011: Eternal Sunshine of the Spotless Mind (Michel Gondry, 2004)
“สมองสั่งให้ลืม แต่หัวใจสั่งให้จำ” สิ่งที่เจ็บมากกว่าความไม่เข้าใจกันคือการยอมรับข้อเสียของกันและกันได้มากแค่ไหน ไม่มีใครเกิดมาสมบูรณ์แบบและคงไม่มีใครเป็นในแบบที่เราต้องการ ทุกคนล้วนแตกต่างกันการมองแต่ข้อดีของกันและกัน ละเลยข้อเสียของกันและกันคงไม่เรียกว่า “ความรัก” และการที่เราจะลบใครสักคนที่เรารักออกจากระบบสั่งการที่เรียกว่า “ความรัก” ก็คงไม่ง่ายเช่นกัน หนังเราเรื่องได้แหวกแนวหลุดกรอบไปไกลในโลกวิทยาศาสตร์ ตลอดทั้งเรื่อง “Eternal Sunshine of the Spotless Mind” พยายามเล่าเรื่องการลบคนที่เรารักออกไปจากความคิดของเรา หลายคนเวลาอกหักคงอยากลืมคนๆ นั้นให้เร็วที่สุด การลบคนที่เรารักออกไปจากความทรงจำของเรามันดีจริงๆหรือ?? คำตอบคงไม่ใช่สิ่งที่หนังนำเสนอแต่เราที่เป็นผู้รับสารจากหนังเรื่องนี้คงต้องเป็นคนตัดสินใจเอง ทุกเหตุการณ์ระหว่างคนสองคนมีทั้งเรื่องที่ดีและเรื่องที่แย่เป็นของคู่กัน หากวันนี้เราทะเลาะกันมากมาย หากวันนี้เราเจอช่วงเวลาที่แย่มากๆ ลองตั้งสติ สงบอารมณ์ นึกถึงวันที่เราเคยมีความสุขไปด้วยกัน มันอาจทำให้เราจับมืออีกฝ่ายไว้แน่นมากกว่าเดิม
“Eternal Sunshine of the Spotless Mind” คือภาพยนตร์ที่มีบทหนังคุณภาพและถูกสร้างสรรค์ได้อย่างสวยงานในมิติของความสัมพันธ์ของคนสองคน บวกกับการถ่ายภาพที่ออกแนวแฟนตาซี การถ่ายทอดอารมณ์ของ “Jim Carrey” และ “Kate Winslet” ดูเรียบง่ายแต่มีพลัง มีมนต์เสน่ห์ให้เราติดตามตลอดทั้งเรื่อง สุดท้ายเราคิดว่าทุกคนอยากลืมสิ่งที่ทำให้เราเจ็บปวดในชีวิต แต่สิ่งที่เจ็บกว่านั้นคือเรากำลังสูญเสียคนที่เรารักไปแล้วด้วยเช่นกัน
ขอให้มีความสุขกับการดูหนังครับ
Page:
https://www.facebook.com/MoviesDelightClub/
Blog:
http://moviesdelightclub.blogspot.com/
หนังเก่าเล่าใหม่ 011: Eternal Sunshine of the Spotless Mind (Michel Gondry, 2004) เขียนโดย Form Corleone
“สมองสั่งให้ลืม แต่หัวใจสั่งให้จำ” สิ่งที่เจ็บมากกว่าความไม่เข้าใจกันคือการยอมรับข้อเสียของกันและกันได้มากแค่ไหน ไม่มีใครเกิดมาสมบูรณ์แบบและคงไม่มีใครเป็นในแบบที่เราต้องการ ทุกคนล้วนแตกต่างกันการมองแต่ข้อดีของกันและกัน ละเลยข้อเสียของกันและกันคงไม่เรียกว่า “ความรัก” และการที่เราจะลบใครสักคนที่เรารักออกจากระบบสั่งการที่เรียกว่า “ความรัก” ก็คงไม่ง่ายเช่นกัน หนังเราเรื่องได้แหวกแนวหลุดกรอบไปไกลในโลกวิทยาศาสตร์ ตลอดทั้งเรื่อง “Eternal Sunshine of the Spotless Mind” พยายามเล่าเรื่องการลบคนที่เรารักออกไปจากความคิดของเรา หลายคนเวลาอกหักคงอยากลืมคนๆ นั้นให้เร็วที่สุด การลบคนที่เรารักออกไปจากความทรงจำของเรามันดีจริงๆหรือ?? คำตอบคงไม่ใช่สิ่งที่หนังนำเสนอแต่เราที่เป็นผู้รับสารจากหนังเรื่องนี้คงต้องเป็นคนตัดสินใจเอง ทุกเหตุการณ์ระหว่างคนสองคนมีทั้งเรื่องที่ดีและเรื่องที่แย่เป็นของคู่กัน หากวันนี้เราทะเลาะกันมากมาย หากวันนี้เราเจอช่วงเวลาที่แย่มากๆ ลองตั้งสติ สงบอารมณ์ นึกถึงวันที่เราเคยมีความสุขไปด้วยกัน มันอาจทำให้เราจับมืออีกฝ่ายไว้แน่นมากกว่าเดิม
“Eternal Sunshine of the Spotless Mind” คือภาพยนตร์ที่มีบทหนังคุณภาพและถูกสร้างสรรค์ได้อย่างสวยงานในมิติของความสัมพันธ์ของคนสองคน บวกกับการถ่ายภาพที่ออกแนวแฟนตาซี การถ่ายทอดอารมณ์ของ “Jim Carrey” และ “Kate Winslet” ดูเรียบง่ายแต่มีพลัง มีมนต์เสน่ห์ให้เราติดตามตลอดทั้งเรื่อง สุดท้ายเราคิดว่าทุกคนอยากลืมสิ่งที่ทำให้เราเจ็บปวดในชีวิต แต่สิ่งที่เจ็บกว่านั้นคือเรากำลังสูญเสียคนที่เรารักไปแล้วด้วยเช่นกัน
ขอให้มีความสุขกับการดูหนังครับ
Page: https://www.facebook.com/MoviesDelightClub/
Blog: http://moviesdelightclub.blogspot.com/