เพราะอะไรทั้งชาย-หญิงจึงไม่นอกกาย ไม่นอกใจ (ทุกปัญหามีทางออก)

สวัสดีทุกท่านที่แวะเข้ามาอ่านนะคะ
เห็นมีกระทู้สาเหตุนอกใจเมีย และกระทู้สาเหตุที่มีผัวใหม่
จึงอยากแนะนำให้ท่านอื่นๆ ได้ลองอ่านกระทู้ของดิฉันบ้าง
ขอบคุณที่รับฟังค่ะ อมยิ้ม04

ก่อนอื่นต้องขอเล่าอดีตก่อน ว่าเคยพบเจออย่างไรมาบ้าง ก่อนจะถึงคนปัจจุบัน
แฟนคนที่ 1 คบกันสมัยเรียนมหาวิทยาลัย ผู้ชายตามเอาอกเอาใจ ให้เราทุกอย่าง สุภาพ แสนดี ครอบครัวดี คบกันได้ 3 ปีค่ะ
สาเหตุที่เลิกกัน เพราะเค้าขี้หึง ตามจิก โทรจิก โทรวันละร้อยๆ สาย ไม่ให้แต่งตัว ไม่ให้อิสระ สำคัญสุดคือ sex ห่วยบรมค่ะ
แฟนคนที่ 2 คบกันสมัยทำงาน ผู้ชายไม่มีอนาคต ติดเกม ติดยา ไม่ทำงาน ไม่มีสังคม เกาะพ่อแม่ และเกาะเรา คบกันได้ 3 ปีค่ะ
สาเหตุที่เลิกกัน คงไม่ต้องแจงสี่เบี้ยแล้ว ทวีห่วยแตกค่ะ แต่มีข้อดีคือ sex ดี เอาใจ ขี้อ้อน
แต่ แต่ แต่ !!!  มันไม่ใช่ทุกอย่างของชีวิต กินไม่ได้ค่ะ

ทีนี้ทุกท่านคงจะเห็นข้อผิดพลาดและปัญหาชีวิตคู่ของดิฉันแล้ว
มันเกิดทั้งจากตัวดิฉันเอง และฝ่ายชายเอง
ซึ่งเมื่อทั้งสองคน ไม่ตรงใจ ไม่ใช่ที่ดิฉันต้องการ ก็เลิกกันสิคะ
ดิฉันไม่เคยคิดนอกใจแฟน ไม่เคยมีชู้ เราต้องคุยปัญหาให้รู้เรื่อง เมื่อไม่รู้เรื่องก็จบๆ กันให้ขาด
แล้วเดินหน้าต่อไป แม้ระหว่างทางที่เดิน จะเสียใจ ทุกข์ใจ เศร้าใจ เหมือนจะตาย
แต่ดิฉันจะไม่ทนให้เสียความรู้สึกอีกต่อไป ถ้ารักมันห่วยก็ทิ้งมันไป มันไม่ใช่ทุกอย่างของชีวิตค่ะ

ณ ปัจจุบัน ดิฉันคบกับแฟนคนที่ 3 มา 4 ปีแล้วค่ะ (ข้ามเลข 3 มาแล้ว 5555)
ก่อนที่จะตัดสินใจคบกับคนนี้ ช่วงที่โสด มีผู้ชายเข้ามา 3 คนในชีวิต
ดิฉันก็คิดว่า เลข 3 มันต้องไม่ดีแน่ๆ (เกี่ยวมั้ย) ดิฉันจะคบซ้อนไม่ได้
คนที่ 1 เป็นชายสูงอายุกว่าดิฉัน 20 ปี สถานะดิฉันคือ กิ๊กหรือเมียน้อยแน่ๆ ถ้าคบไป
คนที่ 2 เป็นชายหน้าตาดี ภาพลักษณ์ดี ดูรวย ดูมีสังคม การศึกษาดี แต่เราเจอกันในสถานการณ์ที่แปลก และดิฉันคิดว่ายังเข้าไม่ถึง
คนที่ 3 เป็นชายที่ดูบ้านๆ ไม่รวย ไม่หล่อแต่ดูได้ ดูจริงใจ บ้านๆ ซื่อๆ การศึกษาน้อยกว่าดิฉัน

เป็นคุณคุณจะเลือกใครคะ ? ดิฉันอยากเลือกคนที่ 2 แต่ใจบอกว่าคนที่ 3 น่ะใช่
สรุปเลย เลือกคนที่ 3 ค่ะ อมยิ้ม01

ทีนี้เรามาพูดถึงประเด็นการหย่าร้าง นอกกาย นอกใจ ของคู่อื่นๆ ว่าคู่ของเราทำกันยังไงนะคะ

ประเด็นแรก เรื่องของการแต่งงาน
คู่ของเรายังไม่แต่งงาน เพราะเราคิดว่าเรายังไม่พร้อมจะสร้างหนี้สินโดยไม่จำเป็น การแต่งงานไม่ได้การันตีคุณภาพชีวิต
แต่เราทั้งสองคนคบกันแบบเปิดเผย ครอบครัวเรารู้จักกัน สนิทกันดี ซึ่งดิฉันกับแฟนคุยกันบ่อย มีเวลาคุยกันเยอะๆ
การแต่งงานของเราจะเกิดขึ้น ก็ต่อเมื่อเราพร้อม ตอนนี้เราควรเก็บเงินสร้างอนาคตกันก่อนค่ะ

ประเด็นที่สอง เรื่องบนเตียง
ทุกท่านจะเห็นว่า ดิฉันเคยเจอที่ห่วยและที่ดีมา ซึ่งเรื่อง sex ดิฉันคิดว่าสำคัญมากๆ สำหรับชีวิตคู่ แต่สิ่งที่จะทำให้เราไปสู่ประตูสวรรค์กันทั้งสองคนได้
คือ การคุยกัน และ การบอกความต้องการกันค่ะ ในเมื่อเขาเป็นแฟนเรา ทำไมเราจะต้องอาย คุยกันตรงๆ ไปเลย ดีกว่าจะต้องไปนั่งดูหนังโป๊คนเดียว หรือมาตั้งกระทู้ถามว่า เสร็จคืออะไร ทำไมผู้ชายไม่ทำการบ้าน หรือ แฟนมีชู้ อะไรทำนองนี้ ดิฉันกับแฟนจะคุยกันทุกเรื่อง ถามว่าแบบนี้ชอบมั้ย อยากให้ทำอะไรเพิ่มมั้ย ฉันชอบแบบนี้นะ คุณชอบแบบนี้มั้ย เราเปลี่ยนบรรยากาศมั้ย หาอะไรสนุกๆ ทำกันมั้ย วันนี้เธอต้องการมั้ย วันนี้เธอเหนื่อยมั้ย วันนี้ฉันเหนื่อยนะขอพักนะ นอนจับมือกันใสๆ นะ คือแรกๆ คุณอาจจะเขินอายค่ะ แต่พอทำไปเรื่อยๆ มันคือความสุขที่เราไม่ต้องโกหกและปิดบังกัน ซึ่งปัญหาหลักของผู้หญิงคือจะเสร็จยาก ปัญหาใหญ่ของผู้ชายคือเสร็จไว ฉะนั้นเราต้องคุยกันค่ะ บอกไปว่าต้องทำแบบไหน ฉันยังไม่เสร็จนะ เธอทำแบบนี้ได้มั้ย เธออย่าเพิ่งเสร็จนะ รอฉันก่อนนะ ทำแบบนี้กันก่อนนะ นู่นนี่นั่น หลังๆ ผู้ชายก็จะรู้ใจเราเองค่ะ ส่วนคุณผู้ชายเราก็แนะนำให้เขาออกกำลังกาย หรือฝึกความอดทน ซึ่งแฟนดิฉันก็เห็นด้วย เพราะมันทำให้มีความสุขทั้งคู่ และไม่อารมณ์เสียต่อกัน หลังจากเสร็จสมอารมณ์หมาย จะได้ไม่ต้องนอนหันหลังให้กัน จะได้นอนกอดกันอย่างมีความสุขค่ะ ซึ่งดิฉันบอกตามตรงว่า เรื่องบนเตียงมันทำให้เรารู้สึกรักและผูกพันกันมากขึ้นนะคะ

ประเด็นที่สาม เรื่องของเงิน
เราทั้งสองคนเป็นมนุษย์เงินเดือนค่ะ ฝ่ายชายเงินเดือนเยอะกว่า แม้เขาจะเรียนจบน้อยกว่าดิฉัน แต่เขามีประสบการณ์ทำงานเยอะ และระหว่างที่คบกันเขาก็ขอเรียนต่อ จนตอนนี้ใกล้จบปริญญาตรีแล้วค่ะ เราจะคุยกันเสมอเรื่องเงิน วางแผนการเงินของเราเกือบทุกวัน เวลาเงินเดือนออก เขาจะให้ดิฉันเป็นคนเก็บรวมทั้งหมด บัตรทุกใบดิฉันถือ แต่บางครั้งตามความเหมาะสมดิฉันก็ให้เขาถือ รหัสธนาคาร รหัสออนไลน์ เรารู้ด้วยกัน เวลาจะใช้เงินทำอะไรก็บอกกันตรงๆ
เขาทำให้ดิฉันไว้ใจ ดิฉันก็จะบริหารจัดการเงินให้ดีที่สุดค่ะ เราจะช่วยกันหาเงินพิเศษเพิ่มโดยการขายของออนไลน์ บริหารจัดการเงินเป็นการตัดสินใจของดิฉัน แต่เวลาดิฉันจะทำอะไรก็ถามความคิดเห็นเขาด้วย ซึ่งดิฉันใช้เงินเก่ง แต่ก็หาเงินมาเก่งด้วย ทุกวันนี้เราจึงมีเงินเก็บ เงินฝากประกัน เพื่ออนาคตของเรา และถ้ามีหนี้สินอะไรเราก็ช่วยกันค่ะ จะไม่โยนภาระให้ใครคนใดคนหนึ่ง ซึ่งแฟนดิฉันโอเคกับตรงนี้มาก ไม่เคยบ่น ไม่เคยน้อยใจ หรือคิดว่าเสียศักดิ์ศรี เขาบอกดิฉันว่า เมื่อก่อนเขาไม่มีอะไรเลยมีแต่หนี้ พอคบกับดิฉัน ดิฉันช่วยให้เขามีอนาคต ทำให้เขารู้จักเก็บออมเงิน วางแผนเพื่ออนาคตมากขึ้น
ซึ่งแฟนดิฉันไม่สูบบุหรี่นะคะ เมื่อก่อนก็กินเหล้าบ่อยมาก แต่เดี๋ยวนี้จะดื่มปีละ 2-3 ครั้งเพื่อเข้าสังคม และทุกครั้งที่ดื่มก็จะบอกดิฉันให้ทราบ ซึ่งดิฉันไม่ว่าอะไรค่ะ ดื่มได้ แต่ต้องขับรถกลับบ้านให้ไหว ไม่ไหวให้นั่งแท็กซี่ อย่าให้โดนตำรวจจับหรือไปชนใคร ไม่งั้นโดนดีแน่ค่ะ

ประเด็นที่สี่ เรื่องของงานบ้านงานเรือน
ดิฉันพูดตรงๆ ว่าดิฉันเป็นคนขี้เกียจ คือจะไม่ทำงานบ้านทุกวันค่ะ เพราะคิดว่าไร้สาระ (555) ดิฉันจะบอกกับแฟนทุกครั้งว่าดิฉันทำงานหลักและงานพิเศษมันเหนื่อยมาก และสุขภาพดิฉันก็ไม่ค่อยจะดี ฉะนั้นให้เขาช่วยทำงานบ้านด้วย ซึ่งเขาก็โอเคค่ะ เราจะคุยกันว่า หยิบใช้อะไรเสร็จต้องเก็บเข้าที่ ขยะต้องทิ้งเป็นที่ ถ้าพื้นสกปรกต้องกวาดต้องเช็ดเลย นี่คือสิ่งที่ต้องทำให้เป็นนิสัยค่ะ พอครบวาระ 1 เดือน ดิฉันจะเป็นคนทำงานบ้านครั้งยิ่งใหญ่ เก็บกวาดถูมันทุกซอกทุกมุม แฟนจะเป็นคนล้างทำความสะอาดห้องน้ำ เพราะดิฉันไม่ชอบ เรื่องซักผ้าส่วนใหญ่จะเป็นแฟนซักและตาก นอกจากบางครั้งดิฉันเห็นว่าตัวเองว่างก็ขอทำเอง ตอนเช้าแฟนจะตื่นเช้าเอาผ้าไปปั่นก่อนทำงาน และดิฉันจะตื่นหลังจากนั้น 1 ชม.มาตากผ้า ส่วนงานอื่นๆ ก็ช่วยกันทำ ล้างจานก็ช่วยกันทำ ซึ่งดิฉันยอมรับตรงนี้ว่าแฟนทำงานบ้านมากกว่า เพราะเราตกลงกันว่า แฟนเป็นคนทำมา ดิฉันเป็นคนหากิน

ประเด็นที่ห้า เรื่องทำร้ายร่างกาย
คบกันมา แฟนไม่เคยทำร้ายตบตีค่ะ คือ เราจะเล่นหยอกกัน และเล่นต่อสู้กัน ให้เสียเหงื่อและผ่อนคลาย แต่มีครั้งที่เล่นกันแล้ว
เกิดพลาดเจ็บขึ้นมาจริงๆ ดิฉันจะโมโหง่ายมากๆ แต่พอเห็นหน้าแฟนแล้วก็ใจเย็นลง เมื่อเราพลาด เรารู้ว่าเราผิด เราก็ขอโทษและถามด้วยความห่วงใยค่ะ แล้วอีกฝ่ายจะรู้สึกดีขึ้นมาเอง เราไม่เคยทะเลาะกันรุนแรงเลย ส่วนมากทะเลาะกันเพราะเล่นต่อสู้นี่ล่ะค่ะ เรื่องอื่นๆ เราจะคุยกันด้วยเหตุผล ซึ่งยอมรับว่าดิฉันไม่ค่อยมีเหตุผล โกรธง่าย อารมณ์รุนแรง มือถึง แต่พอคบกับแฟนคนนี้ เขาจะชวนคุยและตั้งคำถามให้ดิฉันคิด ว่าทำแบบนี้เพื่ออะไร ทำแล้วได้อะไร มันทำให้เรามีความสุขหรอ แฟนเป็นคนใจเย็นมากค่ะ คบกันมายังไม่เคยเห็นเขาทะเลาะกับใคร ยังไม่เคยเห็นเขาด่าใคร แฟนเป็นคนสุภาพ ให้เกียรติคน ให้เหตุผลของแต่ละฝ่าย จนดิฉันได้มุมมองต่างๆ จากเขามากขึ้น และดิฉันก็กลายเป็นคนมีเหตุผลมากขึ้น ไม่ค่อยใช้อารมณ์

ประเด็นที่หก  เรื่องของความเบื่อ
อยู่ด้วยกันทุกวันมาตั้ง 4 ปี ดิฉันจะไม่เฟคถึงความเบื่อของเราค่ะ อย่างที่บอกว่าเราจะคุยกันทุกเรื่อง ฉะนั้นเราจะทราบถึงความเบื่อของทั้งสองฝ่าย
เริ่มที่ความเบื่อของฝ่ายชาย 1.เขาเบื่อที่ดิฉันอารมณ์ร้อน 2.เบื่อที่ดิฉันชอบกินปิ้งย่าง (ใช้เงินเยอะ) 3.เบื่อที่ดิฉันชอบใช้ให้เขาหยิบนู่นนี่นั่น
ซึ่งดิฉันรู้ปัญหานี้ดี ดิฉันก็พยายามให้เหตุผลเขามากขึ้น ปรับตัว ลดให้มันน้อยลงบ้าง พูดกับเขาดีๆ หรือขอโทษเมื่อดิฉันทำผิดพลาด ซึ่งแฟนดิฉันเป็นคนง่ายๆ ค่ะ ถ้าดิฉันขอโทษเขาก็พร้อมให้อภัยและจบทุกครั้ง ไม่เคยเอามาฟื้นฝอยหาตะเข็บ
มาที่ความเบื่อของดิฉันบ้าง 1.เบื่อที่เขาทำอะไรก็ช้าทุกอย่าง มันขัดใจ 2.เบื่อที่เขาไม่เคยเข้าข้างดิฉัน 3.เบื่อที่เขาติดมือถือ
ซึ่งส่วนใหญ่มันก็มาจากดิฉันเป็นคนอารมณ์ร้อน บางทีก็ต้องปรับความคิดตัวเอง บางทีก็ขอกำลังใจจากเขาให้เออออกับฉันบ้าง ซึ่งแทบทุกเรื่องที่มาคิดย้อนหลังเขาก็เป็นฝ่ายถูกเสมอ ฉะนั้นเวลาเขาบอกเขาเตือนอะไร ดิฉันก็เลยจะรับฟัง แม้ไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่ ส่วนเรื่องมือถือเขาก็จะดูข่าว ดูกระแสสังคม และชวนฉันดู ชวนฉันคิด ดิฉันก็คิดว่า เออก็ดีนะ เหมือนมีคนอ่านข่าวให้ฟัง

ประเด็นที่เจ็ด เรื่องของความบันเทิง
ดิฉันเป็นคนชอบดูหนัง ฟังเพลง ซึ่งมันดีตรงที่แฟนก็ชอบ แต่เขาไม่ชอบให้ไปดูหนังที่โรงเพราะมันเสียเงินแพง ขัดใจดิฉันเหมือนกันค่ะ แต่เดี๋ยวนี้หนังออนไลน์มีให้ดูเยอะ ดิฉันเลยทำใจรับข้อนี้ได้ ก็นอนดูที่บ้านกันได้สบายใจ ส่วนเพลงแฟนชอบฟังลูกทุ่ง แต่เขาไม่เคยบังคับให้ดิฉันฟัง แต่เราก็ฟังสลับกันทั้งลูกทุ่ง สตริง สากล จนเดี๋ยวนี้ เรา cover ไสว่าสิบ่ถิ่มกัน ไปถอนคำสาบาน ภูมิแพ้กรุงเทพ ทะเลสีดำ ฯลฯ ดิฉันก็ว่าสนุกดี อีกอย่างถือว่าเราโชคดีที่ชอบเที่ยวเหมือนกัน แฟนชอบเที่ยวเหนือดิฉันก็ชอบ ฉะนั้นจะไปกันทุกปี ปีละ 2 ครั้ง แฟนไม่ค่อยชอบเข้าวัด เพราะมองว่าเป็นเชิงธุรกิจ ดิฉันก็บอกเขาว่าเข้าไปไหว้พระในโบสถ์ไม่ต้องเสียเงินก็ได้ ให้ใจสงบสุข แล้วเอาเงินไปทำทานให้หมาแมว คนยากไร้กัน ซึ่งเขาก็เห็นพ้องต้องกัน เราเลยไม่มีปัญหาเรื่องนี้ค่ะ เพราะเราคุยกัน แลกทัศนคติกัน ให้มุมมองกันและกัน

ประเด็นที่แปด เรื่องของการอยากมีคนใหม่
ถามว่าอยู่กันมานาน เราอาจจะอยากคุยกับคนอื่นบ้างก็ได้ เราก็ใช้หลักเดิมๆ คือคุยกัน ถามความต้องการกันค่ะ
แฟนดิฉันจะบอกว่า เขาไม่เบื่อดิฉันหรอก เพราะดิฉันดูแลเขาดี เอาใจใส่เขา คุยเก่ง เขาไม่เหงา แม้ดิฉันจะอวบอ้วน แต่ดิฉันก็ให้ความสุขเขามากพอ
เขาก็ถามดิฉันบ้าง ดิฉันขี้เหงานะ ขี้เบื่อ แต่ก็เลือกที่จะไลน์คุยกับเขา วีดิโอคอลล์ มันก็หายเหงาได้ค่ะ เพราะแฟนดิฉันจะเป็นคนตอบไลน์ตลอด ไปไหนมาไหน อยู่ไหน ถึงไหน ไลน์มาหาหรือโทรมาบอกตลอด เขาทำให้ดิฉันมั่นใจและเชื่อใจ หายเหงา และไม่คิดอยากมีใหม่

ประเด็นที่เก้า เรื่องของการให้เกียรติกัน
ถ้าคุณไม่นับเรื่องศักดิ์ศรีหรือหน้าตาในสังคม ประเด็นนี้จะเป็นปัญหาน้อยมากค่ะ แต่ดิฉันกับแฟนเราต่างวางตัวต่อกันดี เราจะเป็นทุกอย่างให้กันได้ตามสถานการณ์และความเหมาะสมค่ะ เหมือนเพื่อนกันเวลาสนุกสนาน เหมือนพี่น้องกันเวลามีปัญหาทุกข์ใจ เหมือนแฟนกันเวลามีความสุขอยู่บนเตียง เหมือนพ่อแม่ลูกกันเวลาเจ็บป่วยไม่สบาย และเหมือนเจ้านายลูกน้องกันเวลาอยู่กับครอบครัวหรือสังคมอีกฝ่าย ซึ่งดิฉันและแฟนโอเคกับตรงนี้มากค่ะ

จากที่ดิฉันพิมพ์มาทั้งหมด นี่คือมุมมองและประเด็นสำคัญของการใช้ชีวิตคู่

ปัญหาทั้งหมดจะหมดไปถ้าเรามีสิ่งนี้ต่อกัน
1.การคุยแลกเปลี่ยนมุมมอง ทัศนคติ แชร์ความรู้สึก และความต้องการ
2.การลดอีโก้ ความมั่นหน้า มั่นโหนก ศักดิ์ศรีที่ไม่ควรมีในบ้าน
3.การเข้าใจและยอมรับ
4.การปรับตัวเข้าหากัน
5.การเชื่อใจและมั่นใจในตัวตนของกันและกัน

ทุกวันนี้ดิฉันมีความสุขดีมาก และไม่เคยมีความคิดที่จะเลิกกัน ดิฉันพร้อมที่จะก้าวไปในอนาคตร่วมกับเขา
และพร้อมปรับในสิ่งต่างๆ เพื่อให้เข้ารูปเข้ารอยมากขึ้น
กระทู้นี้มีเจตนาให้มุมมองกับท่านที่มีปัญหาครอบครัว คนที่มีทัศนคติที่ไม่ดีกับครอบครัว หรือคนที่อยากจะมีครอบครัวแต่ไม่กล้า
รวมทั้งอยากให้กระทู้นี้เป็นความทรงจำดีๆ ของดิฉันเอง

ขอบคุณที่อ่านจนจบหวังว่าจะเกิดประโยชน์กับหลายๆ ครอบครัวนะคะ [:
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่