ต้องบอกก่อนว่า จขกท.เป็นทั้งผู้รับเหมา และวิศวกร และเปิดร้านขายวัสดุด้วย(ร้านของจขกท.อยู่ต่างจังหวัด ส่วนธุรกิจรับเหมาเป็นธุรกิจที่ทำอยู่เดิมในกทม.) ซึ่งตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา ต้องการบอกเล่าเรื่องราวที่ได้เจอมาทั้งในส่วนฐานะเป็นผู้รับเหมา และเป็นวิศวกร รวมทั้งเป็น เจ้าของร้านขายวัสดุด้วย
สีผสมของแต่ละยี่ห้อราคาก็จะขึ้นอยู่กับรุ่นของสีและเฉดสีถ้าเข้มมากค่าแม่สีก็จะแพงขึ้นไปด้วย ในแต่ละรุ่นค่าแม่สีเฉดเดียวกันจะแตกต่างกัน เช่น แม่สีสำหรับรุ่นที่ใช้ภายนอก จะแพงกว่ารุ่นที่ใช้ได้เฉพาะภายใน เนื่องจากความทนทานต่อแสงUV สภาพความชื้น สภาวะอากาศ ซึ่งแม่สีที่ใช้ภายนอกจะทนทานได้มากกว่า
เมื่อมีการแข่งขันบางครั้งPC ที่อยากจะได้ยอดขายก็จะมีกลยุทธใช้เฉดสีสำหรับทาภายในหรือเอาของรุ่นอื่นที่ราคาถูกมาผสมให้ โดยยังคงได้สีใกล้เคียงของเดิม แต่คุณสมบัติของสีทาอาคารที่ท่านนำไปใช้มันเปลี่ยนไป การรับประกันก็เปลี่ยน จะไปซื้อที่ร้านอื่นก็ไม่เหมือน เนื่องจากมีการใช้แม่สีที่ต่างกัน เพราะเอาแม่สีภายในมาฉีดให้ ทำให้เก็บงานไม่ได้เมื่อไปซื้อร้านอื่น ใช้งานไปไม่กี่ปี ซีดจาง สีตก
จะบอกว่าเป็นวิชามารเลยก็ได้ เพราะเป็นการสอนกันต่อๆกันมาของ PC จขกท.เจอมาเกือบครบทุกยี่ห้อ เพราะมีทั้งไปซื้อใช้เองในฐานะผู้รับเหมา มี PC มาเสนอให้ และทั้งเคสที่ลูกค้าเข้ามาซื้อสีไปเก็บงาน โดยลูกค้าบอกว่าซื้อสีมาจากร้านใหญ่ในกทม.ได้ของถูก โดยไม่ทราบว่าถูกหลอกไปแล้ว ซึ่งผลที่ได้มันไม่คุ้มเสีย เดี๋ยวนี้ค่าแรงช่างทาสีแพงกว่าค่าสีไปมากแล้ว
วิธีสังเกตุขั้นแรกให้ดูที่สติ๊กเกอร์ข้างถัง เมื่อผสมแล้วพนักงานจะเอามาแปะให้ ดังภาพ ว่าตรงกับรุ่นสีที่เราซื้อหรือไม่ แต่ถ้าไม่แปะหรือสั่งพิมพ์สติ๊กเกอร์ใหม่ก็ตัวใครตัวมันครับ
และดูยี่ห้อและรุ่นที่ถังว่าตรงกันหรือไม่
ซึ่งในภาพที่จขกท.นำมาเป็นภาพที่ลูกค้านำถังตัวอย่างมาซื้อสีไปเก็บงาน พบว่ารุ่นบนสติ๊กเกอร์ ไม่ตรงกับข้างถัง ค่าแม่สีที่ผสมมา 232.74 บาท ถูกกว่า แต่ถ้าผสมตรงรุ่นและยี่ห้อค่าแม่สีจะสูงถึง 700 กว่าบาท ถูกกว่ากันเกือบ 500 บาทต่อถัง ถ้าบ้าน 1 หลัง ประมาณ 10 ถังขึ้นไปก็ เกือบ ห้าพันบาท อาจจะเห็นว่าเยอะ แต่ไม่คุ้มกับการที่ต้องมาทาใหม่ภายหลัง ค่าแรงก็เกินแล้วครับ
ยังไงก็ลองตรวจสอบดูน่ะครับ ก่อนซื้อหรือถ้า PC แนะนำก็ให้ขอเบอร์ฝ่ายเทคนิค บริษัทสีนั้นๆ โทรไปถามเลยครับ ว่ายังรับประกันอยู่ไหม บางครั้งผู้รับเหมาซื้อมาก็ตรวจสอบด้วยน่ะครับ ส่วนใหญ่ผู้รับเหมารายใหญ่ๆจะไม่เสี่ยงเรื่องพวกนี้ครับ เสียหายมากกว่าถ้าต้องมาซ่อมเก็บงาน
ซื้อสีผสมตามร้านModern Trade ระวังถูกหลอก
สีผสมของแต่ละยี่ห้อราคาก็จะขึ้นอยู่กับรุ่นของสีและเฉดสีถ้าเข้มมากค่าแม่สีก็จะแพงขึ้นไปด้วย ในแต่ละรุ่นค่าแม่สีเฉดเดียวกันจะแตกต่างกัน เช่น แม่สีสำหรับรุ่นที่ใช้ภายนอก จะแพงกว่ารุ่นที่ใช้ได้เฉพาะภายใน เนื่องจากความทนทานต่อแสงUV สภาพความชื้น สภาวะอากาศ ซึ่งแม่สีที่ใช้ภายนอกจะทนทานได้มากกว่า
เมื่อมีการแข่งขันบางครั้งPC ที่อยากจะได้ยอดขายก็จะมีกลยุทธใช้เฉดสีสำหรับทาภายในหรือเอาของรุ่นอื่นที่ราคาถูกมาผสมให้ โดยยังคงได้สีใกล้เคียงของเดิม แต่คุณสมบัติของสีทาอาคารที่ท่านนำไปใช้มันเปลี่ยนไป การรับประกันก็เปลี่ยน จะไปซื้อที่ร้านอื่นก็ไม่เหมือน เนื่องจากมีการใช้แม่สีที่ต่างกัน เพราะเอาแม่สีภายในมาฉีดให้ ทำให้เก็บงานไม่ได้เมื่อไปซื้อร้านอื่น ใช้งานไปไม่กี่ปี ซีดจาง สีตก
จะบอกว่าเป็นวิชามารเลยก็ได้ เพราะเป็นการสอนกันต่อๆกันมาของ PC จขกท.เจอมาเกือบครบทุกยี่ห้อ เพราะมีทั้งไปซื้อใช้เองในฐานะผู้รับเหมา มี PC มาเสนอให้ และทั้งเคสที่ลูกค้าเข้ามาซื้อสีไปเก็บงาน โดยลูกค้าบอกว่าซื้อสีมาจากร้านใหญ่ในกทม.ได้ของถูก โดยไม่ทราบว่าถูกหลอกไปแล้ว ซึ่งผลที่ได้มันไม่คุ้มเสีย เดี๋ยวนี้ค่าแรงช่างทาสีแพงกว่าค่าสีไปมากแล้ว
วิธีสังเกตุขั้นแรกให้ดูที่สติ๊กเกอร์ข้างถัง เมื่อผสมแล้วพนักงานจะเอามาแปะให้ ดังภาพ ว่าตรงกับรุ่นสีที่เราซื้อหรือไม่ แต่ถ้าไม่แปะหรือสั่งพิมพ์สติ๊กเกอร์ใหม่ก็ตัวใครตัวมันครับ
และดูยี่ห้อและรุ่นที่ถังว่าตรงกันหรือไม่
ซึ่งในภาพที่จขกท.นำมาเป็นภาพที่ลูกค้านำถังตัวอย่างมาซื้อสีไปเก็บงาน พบว่ารุ่นบนสติ๊กเกอร์ ไม่ตรงกับข้างถัง ค่าแม่สีที่ผสมมา 232.74 บาท ถูกกว่า แต่ถ้าผสมตรงรุ่นและยี่ห้อค่าแม่สีจะสูงถึง 700 กว่าบาท ถูกกว่ากันเกือบ 500 บาทต่อถัง ถ้าบ้าน 1 หลัง ประมาณ 10 ถังขึ้นไปก็ เกือบ ห้าพันบาท อาจจะเห็นว่าเยอะ แต่ไม่คุ้มกับการที่ต้องมาทาใหม่ภายหลัง ค่าแรงก็เกินแล้วครับ
ยังไงก็ลองตรวจสอบดูน่ะครับ ก่อนซื้อหรือถ้า PC แนะนำก็ให้ขอเบอร์ฝ่ายเทคนิค บริษัทสีนั้นๆ โทรไปถามเลยครับ ว่ายังรับประกันอยู่ไหม บางครั้งผู้รับเหมาซื้อมาก็ตรวจสอบด้วยน่ะครับ ส่วนใหญ่ผู้รับเหมารายใหญ่ๆจะไม่เสี่ยงเรื่องพวกนี้ครับ เสียหายมากกว่าถ้าต้องมาซ่อมเก็บงาน