ภายหลังจากที่ไปกางเต้นท์ เนินช้างศึก
http://pantip.com/topic/35318633
ก็มีภาระกิจที่จะต้องไปงานแต่งน้องที่ชัยภูมิ วันที่ 16 กค. และ ต่อด้วยวันที่ 17 กค. ต้องถวายเทียนวัดวังบัวบาน ที่หล่มสักต่อ
ตอนแรกกะจะเที่ยวดูดอกกระเจียว แต่เปลี่ยนใจนอนน้ำหนาวดีก่า ช่วงนี้เห่อการกางเต้นท์
ตามแผนคือจะแวะดูที่กางเต้นท์ที่น้ำหนาว นอนได้ก็จะนอน นอนไม่ได้ก็ไปหาที่นอนที่เพรชบูรณ์
เส้นทาง ชัยภูมิ-ชุมแพ-น้ำหนาว สบายไม่ยาก
ตื่นตี 4 ออกจากบ้านตี 5 ถึงชัยภูมิประมาณ 10 โมงก่า ผูกข้อมือบ่าวสาว กินอาหารนิดหน่อยก็ ออกเดินทางต่อ จากชัยภูมิวิ่งตามถนนหมายเลข 201 จนถึง หมายเลข 12 เข้าชุมแพ สำหรับผู้ที่จะหาซื้อของสดเพื่อนำไปประกอบอาหารสามารถแวะซื้อที่อ.ชุมแพได้ มีโลตัสใหญ่ กะแม็คโค แต่แนะนำโลตัสเพราะแม็คโคต้องกลับรถ และแวะเติมน้ำมันที่ชุมแพ ให้เรียบร้อย
กิจกรรมที่น้ำหนาวที่ตั้งใจ ระหว่างทางจะผ่านหอดูสัตว์ ดูพระอาทิตย์ตก ที่ถ้ำหงษ์ และพระอาทิตย์ขึ้น เดินป่าศึกษาธรรมชาติ สะพานห้วยตองจัดไป
ถนนชุมแพ-อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว ดีมากกแต่เทียบกับเส้นไทรโยค แล้วดีคนละแบบ เส้นน้ำหนาวถนนดี เส้นไทรโยคต้นไม้สวยกว่า
ถึงที่อุทยาน ok ดีงามจัดการกางเต้นท์ นี้คือที่พักสำหรับคืนนี้

กางเกงที่ตากตรงนั้นขอบอกว่า ดอกหญ้าติดเต็มตัวจึงต้องถอดเปลี่ยน ขอบอกว่าทำใจครับดอกหญ้าเยอะจริงๆติดเต็มตัว
ที่อุทยาน ห้องน้ำ และไฟฟ้ามีพร้อม ขนาดห้องน้ำผู้สูงอายุยังมี จัดว่าสะดวกสบายฝุดๆ และมีร้านอาหารตามสั่ง ต้องขออภัยที่ไม่ได้ถ่ายรูปประกอบ
ที่กางเต้นท์สามารถจอดรถใกล้ๆได้ สบายหายห่วงเรื่องรถ
กางเต้นท์เส้น ก็เริ่มกิจกรรมเดินป่าสำรวจเส้นทางธรรมชาติ

เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติมี 3 เส้นทาง 1 กม. 3 กม. และ 5 กม. จัดไป 1 กม. ละกัน กล้องพร้อม กล้องส่องทางไกลพร้อม ใจพร้อม
ความพร้อมเครื่องแต่งกายไม่มีเลย ดอกแรกก้าวเข้าไป ศรีภรรยาตกในร้องหนอนๆ เราจะปัดให้ที่ไหนได้ ทากครับ

ตัวนี้เล็กสุดครับ แต๋วแตกสิครับ ระยะทาง 1 กม. เดินไม่เป็นสุขเลย ขยี่ก็ไม่ตายแถมยังเกาะติดมืออีก

ดูชุดเดินป่านางสิ ทากไม่กลัวไม่สนใจ

ปิดท้ายด้วย
สรุปคือ ไม่แนะนำให้เดินคนเดียว ควรไปเป็นหมู่คณะ ไปสองคนก็น่ากลัว ขอบอกว่าเงียบมากวังเวงสุดๆ ทากก็เยอะ เพราะฉะนั้นเครื่องป้องกันต้องพร้อม
สำหรับคนที่รักธรรมชาติ คงสนุกแต่ผมขอผ่าน รับไม่ได้กะทากจริงๆ
ออกจากการดื่มด่ำธรรมชาติก็ได้เวลา ชมพระอาทิตย์ ณ ถ้ำหงษ์
ถ้ำหงษ์อยู่ห่างจาก ที่กางเต้นท์ไปประมาณ 20 กม. เส้นทางสะดวกสบาย

มาถึงแระ มีที่จอดรถ ไป! ชมพระอาทิตย์ตกด้วยกัน ไม่ไกลครับ 300 เมตรเอง จัดไป

ต่อด้วยเดินขึ้นอีก 259 ขั้น อืออออ... ไม่ไกล แต่เหนื่อยสุดขอบอก

บร๊ะเจ้า!! เหนื่อยสุด เดินขึ้นมา 259 ขั้น ต้องเดินลุยไปอีก 10 กว่าเมตร ขอบอกว่ายุงเยอะมากกก ถ้าจะถ่ายพระอาทิตย์ตกจริงๆ ควรเตรียมพร้อมมาด้วยนะครับ
สรุปทนไม่ไหว ไม่ประสบความสำเร็จยอมแพ้ขอรับ กลับมาหาอะไรกินดีก่า
สถานที่ค่อยข้างเปลี่ยว ยุงเยอะ ถ้าจะอยู่รอจนพระอาทิตย์ตกคงต้องมีไฟฉาย และยากั้นยุง ที่สำคัญ ควรไปเป็นหมู่คณะนะครับ 1 คน 2 คนอย่าเลยครับ
ไม่น่าเลยกลับมาฟ้าก็มืดลำบากเลย อาหารค้ำคืนนี้
นอนละครับ พี่น้อง



อากาศสมชื่อน้ำหนาวครับ นอนหลับสบาย มีไฟทั้งคืนปลอดภัยสุดๆ คืนนี้ 20 องศา กำลังสบาย
ตืนเช้ามา พระอาทิตย์ขึ้นไม่ดงไม่ดูแล้ว เก็บเต้นท์ดีก่า ระหว่างเก็บเต้นท์พบว่าธรรมชาติสมบูรณ์มากไส้เดือนเพียบ เก็บไปเก็บมาพบเลือด ไอ้เราก็บอกให้ภรรยาสำรวจตัวว่าถูกทากกัดตรงไหน ที่ไหนได้ไอ้เรานี้เองที่ถูกกัด เลือดหยุดไหลช้ามา ปากแผลก็ใหญ่ โอ้ย!ชายจะเป็นลม
ภายหลังจากสำออย พองามก็ออกเดินทางสู่สะพานห้วยตอง
จากสะพานห้วยตองก็มุ่งหน้าสู่เพชรบูรณ์ ระหว่างทางแวะกราบ พ่อปู่ผ่าแดง ซะหน่อย
....... ตัดภาพมาพระตำหนักเขาค้อ ณ ตรงนี้คงไม่ต้องรีวิว เพราะคงมีเพื่อนๆ หลายท่านรีวิวกันแล้ว ขออวยแค่ภาพละกัน
ถนนค่อยข้างชันขับระวังหน่อยนะครับ
จบทริป แล้วนะครับ
สรุป ธรรมชาติสวยงาม ถนนดี แต่งความพร้อมของผมไม่ดีเอง จึงทำให้หมดสนุกไปเล็กน้อย
[CR] น้ำหนาว-เขาค้อ-พระตำหนัก
http://pantip.com/topic/35318633
ก็มีภาระกิจที่จะต้องไปงานแต่งน้องที่ชัยภูมิ วันที่ 16 กค. และ ต่อด้วยวันที่ 17 กค. ต้องถวายเทียนวัดวังบัวบาน ที่หล่มสักต่อ
ตอนแรกกะจะเที่ยวดูดอกกระเจียว แต่เปลี่ยนใจนอนน้ำหนาวดีก่า ช่วงนี้เห่อการกางเต้นท์
ตามแผนคือจะแวะดูที่กางเต้นท์ที่น้ำหนาว นอนได้ก็จะนอน นอนไม่ได้ก็ไปหาที่นอนที่เพรชบูรณ์
เส้นทาง ชัยภูมิ-ชุมแพ-น้ำหนาว สบายไม่ยาก
ตื่นตี 4 ออกจากบ้านตี 5 ถึงชัยภูมิประมาณ 10 โมงก่า ผูกข้อมือบ่าวสาว กินอาหารนิดหน่อยก็ ออกเดินทางต่อ จากชัยภูมิวิ่งตามถนนหมายเลข 201 จนถึง หมายเลข 12 เข้าชุมแพ สำหรับผู้ที่จะหาซื้อของสดเพื่อนำไปประกอบอาหารสามารถแวะซื้อที่อ.ชุมแพได้ มีโลตัสใหญ่ กะแม็คโค แต่แนะนำโลตัสเพราะแม็คโคต้องกลับรถ และแวะเติมน้ำมันที่ชุมแพ ให้เรียบร้อย
กิจกรรมที่น้ำหนาวที่ตั้งใจ ระหว่างทางจะผ่านหอดูสัตว์ ดูพระอาทิตย์ตก ที่ถ้ำหงษ์ และพระอาทิตย์ขึ้น เดินป่าศึกษาธรรมชาติ สะพานห้วยตองจัดไป
ถนนชุมแพ-อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว ดีมากกแต่เทียบกับเส้นไทรโยค แล้วดีคนละแบบ เส้นน้ำหนาวถนนดี เส้นไทรโยคต้นไม้สวยกว่า
ถึงที่อุทยาน ok ดีงามจัดการกางเต้นท์ นี้คือที่พักสำหรับคืนนี้
กางเกงที่ตากตรงนั้นขอบอกว่า ดอกหญ้าติดเต็มตัวจึงต้องถอดเปลี่ยน ขอบอกว่าทำใจครับดอกหญ้าเยอะจริงๆติดเต็มตัว
ที่อุทยาน ห้องน้ำ และไฟฟ้ามีพร้อม ขนาดห้องน้ำผู้สูงอายุยังมี จัดว่าสะดวกสบายฝุดๆ และมีร้านอาหารตามสั่ง ต้องขออภัยที่ไม่ได้ถ่ายรูปประกอบ
ที่กางเต้นท์สามารถจอดรถใกล้ๆได้ สบายหายห่วงเรื่องรถ
กางเต้นท์เส้น ก็เริ่มกิจกรรมเดินป่าสำรวจเส้นทางธรรมชาติ
เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติมี 3 เส้นทาง 1 กม. 3 กม. และ 5 กม. จัดไป 1 กม. ละกัน กล้องพร้อม กล้องส่องทางไกลพร้อม ใจพร้อม
ความพร้อมเครื่องแต่งกายไม่มีเลย ดอกแรกก้าวเข้าไป ศรีภรรยาตกในร้องหนอนๆ เราจะปัดให้ที่ไหนได้ ทากครับ
ตัวนี้เล็กสุดครับ แต๋วแตกสิครับ ระยะทาง 1 กม. เดินไม่เป็นสุขเลย ขยี่ก็ไม่ตายแถมยังเกาะติดมืออีก
ดูชุดเดินป่านางสิ ทากไม่กลัวไม่สนใจ
ปิดท้ายด้วย
สรุปคือ ไม่แนะนำให้เดินคนเดียว ควรไปเป็นหมู่คณะ ไปสองคนก็น่ากลัว ขอบอกว่าเงียบมากวังเวงสุดๆ ทากก็เยอะ เพราะฉะนั้นเครื่องป้องกันต้องพร้อม
สำหรับคนที่รักธรรมชาติ คงสนุกแต่ผมขอผ่าน รับไม่ได้กะทากจริงๆ
ออกจากการดื่มด่ำธรรมชาติก็ได้เวลา ชมพระอาทิตย์ ณ ถ้ำหงษ์
ถ้ำหงษ์อยู่ห่างจาก ที่กางเต้นท์ไปประมาณ 20 กม. เส้นทางสะดวกสบาย
มาถึงแระ มีที่จอดรถ ไป! ชมพระอาทิตย์ตกด้วยกัน ไม่ไกลครับ 300 เมตรเอง จัดไป
ต่อด้วยเดินขึ้นอีก 259 ขั้น อืออออ... ไม่ไกล แต่เหนื่อยสุดขอบอก
บร๊ะเจ้า!! เหนื่อยสุด เดินขึ้นมา 259 ขั้น ต้องเดินลุยไปอีก 10 กว่าเมตร ขอบอกว่ายุงเยอะมากกก ถ้าจะถ่ายพระอาทิตย์ตกจริงๆ ควรเตรียมพร้อมมาด้วยนะครับ
สรุปทนไม่ไหว ไม่ประสบความสำเร็จยอมแพ้ขอรับ กลับมาหาอะไรกินดีก่า
สถานที่ค่อยข้างเปลี่ยว ยุงเยอะ ถ้าจะอยู่รอจนพระอาทิตย์ตกคงต้องมีไฟฉาย และยากั้นยุง ที่สำคัญ ควรไปเป็นหมู่คณะนะครับ 1 คน 2 คนอย่าเลยครับ
ไม่น่าเลยกลับมาฟ้าก็มืดลำบากเลย อาหารค้ำคืนนี้
นอนละครับ พี่น้อง
อากาศสมชื่อน้ำหนาวครับ นอนหลับสบาย มีไฟทั้งคืนปลอดภัยสุดๆ คืนนี้ 20 องศา กำลังสบาย
ตืนเช้ามา พระอาทิตย์ขึ้นไม่ดงไม่ดูแล้ว เก็บเต้นท์ดีก่า ระหว่างเก็บเต้นท์พบว่าธรรมชาติสมบูรณ์มากไส้เดือนเพียบ เก็บไปเก็บมาพบเลือด ไอ้เราก็บอกให้ภรรยาสำรวจตัวว่าถูกทากกัดตรงไหน ที่ไหนได้ไอ้เรานี้เองที่ถูกกัด เลือดหยุดไหลช้ามา ปากแผลก็ใหญ่ โอ้ย!ชายจะเป็นลม
ภายหลังจากสำออย พองามก็ออกเดินทางสู่สะพานห้วยตอง
จากสะพานห้วยตองก็มุ่งหน้าสู่เพชรบูรณ์ ระหว่างทางแวะกราบ พ่อปู่ผ่าแดง ซะหน่อย
....... ตัดภาพมาพระตำหนักเขาค้อ ณ ตรงนี้คงไม่ต้องรีวิว เพราะคงมีเพื่อนๆ หลายท่านรีวิวกันแล้ว ขออวยแค่ภาพละกัน
ถนนค่อยข้างชันขับระวังหน่อยนะครับ
จบทริป แล้วนะครับ
สรุป ธรรมชาติสวยงาม ถนนดี แต่งความพร้อมของผมไม่ดีเอง จึงทำให้หมดสนุกไปเล็กน้อย
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น