คือแต่ก่อนเราก็เป็นคนทำงานหาเงินเองนี่แหละ ก็ค่อนข้างหยิ่งในศักศรีเหมือนกัน แบบไม่ชอบให้ใครมาดูถูก ถึงแม้ว่าบ้านเราจะจนก็เหอะ เราจะไม่เคยยืมเงินใครเลย ต่อให้งำบากเราก็จะหามาเอง แต่พอมีแฟน ยอมรับว่าเขาทำให้ชีวิตเราดีขึ้ร ง่ายขึ้น หรือพูดง่ายๆคือเขาช่วยเหลือเราได้ทุกเรื่องนั้นแหละ เราช่วยกันทำมาหากิน เราช่วยเขาขายของ กลางคืนเราก็ทำงาน เงินที่ได้เราสองคนก็รวมกันอยู่ในบัญชีเราทั้งคู่ เราเรียกมันว่า "เงินเรา" แต่เอาเข้าจริงมันไม่ได้เป็นอย่างงั้น เรารู้สึกว่าเขารู้สึกว่าเงินที่เราหามาได้พอเอาไปรวมกับเงินเขาก็จะกลายเป็นเงินเขา แล้วเหมือนเขาคิดว่าเราหาเงินไม่ได้เลย คือเรายอมรับเลยว่างานล้านทุกอย่างเราทำ ค่าของใช้ส่วนตัว ค่าใช้จ่ายในบ้านเขาจ่าย เวลากินเขาออก คือเขาเป็นคนถือเงินอะค่ะ แต่เงินในบัญชีก็มี เราก็ใช้ได้ แต่พอเราใช้ซื้อของบ้างเขากลับบ่นเรา อันนี้เข้าใจว่าสำหรับเขาอาจจะสิ้นเปลือง แต่มีครั้งหนึ่งเราเอาเงินไปลงทุนทำธุรกิจขายของนี่แหละ เราใช้เงินไม่ไปถึงหมื่น ขายของอยู่เดือนนึงขายไม่ค่อยได้เพราะพึ่งเปิดตัวใหม่ คือเราขายของออนไลน์อะ แต่พอขายได้แล้วเงินมันก็อยุ่ในกระเป๋า ก็ใช้ไปด้วยไม่ได้แยกเก็บ เงินที่ลูกค้าโอนมาในบัญชีก็จะกดไปรวมในบัญชีเขาทุกอาทิตย์ พอเขาถามเราว่าเงินขายของไปไหน เราก็บอกว่า ก็ใช้ไง แล้วมีครั้งนึงคืเพื่อนเขาถามว่า ขายของเป็นไงบ้าง เราก็ตอบว่าช่วงนี้ขายไม่ค่อยได้ มันพึ่งเริ่มทำน่ะ เขากลับบอกเพื่อนเขาว่า "เงินกูทั้งนั้น ลงไปเป็นหมื่น" คือเราก็แบบ อะไร? แล้วเงินกุล่ะ? หรือเงินขายของกู เงินเดือนกูที่กดไปรวมในบัญชีคือของหมด? นี่ไม่ใช่ครั้งเดียว มันหลายต่อหลายครั้งที่เขาพูด เวลาเราเงินเดือนเราออกละโอนไปให้แม่เราที 3,000-5,000บ้าง เขสก็จะมีอาการไม่พอใจเหมือนเราใช้เงินเนอะไปแล้ว พอจะแยกกระเป๋าก็หาว่าค่าใช้จ่ายเยอะเราไม่ช่วย คือเคยลองแยกละนะคะ แบบมันมีปัญหา เวลาต้องจ่ายค่า สบู่ ยาสีฟัน ค่าข้าวที่กินด้วยกันทุกมื้อ ค่าตั๋วหนัง ค่าหอ ค่าโทรศัพ คือทุกอย่าง เครียดมากเลยค่ะ ทำไมมันดูเป็นเราติดค้างเขาไปหมด ใครมีคำแนะนำรบกวนบอกหน่อยนะคะต้องทำยังไง
แฟนพูดทวงบุญคุณตลอดเวลาทำไงดีคะ?