หวัดดีคะ ก่อนอื่น จขกท. ขอท้าวความไปตอนที่ยังเรียนอยู่มัธยมก่อนเลยนะคะ ตอนนั้น จขกท.แอบชอบผู้ชายอยู่คนนึงซึ่งเค้าเป็นพนักงานประจำอยู่ที่ร้านอาหารของลูกพี่ลูกน้องของจขกท.เองคะ ในตอนนั้นความรักบังตาคะเค้าจะทำอะไรก็ดีไปซะหมดหล่อไปซะทุกอย่าง แต่ก็ไม่ได้บอกใครนะคะเก็บไว้คนเดียวเพราะกลัวเพื่อนจะแซวแล้วความจะไปถึงหูพี่สาว แต่วันนึงเพื่อนสนิทมันก็ดันจับพิรุธได้ ถามซะจนต้องยอมรับกับนางว่าเราแอบชอบพี่เค้าอยู่ และด้วยความที่คุณเพื่อนมีความรักเพื่อนมากมายนางเลยไปขอเบอร์โทรให้เสร็จสรรพ แต่ก็ตัดสินใจอยู่หลายวันนะคะกว่าจะได้โทรไป ตอนแรกจขกท.ก็ไม่บอกชื่อหรอกนะคะกลัวพี่สาวจะรู้(พี่สาวจขกท.เป็นคนปากร้ายคะ ปากร้ายแต่ใจดี จขกท.กลัวโดนด่า)แต่สุดท้ายความก็แตกจนได้คะเพราะมีอยู่วันนึงที่ต้องทำกิจกรรมที่โรงเรียนเลยฝากโทรศัพท์ไว้กับเพื่อนคนที่ไม่รู้เรื่องแล้วบังเอิญพี่เค้าโทรมา เพื่อนด้วยความที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ก็รับสายแล้วบอกชื่อเสียงเรียงนามเราไปเรียบร้อย จขกท.นี่หลังจากรู้เรื่องก็รีบโทรกลับไปกำชับเค้าบอกให้เก็บเรื่องนี้เป็นความลับห้ามบอกใคร หลังจากนั้นก็คุยกับพี่เค้าอยู่สักพักใหญ่ๆ จนวันนึงเค้าบอกกับเราว่าเค้ามีแฟนแล้วนะและยังอยากจะคุยกับเค้าอยู่หรือเปล่า แต่ด้วยความที่เราคิดว่าแค่คุยคงไม่เป็นไรมั้ง เราเลยตัดสินใจคุยกับเค้าในฐานะพี่ชายกับน้องสาวแต่จากที่เมื่อก่อนจขกท.เป็นฝ่ายเคยโทรไปตอนนี้เค้ากลับเป็นฝ่ายโทรหา จากที่เคยคุยกันทุกวันกลายเป็นคุยกันแค่อาทิตย์ละครั้งสองครั้ง แต่จขกท.ไม่เคยคุยแบบต่อหน้ากับเค้าเลยไม่เคยนัดเจอกันไม่มีแลกเปลี่ยนเฟซบุ๊คหรือคุยแชทอะไรทั้งนั้นคุยแค่ทางโทรศัพท์อย่างเดียวเพราะกลัวคนที่ร้านของพี่สาวจะรู้ หลังจากนั้นประมาณอาทิตย์นึงจขกท.เห็นพี่เค้าลางานหลายวันแล้วไม่ได้โทรมาบอกว่าไปไหนจึงโทรไปถาม แต่ปรากฏว่าเป็นเสียงแฟนพี่เค้ารับสาย แฟนพี่เค้าก็ถามเราว่าเราเป็นใคร แต่เราไม่พูดและตัดสายทิ้ง เค้าจึงโทรกลับมาอีกครั้งและถามเราด้วยคำถามเดิม จขกท.เลยบอกไปว่าเป็นน้องสาว แต่แฟนพี่เค้าบอกว่าพี่เค้ามีแต่น้องชายแล้วเราจะเป็นน้องสาวเค้าได้ยังไง ปรากฏว่าเราคุยกับแฟนพี่เค้าและเราก็ได้รู้เรื่องทั้งหมดว่าเค้าแต่งงานแล้ว และพี่เค้าเองก็เป็นคนเจ้าชู้มากคุยกับทุกคนที่เข้ามาหา แต่เรานานสุดเพราะเค้าไม่ได้เมมเบอร์เราไว้และข้อความที่เราส่งให้เค้าทุกๆข้อความเค้าอ่านเสร็จเค้าก็ลบทิ้งหมดไม่แสดงอาการพิรุธใดๆทั้งสิ้นจนเราโทรไปวันนี้นี่แหละ ด้วยความที่เรารู้สึกผิดต่อภรรยาพี่เค้าเราไม่อยากทำลายครอบครัวใครเราจึงกล้าที่จะยอมรับและเล่าเรื่องทุกอย่างให้เค้าฟังทุกอย่าง มันคงเพราะเค้าคุยกับเราดีๆไม่ด่าเราไม่ขึ้นเสียงใส่เราคุยกันด้วยเหตุผล เราจึงบอกภรรยาเค้าไปว่าจะเลิกติดต่อกับพี่เค้าและก็เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ และเรื่องนี้ก็จบลง เมื่อเราเรียนจบก็ได้ที่เรียนที่ต่างจังหวัด ความรู้สึกตอนนั้นคือแบบรู้สึกผิดมากที่เกือบจะไปทำให้ครอบครัวเค้ามีปัญหากัน เกือบที่จะไปเป็นมือที่สามความรู้สึกมันแบบผิดหวังในตัวคนๆนี้มาก แต่ความรู้สึกทั้งหมดก็ไม่เท่ากับความรู้สึกกลัว กลัวว่าคนที่บ้านจะรู้(พ่อของจขกท.ค่อนข้างดุและจขกท.เองก็เป็นลูกสาวคนเดียวพ่อเลยหวงกว่าคนอื่นๆ)กลัวพี่สาวจะรู้และสุดท้ายเรื่องนี้ก็เงียบไป แต่จขกท.ก็คิดว่าพี่สาวและที่บ้านน่าจะรู้เพียงแค่ไม่พูดออกมาแค่นั้นเอง จนตอนนี้จขกท.อยู่ในช่วงรอรับปริญญาแล้วคะ
แล้ววันนี้ก็มาถึงวันที่จขกท.กลัวมาโดยตลอดอยู่ๆพี่สาวเราก็ได้ถามเราถึงที่เคยคุยกับพี่คนนั้น แต่จขกท.ก็เลี่ยงที่จะตอบนะคะ แต่ก็ยังไม่วายที่จะโดนคาดคั้นเอาคำตอบมาให้ได้ จนตอนนี้จขกท.ไม่รู้ว่าจะเล่าจะปิดหรือจะทำยังไงดีเลยคะ ที่ไม่อยากเล่าก็เพราะเรื่องมันจบไปนานแล้ว และไม่อยากนึกถึงรื้อฟื้นมันขึ้นมาอีก ถ้าเรื่องนี้เกินขึ้นกับพวกคุณ คุณจะทำยังไงคะจะยอมเล่าหรือเก็บไว้ให้มันเป็นอยู่แบบนี้ต่อไปคะ
ทำอย่างไรถ้ารักลับๆ ไม่เป็นความลับอีกต่อไป
แล้ววันนี้ก็มาถึงวันที่จขกท.กลัวมาโดยตลอดอยู่ๆพี่สาวเราก็ได้ถามเราถึงที่เคยคุยกับพี่คนนั้น แต่จขกท.ก็เลี่ยงที่จะตอบนะคะ แต่ก็ยังไม่วายที่จะโดนคาดคั้นเอาคำตอบมาให้ได้ จนตอนนี้จขกท.ไม่รู้ว่าจะเล่าจะปิดหรือจะทำยังไงดีเลยคะ ที่ไม่อยากเล่าก็เพราะเรื่องมันจบไปนานแล้ว และไม่อยากนึกถึงรื้อฟื้นมันขึ้นมาอีก ถ้าเรื่องนี้เกินขึ้นกับพวกคุณ คุณจะทำยังไงคะจะยอมเล่าหรือเก็บไว้ให้มันเป็นอยู่แบบนี้ต่อไปคะ