บันทึกของฉัน บนเกาะสมุย ประสบการณ์ติดเกาะ 1 ปี :)

สวัสดีค่ะ กระทู้นี้ไม่ได้มารีวิวการท่องเที่ยวนะคะ
แล้วเรียกว่าอะไรดี 55555 เรียกว่าพิมพ์ไป บ่นไปแล้วกัน
คือมีโอกาสได้ไปใช้ชีวิตบนเกาะสมุยมา 1 ปี เนื่องจากตอนที่พึ่งเรียนจบใหม่ ๆ ห้าวมาก
อยากลองใช้ชีวิตด้วยตนเอง ไกล ๆ บ้านสักครั้ง ความจริงอยากจะไป ตปท นะคะ 55555
แต่เนื่องจากยังไม่เคยห่างจากบ้านเลย เลยคิดว่าเอาในประเทศก่อนดีมั้ย เผื่องอแงได้กลับบ้านง่าย ๆ
อีกอย่างคือเนื่องจากงบด้วยค่ะ 55555555+ (น่าจะพิมพ์อันนี้ขึ้นต้นนะ)

ตอนที่ไปก็งง ๆ เหมือนกัน ไม่เคยมีคำว่าเกาะสมุยอยู่ในหัวเลยว่าจะไปอยู่ แต่รู้ตัวอีกที ก็อยู่บนเกาะแล้ว 55555+
ก่อนไปมีการส่งเมล์ไปสมัครงานก่อนค่ะ หลังจากนั้น 2 วันเขาก็ติดต่อมาให้ไปสัมภาษณ์ คือพึ่งรับปริญญาเสร็จ ไปคืนชุดครุย ก็ดิ่งลงใต้เลยค่ะ
งานที่ได้เป็นงานเกี่ยวกับด้านการโรงแรม เป็นพนักงานต้อนรับค่ะ สิ่งที่คาดหวังใน 1 ปี นี้คือ เที่ยว ประสบการณ์ และภาษา



รูปนี้เป็นรูปแรก ๆ ที่ถ่ายเลยตอนได้กล้อง กล้องก็ซื้อที่นู้นค่ะ หลังจากทำงานได้ 2 เดือน 5555+
เป็นกล้องมือสอง สั่งจากทางอินเตอร์เน็ตด้วย 55555 ตอนเปิดกล่องลุ้นมาก กลัวกล้องแตกจากการขนส่ง (รูปทุกรูปถ่ายจาก Fuji x100s ค่ะ)

ถนนทางขวามือยาว ๆ นั่นคือสนามบินเกาะสมุยนะคะ



ตอนไปถึงเกาะครั้งแรก คิดในใจ จะอยู่ได้มั้ยนี่ คือทุกอย่างแปลกตาไปหมด แล้วก็ไม่รู้จักใครเลย แต่ว่าคุณพ่อนั่งรถมาส่งเป็นเพื่อนนะคะ
หลังจากนั้นก็หาที่พักผ่อน 1 คืน วันรุ่งขึ้นก็ไปสัมภาษณ์เลยค่ะ ตอนจะไปสัมภาษณ์ว่าจะเรียกแท็กซี่ไป แต่ตกใจกับราคาแท็กซี่มาก
ว่านี่อยู่เมืองไทยหรอนี่ คือราคามันค่อนข้างสูงมากกกค่ะ แต่อยู่ไปนานเข้าจะเริ่มชินกับราคาทุกอย่าง
(ข้าวร้านข้างทาง ตก 60-70 ถูกสุดที่หาได้ แท็กซี่ประมาณกิโลเมตรละ 100 ได้ค่ะ )

ไม่รู้ว่าดวงหรืออะไร ปกติการสัมภาษณ์งานต้องสัมภาษณ์ทั้งหมด 3 ท่าน คือหัวหน้าฝ่ายบุคคล หัวหน้าแผนก และก็ผู้จัดการโรงแรม
แต่เนื่องด้วยวันนั้นผู้จัดการโรงแรมไปทำธุระที่กรุงเทพ เลยได้สัมภาษณ์แค่ 2 ท่าน แล้วเขาก็บอกว่าจะนัดมาสัมภาษณ์ใหม่ เลยเดินทางกลับห้องพัก
แต่ยังไม่ทันถึงห้องพักเลยค่ะ เขาโทรมาว่ารับเลย ให้ย้ายเข้าหอพักพนักงานได้เลย แล้วก็อีก 2 วันเริ่มงาน 5555 เป็นบุญมากค่ะ
ไม่อย่างนั้นคงหมดเงินอีกเยอะกว่าจะได้งาน

จากนั้นก็ต้องทำการร่ำลาพ่อ และต้องเริ่มการใช้ชีวิตคนเดียว(ยังไม่รู้จักใคร)บนเกาะสินะ 5555 จำได้เลยว่าวันที่ไปเดินโลตัสเพื่อซื้อของเข้าห้อง
กินข้าวอยู่ที่ฟู๊ดคอร์ท ร้องไห้ไปกินไป อย่างไม่อายใคร 55555 ใครคิดไม่ออกคิดถึงหนังเรื่องเด็กหอ ฉากที่เน็กแฟนฉันกินข้าวไข่เจียวแล้วคิดถึงแม่นะคะ
ในหัวคิดแต่ว่า มาทำไมเนี่ย รู้จักใครบ้าง จะใช้ชีวิตยังไง 55555 แต่ก็บอกตัวเองว่าตัดสินใจแล้วก็ต้งทำให้ได้ และให้โอกาสร้องไห้แค่ 1 วันแล้วต้องจบ
เจ็บแต่จบนะคะ 55555 สู้



อย่างแรกที่ต้องมีในการดำรงชีวิตที่นี่ คือยานพาหนะค่ะ ถ้าเดินทางโดยรถสองแถว หรือแท็กซี่ได้เป็นหนี้แน่ ๆ 55555 ก็เลยตัดสินใจซื้อจักรยานดีกว่า
เพราะว่าขี่มอเตอร์ไซด์ไม่เป็นด้วยค่ะ แต่เรื่องนี้ก็สอนให้รู้ว่า เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตามนะคะ 5555555 ไม่ได้ดูชาวบ้านเขาเลย
ว่าเขาขี่มอเตอร์ไซด์กัน ซื้อจักรยานมาเป็นยังไงล่ะ เข็นสิคะ ภูเขาทั้งนั้น 555555+ อายก็อาย เหนื่อยก็เหนื่อย หมาก็ไล่ 55555 ชีวิต
ยังไม่จบค่ะ ตอนไปอยู่แรก ๆ เหมือนจะแพ้น้ำด้วย คิดว่านะคะ ที่คอนี่เป็นแผล(จากการเกา) แล้วก็เป็นเลือดเลย น่าลัวมากก แต่ก็ด้วยยังไม่รู้จักใครอีก
จะไปหาหมอต้องไปยังไงคะ จักรยานค่ะ 555555 ถามคุณลุงหน้าหอว่าคลินิกไกลมั้ย ลุงบอกว่าไม่ไกล นิดเดียว เลยเอานะ ลองปั่นดู
และก็ถามทางคนไปเรื่อย ๆ ปรากฎว่ากว่าจะถึงคลินิก ใช้เวลา 1 ชม. กว่า ๆ ได้ค่ะ 55555 ไปกลับรวมแล้ว 3 ชม. ผิวนี่แทนเชียววว 5555
สอบถามลุงตอนกลับมาถึง ไหนบอกไม่ไกลไงคะลุง คุยไปคุยมา คือมันคนละคลินิกกับที่ลุงบอก 55555 ประทับใจมากค่ะ



อันนี้คือรันเวย์ของสนามบิน เกาะสมุยค่ะ





ตอนเช้า ๆ วันหยุดเราตื่นมาปั่นจักรยานเล่นสำรวจค่ะ ถ่ายไปเรื่อยที่พบเจอ 55555 ชอบกินข้าวเหนียวไก่ทอดหน้าสนามบินด้วยค่ะ
คือถ้าตื่นสายจะอด เพราะว่าขายดีมาก จักรยานปั่นได้ไม่นานค่ะ ก็ขายจักรยาน แล้วเช่ามอเตอร์ไซด์แทน ทีนี้ชีวิตสบายขึ้นเยอะะะ อิอิ

แต่ตอนเช่ามอเตอร์ไซด์นี่แหละค่ะปัญหา เพราะว่าเราขี่ไม่เป็น 55555 แต่ด้วยความที่ต้องเช่าจริง ๆ เพราะไม่มีมอเตอร์ไซด์มันลำบากมาก
จึงต้องกราบเรียนเจ้าของร้านมอเตอร์ไซด์ว่า ขี่เป็นสิคะ 55555 พอพี่เขาเอามอเตอร์ไซด์มาให้เท่านั้นแหละ นิ่งสงบเลยค่ะ
เพราะว่าสตาร์ทไม่เป็น พี่คนเจ้าของร้านคงเริ่มสงสัย เลยถามว่า น้องขี่มอไซเป็นจริง ๆ ป่ะเนี่ย เราก็ต้องยืนยันค่ะ เป็นสิพี่ แต่มันคนละรุ่นกัน
หนูเลยสตาร์ทไม่ถูก นั่น โกหกเขาอีก 55555 พี่เขาก็สตาร์ทให้ แล้วเราก็ประคับประคองขี่กลับเองจนถึงหอพักค่ะ ความจริงมันก็ไม่ได้ยากนะคะ
เพราะเป็นออโต้ด้วย ก็เหมือนจักรยานเลย แต่เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีเลยค่ะ อันตราย แนะนำว่าไม่ควรประพฤติตามค่ะ 55





หลังเลิกงานเราชอบไปนั่งริมทะเลกับเพื่อน ๆ ที่ทำงานค่ะ เริ่มจะมีเพื่อนแล้ว 5555 เรารู้สึกชอบชีวิตเราตอนนั้นสุด ๆ มันสโลวไลฟ์จริง ๆ
แบบว่าจากที่พักขับมอไซไปทำงานแค่ 3 นาที วิวจากห้องทำงานก็ทะเล เลิกงานก็ทะเล คือเป็นสวรรค์ของคนชอบทะเลเลยค่ะ
ซึ่งเราชอบทะเลมากก 5555 เรียกได้ว่าชวนเพื่อนที่ทำงานไปจนเพื่อนที่ทำงานบอกว่า ขนาดเขาเป็นคนใต้ ยังมาไม่บ่อยเท่าเราเลย
เล่นน้ำล่าสุดก็ปีที่แล้วนู้น 55555 อย่างว่านะคะ คนที่เขาเห็นจนชินเขาเลยไม่ตื่นเต้น







กิจกรรมหลังเลิกงานของเรามีเยอะมากค่ะ ขอบอก 55555 ดำน้ำ พายเรือ หาปู ขึ้นเขา บลา ๆ

ความจริงเรื่องเล่าเรามีเยอะมากนะคะ ทั้งสิ่งที่ดีและไม่ค่อยจะดี แต่ขออนุญาตจบเพียงเท่านี้ก่อนนะคะ โชว์รูปแทนแล้วกันเนอะ 55555555



รูปนี้ถ่ายตอนไปพายเรือกับเพื่อนกลางทะเลค่ะ 55555 ละจู่ ๆ ฝนก็มา ฟ้าก็ผ่า ลมก็แรง ทั้งกลัวทั้งตื่นเต้น 55555







อันนี้เป็นร้านอาหารที่เราชอบไปค่ะ วิวดีงาม ขออนุญาตแนะนำ 2 ร้านนี้ ชื่อ the jungle club รูปบน กับ the giant 2 รูปล่าง
มีวันนึงเราไปกับพี่ที่ทำงานค่ะ ไปโดยรถมอเตอร์ไซด์ กำลังขี่ขึ้นเขากันเพลิน ๆ แต่สิ่งที่เห็นตรงหน้านี่ช็อคมากค่ะ
มันจะเป็นทางเล็ก ๆ 2 เลนตามแนวภูเขาขึ้นไปใช่มั้ยค่ะ ด้านข้าง 2 ฝั่งจะเป็นเหวลงไป โดยปกติรถก็ต้องขี่ตามเลนถนน
แต่มอเตอร์ไซด์ของชาวต่างชาติที่อยู่ตรงหน้าเราไม่ใช่ค่ะ พี่แกเลี้ยวลงเหวไปข้างล่าง ต่อหน้าต่อตาเราเลย คือตกใจมาก!
รีบให้พี่จอดมอไซวิ่งไปดูกัน ปรากฎว่าเขาโชคดีอยู่ค่ะ ที่มอไซและเขาไปติดต้นไม้ข้างล่าง ถ้าไม่มีต้นไม้ต้นนั้นไม่อยากจะคิดเลย
ก็รีบโบกขอความช่วยเหลือจากรถที่วิ่งผ่านมาให้ช่วยกันดึงขึ้นมาค่ะ ด้วยความที่ลึกและชันไม่สามารถลงไปช่วยยกได้
สิ่งที่ใช้ได้คือเชือกหย่อนลงไปคล้องกับมอไซและช่วยกันดึงค่ะ แต่คนที่ผ่านไปมาก็ช่วยกันด้วย ทำให้ประมาณ 10 นาทีก็ช่วยขึ้นมาได้ทั้งคน
และมอเตอร์ไซ สอบถามผู้บาดเจ็บ เขาบอกว่าพึ่งขี่มอไซวันนั้นวันแรกเลย แล้วมอไซมันติดหลุม เลยบิดอย่างแรงเพื่อให้ขึ้นจากหลุม
แต่มอไซไม่หยุดแค่หลุมค่ะ วิ่งไปลงเหวด้วย อันตรายนะคะ





ที่เกาะสมุยจะมีคล้าย ๆ ทะเลสาปด้วยนะคะ แต่คนที่นั่นจะเรียก พรุเฉวง ค่ะ เป็นที่วิ่ง ที่ออกกำลังกาย



อันนี้วิวด้านหลังหอพักเรา อิอิ



ที่สมุยมีน้ำตกด้วยนะคะ หลายน้ำตกเลย มีขี่ช้างด้วย มีครั้งนึงที่พี่ทำงานเราอีกแล้ว พาไปเที่ยวน้ำตกลึก ๆ ในป่า 55555
พี่แกภูมิใจว่าไม่ค่อยมีคนรู้จัก เราก็ตกลงเลยค่ะ ไปๆ 55555 ระหว่างทางที่ไปมันสวยมากค่ะ เป็นสวนทุเรียน มังคุด มะพร้าว
และวิวคือแบบยอดเขาอะค่ะ เห็นทะเล เห็นเขาหลาย ๆ ลูก แต่เราไม่ได้เอากล้องไป T_T อีกอย่างที่จำได้ดีเลย คือหมาที่เขาเลี้ยงในสวน
ดุมากกกกกกกกค่ะ 555555 วิ่งตามมอไซกันเป็นสิบ ๆ ตัวใหญ่ ๆ สีดำ ยังคงจำเขี้ยวเธอได้ดี คือถ้ามอไซล้มนี่ตายแน่ ๆ ค่ะ 55555



อันนี้เป็นร้านค็อกเทลค่ะ ชื่อ Coco Tam เพลงดีงาม วิวดี เครื่องดื่มเยี่ยม




ขออนุญาตเบลอหน้านิดนึงนะคะ ไม่ได้ขอเจ้าตัวก่อน แหะ ๆ



3 รูปนี้เป็นฝั่งหน้าทอนค่ะ ฝั่งนี้จะเป็นวิวพระอาทิตย์ตก เราชอบเอาเพื่อน ๆ พี่ ๆ เรามาเป็นแบบนี่แหละค่ะ 55555
ทุกคนเลยค่อนข้างชอบเที่ยวกับเรา พร้อมประโยคปิดท้ายที่ว่า เอากล้องมาด้วยนะ 555555









อันนี้เป็นวิวหลังวัดพระใหญ่ค่ะ นักท่องเที่ยวจะไม่ค่อยทราบที่นี่ อิอิ



ทุกคนสามารถเป็นนางแบบอิชั้นได้ค่ะ 555555 2 คนนี้เป็นลูกค้าที่โรงแรม ที่อิชั้นกับเพื่อนล่อลวงมาเที่ยวด้วย
ตอนที่โพสรูปลง facebook และแท็กเขา ญาติเขาที่ออสเตรเลียตกใจเลยค่ะ ที่เห็นน้องเขามาซ้อนมอไซ 55555



พาข้ามฝากไปเขื่อนรัชประภาบ้างค่ะ













ต่อด้วยภูเก็ตนิด ๆ









จบแล้วนะคะ 555555 เป็นกระทู้บ่น ๆ และแชร์รูปค่ะ
55555 ตัดจบซะเหมือนละครหมดงบเลย ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ
สวัสดีค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่