
บรรพชิต ควรพิจารณาเนืองๆ ว่า
๑. เราถึงความมีเพศต่างจากคฤหัสถ์แล้ว ไม่มีฐานะในสังคมแล้ว จะต้องไม่มีความกระด้างถือตัวใดๆ
๒. การเลี้ยงชีพของเราเนื่องด้วยผู้อื่นควรทำตัวให้เขาเลี้ยงง่าย
๓. เรามีอากัปกิริยาอย่างอื่นที่จะพึงทำ เช่น มีอินทรีย์อันสงบ เป็นต้น เพื่อสำรวมให้เหมาะกับความเป็นสมณะ
๔. ตัวเราเองยังติเตียนตัวเราเองโดยศีลไม่ได้อยู่หรือไม่
๕. เพื่อนพรหมจรรย์ทั้งหลายผู้เป็นวิญญูชน พิจารณาแล้วยังติเตียนเราโดยศีลไม่ได้อยู่หรือไม่
๖. เราต้องมีความผลัดพากจากของรักของชอบทั้งสิ้น
๗. เรามีกรรมเป็นของตน เราทำกรรมใด ดีก็ตาม ชั่วก็ตาม จักต้องเป็นทายาทของกรรมนั้น
๘. วันคืนล่วงไปๆ เราทำอะไรอยู่
๙. เรายินดีในที่สงัดหรือไม่
๑๐. คุณวิเศษยิ่งกว่าสามัญมนุษย์ที่เราบรรลุชแล้วมีอยู่หรือไม่ที่จะให้เราไม่เป็นผู้เก้อเขินเมื่อถูกบรรพชิตถาม ในกาลภายหลัง
นี่คือบทความบางช่วงบางตอนจากหนังสือเท่านั้น
วันหน้าจะเอามาลงทั้งเล่ม อ่านแล้วน่าติดตามและมีสาระมีประโยชน์ดี (ความเห็นส่วนตัว)
คันฉ่องส่องพระ
บรรพชิต ควรพิจารณาเนืองๆ ว่า
๑. เราถึงความมีเพศต่างจากคฤหัสถ์แล้ว ไม่มีฐานะในสังคมแล้ว จะต้องไม่มีความกระด้างถือตัวใดๆ
๒. การเลี้ยงชีพของเราเนื่องด้วยผู้อื่นควรทำตัวให้เขาเลี้ยงง่าย
๓. เรามีอากัปกิริยาอย่างอื่นที่จะพึงทำ เช่น มีอินทรีย์อันสงบ เป็นต้น เพื่อสำรวมให้เหมาะกับความเป็นสมณะ
๔. ตัวเราเองยังติเตียนตัวเราเองโดยศีลไม่ได้อยู่หรือไม่
๕. เพื่อนพรหมจรรย์ทั้งหลายผู้เป็นวิญญูชน พิจารณาแล้วยังติเตียนเราโดยศีลไม่ได้อยู่หรือไม่
๖. เราต้องมีความผลัดพากจากของรักของชอบทั้งสิ้น
๗. เรามีกรรมเป็นของตน เราทำกรรมใด ดีก็ตาม ชั่วก็ตาม จักต้องเป็นทายาทของกรรมนั้น
๘. วันคืนล่วงไปๆ เราทำอะไรอยู่
๙. เรายินดีในที่สงัดหรือไม่
๑๐. คุณวิเศษยิ่งกว่าสามัญมนุษย์ที่เราบรรลุชแล้วมีอยู่หรือไม่ที่จะให้เราไม่เป็นผู้เก้อเขินเมื่อถูกบรรพชิตถาม ในกาลภายหลัง
นี่คือบทความบางช่วงบางตอนจากหนังสือเท่านั้น
วันหน้าจะเอามาลงทั้งเล่ม อ่านแล้วน่าติดตามและมีสาระมีประโยชน์ดี (ความเห็นส่วนตัว)