คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 13
ชีวิตผมเริ่มจากศูนย์
ผมเกิดในครอบครัวทหาร พ่อเป็นจ่าสิบเอก มีลูกทั้งหมด 6 คน ผมเป็นลูกคนโต พ่อมีรายได้ต่อเดือนไม่มากนัก การเลี้ยงลูก 6 คนจึงเป็นภาระที่หนักมาก อาศัยเงินเดือนอย่างเดียวไม่เพียงพอเลี้ยงครอบครัว พ่อต้องหารายได้เสริมโดยการไปเช่ารถจักรยานสามล้อมาปั่นรับจ้างทั่วไป ส่วนแม่ก็ช่วยหารายได้เสริมอีกแรงหนึ่งโดยการทำขนมไข่หงส์ขายในตลาดสดแห่งหนึ่ง จ.นครราชสีมา มีรายได้เล็กๆ น้อยๆ พ่อแม่ไม่มีบ้านของตนเอง เช่าบ้านอยู่ใกล้ตลาดเพื่อความสะดวก ขณะนั้นผมและน้องๆ ยังเด็กอยู่ แต่เราก็ต้องช่วยพ่อแม่ทำขนม โดยการเตรียมทำขนมเริ่มตั้งแต่การโม่แป้งในช่วงเย็นของทุกวัน เราพี่น้องต้องช่วยกันโม่แป้ง และตามประสาเด็กๆ มักเกี่ยงงานกัน มีการผลัดกันทำโดยการนับจำนวนรอบของโม่หินว่ากี่รอบจึงจะผลัดเปลี่ยนกัน ส่วนช่วงเช้าเราจะต้องตื่นนอนตั้งแต่ตี 4 - 5 เพื่อช่วยแม่ปั้นแป้งใส่ไส้ขนม ปั้นเป็นลูกกลมๆ ให้แม่นำไปทอดให้เหลืองกรอบแล้วตักพักไว้ หลังจากนั้นจึงเคี่ยวน้ำตาลกับน้ำให้เหนียวข้นแล้วนำขนมที่ทอดพักไว้เทลงไปคลุกเคล้าน้ำตาลเสร็จแล้วนำไปขายในตลาดเช้า
พ่อวันไหนว่างๆ ก็จะออกไปหาปลามาทำเป็นอาหาร โดยการทอดแหและปักเบ็ด ซึ่งในสมัยนั้นหาปลาได้ง่ายเพราะปลาชุกชุมมาก
ครอบครัวผมจัดอยู่ในประเภทยากจน หาเช้ากินค่ำ ครอบครัวต้องต่อสู้ดิ้นรนกับโลกใบนี้เป็นอย่างมาก มองไม่เห็นอนาคตว่าจะเป็นอย่างไร ผมหยุดเรียนเมื่อจบชั้น ป.4 ระยะหนึ่ง สาเหตุเนื่องจากผมไม่ชอบไปโรงเรียน ขณะนั้นผมคิดว่าการเที่ยวและเล่นสนุกกว่าการเรียนมาก ผมจึงหนีเรียน ผมเที่ยวไปเรื่อยตามประสาเด็ก ต่อมาเริ่มรู้สึกเบื่อและเหงาที่ไม่มีเพื่อนเล่น เนื่องจากเพื่อนรุ่นเดียวกันไปเรียนหนังสือกันหมด ผมจึงเรียนต่อชั้น ป.5 ในระหว่างที่เรียนชั้น ม.ศ.2 แม่ผมเสียชีวิต ส่วนพ่อก็ติดเหล้ามาก
วัฏจักร “ จน - เครียด - กินเหล้า ” ได้เข้ามาทำลายครอบครัวผม
พ่อติดเหล้ามากถึงขั้นทำงานไม่ได้ ต้องลาออกได้เงินบำนาญเพียงเดือนละ 800 บาท ทำให้น้องๆ ผู้หญิงต้องลาออกจากโรงเรียนเพื่อมาทำขนมขายหาเลี้ยงครอบครัวแทนแม่
เมื่อผมเรียนจบชั้น ม.ศ.3 ผมอยากจะเรียนต่อ แต่ผมก็ทำอย่างนั้นไม่ได้เพราะฐานะไม่ดี เผอิญช่วงนั้นมีการรับสมัครสอบเข้าเรียนหลักสูตรนักเรียนนายสิบทหารบก ผมเห็นเพื่อนหลายคนไปสมัครสอบ ผมก็ทดลองไปสมัครสอบด้วย ผมรู้ว่าหลักสูตรนี้ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น จึงเหมาะกับคนฐานะอย่างผมมาก ผมสอบได้และเลือกเรียนหลักสูตรนักเรียนนายสิบทหารบกเหล่าแพทย์ ในระหว่างที่เรียนกองทัพให้สิทธิพิเศษสำหรับนักเรียนนายสิบทหารบกสามารถไปเรียนต่อเป็นนักเรียนโรงเรียนเตรียมทหาร เมื่อเรียนจบจากโรงเรียนเตรียมทหารก็จะได้ไปเรียนต่อโรงเรียนนายร้อยทหารบก ถ้าสำเร็จการศึกษาจะได้รับการแต่งตั้งยศเป็นนายทหารชั้นยศร้อยตรี หลักสูตรนี้เป็นความใฝ่ฝันของเด็กหนุ่มไทยมาก กองทัพให้โควต้าเข้าเรียนในอัตราร้อยละ 1 สำหรับหลักสูตรนักเรียนนายสิบทหารบกเหล่าแพทย์ขณะนั้นมีนักเรียน 200 คนได้รับสิทธิโควต้า 2 คน ผมสอบได้ที่ 1 แต่ไม่ได้เรียนเนื่องจากอายุเกิน 1 ปี สาเหตุจากการหยุดเรียนในวัยเด็กของผมนั่นเอง
แม้จะไม่ได้เรียน แต่ผมได้รับความรู้และความคิดว่าครอบครัวผมยากจน ขณะนั้นน้องชายคนกลางกำลังจะเรียนจบชั้น ม.ศ.3 เรียนเก่งเช่นกัน น่าจะมีโอกาสก้าวหน้าในชีวิตได้โดยไม่ต้องใช้เงิน เนื่องจากการเรียนหลักสูตรนักเรียนนายสิบไม่ต้องใช้เงิน แถมยังได้รับเบี้ยเลี้ยงเงินเดือนขณะเรียนด้วย ในอัตราเบี้ยเลี้ยงเงินเดือนระดับพลทหาร และถ้าได้รับสิทธิเรียนต่อโรงเรียนเตรียมทหารและโรงเรียนนายร้อยก็จะได้รับเงินเดือนเพิ่มขึ้นอีกในระดับยศสิบโทขั้นต้น จึงถือเป็นโอกาสดีสำหรับเด็กยากจนแต่เรียนดีอย่างพวกเรา ผมไม่รอช้า รีบไปให้คำปรึกษาแนะนำแก่น้องชายคนกลาง เขาเห็นดีด้วยและสามารถสอบเข้าเป็นนักเรียนนายสิบได้ โดยเลือกเรียนหลักสูตรนักเรียนนายสิบทหารบกเหล่าแพทย์เช่นเดียวกัน และสามารถสอบได้ที่ 1 ของรุ่นเช่นกัน น้องชายจึงได้รับสิทธิเรียนโรงเรียนเตรียมทหารดังที่ได้ตั้งเป้าหมายไว้ และเรียนสำเร็จเป็นนายทหารชั้นยศร้อยตรีในที่สุด โดยแทบไม่ต้องใช้เงินส่วนตัวเลย
น้องชายคนเล็กก็เรียนเก่งเช่นกัน เมื่อผมเรียนจบนักเรียนนายสิบและได้รับยศสิบโท บรรจุทำงานที่ โรงพยาบาลทหาร จ.นครราชสีมา ขณะนั้นผมอายุ 21 ปี เงินเดือน 1,080 บาท ผมได้รับเขามาอยู่ด้วยและส่งให้เรียนจนจบชั้น ม.ศ.5 เมื่อเรียนจบเขาสอบเข้าเรียน คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่นได้ ผมก็มีปัญหาเพราะอาศัยเงินเดือนและเงินรายได้เสริมของผมไม่เพียงพอแน่ เราพี่น้องจึงต้องร่วมมือช่วยเหลือ คนนั้นนิด คนนี้หน่วย ถูๆ ไถๆ ไป น้องมีกินบ้างไม่มีกินบ้างจนกระทั่งเรียนจบ ในระหว่างที่น้องเรียนก็มีปัญหาเรื่องความคิด/ความเข้าใจของครอบครัวเกิดขึ้นเช่นกันคือ พ่อและอาของผมซึ่งเป็นทหารยศนายสิบเช่นกัน ไม่เข้าใจว่าการเรียนมหาวิทยาลัย คณะวิศวกรรมศาสตร์นั้นดีอย่างไร สมัยนั้นคนส่วนใหญ่ไม่มีความรู้และไม่เข้าใจเกี่ยวกับการเรียนคณะนี้และมักจะถามอยู่เสมอว่า วิศวกรคืออะไร ? ทำงานเกี่ยวกับอะไร ? มีรายได้เท่าใด ? แต่ไม่มีใครตอบได้ พ่อจึงมักจะบ่นอยู่เสมอว่าให้น้องเรียนทำไม ? จะมีงานทำหรือเปล่าก็ไม่รู้ ? ทำไมไม่ให้น้องเรียนทหารเหมือนพี่ๆ นี่คือความเข้าใจของคนทั่วไป พ่อเป็นทหาร พี่เป็นทหาร น้องก็ต้องเป็นทหาร เพราะมองไม่เห็นอาชีพอื่นนอกจากนี้อีก เมื่อน้องคนเล็กจบวิศวะทำงานบรรจุใหม่เขาได้เงินเดือนประมาณ 8,000 บาท ในขณะที่ผมกับน้องชายคนกลางซึ่งเป็นนายร้อยทั้งคู่ได้เงินเดือนประมาณ 3,000 บาทกว่า พอถึงตอนนี้พ่อไม่บ่นอีกเลย
ปัญหาคือ คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีความรู้เกี่ยวกับอาชีพอื่นมากนัก นอกจากอาชีพของตนเองและคนในครอบครัว ถ้าเรารู้สักนิดว่ามีอาชีพอะไรบ้าง เป็นอย่างไรบ้าง เราก็จะสามารถเลือกอาชีพที่เหมาะสมกับตัวเราได้มากขึ้น
ในขณะที่น้องชายคนเล็กเรียนมหาวิทยาลัยนั้น มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ได้เปิดหลักสูตรการเรียนการสอนทางไกล เปิดโอกาสให้ผู้ที่เรียนจบชั้น ม.ศ.3 และทำงานมาแล้วอย่างน้อย 5 ปี สามารถเข้าศึกษาต่อในหลักสูตรปริญญาตรี 4 ปีได้ นักศึกษาไม่ต้องเข้าชั้นเรียน อ่านหนังสือเรียนเองที่บ้าน เมื่อถึงกำหนดก็ไปสอบวัดผลการเรียน
นี่คือโอกาสของชีวิตในอาชีพการรับราชการทหาร เนื่องจากกองทัพให้สิทธิประโยชน์แก่ทหารชั้นยศนายสิบที่เรียนจบปริญญาตรีสามารถปรับเลื่อนฐานะเป็นนายทหารสัญญาบัตรชั้นยศร้อยตรีได้ ในสมัยนั้นนายสิบที่เรียนจบระดับปริญญาตรีมีน้อยมาก ไม่เหมือนสมัยนี้ที่ใครๆ ก็เรียนจบกันทั้งนั้น
ผมไม่ยอมพลาดโอกาส รีบสมัครเรียนทันทีในหลักสูตรบริหารสาธารณสุขศาสตรบัณฑิต สาขาวิทยาศาสตร์สุขภาพ ผมใช้เวลาเรียน 3 ปีครึ่งก็สำเร็จ ได้เกียรตินิยมอันดับ 1 และ อันดับ 1 สาขาวิชาวิทยาศาสตร์สุขภาพ เมื่อจบปริญญาตรีผมจึงใช้คุณวุฒิดังกล่าวปรับเลื่อนยศเป็นร้อยตรี
ตั้งแต่ผมจบหลักสูตรนักเรียนนายสิบและทำงาน ผมนำน้องชายคนเล็กมาอยู่ด้วยและส่งให้เรียนหนังสือ ผมมีค่าใช้จ่ายมาก ผมจึงต้องหารายได้เสริมโดยการรับจ้างเข้าเวรแทนผู้อื่น, ทำงานพิเศษที่คลินิกแพทย์และโรงพยาบาลเอกชน ผมและน้องชายคนเล็กเรียนจบปริญญาตรีในเวลาใกล้เคียงกัน ภาระในการหาเงินให้ได้มากๆ เพื่อให้เพียงพอกับค่าใช้จ่ายของผมจึงสิ้นสุดลง เป็นเวลา 9 ปี
เมื่อได้รับตำแหน่งร้อยตรี ผมต้องย้ายไปทำงานที่ จ.ลพบุรี ผมแต่งงาน ขณะนั้นภริยาทำงานที่โรงงานแห่งหนึ่ง เขาทำงานอีกระยะหนึ่งก็ลาออกมาศึกษาต่ออีก 2 ปี ในระดับอนุปริญญา สาขาการบัญชี เมื่อเรียนจบเขาทำงานเป็นพนักงานบัญชีโรงงานโม่หินและเปลี่ยนไปทำงานที่สำนักงานบ้านจัดสรร ฐานะทางบ้านภริยายากจนเช่นกัน เราสองคนช่วยกันทำงานและเก็บสะสมเงิน
วันหนึ่งเพื่อนภริยาแจ้งข่าวว่ามีร้านจำหน่ายหนังสือนิตยสารและรับถ่ายเอกสารซึ่งเช่าอาคารพาณิชย์แห่งหนึ่งจะเลิกกิจการ และเซ้งร้าน เนื่องจากรายได้ไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่าย ภริยาจึงชวนผมไปดู เนื่องจากผมเคยปรารภว่าอยากจะมีกิจการร้านขายยา เพราะผมเคยทำงานที่แผนกเภสัชกรรมของโรงพยาบาล มีความรู้เรื่องยาพอสมควร ประกอบกับมีเพื่อนเป็นเภสัชกร จึงคิดว่ากิจการนี้น่าจะดี เมื่อเดินทางไปพบเจ้าของกิจการเดิม เราสำรวจสภาพร้านและทำเลที่ตั้ง รู้สึกพอใจมาก เพราะร้านค้ามีทำเลที่ตั้งดี อยู่ในย่านตลาดสดริมถนนใหญ่ มีรถยนต์ผ่านไปมาหนาแน่น บริเวณนั้นเป็นที่ตั้งของชุมชนขนาดใหญ่ แต่เมื่อวิเคราะห์กลุ่มลูกค้าเป้าหมายกลับพบว่าชุมชนดังกล่าวนั้น ผู้อยู่อาศัยส่วนใหญ่เป็นทหารและครอบครัว เนื่องจากสถานที่ใกล้เคียงมีหน่วยทหารตั้งอยู่เป็นจำนวนมาก ข้าราชการเหล่านี้เมื่อทำงานระยะเวลาหนึ่งก็ต้องการมีบ้านเป็นของตัวเอง จึงมักจะหาซื้อหรือสร้างบ้านใกล้กับสถานที่ทำงานของตน ชุมชนแห่งนี้จึงเต็มไปด้วยทหารและครอบครัว มีพลเรือนอาศัยอยู่บ้าง แต่มีจำนวนไม่มากนัก เมื่อผมพบว่าที่ตั้งร้านเป็นแหล่งชุมชนทหาร การที่จะเปิดร้านขายยาบริเวณนี้กิจการอาจจะไม่ประสบความสำเร็จได้ เนื่องจากข้าราชการทหารและครอบครัวเมื่อเจ็บป่วยสามารถเบิกค่ายาฟรีได้ ผมคิดว่าใครจะมาซื้อยาของเรา? ผมจึงต้องเปลี่ยนแผนประกอบกิจการทันที แต่เราก็ไม่มีแผนอื่นสำรองไว้ เวลากะทันหันเราตั้งตัวแทบไม่ติด ไม่ทราบว่าจะค้าขายอะไรดีเพราะไม่มีความรู้เรื่องการค้าขายมาก่อนแต่อยากจะทำ เราจึงสอบถามหาความรู้กับเจ้าของกิจการเดิมว่า เขาประกอบกิจการอะไร, รายได้/รายจ่าย, ผลประกอบกิจการเป็นอย่างไร เราขอให้เขาช่วยถ่ายทอดความรู้เรื่องการจำหน่ายหนังสือนิตยสารและความรู้เรื่องการรับถ่ายเอกสาร เราวิเคราะห์ผลดี/ผลเสียและโอกาสที่จะเป็นไปได้ แล้วตัดสินใจเซ้งร้านค้าต่อทันที เราจ่ายเงินเป็นค่าเซ้งร้านค้าจากผู้เช่าเดิม, จ่ายค่ามัดจำการเช่าอาคารพาณิชย์ให้เจ้าของ, จ่ายค่าเครื่องถ่ายเอกสารและวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ , จ่ายค่าประกันการจำหน่ายหนังสือนิตยสารให้กับเอเย่นต์ส่งหนังสือ และ อื่น ๆ
เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย เราเริ่มเปิดกิจการ เราทำสิ่งใหม่ที่ไม่รู้จัก ในใจก็กลัวเช่นกันแต่เราไม่ถอย เราสู้ ระยะเริ่มแรกกิจการไม่ค่อยดีนัก โชคดีที่ผมเรียนบริหารสาธารณสุขศาสตร์ มีความรู้พื้นฐานด้านบริหารธุรกิจ ผมได้นำความรู้นั้นมาใช้ประโยชน์ปรับปรุงกิจการและประสบความสำเร็จระดับหนึ่ง เราประกอบกิจการค้าเช่นเดียวกับเจ้าของเดิม แต่เราทำได้ดีกว่าเพราะเรามีความรู้เกี่ยวกับการบริหารจัดการมากกว่า ฉะนั้นจึงเห็นได้ว่าความรู้มีความสำคัญเช่นเดียวกับเงินทุน คุณจึงควรมีความรู้ที่เกี่ยวข้องให้มากๆ เพื่อความสำเร็จที่มากกว่า
เวลาผ่านไป จากคนที่ไม่รู้เรื่องค้าขาย ผมได้เรียนรู้เกี่ยวกับการค้ามากขึ้น ทั้งความรู้เกี่ยวกับกิจการที่ผมทำอยู่และกิจการอื่นๆ ผมพยายามศึกษาหาความรู้เพื่อให้ร่ำรวยและมีความรู้มากขึ้นตามลำดับ และพบว่าสิ่งที่ผมปฏิบัติเกี่ยวกับเงินในอดีตนั้นเป็นการปฏิบัติที่นำไปสู่ความร่ำรวยเช่นกัน เพียงแต่น้อยไป ผลที่ได้รับจึงน้อย เมื่อเรียนรู้เช่นนั้น ผมจึงปรับปรุงการปฏิบัติตามแนวทางสู่ความร่ำรวยใหม่ทันที และประสบผลสำเร็จอย่างดี (หมายเหตุ หลังจากผมเปิดร้านหนังสือ อาคารพาณิชย์ห้องใกล้กันมีคนมาเปิดร้านขายยาและปิดกิจการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนถึง 3 เจ้าด้วยกัน ไม่มีใครอยู่ได้ สุดท้ายร้านทองซื้อขยายร้าน)
ปัจจุบันผมมี Asset เป็นอาคารพาณิชย์, ที่ดิน มูลค่าประมาณ 30 ล้าน ผมมีเงินเดือน, ธุรกิจส่วนตัว และทองคำเล็กน้อย ผมมีรายได้มากขึ้น, แบ่งเงินเก็บสะสมได้มากขึ้น, แบ่งเงินสำหรับใช้จ่ายได้มากขึ้น และมีความสุขสะดวก/สบายมากขึ้นเรื่อยๆ
ผมได้เริ่มต้นก้าวเดินเข้าสู่จุดมุ่งหมายแห่งความร่ำรวยแล้ว
ประสบการณ์ได้สอนให้ผมรู้ว่า ขณะที่ผมยังไม่ค่อยมีความรู้เรื่องเงินและวิธีปฏิบัติสู่ความร่ำรวย ผมก็จะดำเนินชีวิตที่สามารถเก็บสะสมเงินได้จำนวนเล็กน้อย แต่ครั้นเมื่อผมมีความรู้เรื่องเงินและวิธีปฏิบัติสู่ความร่ำรวยมากขึ้น ผมจึงสามารถเก็บสะสมทรัพย์สินได้มากขึ้น/ เร็วขึ้น
ผมจึงคิดว่าความรู้เป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะมันได้ช่วยเปลี่ยนชีวิตและเพิ่มทรัพย์สินให้กับผมได้อย่างรวดเร็ว ผมคิดว่าความรู้จะช่วยเปลี่ยนชีวิตของคุณเช่นกัน เพียงแต่คุณจะต้องหมั่นหาความรู้และลงมือปฏิบัติอย่างมุ่งมั่นและจริงจัง
เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ f. ห้องเรียน ชูเจตต
ผมเกิดในครอบครัวทหาร พ่อเป็นจ่าสิบเอก มีลูกทั้งหมด 6 คน ผมเป็นลูกคนโต พ่อมีรายได้ต่อเดือนไม่มากนัก การเลี้ยงลูก 6 คนจึงเป็นภาระที่หนักมาก อาศัยเงินเดือนอย่างเดียวไม่เพียงพอเลี้ยงครอบครัว พ่อต้องหารายได้เสริมโดยการไปเช่ารถจักรยานสามล้อมาปั่นรับจ้างทั่วไป ส่วนแม่ก็ช่วยหารายได้เสริมอีกแรงหนึ่งโดยการทำขนมไข่หงส์ขายในตลาดสดแห่งหนึ่ง จ.นครราชสีมา มีรายได้เล็กๆ น้อยๆ พ่อแม่ไม่มีบ้านของตนเอง เช่าบ้านอยู่ใกล้ตลาดเพื่อความสะดวก ขณะนั้นผมและน้องๆ ยังเด็กอยู่ แต่เราก็ต้องช่วยพ่อแม่ทำขนม โดยการเตรียมทำขนมเริ่มตั้งแต่การโม่แป้งในช่วงเย็นของทุกวัน เราพี่น้องต้องช่วยกันโม่แป้ง และตามประสาเด็กๆ มักเกี่ยงงานกัน มีการผลัดกันทำโดยการนับจำนวนรอบของโม่หินว่ากี่รอบจึงจะผลัดเปลี่ยนกัน ส่วนช่วงเช้าเราจะต้องตื่นนอนตั้งแต่ตี 4 - 5 เพื่อช่วยแม่ปั้นแป้งใส่ไส้ขนม ปั้นเป็นลูกกลมๆ ให้แม่นำไปทอดให้เหลืองกรอบแล้วตักพักไว้ หลังจากนั้นจึงเคี่ยวน้ำตาลกับน้ำให้เหนียวข้นแล้วนำขนมที่ทอดพักไว้เทลงไปคลุกเคล้าน้ำตาลเสร็จแล้วนำไปขายในตลาดเช้า
พ่อวันไหนว่างๆ ก็จะออกไปหาปลามาทำเป็นอาหาร โดยการทอดแหและปักเบ็ด ซึ่งในสมัยนั้นหาปลาได้ง่ายเพราะปลาชุกชุมมาก
ครอบครัวผมจัดอยู่ในประเภทยากจน หาเช้ากินค่ำ ครอบครัวต้องต่อสู้ดิ้นรนกับโลกใบนี้เป็นอย่างมาก มองไม่เห็นอนาคตว่าจะเป็นอย่างไร ผมหยุดเรียนเมื่อจบชั้น ป.4 ระยะหนึ่ง สาเหตุเนื่องจากผมไม่ชอบไปโรงเรียน ขณะนั้นผมคิดว่าการเที่ยวและเล่นสนุกกว่าการเรียนมาก ผมจึงหนีเรียน ผมเที่ยวไปเรื่อยตามประสาเด็ก ต่อมาเริ่มรู้สึกเบื่อและเหงาที่ไม่มีเพื่อนเล่น เนื่องจากเพื่อนรุ่นเดียวกันไปเรียนหนังสือกันหมด ผมจึงเรียนต่อชั้น ป.5 ในระหว่างที่เรียนชั้น ม.ศ.2 แม่ผมเสียชีวิต ส่วนพ่อก็ติดเหล้ามาก
วัฏจักร “ จน - เครียด - กินเหล้า ” ได้เข้ามาทำลายครอบครัวผม
พ่อติดเหล้ามากถึงขั้นทำงานไม่ได้ ต้องลาออกได้เงินบำนาญเพียงเดือนละ 800 บาท ทำให้น้องๆ ผู้หญิงต้องลาออกจากโรงเรียนเพื่อมาทำขนมขายหาเลี้ยงครอบครัวแทนแม่
เมื่อผมเรียนจบชั้น ม.ศ.3 ผมอยากจะเรียนต่อ แต่ผมก็ทำอย่างนั้นไม่ได้เพราะฐานะไม่ดี เผอิญช่วงนั้นมีการรับสมัครสอบเข้าเรียนหลักสูตรนักเรียนนายสิบทหารบก ผมเห็นเพื่อนหลายคนไปสมัครสอบ ผมก็ทดลองไปสมัครสอบด้วย ผมรู้ว่าหลักสูตรนี้ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น จึงเหมาะกับคนฐานะอย่างผมมาก ผมสอบได้และเลือกเรียนหลักสูตรนักเรียนนายสิบทหารบกเหล่าแพทย์ ในระหว่างที่เรียนกองทัพให้สิทธิพิเศษสำหรับนักเรียนนายสิบทหารบกสามารถไปเรียนต่อเป็นนักเรียนโรงเรียนเตรียมทหาร เมื่อเรียนจบจากโรงเรียนเตรียมทหารก็จะได้ไปเรียนต่อโรงเรียนนายร้อยทหารบก ถ้าสำเร็จการศึกษาจะได้รับการแต่งตั้งยศเป็นนายทหารชั้นยศร้อยตรี หลักสูตรนี้เป็นความใฝ่ฝันของเด็กหนุ่มไทยมาก กองทัพให้โควต้าเข้าเรียนในอัตราร้อยละ 1 สำหรับหลักสูตรนักเรียนนายสิบทหารบกเหล่าแพทย์ขณะนั้นมีนักเรียน 200 คนได้รับสิทธิโควต้า 2 คน ผมสอบได้ที่ 1 แต่ไม่ได้เรียนเนื่องจากอายุเกิน 1 ปี สาเหตุจากการหยุดเรียนในวัยเด็กของผมนั่นเอง
แม้จะไม่ได้เรียน แต่ผมได้รับความรู้และความคิดว่าครอบครัวผมยากจน ขณะนั้นน้องชายคนกลางกำลังจะเรียนจบชั้น ม.ศ.3 เรียนเก่งเช่นกัน น่าจะมีโอกาสก้าวหน้าในชีวิตได้โดยไม่ต้องใช้เงิน เนื่องจากการเรียนหลักสูตรนักเรียนนายสิบไม่ต้องใช้เงิน แถมยังได้รับเบี้ยเลี้ยงเงินเดือนขณะเรียนด้วย ในอัตราเบี้ยเลี้ยงเงินเดือนระดับพลทหาร และถ้าได้รับสิทธิเรียนต่อโรงเรียนเตรียมทหารและโรงเรียนนายร้อยก็จะได้รับเงินเดือนเพิ่มขึ้นอีกในระดับยศสิบโทขั้นต้น จึงถือเป็นโอกาสดีสำหรับเด็กยากจนแต่เรียนดีอย่างพวกเรา ผมไม่รอช้า รีบไปให้คำปรึกษาแนะนำแก่น้องชายคนกลาง เขาเห็นดีด้วยและสามารถสอบเข้าเป็นนักเรียนนายสิบได้ โดยเลือกเรียนหลักสูตรนักเรียนนายสิบทหารบกเหล่าแพทย์เช่นเดียวกัน และสามารถสอบได้ที่ 1 ของรุ่นเช่นกัน น้องชายจึงได้รับสิทธิเรียนโรงเรียนเตรียมทหารดังที่ได้ตั้งเป้าหมายไว้ และเรียนสำเร็จเป็นนายทหารชั้นยศร้อยตรีในที่สุด โดยแทบไม่ต้องใช้เงินส่วนตัวเลย
น้องชายคนเล็กก็เรียนเก่งเช่นกัน เมื่อผมเรียนจบนักเรียนนายสิบและได้รับยศสิบโท บรรจุทำงานที่ โรงพยาบาลทหาร จ.นครราชสีมา ขณะนั้นผมอายุ 21 ปี เงินเดือน 1,080 บาท ผมได้รับเขามาอยู่ด้วยและส่งให้เรียนจนจบชั้น ม.ศ.5 เมื่อเรียนจบเขาสอบเข้าเรียน คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่นได้ ผมก็มีปัญหาเพราะอาศัยเงินเดือนและเงินรายได้เสริมของผมไม่เพียงพอแน่ เราพี่น้องจึงต้องร่วมมือช่วยเหลือ คนนั้นนิด คนนี้หน่วย ถูๆ ไถๆ ไป น้องมีกินบ้างไม่มีกินบ้างจนกระทั่งเรียนจบ ในระหว่างที่น้องเรียนก็มีปัญหาเรื่องความคิด/ความเข้าใจของครอบครัวเกิดขึ้นเช่นกันคือ พ่อและอาของผมซึ่งเป็นทหารยศนายสิบเช่นกัน ไม่เข้าใจว่าการเรียนมหาวิทยาลัย คณะวิศวกรรมศาสตร์นั้นดีอย่างไร สมัยนั้นคนส่วนใหญ่ไม่มีความรู้และไม่เข้าใจเกี่ยวกับการเรียนคณะนี้และมักจะถามอยู่เสมอว่า วิศวกรคืออะไร ? ทำงานเกี่ยวกับอะไร ? มีรายได้เท่าใด ? แต่ไม่มีใครตอบได้ พ่อจึงมักจะบ่นอยู่เสมอว่าให้น้องเรียนทำไม ? จะมีงานทำหรือเปล่าก็ไม่รู้ ? ทำไมไม่ให้น้องเรียนทหารเหมือนพี่ๆ นี่คือความเข้าใจของคนทั่วไป พ่อเป็นทหาร พี่เป็นทหาร น้องก็ต้องเป็นทหาร เพราะมองไม่เห็นอาชีพอื่นนอกจากนี้อีก เมื่อน้องคนเล็กจบวิศวะทำงานบรรจุใหม่เขาได้เงินเดือนประมาณ 8,000 บาท ในขณะที่ผมกับน้องชายคนกลางซึ่งเป็นนายร้อยทั้งคู่ได้เงินเดือนประมาณ 3,000 บาทกว่า พอถึงตอนนี้พ่อไม่บ่นอีกเลย
ปัญหาคือ คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีความรู้เกี่ยวกับอาชีพอื่นมากนัก นอกจากอาชีพของตนเองและคนในครอบครัว ถ้าเรารู้สักนิดว่ามีอาชีพอะไรบ้าง เป็นอย่างไรบ้าง เราก็จะสามารถเลือกอาชีพที่เหมาะสมกับตัวเราได้มากขึ้น
ในขณะที่น้องชายคนเล็กเรียนมหาวิทยาลัยนั้น มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ได้เปิดหลักสูตรการเรียนการสอนทางไกล เปิดโอกาสให้ผู้ที่เรียนจบชั้น ม.ศ.3 และทำงานมาแล้วอย่างน้อย 5 ปี สามารถเข้าศึกษาต่อในหลักสูตรปริญญาตรี 4 ปีได้ นักศึกษาไม่ต้องเข้าชั้นเรียน อ่านหนังสือเรียนเองที่บ้าน เมื่อถึงกำหนดก็ไปสอบวัดผลการเรียน
นี่คือโอกาสของชีวิตในอาชีพการรับราชการทหาร เนื่องจากกองทัพให้สิทธิประโยชน์แก่ทหารชั้นยศนายสิบที่เรียนจบปริญญาตรีสามารถปรับเลื่อนฐานะเป็นนายทหารสัญญาบัตรชั้นยศร้อยตรีได้ ในสมัยนั้นนายสิบที่เรียนจบระดับปริญญาตรีมีน้อยมาก ไม่เหมือนสมัยนี้ที่ใครๆ ก็เรียนจบกันทั้งนั้น
ผมไม่ยอมพลาดโอกาส รีบสมัครเรียนทันทีในหลักสูตรบริหารสาธารณสุขศาสตรบัณฑิต สาขาวิทยาศาสตร์สุขภาพ ผมใช้เวลาเรียน 3 ปีครึ่งก็สำเร็จ ได้เกียรตินิยมอันดับ 1 และ อันดับ 1 สาขาวิชาวิทยาศาสตร์สุขภาพ เมื่อจบปริญญาตรีผมจึงใช้คุณวุฒิดังกล่าวปรับเลื่อนยศเป็นร้อยตรี
ตั้งแต่ผมจบหลักสูตรนักเรียนนายสิบและทำงาน ผมนำน้องชายคนเล็กมาอยู่ด้วยและส่งให้เรียนหนังสือ ผมมีค่าใช้จ่ายมาก ผมจึงต้องหารายได้เสริมโดยการรับจ้างเข้าเวรแทนผู้อื่น, ทำงานพิเศษที่คลินิกแพทย์และโรงพยาบาลเอกชน ผมและน้องชายคนเล็กเรียนจบปริญญาตรีในเวลาใกล้เคียงกัน ภาระในการหาเงินให้ได้มากๆ เพื่อให้เพียงพอกับค่าใช้จ่ายของผมจึงสิ้นสุดลง เป็นเวลา 9 ปี
เมื่อได้รับตำแหน่งร้อยตรี ผมต้องย้ายไปทำงานที่ จ.ลพบุรี ผมแต่งงาน ขณะนั้นภริยาทำงานที่โรงงานแห่งหนึ่ง เขาทำงานอีกระยะหนึ่งก็ลาออกมาศึกษาต่ออีก 2 ปี ในระดับอนุปริญญา สาขาการบัญชี เมื่อเรียนจบเขาทำงานเป็นพนักงานบัญชีโรงงานโม่หินและเปลี่ยนไปทำงานที่สำนักงานบ้านจัดสรร ฐานะทางบ้านภริยายากจนเช่นกัน เราสองคนช่วยกันทำงานและเก็บสะสมเงิน
วันหนึ่งเพื่อนภริยาแจ้งข่าวว่ามีร้านจำหน่ายหนังสือนิตยสารและรับถ่ายเอกสารซึ่งเช่าอาคารพาณิชย์แห่งหนึ่งจะเลิกกิจการ และเซ้งร้าน เนื่องจากรายได้ไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่าย ภริยาจึงชวนผมไปดู เนื่องจากผมเคยปรารภว่าอยากจะมีกิจการร้านขายยา เพราะผมเคยทำงานที่แผนกเภสัชกรรมของโรงพยาบาล มีความรู้เรื่องยาพอสมควร ประกอบกับมีเพื่อนเป็นเภสัชกร จึงคิดว่ากิจการนี้น่าจะดี เมื่อเดินทางไปพบเจ้าของกิจการเดิม เราสำรวจสภาพร้านและทำเลที่ตั้ง รู้สึกพอใจมาก เพราะร้านค้ามีทำเลที่ตั้งดี อยู่ในย่านตลาดสดริมถนนใหญ่ มีรถยนต์ผ่านไปมาหนาแน่น บริเวณนั้นเป็นที่ตั้งของชุมชนขนาดใหญ่ แต่เมื่อวิเคราะห์กลุ่มลูกค้าเป้าหมายกลับพบว่าชุมชนดังกล่าวนั้น ผู้อยู่อาศัยส่วนใหญ่เป็นทหารและครอบครัว เนื่องจากสถานที่ใกล้เคียงมีหน่วยทหารตั้งอยู่เป็นจำนวนมาก ข้าราชการเหล่านี้เมื่อทำงานระยะเวลาหนึ่งก็ต้องการมีบ้านเป็นของตัวเอง จึงมักจะหาซื้อหรือสร้างบ้านใกล้กับสถานที่ทำงานของตน ชุมชนแห่งนี้จึงเต็มไปด้วยทหารและครอบครัว มีพลเรือนอาศัยอยู่บ้าง แต่มีจำนวนไม่มากนัก เมื่อผมพบว่าที่ตั้งร้านเป็นแหล่งชุมชนทหาร การที่จะเปิดร้านขายยาบริเวณนี้กิจการอาจจะไม่ประสบความสำเร็จได้ เนื่องจากข้าราชการทหารและครอบครัวเมื่อเจ็บป่วยสามารถเบิกค่ายาฟรีได้ ผมคิดว่าใครจะมาซื้อยาของเรา? ผมจึงต้องเปลี่ยนแผนประกอบกิจการทันที แต่เราก็ไม่มีแผนอื่นสำรองไว้ เวลากะทันหันเราตั้งตัวแทบไม่ติด ไม่ทราบว่าจะค้าขายอะไรดีเพราะไม่มีความรู้เรื่องการค้าขายมาก่อนแต่อยากจะทำ เราจึงสอบถามหาความรู้กับเจ้าของกิจการเดิมว่า เขาประกอบกิจการอะไร, รายได้/รายจ่าย, ผลประกอบกิจการเป็นอย่างไร เราขอให้เขาช่วยถ่ายทอดความรู้เรื่องการจำหน่ายหนังสือนิตยสารและความรู้เรื่องการรับถ่ายเอกสาร เราวิเคราะห์ผลดี/ผลเสียและโอกาสที่จะเป็นไปได้ แล้วตัดสินใจเซ้งร้านค้าต่อทันที เราจ่ายเงินเป็นค่าเซ้งร้านค้าจากผู้เช่าเดิม, จ่ายค่ามัดจำการเช่าอาคารพาณิชย์ให้เจ้าของ, จ่ายค่าเครื่องถ่ายเอกสารและวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ , จ่ายค่าประกันการจำหน่ายหนังสือนิตยสารให้กับเอเย่นต์ส่งหนังสือ และ อื่น ๆ
เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย เราเริ่มเปิดกิจการ เราทำสิ่งใหม่ที่ไม่รู้จัก ในใจก็กลัวเช่นกันแต่เราไม่ถอย เราสู้ ระยะเริ่มแรกกิจการไม่ค่อยดีนัก โชคดีที่ผมเรียนบริหารสาธารณสุขศาสตร์ มีความรู้พื้นฐานด้านบริหารธุรกิจ ผมได้นำความรู้นั้นมาใช้ประโยชน์ปรับปรุงกิจการและประสบความสำเร็จระดับหนึ่ง เราประกอบกิจการค้าเช่นเดียวกับเจ้าของเดิม แต่เราทำได้ดีกว่าเพราะเรามีความรู้เกี่ยวกับการบริหารจัดการมากกว่า ฉะนั้นจึงเห็นได้ว่าความรู้มีความสำคัญเช่นเดียวกับเงินทุน คุณจึงควรมีความรู้ที่เกี่ยวข้องให้มากๆ เพื่อความสำเร็จที่มากกว่า
เวลาผ่านไป จากคนที่ไม่รู้เรื่องค้าขาย ผมได้เรียนรู้เกี่ยวกับการค้ามากขึ้น ทั้งความรู้เกี่ยวกับกิจการที่ผมทำอยู่และกิจการอื่นๆ ผมพยายามศึกษาหาความรู้เพื่อให้ร่ำรวยและมีความรู้มากขึ้นตามลำดับ และพบว่าสิ่งที่ผมปฏิบัติเกี่ยวกับเงินในอดีตนั้นเป็นการปฏิบัติที่นำไปสู่ความร่ำรวยเช่นกัน เพียงแต่น้อยไป ผลที่ได้รับจึงน้อย เมื่อเรียนรู้เช่นนั้น ผมจึงปรับปรุงการปฏิบัติตามแนวทางสู่ความร่ำรวยใหม่ทันที และประสบผลสำเร็จอย่างดี (หมายเหตุ หลังจากผมเปิดร้านหนังสือ อาคารพาณิชย์ห้องใกล้กันมีคนมาเปิดร้านขายยาและปิดกิจการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนถึง 3 เจ้าด้วยกัน ไม่มีใครอยู่ได้ สุดท้ายร้านทองซื้อขยายร้าน)
ปัจจุบันผมมี Asset เป็นอาคารพาณิชย์, ที่ดิน มูลค่าประมาณ 30 ล้าน ผมมีเงินเดือน, ธุรกิจส่วนตัว และทองคำเล็กน้อย ผมมีรายได้มากขึ้น, แบ่งเงินเก็บสะสมได้มากขึ้น, แบ่งเงินสำหรับใช้จ่ายได้มากขึ้น และมีความสุขสะดวก/สบายมากขึ้นเรื่อยๆ
ผมได้เริ่มต้นก้าวเดินเข้าสู่จุดมุ่งหมายแห่งความร่ำรวยแล้ว
ประสบการณ์ได้สอนให้ผมรู้ว่า ขณะที่ผมยังไม่ค่อยมีความรู้เรื่องเงินและวิธีปฏิบัติสู่ความร่ำรวย ผมก็จะดำเนินชีวิตที่สามารถเก็บสะสมเงินได้จำนวนเล็กน้อย แต่ครั้นเมื่อผมมีความรู้เรื่องเงินและวิธีปฏิบัติสู่ความร่ำรวยมากขึ้น ผมจึงสามารถเก็บสะสมทรัพย์สินได้มากขึ้น/ เร็วขึ้น
ผมจึงคิดว่าความรู้เป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะมันได้ช่วยเปลี่ยนชีวิตและเพิ่มทรัพย์สินให้กับผมได้อย่างรวดเร็ว ผมคิดว่าความรู้จะช่วยเปลี่ยนชีวิตของคุณเช่นกัน เพียงแต่คุณจะต้องหมั่นหาความรู้และลงมือปฏิบัติอย่างมุ่งมั่นและจริงจัง
เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ f. ห้องเรียน ชูเจตต
แสดงความคิดเห็น
ขอถามคนที่มีธุรกิจส่วนตัว เริ่มจากศูนย์ คุณต้องผ่านอะไรมาบ้างคะ?
อยากทราบว่ากว่าคุณจะมาจุดนี้ใช้เวลานานไหม ผ่านอุปสรรคอะไรมาบ้างคะ
ปีหน้าต้องทำงานแล้ว อยากทราบไว้เป็นความรู้ค่ะ
ขอบคุณค่ะ