สวัสดีครับ
ต้องขอออกตัวไว้ก่อนว่าผมเป็นนักเล่นหุ้นขาขึ้น เพื่อนๆอาจจะด่าว่าช่วงหุ้นลง หายหัวไปไหน พอ 1500 ดันโผล่มา อันนี้ก็บอกกันเลยว่า ตอนหุ้นไม่ดี ผมก็มองไม่ดี ผมก็ลดการลงทุนสิครับ รายใหญ่หลายๆคนบอกว่าตอนลงให้เก็บ ได้ทั้งราคาและจำนวน แต่ผมขอพัก ไปเที่ยว ไปกิน ไปออกกำลัง กิมอิ่ม นอนหลับ ไม่เสียสุขภาพจิตด้วย เพื่อนฝูงก็ไม่ค่อยโทรมาคุย เพราะต่างคนต่างเซ็ง แยกย้ายกันไปรักษาแผล
เมื่อสองเดือนก่อน มีรุ่นน้องที่สนิทกันชวนเปิด private fund ของบลจ.เปิดใหม่ลงในหุ้นล้วนๆ ก็เลยลองดู เพราะอยากได้มุมมองภาพใหญ่ จะได้เอามาเสริมหุ้นรายตัว ก็ได้มีโอกาสคุยกับผู้บริหาร แกค่อนข้าง bullish ด้วยทีมงาน และข้อมูลที่มี ทำให้ผมเริ่มกลับมามองหุ้นที่จะเก็บอีกครั้ง เพราะผ่านไปแค่ 1 อาทิตย์ private fund กองนั้นก็ลงทุนไป 90% แถมผู้บริหารมองว่าหุ้นจะขึ้นแบบงงๆ ไป 1500 แล้วค่อยดูกันอีกที ล่าสุดที่คุยกันเมื่อสองวันก่อน เริ่มลดมาถือเงินสด 20% แต่ก็ยังมองว่า 1600 น่าจะได้เห็น แต่อาจจะยืนไม่อยู่ ไว้ 1550 ค่อยคิดกันอีกที
ชีวิตเปลี่ยนตอน Brexit
วันศุกร์นั้นหุ้นลงหนัก แต่ด้วยมีหุ้นแค่ไม่ถึง 20% ทำให้กล้าสวน ในตัวที่เราเคยอยากได้ แต่ราคายังไม่ได้ ได้มา 3-4 ตัว แต่ก็ไม่กล้าซื้อเยอะ ก็นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่บอกว่า โลกจะแตก ใครๆก็จะออกจาก EU มั่ง วิกฤติจะหนักกว่าปี 08 มั่ง อะไรมั่ง หยุดสองวัน เลิกเสพข่าวดีกว่า ค่อยมาดูเช้าวันจันทร์ทีเดียว หลังจากเหตุการณ์ไม่เป็นอย่างที่ส่วนใหญ่คาด กลายเป็นหุ้น Asia Ex Japan แข็งที่สุด ก็เลยเดิมพันก้อนใหญ่ เอาเงินมาใส่ในบัญชี Cash balance ค่อยๆเก็บหุ้นเพิ่ม 4-5 ตัว ปรับ port ให้มีไม่เกิน 8 ตัว อัดหนักๆสี่ตัว เบาๆหน่อยอีก 4 (เพราะเป็นหุ้นไม่ใหญ่)
ตอนนี้มุมมองของผมยังมองว่าเงินจะเข้ามาอีกเรื่อยๆ เพราะมันไม่มีที่ไป เราต้องเทียบกับตลาดอื่น ดอกเบี้ยยิ่งต่ำ P/E ตลาดต้องสูงกว่าค่าเฉลี่ยที่ผ่านมา ลองดูกันดีๆ ตั้งแต่มี QE เงินท่วมโลก หุ้นไม่มีขึ้นลงขาเดียวยาวๆ หรือจะว่าไปอาจจะไม่มีขาลงยาวๆ
ผมได้มีโอกาสพูดคุยกับรุ่นน้องที่ต้องเดินทางทั่วประเทศ มันว่าภัยแล้งก็ดีกว่าที่คิด เมืองไทย เงินงอกจากดินครับ พอรากหญ้ามีเงิน เงินก็หมุนไป
ตรงนี้ต้องทำใจให้นิ่ง คิดใหม่ ทำการบ้าน หาข้อมูลดีๆ เลือกให้ถูกตัว คิดง่ายๆว่าถ้าซื้อแล้วขายไม่ได้อีก 3 เดือน เราจะตายมั๊ย แล้วต้องทนถือ ทนรวย ตัวไหนขึ้นต้อง Let profit อย่าเห็นแก่เศษเงิน ตัวไหนไม่ดี ต้อง Cut loss เพราะดูพวกรายใหญ่สิครับ ที่มีทุกวันนี้ได้ เพราะเลือกถูกตัว กล้าถือ อย่ากินคำเล็ก ต้องกินคำโต
จริงๆผมอาจจะเลือกหุ้นไม่เก่ง แต่คัดหุ้นที่จะถือได้เป็น ทำกำไรได้มากกว่าขาดทุน ศึกษาให้ละเอียด อย่าโดดไปโดดมา เหมือนเราศึกษาตัวนั้นจนรู้พื้นฐานและอารมณ์หุ้นตัวนั้นๆ เราก็เหมือนนักเลงคุมซอย ไปซอยอื่น อาจจะถูกตีหัวเอา อยู่เฝ้าซอย รอตีหัวคนอื่นดีกว่า ไม่ต้องเล่นหลายตัว เวลา Panic จะดูไม่ทัน
ฝากไว้ครับ ขอให้ทุกท่านลงทุนอย่างมีความสุข
หุ้นขึ้นต้องทนรวย
ต้องขอออกตัวไว้ก่อนว่าผมเป็นนักเล่นหุ้นขาขึ้น เพื่อนๆอาจจะด่าว่าช่วงหุ้นลง หายหัวไปไหน พอ 1500 ดันโผล่มา อันนี้ก็บอกกันเลยว่า ตอนหุ้นไม่ดี ผมก็มองไม่ดี ผมก็ลดการลงทุนสิครับ รายใหญ่หลายๆคนบอกว่าตอนลงให้เก็บ ได้ทั้งราคาและจำนวน แต่ผมขอพัก ไปเที่ยว ไปกิน ไปออกกำลัง กิมอิ่ม นอนหลับ ไม่เสียสุขภาพจิตด้วย เพื่อนฝูงก็ไม่ค่อยโทรมาคุย เพราะต่างคนต่างเซ็ง แยกย้ายกันไปรักษาแผล
เมื่อสองเดือนก่อน มีรุ่นน้องที่สนิทกันชวนเปิด private fund ของบลจ.เปิดใหม่ลงในหุ้นล้วนๆ ก็เลยลองดู เพราะอยากได้มุมมองภาพใหญ่ จะได้เอามาเสริมหุ้นรายตัว ก็ได้มีโอกาสคุยกับผู้บริหาร แกค่อนข้าง bullish ด้วยทีมงาน และข้อมูลที่มี ทำให้ผมเริ่มกลับมามองหุ้นที่จะเก็บอีกครั้ง เพราะผ่านไปแค่ 1 อาทิตย์ private fund กองนั้นก็ลงทุนไป 90% แถมผู้บริหารมองว่าหุ้นจะขึ้นแบบงงๆ ไป 1500 แล้วค่อยดูกันอีกที ล่าสุดที่คุยกันเมื่อสองวันก่อน เริ่มลดมาถือเงินสด 20% แต่ก็ยังมองว่า 1600 น่าจะได้เห็น แต่อาจจะยืนไม่อยู่ ไว้ 1550 ค่อยคิดกันอีกที
ชีวิตเปลี่ยนตอน Brexit
วันศุกร์นั้นหุ้นลงหนัก แต่ด้วยมีหุ้นแค่ไม่ถึง 20% ทำให้กล้าสวน ในตัวที่เราเคยอยากได้ แต่ราคายังไม่ได้ ได้มา 3-4 ตัว แต่ก็ไม่กล้าซื้อเยอะ ก็นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่บอกว่า โลกจะแตก ใครๆก็จะออกจาก EU มั่ง วิกฤติจะหนักกว่าปี 08 มั่ง อะไรมั่ง หยุดสองวัน เลิกเสพข่าวดีกว่า ค่อยมาดูเช้าวันจันทร์ทีเดียว หลังจากเหตุการณ์ไม่เป็นอย่างที่ส่วนใหญ่คาด กลายเป็นหุ้น Asia Ex Japan แข็งที่สุด ก็เลยเดิมพันก้อนใหญ่ เอาเงินมาใส่ในบัญชี Cash balance ค่อยๆเก็บหุ้นเพิ่ม 4-5 ตัว ปรับ port ให้มีไม่เกิน 8 ตัว อัดหนักๆสี่ตัว เบาๆหน่อยอีก 4 (เพราะเป็นหุ้นไม่ใหญ่)
ตอนนี้มุมมองของผมยังมองว่าเงินจะเข้ามาอีกเรื่อยๆ เพราะมันไม่มีที่ไป เราต้องเทียบกับตลาดอื่น ดอกเบี้ยยิ่งต่ำ P/E ตลาดต้องสูงกว่าค่าเฉลี่ยที่ผ่านมา ลองดูกันดีๆ ตั้งแต่มี QE เงินท่วมโลก หุ้นไม่มีขึ้นลงขาเดียวยาวๆ หรือจะว่าไปอาจจะไม่มีขาลงยาวๆ
ผมได้มีโอกาสพูดคุยกับรุ่นน้องที่ต้องเดินทางทั่วประเทศ มันว่าภัยแล้งก็ดีกว่าที่คิด เมืองไทย เงินงอกจากดินครับ พอรากหญ้ามีเงิน เงินก็หมุนไป ตรงนี้ต้องทำใจให้นิ่ง คิดใหม่ ทำการบ้าน หาข้อมูลดีๆ เลือกให้ถูกตัว คิดง่ายๆว่าถ้าซื้อแล้วขายไม่ได้อีก 3 เดือน เราจะตายมั๊ย แล้วต้องทนถือ ทนรวย ตัวไหนขึ้นต้อง Let profit อย่าเห็นแก่เศษเงิน ตัวไหนไม่ดี ต้อง Cut loss เพราะดูพวกรายใหญ่สิครับ ที่มีทุกวันนี้ได้ เพราะเลือกถูกตัว กล้าถือ อย่ากินคำเล็ก ต้องกินคำโต
จริงๆผมอาจจะเลือกหุ้นไม่เก่ง แต่คัดหุ้นที่จะถือได้เป็น ทำกำไรได้มากกว่าขาดทุน ศึกษาให้ละเอียด อย่าโดดไปโดดมา เหมือนเราศึกษาตัวนั้นจนรู้พื้นฐานและอารมณ์หุ้นตัวนั้นๆ เราก็เหมือนนักเลงคุมซอย ไปซอยอื่น อาจจะถูกตีหัวเอา อยู่เฝ้าซอย รอตีหัวคนอื่นดีกว่า ไม่ต้องเล่นหลายตัว เวลา Panic จะดูไม่ทัน
ฝากไว้ครับ ขอให้ทุกท่านลงทุนอย่างมีความสุข