อรองกันนะคะ หลายๆ ที่ก็มีให้เลือกเป็นแพคเกจกันเลยคะ ชอบแบบไหนอย่างไรก็จัดกันได้ราคาก็ตามปริมาณของแขกที่มาร่วมงานคะ
(มีต่อด้านล่างนะคะ.........)
อยากจัดงานแต่งแบบไทย ทำได้ ทำง่าย สไตล์คุณ...-1-
...อันนี้รวมกระทู้ไว้เรียบร้อยละนะคะ อ่านกันยาวๆ ไปเลยคะ...
ขออนุญาติแชร์ประสบการณ์การจัดงานแต่งงานแบบไทยๆ สำหรับผู้ที่ต้องงานจัดงานด้วยตนเองนะคะ
จะเริ่มจากอะไรอย่างไรกันบ้างมาดูกันคะ..
ก่อนอื่นต้องขอออกตัวก่อนเลยนะคะว่ายังไม่เคยแต่งงานเลยสักครั้งนะคะ
การจัดงานแต่งงานด้วยตัวเองเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน เหนื่อยมากแต่มีความสุขและภูมิใจมากเช่นกันคะ ที่สำคัญเราสามารถควบคุมและประหยัดงบประมาณของเราเองได้ เพราะเงินถือว่าเป็นปัจจัยหลักสำคัญสำหรับยุคสมัยนี้นะคะ ขนาดน้ำมันก็พุ่งขึ้นพรวดๆ อยู่ตลอด จะมาตำน้ำพริกละลายแม่น้ำเห็นทีจะมิไหวแน่คะ แต่ถึงกระนั้นการจัดงานยังต้องมีอยู่เพื่อเป็นการให้เกียรติฝ่ายหญิงตามประเพณีอันดีงามของไทยเราคะ เราใช้เวลาเตรียมงานทั้งหมด 6-7 เดือนโดยประมาณ โดยมีน้องสาวที่คลานตามกันมา มาช่วยเป็นแม่ทัพร่วมจัดงานสุดอลัง ปังเวอร์ในครั้งนี้ด้วยคะ มาเริ่มตั้งแต่เดือนแรกกันเลยนะคะว่าเราทำอะไรกันบ้าง
6 เดือน ก่อนวันงาน
เราเริ่มรู้ตัวว่าจะมีโอกาสใส่ชุดวิวาห์แบบเจ้าหญิงฟรุ้งฟริ้งก็ประมาณต้นเดือนมกราคม 58 คะ หลังจากคุณผู้ชายได้เอ่ยปากขอแต่งงานกันแบบงงๆ ในร้านอาหารแห่งหนึ่งที่เราชอบทานกันเป็นประจำ และได้คุยรายละเอียดความต้องการกันแบบคร่าวๆ พูดคุยกันเกี่ยวกับสินสอดทองหมั้น พิธีการงานแต่งในเบื้องต้นคร่าวๆ ว่าจะช่วยกันเตรียมงานอย่างไรดี รวมถึงการหาฤกษ์งามยามดีพร้อมกำหนดวันเวลาให้ชัดเจน ในที่นี้เราถือเอาฤกษ์สะดวกนะคะ สิ่งที่ต้องการคือขอให้เป็นวันอาทิตย์ตอนเช้าก็พอ เราเลือกเดือนเกินเราเองคะและมาลงตัวในวันอาทิตย์ที่ 2 สิงหาคม 2558 ว่ากันว่าในวันนี้ “เป็นเทวีฤกษ์ ซะด้วย จัดไป..
4-5 เดือน ก่อนวันงาน
2 เดือนนี้จะมีภารกิจหนักหน่อยนะคะ และถือว่าสำคัญมากๆ ด้วยคะเพราะต้องทั้งระดมสมองช่วยกันคิดช่วยกันทำอย่างเห็นอกเห็นใจกันเลยหละคะ จะมีการขัดแย้งกันบ้างก็ให้ถือว่าเป็นการเริ่มต้นใช้ชีวิตคู่และแชร์ไอเดียกันนะคะ ซึ่งหลังจากที่เราได้ฤกษ์งามยามดีมาแล้ว ก็เป็นหน้าที่ของเราทั้งสองที่จะสำแดงเดชกันคะ โชคดีมากที่คุณพ่อคุณแม่ของเราทั้งสองไม่ได้เข้มงวดอะไรมากนักในเรื่องของรูปแบบการจัดงานแต่งงาน เราจึงเริ่มระดมสมองรวบรวมข้อมูล จัดเก็บข้อมูลในเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวกับงานแต่งงานไม่ว่าจะเป็นเรื่องสถานที่ ช่างภาพ ช่างผม ของชำร่วย โน่นนี่นั่น บลาๆๆๆ เอาเป็นว่าเดือนนี้เป็นเดือนของการเก็บรวบรวมข้อมูลกันแบบเต็มๆ และตกตะกอนความคิดให้เข้าที่เข้าทางให้ได้มากที่สุด ซึ่งสิ่งสำคัญของการวางแผนการจัดงานและเป็นเรื่องใหญ่ที่สุดก็เรื่องของงบประมาณคะ
งบประมาณ เป็นปัจจัยหลักเลยนะคะ สำคัญมว๊ากๆ เพราะหากเราไม่กำหนดงบประมาณที่ชัดเจนแล้วมันจะบานปลายมากคะ ไหนจะค่าโน่นนี่นั่นจุกจิกมากเลย ดังนั้นควรมีการจำกัดงบประมาณให้พอเหมาะคะ (อันนี้ต้องคุยกันนะคะบ่าวสาวสุมหัวกันคะเท่าไรถึงจะสมเหตุสมผล) เปิดบัญชีร่วมกันหรือทำบันทึกรายจ่ายของงานให้ชัดเจนก็เป็นเรื่องที่ดีและควรทำนะคะ และอย่าลืมกำหนดระยะเวลาการเตรียมงานที่เหมาะสมด้วย จะช่วยให้คุณไม่เหนื่อยมากและได้รูปแบบงานตามที่คุณต้องการคะ สำหรับงานของเราใช้เวลาในการรวบรวมข้อมูลรวมถึงจัดหาและจัดทำรูปแบบ Theme งานออกแบบทุกสิ่งอย่าง ทั้งหมดก็ใช้เวลาประมาณ 6 เดือนก่อนถึงวันงานคะ ซึ่งก็กำลังดีคะ ไม่มากหรือน้อยจนเกินไปคะ ทั้งนี้งานเราก็ไม่ได้ซับซ้อนอะไรมากด้วยคะ
มาถึงเรื่องของรูปแบบงานกันบ้างนะคะ เป็นองค์รวมที่จะทำให้เราเลือกรูปแบบงานให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันได้คะ การกำหนดรูปแบบงานที่ชัดเจนจะทำให้เราไม่เสียเวลาในการเตรียมงานมากคะ ยิ่งถ้ามีเวลาในการเตรียมงานน้อยเราต้องชัดเจนและใช้เวลาให้คุ้มค่ามากที่สุด เราเลือกรูปแบบของงานที่เป็นรูปลักษณ์และแสดงเอกลักษณ์ความเป็นไทย เพราะการจัดงานแต่งงานถือว่าเป็นประเพณีวัฒนธรรมอันดีงาม ก็เราคนไทยนิเนอะ จริงๆ แล้วเป็นความต้องการของคุณเจ้าบ่าวด้วยคะที่อยากได้บรรยากาศรื่นรมย์ ไม่อึดอัด มีพื้นที่กว้างมองเห็นต้นไม้ใบหญ้าบ้าง คือไปงานโรงแรมมาก็หลายงานคะ สวยงามคะ แต่ว่าก็เหมือนๆ เดิม อาจจะเป็นเพราะว่ายังไม่เคยไปงานแบบไทยๆ แบบเต็มรูปแบบ เราจึงอยากมีบรรยากาศแบบนั้นในงานของเรา มองเห็นแขกที่มาร่วมงานผ่อนคลายมีความสุขไปกับเรา เห็นเด็กน้อยใส่ชุดไทยวิ่งเล่นในบรรยากาศไทยๆ ก็คงดีไม่น้อยคะ ซึ่งก็เป็นความต้องการที่ตรงกัน ดังนั้นเราจึงอยากให้งานออกมาเป็นไทยให้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นสถานที่, บรรยากาศ, ชุดเจ้าบ่าวเจ้าสาว, งานออกแบบทั้งหลายไม่ว่าจะเป็น การ์ด, ของชำร่วย, ของรับไหว้ต่างๆ, ชุดสังฆทาน, ป้ายงาน, ซุ้มหน้างานที่มีมุมภาพแกลลอรี่ และอื่นๆ เด่วเราจะมาแจกแจงรายละเอียดการออกแบบและการเตรียมสิ่งต่างๆ กันอีกทีคะ
ระหว่างที่เราเก็บรวบรวมข้อมูลนี้เราก็ได้ใช้เวลาตระเวนและคัดสรรสถานที่ที่เราต้องการไปด้วยคะ เพื่อไม่ให้เสียเวลา เผื่อว่าสถานที่ที่เราต้องการเกิดเต็มขึ้นมาเราจะได้หาสถานที่ใหม่ได้ทันตามฤกษ์ของเรานะคะ อันนี้สำคัญมาก ถ้าเป็นโรงแรมบางแห่งอาจจองกันยาวข้ามปีเลยทีเดียว สำหรับเราสองคนอย่างที่บอกนะคะว่าเป็นงานไทยๆ ง่ายๆ เราเลยมองหาเรือนไทยสวยๆ มีพื้นที่มากหน่อยสำหรับรองรับแขกของเราประมาณ 300 คนคะ หลังจากที่เราตระเวนดูเรือนไทยมาหลายที่ส่วนใหญ่จะมีพื้นที่ไม่มากคะ จุคนได้ 100-150 คน ซึ่งก็ไม่ตอบโจทย์ของเราเท่าไร เราอยากจัดงานรอบเดียวแบบพิธีเช้ากินเลี้ยงเที่ยงไปเลยง่ายๆ ไม่ต้องเหนื่อยแต่งตัวเตรียมตัวงานเย็นอีกเหนื่อยคะ (ความเห็นส่วนตัว) และยังเป็นการประหยัดงบประมาณไปด้วยนะคะไม่ต้องจัดเลี้ยง หรือจัดเตรียมสถานที่และอื่นๆ อีก 2 รอบ
หลังจากตระเวนกันไปมาหลายที่หลายแห่งก็ตัดสินใจเลือกเรือนไทยศาลายาคะ เป็นสถานที่ที่เราเคยมาร่วมงานแต่งงานคนที่เรารู้จักกันแล้วคะ ตอนแรกก็คิดว่ามันไกลไปนิดหน่อยอยู่ตั้งศาลายา แต่ด้วยองค์ประกอบอื่นๆ มันลงตัวเราจึงเลือกที่นี่คะ ทั้งเรื่องของบรรยากาศไทยอย่างที่เราต้องการ มีบริเวณกว้างขวางหลายมุม ทั้งในส่วนพิธีการในช่วงเช้าตั้งแต่ทำบุญ แห่ขันหมาก สู่ขอ หมั้น รวมไปถึงบริเวณรดน้ำสังข์ และพื้นที่สำหรับให้แขกนั่งรับประทานอาหารก็เพียงพอต่อจำนวนที่เรากำหนดได้ไว้ด้วยคะ เราจึงจัดการติดต่อทำเรื่องนัดวันและคุยรายละเอียดให้เรียบร้อยกับที่นี่คะ
สิ่งที่เราได้รับจากเรือนไทยศาลายาถือว่าลดขั้นตอนการเตรียมงานของเราไปได้เยอะมากคะ เพราะสถานที่บางแห่งอาจให้เช่าแค่สถานที่อย่างเดียวเท่านั้น เราต้องติดต่อเรื่องอาหาร เรื่องการจัดซุ้มดอกไม้ พิธีการงานเช้าเอง แบบนั้นวุ่นวายและเหนื่อยมากคะ มองหาสถานที่ที่มีครบครอบคลุมหมดก็จะดีนะคะง่ายดี หากไม่พอใจอะไรเราสามารถจัดเองเตรียมเองเพิ่มเติมได้คะ ขึ้นอยู่กับการเจรจาต่อรองกันนะคะ หลายๆ ที่ก็มีให้เลือกเป็นแพคเกจกันเลยคะ ชอบแบบไหนอย่างไรก็จัดกันได้ราคาก็ตามปริมาณของแขกที่มาร่วมงานคะ
(มีต่อด้านล่างนะคะ.........)