“มาร์ค”แถลงไม่รับร่าง รธน.ชี้กลไกปราบทุจริตอ่อนแอ ถ้าผ่านแก๊งจำนำข้าวเฮแน่

กระทู้สนทนา


หัวหน้า ปชป.แถลงจุดยืนไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ ชี้ไม่ตอบโจทย์ที่จะทำให้ประเทศก้าวหน้า ไม่เป็นประชาธิปไตย ไม่แก้ไขปัญหาความขัดแย้ง ขณะที่การตรวจสอบทุจริต แม้มีการเพิ่มโทษ แต่ยกเลิกกระบวนการถอดถอน ทำ ป.ป.ช.อ่อนแอ เปิดช่องคนผิดยื่นอุทธรณ์ต่อศาลฎีกานักการเมืองได้ง่ายขึ้น เชื่อหาก รธน.ผ่าน จำเลยจำนำข้าวได้ประโยชน์แน่
       
        วันนี้(27 ก.ค.) เวลาประมาณ 14.00 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้แถลงที่พรรคประชาธิปัตย์ เพื่อแสดงจุดยืนต่อร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2559 ที่จะมีการลงประชามติในวันที่ 7 ส.ค.นี้ โดยมีการถ่ายทอดสดผ่านระบบเฟซบุ๊กไลฟ์ ทางแฟนเพจ Abhisit Vejjajiva มีใจความสรุปว่า ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เนื่องจากไม่ตอบโจทย์ที่จะทำให้ประเทศก้าวพ้นปัญหาต่างๆ ทั้งในเรื่องประชาธิปไตย การมีส่วนร่วมของประชาชน แม้รัฐบาลนี้มีความตั้งใจดี พยายามกระตุ้นเศรษฐกิจภายใต้ความยากลำบากของปัญหาภาวะเศรษฐกิจโลก แต่ประชาชนก็ได้รับผลกระทบจากการจำกัดการมีส่วนร่วม
       
        ส่วนเรื่องการแก้ไขความขัดแย้ง การสร้างความปรองดอง การหวังใช้กลไกแก้ความขจัดแย้งโดยวุฒิสมาชิก 250 คนที่มาจากการเลือกกันเองและการแต่งตั้ง ซึ่งไม่สามารถพูดได้เต็มปากว่าเป็นตัวแทนของประชาชน และนอกจากจะไม่แก้ไขปัญหาขัดแย้แล้วจะสร้างคู่ขัดแย้งทางการเมืองใหม่เกิดขึ้น ไม่ว่า 250 คนจะไปสนับสนุนใครในสภาผู้แทนก็ล้วสนแต่เป็นความขัดแย้ง ขณะที่กลไกการแก้ไขรัฐธรรมนูญทำได้ยากมาก ทำให้บีบรัดตีกรอบความขัดแย้งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตไม่สามารถแก้ไขได้
       
        ขณะที่การแก้ไขปัญหาการทุจริต แม้จะมีการเพิ่มโทษ แต่การจับทุจริตจะต้องทำในบรรยากาศเปิดให้มีการตรวจสอบ และมีส่วนร่วม การจัดการทุจริตในร่างรัฐธรรมนูญนี้ ต่างจ่ากเดิม มีการยกเลิกกระบวนการถอดถอน โดยพึ่งพา 2 กลไกหลัก คือ ป.ป.ช.กับศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ปัญหาคือรัฐธรรมนูญใหม่กลับทำให้ 2 องค์กรนี้อ่อนแอลง กรณี ป.ป.ช.นั้น ตามร่างใหม่ใครจะตรวจสอบต้องยื่นผ่านประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งก็คือ ส.ส.พรรครัฐบาล ทำให้ รัฐบาลกับ ป.ป.ช.อยู่ในภาวะที่ต่อรองกันได้ และฝ่ายตรวจสอบก็ไม่มีทางทำอะไรได้
       
        ส่วนศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองก็มีการเปลี่ยนแปลง เดิมถ้าศาลฎีกาฯ พิพากษาแล้ว ผู้ถูกลงโทษจะอุทธรณ์ได้เมื่อมีหลักฐานใหม่เท่านั้น และคนวินิจฉัยอุทธรณ์คือที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา ซึ่งทำให้นักการเมืองจะกลัวศาลนี้ แต่ตามร่างรัฐธรรมนูญใหม่ จะทำให้การอุทธรณ์ง่ายขึ้น โดยการวิจิจฉัยอุทธรณ์จะทำโดยองค์คณะใหม่ ไม่ใช่ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา คาดว่าหากถ้ารัฐธรรมนุญนี้ผ่าน คนกลุ่มแรกที่ได้ประโยชน์คือจำเลยคดีจำนำข้าว

ที่มา http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9590000074510
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่