สวัสดีค่ะ นี่เป็นกระทู้แรก รบกวนขอคำปรึกษากับเพื่อนๆชาวพันทิปหน่อยค่ะ
**แท็กห้องผิดต้องขออภัยนะคะ
เกิดข้อสงสัยตามหัวข้อกระทู้ เนื่องจากไม่แน่ใจว่าตอนนี้ตัวเองกำลังเป็นโรคเครียดหรือโรคซึมเศร้ากันแน่
อยากจะไปหาหมอ แต่ก็ไม่รู้จะไปหาแผนกไหน แผนกโรคเครียด หรือ แผนกโรคซึมเศร้า จะบอกว่าตัวเองเป็นโรคอะไรดี
เคยศึกษาข้อมูลมาบ้าง แต่ก็ยังตอบตัวเองไม่ได้ว่าเราจัดอยู่ในประเภทไหน
ขอเล่าอาการคร่าวๆ เผื่อใครเคยเป็นหรือพอมีความรู้ ช่วยชี้แนะด้วยค่ะ
ทุกวันนี้จขกท.ทำงานธุรกิจส่วนตัวที่เป็นธุรกิจของครอบครัว โดยมีแม่เป็นหลักในการดำเนินธุรกิจ
ส่วนจขกท.ก็จะเป็นคนคอยช่วยคิดช่วยเสริมคอยเสนอแนะไอเดียใหม่ๆ
แต่ก็มีหลายครั้งที่เราคิดเห็นไม่ตรงกันกับแม่ บางทีถกเถียงกันจนแม่โกรธและไม่คุยด้วยเลยค่ะ
นั่นทำให้เราเกิดความรู้สึกหม่นหมองใจมากๆๆๆ คิดโทษตัวเองว่าทำให้แม่เสียใจ โดยปกติก็เป็นคนคิดลบกับตัวเองอยู่แล้ว
แต่ไม่คิดลบกับคนอื่นนะคะ คือเป็นพวกมองคนอื่นในแง่ดี แต่มองตัวเองในแง่ลบค่ะ ทำให้เวลามีปัญหาอะไร
ก็จะคิดน้อยใจตัวเองบ่อยๆ จนหลายครั้งที่รู้สึกว่าเราช่างหมดคุณค่า ทำอะไรก็ไม่ดีสักอย่าง พาลคิดไปกับทุกเรื่อง
ทั้งๆที่เหตุเกิดจากแค่ทะเลาะกับแม่แค่นั้นเอง คิดมากไปจนถึงขั้นที่ว่า "อยากฆ่าตัวตาย" คิดนะคะ แต่ยังไม่ได้ทำ
ไม่กล้าทำด้วยวิธีอื่น นอกจากถ้าตรงหน้ามีปืนอยู่ล่ะก็ พูดได้คำเดียวว่า "ไม่น่ารอด"ค่ะ เลยทำให้ช่วงเวลาที่ทะเลาะกับแม่นั้น
เราจะซึมลงไปอย่างเห็นได้ชัดเลยค่ะ ไม่อยากมองหน้าใคร ไม่อยากคุยกับใครทั้งนั้น เหมือนชีวิตมืดดำไปหมด
และอีกอย่างนึงคือ จขกท.เป็นคนนึงที่ถูกหลายคนพูดใส่ว่า "คิดมากไปเปล่า" .. "เธอเป็นคนคิดมากนะ".."เลิกคิดมากได้แล้ว"
นั่นยิ่งทำให้ตอกย้ำตัวเองเข้าไปใหญ่ค่ะ ว่าเราไม่ดี เราเป็นคนคิดมาก เราผิดหรอ? ด้วยความที่เราทำธุรกิจ
ก็มีเรื่องให้คิดมากกับธุรกิจพอสมควรอยู่แล้ว แต่ถ้ามาเจอเรื่องไหนที่มันกระทบกระทั่งกับความรู้สึกทางจิตใจอีกล่ะก็
ความคิดแย่ๆนั้นจะออกมาทันทีเป็นระบบออโต้เลยค่ะ คิดวกไปวนมา สุดท้ายไม่พ้นคำว่า "ตาย"
เหมือนเห็นทางออกเดียวคือ ความตาย ทำให้เราหลุดพ้นทุกอย่าง
มองหาความสุขในชีวิตไม่เจอ มองไม่เห็นสิ่งดีๆในชีวิต หมกมุ่นกับเรื่องงานจนนอนไม่ค่อยจะหลับ
คิดถึงสิ่งรอบข้างว่า ทำไมมันยังไม่ดี ทำไมขีวิตเราเจอแต่อะไรแบบนี้ หาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ว่าอยู่ไปทำไม
เราไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง
แต่พอเลิกทะเลาะกับแม่ ก็จะกลับมาเป็นอาการปกติ เหมือนจะอารมณ์ดีขึ้นด้วยซ้ำ
สรุปว่ามันคืออาการของคนเป็นโรคเครียด หรือ โรคซึมเศร้ากันแน่
เพราะเท่าที่รู้มา ถ้าคนที่เป็นโรคเครียด จะแค่กินไม่ได้นอนไม่หลับ ไม่ถึงกับอยากตาย
ส่วนถ้าคนเป็นโรคซึมเศร้า จะมีความคิดเรื่องอยากตาย แต่ก็จะต้องเป็นอาการนี้ติดต่อกันนานเกินกว่า2สัปดาห์
สำหรับจขกท.แล้ว การอยากตาย จะเป็นหนักๆที่คิดจะทำจริงๆคือ แค่ช่วงที่ทะเลาะกับแม่ หรือ ทะเลาะกับแฟนหนักๆ
หรือมีเรื่องอะไรกระทบกระเทือนใจมากๆ แต่พอเหตุการณ์คลี่คลายลง ก็กลับมาหายปกติ
ประเด็นคือ ช่วงหลังๆนี้เริ่มเป็นหนักขึ้นกว่าเก่า พอมีเรื่องให้เครียดนิดหน่อย ความคิดอยากตาย จะทำงานออโต้เร็วขึ้น
เหมือนพอมีเรื่องมีปัญหาอะไรก็เกิดรู้สึกเบื่อ อยากหนีปัญหาไปซะตอนนั้น
ตอนนี้สับสนมาก ไม่รู้จะไปหาหมอยังไงดี ใครอ่านแล้วพอเข้าใจหรือมีคำแนะนำอะไร รบกวนช่วยบอกหน่อยค่ะ
ขอบคุณมากนะคะ
นี่เราเป็นโรคเครียด หรือ โรคซึมเศร้ากันแน่?
**แท็กห้องผิดต้องขออภัยนะคะ
เกิดข้อสงสัยตามหัวข้อกระทู้ เนื่องจากไม่แน่ใจว่าตอนนี้ตัวเองกำลังเป็นโรคเครียดหรือโรคซึมเศร้ากันแน่
อยากจะไปหาหมอ แต่ก็ไม่รู้จะไปหาแผนกไหน แผนกโรคเครียด หรือ แผนกโรคซึมเศร้า จะบอกว่าตัวเองเป็นโรคอะไรดี
เคยศึกษาข้อมูลมาบ้าง แต่ก็ยังตอบตัวเองไม่ได้ว่าเราจัดอยู่ในประเภทไหน
ขอเล่าอาการคร่าวๆ เผื่อใครเคยเป็นหรือพอมีความรู้ ช่วยชี้แนะด้วยค่ะ
ทุกวันนี้จขกท.ทำงานธุรกิจส่วนตัวที่เป็นธุรกิจของครอบครัว โดยมีแม่เป็นหลักในการดำเนินธุรกิจ
ส่วนจขกท.ก็จะเป็นคนคอยช่วยคิดช่วยเสริมคอยเสนอแนะไอเดียใหม่ๆ
แต่ก็มีหลายครั้งที่เราคิดเห็นไม่ตรงกันกับแม่ บางทีถกเถียงกันจนแม่โกรธและไม่คุยด้วยเลยค่ะ
นั่นทำให้เราเกิดความรู้สึกหม่นหมองใจมากๆๆๆ คิดโทษตัวเองว่าทำให้แม่เสียใจ โดยปกติก็เป็นคนคิดลบกับตัวเองอยู่แล้ว
แต่ไม่คิดลบกับคนอื่นนะคะ คือเป็นพวกมองคนอื่นในแง่ดี แต่มองตัวเองในแง่ลบค่ะ ทำให้เวลามีปัญหาอะไร
ก็จะคิดน้อยใจตัวเองบ่อยๆ จนหลายครั้งที่รู้สึกว่าเราช่างหมดคุณค่า ทำอะไรก็ไม่ดีสักอย่าง พาลคิดไปกับทุกเรื่อง
ทั้งๆที่เหตุเกิดจากแค่ทะเลาะกับแม่แค่นั้นเอง คิดมากไปจนถึงขั้นที่ว่า "อยากฆ่าตัวตาย" คิดนะคะ แต่ยังไม่ได้ทำ
ไม่กล้าทำด้วยวิธีอื่น นอกจากถ้าตรงหน้ามีปืนอยู่ล่ะก็ พูดได้คำเดียวว่า "ไม่น่ารอด"ค่ะ เลยทำให้ช่วงเวลาที่ทะเลาะกับแม่นั้น
เราจะซึมลงไปอย่างเห็นได้ชัดเลยค่ะ ไม่อยากมองหน้าใคร ไม่อยากคุยกับใครทั้งนั้น เหมือนชีวิตมืดดำไปหมด
และอีกอย่างนึงคือ จขกท.เป็นคนนึงที่ถูกหลายคนพูดใส่ว่า "คิดมากไปเปล่า" .. "เธอเป็นคนคิดมากนะ".."เลิกคิดมากได้แล้ว"
นั่นยิ่งทำให้ตอกย้ำตัวเองเข้าไปใหญ่ค่ะ ว่าเราไม่ดี เราเป็นคนคิดมาก เราผิดหรอ? ด้วยความที่เราทำธุรกิจ
ก็มีเรื่องให้คิดมากกับธุรกิจพอสมควรอยู่แล้ว แต่ถ้ามาเจอเรื่องไหนที่มันกระทบกระทั่งกับความรู้สึกทางจิตใจอีกล่ะก็
ความคิดแย่ๆนั้นจะออกมาทันทีเป็นระบบออโต้เลยค่ะ คิดวกไปวนมา สุดท้ายไม่พ้นคำว่า "ตาย"
เหมือนเห็นทางออกเดียวคือ ความตาย ทำให้เราหลุดพ้นทุกอย่าง
มองหาความสุขในชีวิตไม่เจอ มองไม่เห็นสิ่งดีๆในชีวิต หมกมุ่นกับเรื่องงานจนนอนไม่ค่อยจะหลับ
คิดถึงสิ่งรอบข้างว่า ทำไมมันยังไม่ดี ทำไมขีวิตเราเจอแต่อะไรแบบนี้ หาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ว่าอยู่ไปทำไม
เราไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง
แต่พอเลิกทะเลาะกับแม่ ก็จะกลับมาเป็นอาการปกติ เหมือนจะอารมณ์ดีขึ้นด้วยซ้ำ
สรุปว่ามันคืออาการของคนเป็นโรคเครียด หรือ โรคซึมเศร้ากันแน่
เพราะเท่าที่รู้มา ถ้าคนที่เป็นโรคเครียด จะแค่กินไม่ได้นอนไม่หลับ ไม่ถึงกับอยากตาย
ส่วนถ้าคนเป็นโรคซึมเศร้า จะมีความคิดเรื่องอยากตาย แต่ก็จะต้องเป็นอาการนี้ติดต่อกันนานเกินกว่า2สัปดาห์
สำหรับจขกท.แล้ว การอยากตาย จะเป็นหนักๆที่คิดจะทำจริงๆคือ แค่ช่วงที่ทะเลาะกับแม่ หรือ ทะเลาะกับแฟนหนักๆ
หรือมีเรื่องอะไรกระทบกระเทือนใจมากๆ แต่พอเหตุการณ์คลี่คลายลง ก็กลับมาหายปกติ
ประเด็นคือ ช่วงหลังๆนี้เริ่มเป็นหนักขึ้นกว่าเก่า พอมีเรื่องให้เครียดนิดหน่อย ความคิดอยากตาย จะทำงานออโต้เร็วขึ้น
เหมือนพอมีเรื่องมีปัญหาอะไรก็เกิดรู้สึกเบื่อ อยากหนีปัญหาไปซะตอนนั้น
ตอนนี้สับสนมาก ไม่รู้จะไปหาหมอยังไงดี ใครอ่านแล้วพอเข้าใจหรือมีคำแนะนำอะไร รบกวนช่วยบอกหน่อยค่ะ
ขอบคุณมากนะคะ