โอ้ว่าอนิจจาความรัก
เพิ่งประจักษ์ดั่งสายน้ำไหล
มีแต่จะเชี่ยวเป็นเกลียวไป
ไหนเลยจะไหลคืนมา
ไม่ใช่แต่เพียงความรักเท่านั้น ควาทรงจำ การกระทำ ทุกสิ่งอย่าง ไม่กี่ขวบปีก็เชี่ยวเป็นเกลียวไป และไม่เวียนไหลกลับคืนมา แต่บัดนี้ด้วยสัจจะวาจา เทวะโองการแห่งยมเทพ เธอได้ขอกระทำในสิ่งที่ผิดจากธรรมชาติ ให้อดีตที่ไหลเวียนไปไหลวนมาบรรจบกับปัจจุบัน หมายใจว่าสิ่งที่หมายมาดจะให้ผลอย่างที่มาดหมาย ความร้อนแล้งทั้งใจกายจะได้สิ้นสุดลงในคราวนี้ แม้องค์ยมเทพจะเอ่ยคำเป็นนัย .... ว่าสิ่งที่เธอขอจะทำให้ทุกข์ตรมที่ได้รับผ่านพ้นไปจริงหรือไม่ เมื่อทุกสิ่งล้วนมีราคาที่ต้องจ่าย และ ราคาของเธอนั้นคือจนกว่าไฟแล่นล้างสี่หล้า กรณีที่สิ่งที่เชื่อมิใช่เป็นอย่างที่เชื่อ
หากทุกข์ขุกเข็ญที่แสนยาวนาน และ ภาพทรงจำที่ผุดพราย
ทำให้เธอมั่นใจหนักหนาว่าการในครั้งนี้จะปลดปล่อยให้เธอเป็นอิสระ
ดรุณีวัยแรกรุ่นได้ถูกความหม่นหมองแห่งจิตอาฆาต ความผิดหวัง บาปกรรมซ้ำซ้อน และ มือที่เปื้อนเลือด พัดพาเอาความสดใสแห่งวัยเยาว์ไปเสียสิ้น เหลือเป็นเพียงสตรีสวยสง่ากับสายตาเศร้าสร้อยระคนคับแค้น และความแค้นก็ยิ่งทับทวีเมื่อคุณอุบลในคราบของสุภาพสตรีผู้งดงามนามคุณสโรชินีเห็นความใกล้ชิดระหว่างอัคนี และ ทิพอาภา
เขาคือคนที่บั่นคอเธอ ดังนั้นเขาคือเป้าหมายแรกที่ต้องชดใช้ และ การชดใช้ต้องมาคู่กับการรอคอยเช่นเดียวกับที่เธอเคยรอคอย การจะรู้แจ้งก็ต้องเป็นเช่นเดียวกับที่เธอเคยได้รับ อัคนีจะรับรู้ได้เท่าที่คุณสโรชินีต้องการให้รู้ เหมือนเมื่อคราวอดีตที่มีเพียงคุณอุบลที่ต้องรอคอยโดยไม่สามารถจะมีปากมีเสียง และ ไม่มีสิทธิจะรับรู้อะไรมากกว่าที่คุณพระอรรคฯต้องการจะให้รู้
จิตที่ต้องพะวงกับการหาคำตอบนั้นแปลบปลาบเพียงไหน
เธอได้จำลองย้อนความรู้สึกนั้นตอกย้ำซ้ำลงไป ... จำได้หรือไม่ ใครที่เคยเป็นเหมือนกัน
ผิดจากเมื่อวันนั้นตรงที่ "เธอ" คือผู้คุมเกมส์
ผู้หญิงอีกคน ... สวยหวานมากความสามารถราวนางฟ้านางสวรรค์ หากใครจะคิดเล่าว่าผู้ที่ได้ชื่อว่า "ทิพ" อันแสนบริสุทธิ์นั้น จะกลายเป็น "เพื่อนเราเผาเรือน" ไปเสียได้ ที่ของฉัน "เคย" อยู่ตรงนั้น ทุกมุมของเรือนที่คุณพระและคุณอุบลเคยมีอดีตร่วมกัน หากวันนี้ดอกไม้ดอกนั้นกลายเป็นของ "เขาอื่น" แหวนหมั้น นิ้วมือ ที่ประสานเกาะเกี่ยว ไม่มีเธอมาข้องแวะด้วยสักกระผีกเดียว
รอยยิ้มพึงใจที่คุณอุบลไม่เคยได้เห็น ความเจ็บช้ำที่ผู้หญิงคนนั้นรู้ซึ้งทุกอย่างเกี่ยวกับคุณพระ หากเธอไม่ ทำให้ความแค้นกระอักขึ้นมากลางอกอีกครา ทิพอาภา คืออีกคนที่จะต้องชดใช้ให้เธอใช้ชาตินี้ เป็นอีกครั้งเช่นกันที่คุณสโรชินีได้จำลองภาพซ้อนตอกย้ำลงไปด้วย "แกงชักส้ม" และ "ปลาตะเพียนทอดฟู" วันนั้นเธอไม่ได้ระแวงระวังและเชื่อใจผู้อื่นจนกระทั่งไม่สำเหนียกว่ามีศัตรูหัวใจอยู่ใกล้ตัว และ กว่าจะคิดออก ก็เสียไปแล้วทั้งชีวิต
จิตใจที่พะวงระแวงในคนรักต้องหวั่นไหวในอกเพียงไร
เมื่อมีผู้หญิงอีกคนที่รู้จักคนรักของตัวเองราวกับเขาคือภาพสะท้อนในกระจกเงา
จำได้หรือไม่ ... ใครเคยทำเช่นนี้กับเมียพระราชทานนาม "อุบล"
บทละครการขยี้ความจริงของคุณอุบลยังไม่จบสิ้น เมื่อเขายังไม่ทุรนทุรายด่าวดิ้น
สิ่งที่เขาได้รับ ณ เวลานี้ ยังไม่ถึงครึ่งที่เธอประสบพบพานด้วยซ้ำ
ดังนั้นในค่ำคืนปีศาจแห่งการทำนาย
ใต้โองการเทวะอันศักสิทธิ์
ความกระหายในความจริง
จะชำระแค้นแห่ง "สตรี" นามอุบล
พิษสวาท (กึ่งวิพากษ์) : สตรีใดในพิภพจบแดน ไม่มีใครได้แค้นเหมือนอกข้า
เพิ่งประจักษ์ดั่งสายน้ำไหล
มีแต่จะเชี่ยวเป็นเกลียวไป
ไหนเลยจะไหลคืนมา
ไม่ใช่แต่เพียงความรักเท่านั้น ควาทรงจำ การกระทำ ทุกสิ่งอย่าง ไม่กี่ขวบปีก็เชี่ยวเป็นเกลียวไป และไม่เวียนไหลกลับคืนมา แต่บัดนี้ด้วยสัจจะวาจา เทวะโองการแห่งยมเทพ เธอได้ขอกระทำในสิ่งที่ผิดจากธรรมชาติ ให้อดีตที่ไหลเวียนไปไหลวนมาบรรจบกับปัจจุบัน หมายใจว่าสิ่งที่หมายมาดจะให้ผลอย่างที่มาดหมาย ความร้อนแล้งทั้งใจกายจะได้สิ้นสุดลงในคราวนี้ แม้องค์ยมเทพจะเอ่ยคำเป็นนัย .... ว่าสิ่งที่เธอขอจะทำให้ทุกข์ตรมที่ได้รับผ่านพ้นไปจริงหรือไม่ เมื่อทุกสิ่งล้วนมีราคาที่ต้องจ่าย และ ราคาของเธอนั้นคือจนกว่าไฟแล่นล้างสี่หล้า กรณีที่สิ่งที่เชื่อมิใช่เป็นอย่างที่เชื่อ
ทำให้เธอมั่นใจหนักหนาว่าการในครั้งนี้จะปลดปล่อยให้เธอเป็นอิสระ
ดรุณีวัยแรกรุ่นได้ถูกความหม่นหมองแห่งจิตอาฆาต ความผิดหวัง บาปกรรมซ้ำซ้อน และ มือที่เปื้อนเลือด พัดพาเอาความสดใสแห่งวัยเยาว์ไปเสียสิ้น เหลือเป็นเพียงสตรีสวยสง่ากับสายตาเศร้าสร้อยระคนคับแค้น และความแค้นก็ยิ่งทับทวีเมื่อคุณอุบลในคราบของสุภาพสตรีผู้งดงามนามคุณสโรชินีเห็นความใกล้ชิดระหว่างอัคนี และ ทิพอาภา
เขาคือคนที่บั่นคอเธอ ดังนั้นเขาคือเป้าหมายแรกที่ต้องชดใช้ และ การชดใช้ต้องมาคู่กับการรอคอยเช่นเดียวกับที่เธอเคยรอคอย การจะรู้แจ้งก็ต้องเป็นเช่นเดียวกับที่เธอเคยได้รับ อัคนีจะรับรู้ได้เท่าที่คุณสโรชินีต้องการให้รู้ เหมือนเมื่อคราวอดีตที่มีเพียงคุณอุบลที่ต้องรอคอยโดยไม่สามารถจะมีปากมีเสียง และ ไม่มีสิทธิจะรับรู้อะไรมากกว่าที่คุณพระอรรคฯต้องการจะให้รู้
เธอได้จำลองย้อนความรู้สึกนั้นตอกย้ำซ้ำลงไป ... จำได้หรือไม่ ใครที่เคยเป็นเหมือนกัน
ผิดจากเมื่อวันนั้นตรงที่ "เธอ" คือผู้คุมเกมส์
ผู้หญิงอีกคน ... สวยหวานมากความสามารถราวนางฟ้านางสวรรค์ หากใครจะคิดเล่าว่าผู้ที่ได้ชื่อว่า "ทิพ" อันแสนบริสุทธิ์นั้น จะกลายเป็น "เพื่อนเราเผาเรือน" ไปเสียได้ ที่ของฉัน "เคย" อยู่ตรงนั้น ทุกมุมของเรือนที่คุณพระและคุณอุบลเคยมีอดีตร่วมกัน หากวันนี้ดอกไม้ดอกนั้นกลายเป็นของ "เขาอื่น" แหวนหมั้น นิ้วมือ ที่ประสานเกาะเกี่ยว ไม่มีเธอมาข้องแวะด้วยสักกระผีกเดียว
รอยยิ้มพึงใจที่คุณอุบลไม่เคยได้เห็น ความเจ็บช้ำที่ผู้หญิงคนนั้นรู้ซึ้งทุกอย่างเกี่ยวกับคุณพระ หากเธอไม่ ทำให้ความแค้นกระอักขึ้นมากลางอกอีกครา ทิพอาภา คืออีกคนที่จะต้องชดใช้ให้เธอใช้ชาตินี้ เป็นอีกครั้งเช่นกันที่คุณสโรชินีได้จำลองภาพซ้อนตอกย้ำลงไปด้วย "แกงชักส้ม" และ "ปลาตะเพียนทอดฟู" วันนั้นเธอไม่ได้ระแวงระวังและเชื่อใจผู้อื่นจนกระทั่งไม่สำเหนียกว่ามีศัตรูหัวใจอยู่ใกล้ตัว และ กว่าจะคิดออก ก็เสียไปแล้วทั้งชีวิต
เมื่อมีผู้หญิงอีกคนที่รู้จักคนรักของตัวเองราวกับเขาคือภาพสะท้อนในกระจกเงา
จำได้หรือไม่ ... ใครเคยทำเช่นนี้กับเมียพระราชทานนาม "อุบล"
สิ่งที่เขาได้รับ ณ เวลานี้ ยังไม่ถึงครึ่งที่เธอประสบพบพานด้วยซ้ำ
ดังนั้นในค่ำคืนปีศาจแห่งการทำนาย
ใต้โองการเทวะอันศักสิทธิ์
ความกระหายในความจริง
จะชำระแค้นแห่ง "สตรี" นามอุบล